เล่าขานตำนานสยาม ตอน ตำนานพระปริตร : โพชฌังคปริตร บทมนต์แห่งการรักษาโรคภัย

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 2 มีนาคม 2016.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    เล่าขานตำนานสยาม ตอน ตำนานพระปริตร : โพชฌังคปริตร บทมนต์แห่งการรักษาโรคภัย
    ตำนานพระปริตร : โพชฌงคปริตร
    [​IMG]
    ตำนาน

    สมัยหนึ่ง สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น พระมหากัสสปะอาศัยอยู่ในปิปผลิคูหา บัง เกิดโรคาพาธแรงกล้า อาการหนักขึ้นทุกวันขณะที่พระผู้มีพระภาค ทรงสถิตอยู่ในสมาบัติ เมื่อถึงกาลอันควร ทรงออกจากสมาบัติแล้ว จึงทรงมีพระกรุณาโปรด เสด็จไปเยี่ยมอาการไข้ของพระมหากัสสปะเถระ ทรงแสดงโพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการ ให้ท่านพระมหากัสสปะได้รับฟัง เมื่อจบพระธรรมเทศนานั้น พระมหากัสสปะ มีจิตโสมนัสยินดีรื่นเริงในธรรม ลุกขึ้นกราบพระบาท หายจากอาการไข้โดยพลัน

    อีกครั้ง ขณะที่พระบรมศาสดา ทรงประทับอยู่ ณ เวฬุวันมหาวิหาร ใกล้กรุงราชคฤห์ ครานั้นพระมหาโมคคัลลานะ อาศัยอยู่ ณ เขาคิชฌกูฎ เกิดอาการอาพาธหนัก พระบรมศาสดาเมื่อทรงออกจากสมาบัติแล้วไปเสด็จไปเยี่ยมอาการป่วยของพระโมคคัลลานะ แล้วทรงแสดงโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้พระมหาโมคคัลลานะฟัง พระมหาโมคคัลลานะนั้นก็หายจากอาการป่วยโดยพลัน

    แม้พระบรมศาสดาเอง เมื่อครั้งที่พระองค์ ทรงพระประชวรหนัก ด้วยโรคปวดท้อง มิมียาใด ๆ รักษาให้หายได้ จึงมีพระพุทธฎีการับสั่งให้พระจุนทะเถระ แสดงโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้พระองค์ทรงสดับ เมื่อพระจุนทะเถระแสดงโพชฌงค์ทั้ง ๗ ประการจบลง พระบรมศาสดาก็ทรงหายจากอาการประชวรโดยพลัน ทรงเสด็จลุกขึ้นจากพระบรรทมได้ในทันที

    กาลนี้ ขอเชิญท่านผู้เจริญทั้งหลาย สาธยายโพชฌงค์ทั้ง ๗ ให้แก่คนยาก ได้สดับเพื่อความสวัสดี จะพึงมีแก่ข้าต่อไป

    โพชฌังคปริตร

    โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา
    โพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์

    วิริยัมปีติ ปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
    วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์

    สะมาธุเปกขะโพชฌังคา
    สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์

    สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา
    7ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว

    ภาวิตา พะหุลีกะตา
    อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว

    สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
    ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน

    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้

    โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
    ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ

    เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา
    ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก

    โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
    จึงทรงแสดงโพชฌงค์ 7 ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง

    เต จะ ตัง อะภินันทิตวา
    ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม

    โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
    โรคก็หายได้ในบัดดล

    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้

    โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
    ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ

    เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
    ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง ( พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก

    จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
    รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ

    สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
    ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน

    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้

    โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
    ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ

    ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
    ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง 3 องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก

    มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
    ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา

    เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ
    ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้

    โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
    ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ
    ที่มา http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมบุญฉลองพระพุทธรูปรับวัตถุมงคล.561939/
     

แชร์หน้านี้

Loading...