เรื่อง "นางฟ้าหนูแมว" เพื่อเป็นแบบอย่าง แนวทางในการปฏิบัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย MBNY, 22 มีนาคม 2008.

  1. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,864
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,511
    [​IMG][​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เนต



    ก็อปมาจากกระทู้ วิชชาที่จะทำให้อยู่รอดจากยุคสมัยแห่งภัยพิบัติ
    เขียนโดย คุณkananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_411495", true); </SCRIPT>




    ต่อไปผมขออนุญาตเล่าเรื่อง "นางฟ้าหนูแมวครับ" เพื่อเป็นแบบอย่าง แนวทางในการปฏิบัติครับ


    เรื่องที่เล่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้านผมในวันนี้เองครับ


    ที่บ้านผมมีหนูแมวอยู่ สามตัว ตัวเจ้าของเรื่องนี้เป็นแมวสีสวาท ที่ผมขอจากพระที่วัดมาเลี้ยงครับ เจ้าเหมียวอยู่กับเรามาเกือบสิบปี ถ้านับอายุขัยของมนุษย์ ก็น่าจะเหยียบร้อยปี เห็นจะได้ ประมาณปีนี้เองที่ผมสังเกตุเห็นว่าเล็บของเจ้าเหมียว เริ่มหลุดออก เป็นเล็บๆ นอกจากนั้นยังเหนื่อยง่ายมีอาการหอบบ่อยๆ "แสดงอาการของความแก่"ให้ได้เห็น

    ประมาณอาทิตย์ที่ผ่านมาเจ้าเหมียวมีอาการหอบรุนแรงทุรนทุราย ผมและน้องก็มีธุระที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด้วย ทางที่บ้านเลยให้พาเจ้าเหมียวไปไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อยืดอายุพอให้น้องผมกลับทันมาดูใจ พอกลับจาก ตจว. เช้าไปทำบุญ พอบ่ายก็ไปรับเจ้าเหมียวกลับมาที่บ้าน อาการมันก็ไม่ดีเท่าไหร่ ตอนนั่งสมาธิอยู่ก็ทราบขึ้นว่าเจ้าเหมียวอยู่ได้อีกไม่เกินสองวัน ตอนกลางคืนเมื่อวานนั่งสมาธิ ก็เห็นกายทิพย์ของเจ้าเหมียวปรากฏออกมาหาในห้องพระในสภาวะของแมว ก็จึงได้รู้ว่า จิตได้ออกจากร่างแล้ว ซึ่งในสภาวะนี้จิตย่อมไม่อยากไปเสวยทุกขเวทนาในร่างที่เจ็บป่วยอีกแน่


    จากนั้นที่บ้านจึงเอาเทปธรรมมะของหลวงพ่อเปิดให้เจ้าเหมียวได้ฟังเป็นธรรมมานุสติ โดยเลือกเอาเรื่องที่สุนัขไปเกิดเป็นเทวดาที่ชั้นดาวดึงส์ เปิดวนให้เจ้าเหมียวฟังไปเรื่อยๆ

    พอตอนเย็นประมาณห้าโมงครึ่งวันนี้ เดินออกมาเจอเจ้าเหมียวนอนประงาบๆ อาการตรีทูต ซะแล้ว จึงได้นำรูปสมเด็จองค์ปัจจุบันมาวางไว้ให้ดูเป็นพุทธานุสติ แล้วก็ตามดูจิตเจ้าเหมียว รวมทั้งเรียนสภาวะการตาย อารมณ์ใจขณะตาย โดยให้เจ้าเหมียวเป็นครูไปในตัว ขณะเดียวกันก็แผ่เมตตาส่งกระแสจิตที่ดีพร้อมกับลูบหัวเจ้าเหมียวไปด้วย


    จนกระทั่ง....................

    ลมหายใจสุดท้ายขาดห้วงพร้อมๆกับจิตที่ดับไปของเจ้าเหมียว ประดุจเปลวเทียนที่หรี่ลงไปและดับไปในที่สุด


    เจ้าเหมียวจากไปอย่างสงบ ที่บ้านเริ่มคุยกันว่าจะจัดการกับร่างของเจ้าเหมียวอย่างไร จะฝังตรงไหนดี


    จากนั้นผมก็ขึ้นไปอาบน้ำ สวดมนต์ ตามปรกติ ปรากฏว่า พอเริ่มสวดมนต์ปุ๊ป เจ้าเหมียวก็มาปรากฏให้เห็นปั๊ปเดินมาเคลียคลอ จากนั้นก็แสดงร่างให้เห็น เป็นนางฟ้า ผมก็ได้แต่บอกในสมาธิว่า"เดี๋ยวขอสวดมนต์ให้เสร็จก่อน" พอสวดมนต์เสร็จแล้ว ก็ได้คุยกับนางฟ้าท่าน

    ท่านก็ได้พาไปที่วิมานของท่านและได้ขอบใจที่เราได้ช่วยกันทำให้เจ้าเหมียวได้เลื่อนภพภูมิขึ้นสู่ สวรรค์ จุติขึ้นเป็นนางฟ้า อันเป็นภพภูมิที่ดีขึ้น แล้วผมก็ขอกราบขมาลาโทษนางฟ้าที่ผมได้เคยทำในชาติที่นางฟ้าท่านนี้ยังเป็นแมวอยู่

    ทั้งที่เจตนาและไม่เจตนา พร้อมทั้งให้นางฟ้าได้มหาโมทนาบุญทั้งปวงของผม และขอให้นางฟ้าได้ช่วยคุ้มครองสงเคราะห์ ผมและครอบครัว ก่อนกลับนางฟ้าหนูแมวได้ขอว่าให้ฝังร่างหนูแมวไว้ใต้ต้นมะลิ เมื่อมะลิออกดอกช่วยนำไปถวายพระบูชาพระแทนนางฟ้าหนูแมวด้วย นางฟ้าหนูแมวจะคอยโมทนา(ฉลาดใช่เล่น)

    จากนั้นผมก็ทำสมาธิต่อ พอลงมาคุยกับคุณแม่ข้างล่าง น้องชายผม (นั่งสมาธิด้วยกัน) ก็กล่าวยืนยันตรงกันว่า พอนั่งสวดมนต์ปั๊ป เจ้าเหมียวมาปรากฏให้เห็น ทันทีเช่นกัน และปรากฏแสดงให้เห็นว่าได้ไปจุติขึ้นเป็นนางฟ้าตรงกันแถมยังคุยกันต่ออีกยาว ไม่ยอมออกจากสมาธิซะด้วยเพราะน้องชายผมรักเจ้าเหมียวนี้มาก


    เรื่องราวของนางฟ้าหนูแมวนี้ คงเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านที่เป็นนักปฏิบัติ เพื่อความดี รวมทั้งเป็นกำลังใจว่า

    1.เราเองก็ทำบุญมาก็มาก หากพ้นจากอันตภาพนี้แล้ว เราจะมุ่งสู่สุขคติภูมิที่ดีกว่ามีพระนิพพานเป็นที่สุด

    2.เจ้าเหมียวแสดงอาการของความแก่ ความเจ็บ และความตาย อันเป็นเทวทูตทั้งสี่ ที่มาเตือนสติเรา

    -ไม่ให้ประมาทในความตายหนึ่ง
    -ไม่ประมาทในการทำความดีกุศลธรรมหนึ่ง
    -ไม่ประมาทในการปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้นหนึ่ง

    3. เจ้าเหมียวแสดงอารมณ์ใจก่อนตาย เป็นการยืนยันสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านได้สอนเรื่องอารมณ์จิตก่อนตาย ย่อมนำพาไปยังภพภูมิแห่งอารมณ์จิตนั้น

    4. เจ้าเหมียวได้มายืนยันว่าภพภูมิอื่นมีจริง สวรรค์มีจริง เทวดา นางฟ้ามีจริง และผลกรรมมีจริงผลบุญ ผลบาป มีจริง


    สรุปแล้วเรื่องราวที่ผมเล่ามานี้ขอให้ท่านทั้งหลายได้ใช้ปัญญาวิเคราะห์ไตร่ตรองดูหากสิ่งใดเป็นประโยชน์ก็พึงนำไปใช้ เพราะไม่ว่าคนก็ดี สัตว์ก็ดี ต่างกันเพียงรูปลักษณ์ภายนอกของขันธุ์ห้าเท่านั้น แต่จิตนั้นไม่ได้แตกต่างกัน อยู่ภายใต้ความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

    เช่นเดียวกันทุกดวงจิตครับ ตอนนี้นางฟ้าหนูแมวก็สบายเสวยสุขอยู่ในภพภูมิที่ดีแล้ว ตอนนี้เรากลับยังอยู่ในภพที่เต็มไปด้วยความทุกข์แถมยังมีการเบียดเบียนกันและกันไม่สิ้นสุดอีก หากโลกเต็มไปด้วยความเมตตาต่อกัน ช่วยเหลือกัน หวังดีต่อกัน โลกเราคงงดงามกว่านี้ครับ


    ขอให้ทุกๆท่านได้เกิดปัญญาในธรรมจากการรับฟังเรื่องราวของ"นางฟ้าหนูแมว" ได้ด้วยดีทุกท่านด้วยครับ..
     
  2. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    อนุโมทนากับเจ้าของบทความนี้ และพี่แอนที่น่ารักที่สุด ค่ะ ^^

    ขอบคุณนะคะ ได้แง่คิดที่ดีมากเลยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...