เรื่องเล่า #2

มีแม่ชีอายุน้อยคนหนึ่ง (ประมาณ 15 -16 ปี) แต่เป็นผู้มีของเก่า เห็นจิตของคนๆ หนึ่ง เวลาเขาอธิษฐานตอนถวายของให้พระ แม่ชีอายุน้อยแอบเห็นว่า จิตของเขาเป็นสีทอง มีลักษณะคล้าย ๆ เป็นของเหลวพุ่งขึ้นตลอดเวลานั้น คล้าย ๆ น้ำพุ แต่แม่ชีน้อยก็ไม่รุ้ว่ามันหมายถึงอะไรครับ...

 

จิตเป็นสีทอง คือ จิตของผู้ที่จะได้ไปเกิดในสวรรค์
หากไม่มีอะไรแทรกซ้อน ทำให้จิตหมองมัว ตอนตาย
ตายปุ๊บ ก็จะได้ไปเกิดในสวรรค์ทันที
หากอยากลองดูก็ได้ คือ ให้ถามว่าตอนนี้
เค้าชอบสีอะไรมากที่สุด เค้าก็จะตอบแนวๆนี้

สรุปก็คือ จิตที่เปล่งแสงออกมา
มันคือ รังสีของกายทิพย์นั่นเอง

ส่วนอาการที่พุ่งขึ้น คล้ายของเหลว นั้น
มันคือ อาการที่จิตดีใจ จนเนื้อเต้น เวลาที่ทำบุญ
คือ คนพวกนี้ เค้าจะรู้จักวิธิีอธิษฐานบุญ
ถึงจะทำบุญเล็กน้อย แต่ก็รู้วิธีการอธิษฐาน
ขอให้เป็นบุญใหญ่ได้ ทันทีที่เค้าทำบุญอะไร
เค้าจะสัมผัสได้ทันที ถึงความสุขที่ได้ทำบุญนั้น
และก็สามารถทรงความสุขนั้น ไว้ได้ด้วย
เรียกอีกอย่างก็คือ การกินบุญ นั่นเอง
หากสัมผัสได้มากๆ ก็สามารถจะอยู่แบบเทวดาได้เหมือนกัน
จนบางครั้ง ก็ไม่รู้สึกหิวเลย

 

"การกินบุญ" ทันที ที่ได้ทำ แบบนี้บุญจะหมดไหมครับ เพราะได้กินบุญทันทีน่ะครับ.. มีครั้งหนึ่ง ผมบอกเพื่อน ๆ ว่า มาร่วมทำบุญซื้อผ้าห่มแจกคนจนในหน้าหนาว ทางภาคเหนือ ตอนนั้น แค่บอกๆ กันไป ยังไม่ได้โอนเงินทำบุญ จิตเห็นภาพว่า มีผ้าห่มอยู่ที่วิมานแล้วครับ ทำให้รู้เลยว่า แค่เจตนา บุญก็เกิดแล้ว ได้ผลแล้ว...

 

ถูกต้องแล้วครับ แค่ตั้งเจตนา
บุญก็สำเร็จที่สวรรค์แล้ว
ทีนี้ถ้าเราทำไม่สำเร็จ
อาจจะติดหนี้สวรรค์ ติดหนี้บุญ
เช่น รับเงินมาเป็นแบงค์ หมายเลข 333
แต่เก็บไว้ใช้เอง แล้วเอาตังค์ของตนเองไปทำบุญแทน
อันนี้ก็จะติดหนี้กรรมเล็กน้อย เรื่องการยักยอก
บุญที่ว่าจะสะอาด กลายเป็นมัวหมองไป

กินบุญนั้น เราไม่ได้กินที่ตัวบุญนะ
แต่เรากินที่ความรู้สึก ที่ว่า
ทำบุญแล้วเราสุขใจ ที่ได้ทำบุญ
ไม่ใช่สุขใจเพราะผลบุญ
ดังนั้น กินเท่าไหร่บุญก็ไม่หมด

แต่เราจะค่อยๆ หมดความรู้สึกสุขไปเอง

 

เข้าใจละครับ ขอบคุณครับ