เรื่องเล่า อ.ฟ้าลิขิต นายทหารญาณทิพย์

***เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่ผ่านพ้นมาเมื่อประมาณ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมา เป็นประสบการณ์โดยตรงจากหลานของรุ่นพี่ท่านหนึ่งในที่ทำงานของผม และผมได้รับคำบอกเล่าถึงเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ จากการสวดมนต์ภาวนาโดยตรงจากรุ่นพี่ท่านนี้ เหตุผลที่นำมาบอกกล่าวเล่าให้ได้รับฟังกัน เพื่อให้เกิดความศรัทธาเชื่อมั่นในพลังอำนาจแห่งพุทธคุณของพระคาถาชินะบัญชร เรื่องมีอยู่ว่า.....

***นาย ก ซึ่งเป็นหลานชายของรุ่นพี่ของผม ได้ประสบอุบัติเหตุขับรถ Bmw พุ่งชนเสาทางด่วนบนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งอยู่ตรงเกาะกลางถนน ทำให้รถเสียหายยับเยิน และคนขับรถได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นตายเท่ากัน ถูกนำส่ง รพ.ทันที

***ในระหว่างที่เข้ารักษาตัวที่ รพ. ภายในห้อง ICU อาการต่าง ๆ ค่อนข้างจะน่าเป็นห่วงมาก ลักษณะของอาการผู้บาดเจ็บไม่รู้สึกตัว มีอาการกระตุกโดยทั่วของร่างกาย หน้าตาบวมจนจำหน้าเดิมแทบไม่ได้ สภาพโดยรวมโดยทั่วไปมีโอกาสรอดชีวิตได้ยาก ขนาดขณะขับรถได้คาดสายนิรภัยภายในรถด้วยซ้ำ

***รุ่นพี่ของผมด้วยความสงสารหลานชาย ในขณะที่ไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของหลานชายที่ รพ. จึงได้สวดพระคาถาชินะบัญชร และจับมือหลานชาย ได้กระทำเช่นนี้เป็นเวลาอยู่หลายวัน และได้อธิษฐานเพื่อขอพลังบารมีจากสิ่งศักดิสิทธิ์ให้อาการต่างๆ ของหลานชายดีขึ้น ด้วยการตั้งจิตอธิษฐานว่า นับแต่นี้ต่อไปตนเองจะเลิกทานสุราไปตลอดชีวิต ขออานิสงฆ์นี้ได้ช่วยเหลือให้อาการของหลานชายดีขึ้นด้วยเทอญ

***นับจากวันแรกจนเวลาผ่านไปร่วมเกือบ 3 เดือน อาการต่าง ๆ ของหลานชายเริ่มดีขึ้นโดยลำดับ จนมา ณ ปัจจุบันวันนี้ อาการปกติต่าง ๆ เริ่มกลับคืนมาร่วม 80 % แล้ว ทำให้ญาติพี่น้องหลายคนต่างดีใจ และเชื่อมั่นว่าการกลับมารอดชีวิตได้ในวาระครั้งนี้ น่าจะเกิดมาจากการที่ได้สวดพระคาถาชินะบัญชรที่ รพ. อยู่เป็นเวลาหลายวัน และจากการที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานดังกล่าว

***หลังจากที่ นาย ก เริ่มมีสติกลับคืนมาค่อนข้างจะเกือบเป็นปกติธรรมดา สามารถที่จะพูดและสนทนากับญาติพี่น้องต่าง ๆ ได้ในระดับหนึ่ง ได้เล่าให้ฟังว่าในขณะที่ตนเองสลบไปและพักรักษาตัวช่วงแรก ๆ ได้นิมิตฝันเห็นตนเอง เดินไปที่ไหนก็ไม่รู้ ได้ไปเจอคุณยายและคุณลุง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ท่านทั้งสองได้เสียชีวิตไปแล้ว และท่านได้บอกให้ตนเองกลับไปเข้าร่างเดี๋ยวนี้ และในขณะนั้นตนเองได้เห็นร่างของตนเองนอนอยู่บนเตียงของ รพ. ตนเองจึงได้กลับไปเข้าที่ร่างของตนเองทันที และตนเองยังได้ยินเสียงพระสวดมนต์ และเห็นพระสงฆ์จำนวนมากมายด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็มีใครก็ไม่รู้มาจับแขนและพยายามจะดึงร่างของตนเองออกมาจากร่าง ซึ่งเมื่อตนเองได้ฟื้นขึ้นมาและมีสติสามารถที่จะพูดและรับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น ได้ถอดผ้าพันแผลที่ข้อมือด้านซ้ายให้ญาติ ๆ ดู ปรากฏว่ามีรอยเขียวคล้ำเหมือนถูกบีบหรือดึงจริง ๆ มา ณ วันนี้ อาการต่าง ๆ เป็นที่น่าไว้วางใจค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับมาจนถึงทุกวันนี้

***สิ่งต่าง ๆ ที่ได้เล่าให้ได้รับรู้และรับฟังนี้ เพื่ออยากจะแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งพุทธคุณที่มีอยู่จริง พร้อมทั้งอำนาจแห่งการตั้งจิตอธิษฐานด้วยใจบริสุทธิ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนสามารถนำพาโอกาสและสิ่งที่ดีมาสู่มนุษย์ได้จริง ดังตัวอย่างที่ได้นำมาเล่าให้ฟังนี้ทุกประการ ขอเพียงผู้กระทำดังกล่าว มีจิตอันเป็นกุศลและมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองได้กระทำ ความสำเร็จไม่มากก็น้อย ไม่ช้าก็เร็ว ย่อมสามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

โพสต์เมื่อ 13-9-2012 09:01:54