เราทำบุญแล้วอธิษฐานอุทิศกุศลให้พ่อ แม่ น้อง ผีนรก สัมประเวสี รวมถึงเทพเทวดา ถามว่า

พ่อ แม่ น้อง สัตว์นรก ญาติ เปรต อสูร สัมประเวสี ผีเร่ร่อน รวมถึง เทพ เทวดา พรหม

พวกนี้อาจจะไม่ได้รู้ว่าเราทำบุญนั้นๆ(คือผมไปทำบุญ ก็ไปเสมอ แต่นึกจะไปก็ไป ไม่บอกใคร)


ถามว่าเค้าไม่รู้ แล้วเค้าจะได้บุญที่เราอธิษฐานอุทิศให้ไหมครับ

 

ถ้าเขาอยู่ในฐานะ(ภพภูมิ) ที่รับได้เขาก็ได้รับแน่นอนจ๊ะ ส่วนตัวแล้วบางท่านยังเคยมาบอกให้เราอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาแบบนี้ซิ เขาจะยิ่งได้รับเต็มที่จ๊ะ

 

บางท่านนี่หมายถึง สิ่งเร้นลับ?

 

สิ่งเร้นลับ...น่ากลัวจังเขามาบอกเราเเบบไหนอ่ะค่ะ

 

นั่นดิ

 

ในฝันหรือนิมิตร ครับ...แต่สำหรับผู้ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่เยอะหรือเป็นบุคคล
ที่เกิดวันแข็งที่ยากต่อการสัมผัสหรือการเข้าถึงก็ควรทำบุญอยู่เรื่อย ๆ ครับ เพราะ
ท่านเหล่านั้นอาจจะเข้ามาเตือนท่านลำบาก...แต่จริง ๆ แล้วการทำบุญทำทานหรือ
การสวดมนต์แผ่เมตตาก็ควรทำอยู่เนือง ๆ นะครับ ไม่ควรให้ใครมาเตือน เพราะนั่นแสดงว่า เรายังทำไม่มากหรือน้อยเกินไปนั่นเอง

อนุโมทนาครับ

 

บุญกุศลเป็นสิ่งละเอียดอ่อน เพราะเป็นนามธรรม เมื่อผู้ที่รับอยู่ในฐานะที่

จะรับได้ก็จะอนุโมทนากับเราภพภูมิก็จะเลือนสูงขึ้นกว่าเดิมเพราะสิ่งนี้



คือทิพย์ แต่ถ้าเขาเปลิ่ยนภพภูมิไปแล้วบูญที่เป็นทิพย์ก็จะตกที่ คุณ

สาธุ " บุญย่อมเป็นที่พึ่งแก่เราในโลกนี้และโลกหน้า"

ด้วยครับ

 

เป็นคำถามที่ดีมากครับ เด็กอนุบาลขอแนะนำด้วยแนวทางส่วนตัวที่ใช้ละกันครับ แต่เป็นแนวทางที่ผู้ใช้ต้องเชื่อมั่นในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และคุณพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ว่าสามารถบันดาลคุณพิเศษต่างๆ ที่จะอำนวยความสะดวกให้เราในการแผ่บุญไปให้สรรพดวงจิตได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพครับ

ก่อนจะแนะนำขอตอบคำถามหลักก่อนว่า ถ้าเราอุทิศบุญให้กายเนื้อกายทิพย์ทั้งหลาย แล้วถ้าเค้าไม่รู้ เค้าจะได้บุญหรือไม่?

คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับพลังความสามารถของท่านๆนั้นครับและความฉลาดในการอธิษฐานจิตอุทิศบุญของเราครับ

เช่นถ้าท่านเหล่านั้นเป็นกายทิพย์ที่เป็นเทวดา พรหม หรือพระวิสุทธิเทพ ท่านสามารถอธิษฐานจิตไว้ล่วงหน้า ขอร่วมโมทนาบุญกับมนุษย์ทุกคนที่ทำความดีในทุกๆวันบทโลกนี้ก็ยังได้เลยครับ เพราะท่านมีความสามารถเพียงพอ แต่ถ้าเป็นดวงจิตที่อยู่ในภพภูมิที่ลำบากจะยังไม่อยู่ในฐานะที่ทำแบบนี้ได้ครับ คราวนี้ก็ต้องขึ้นกับความฉลาดในการอธิษฐานจิตของผู้อุทิศบุญว่าต้องอธิษฐานขอพึ่งพาบารมีของท่านที่มีกำลังใหญ่ช่วยเหลือให้การแผ่กุศลเป็นไปได้อย่างกว้างขวางและเป็นที่รับรู้ต่อสรรพดวงจิตได้ง่าย

โดยหลักการคือจะขอพึ่งบารมีครูบาอาจารย์ที่เป็นพระโพธิสัตว์บารมีสูง ที่ท่านมีบริวารมากมายและสามารถเชื่อมโยงกับบารมีพระโพธิสัตว์ท่านอื่นๆและบารมีสูงสุดแห่งพระรัตนตรัย ให้น้อมนำสรรพดวงจิตที่ต้องการบุญมารับการอุทิศบุญ หรือ สอนให้ศิษย์สามารถแผ่บุญไปยังภพภูมิต่างๆได้ โดยอาศัยคาถา บทสวด และการขอความช่วยเหลือฝากแผ่บุญ ไปกับกระแสพลังของพระโพธิสัตว์ ที่มีกระจายอยู่ในทุกภพภูมิ แนวทางในการขอพึ่งบารมีของท่านผู้มีคุณที่มีกำลังสูงและบริวารมากนี้นี้จะทำให้การแผ่บุญสามารถไปถึงสรรพดวงจิตในสรรพภพภูมิ ให้เค้าได้รับรู้และได้รับบุญได้โดยง่าย ซึ่งเป็นแนวทางของ หลวงปู่ดู่, วัดถ้ำเมืองนะ ผ่านการสวดคาถาพระมหาจักรพรรดิ์

คำอธิษฐาน แผ่บุญหลังสวดมนต์(แนะนำให้สวดบทพระมหาจักพรรดิ์ก่อนเพื่อรวมกำลังบุญ)

ข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ผู้เป็นผู้รับใช้พระพุทธศาสนา ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีรวมแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ พระโพธิสัตว์ และพระบรมมหาจักรพรรดิทุก ๆ พระองค์ โดยตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุด
<O
ในส่วนอักษรสีแดงนี้สำคัญมากเพราะหากไม่อ้างหรือกำหนดจิตอ้างดังกล่าวแล้ว บารมีที่ส่งไปจะเป็นของเราเองซึ่งน้อยมาก แต่เมื่อเราอธิษฐานด้วยวิธีนี้จนเกิดความเคยชิน เพียงแค่นึกถึงหลวงปู่ ซ้อนภาพหลวงปู่ในกายเรา ก็สามารถทำได้แล้ว หลวงตาว่ากระแสจิตของหลวงปู่รับรู้เร็วมาก ช่วงที่เรานึกถึงหลวงปู่ 1 ครั้ง กระแสจิตไป-กลับ 7 รอบแล้ว
<O
ขอพระบารมีอันหาที่สุดมิได้นี้ โปรดจงส่งไปให้ถึงภพภูมิต่างๆทั้งหลายในทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุ อันประกอบไปด้วยเทพ 6 ชั้น พรหม 20 ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดย ทั่วทั้งหมื่นแสนโกฐจักรวาล เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า โดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ท่านปู่พระอินทร์เจ้าฟ้า ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 พระยายมราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมด พระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์ วีรบุรุษและวีรสตรีทั้งหลาย ที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม โอปาติกะทั้งหลาย พระฤาษีและดาบสทั้งหลาย ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ พญาครุฑ-พญานาคพร้อมด้วยบริวาร คนธรรพ์ ชาวเมืองลับแล และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ ตลอดจนถึง สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย สรรพสัตว์ในดินแดนอบายภูมิทั้งหลายทั้งหมดทั้งสิ้น ขอโปรดจงได้รับมหากุศลผลบุญบารมีนี้ โดยถ้วนทั่วทุกตัวตน ทุกคนทุกท่าน เทอญ…(ตั้งใจโน้มนำบุญและแผ่บุญออกไปด้วยบทสัพเพฯ)

นี่เป็นตัวอย่างเช่นกัน จะย่นย่อ หรือกล่าวนามเทพ-พรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์อันใดเพิ่มเติมก็แล้วแต่จริตครับ การแผ่บุญอย่างนี้ดวงวิญญาณทั้งหลายที่กล่าวมาจะถึงแน่นอน แต่จะได้รับหรือไม่ขึ้นกับว่า เขารับหรือไม่ หรือกระแสมิจฉาทิฐิครอบเขาจนกระทั่งไม่รับรู้อะไร ไม่ยอมรับอะไรหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เป็นคำตอบที่ว่า บางทีต้องไปปรับภูมิถึงที่ ก็เหมือนกับเรานั่งอ่านพระไตรปิฎก กับไปฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าโดยตรง ตรงแทบพระบาทท่าน ธรรมมะเหมือนกัน แต่การเข้าถึง การเข้าใจย่อมแตกต่างกัน(มาก) เรื่องนี้ก็เปรียบเทียบได้เช่นเดียวกัน
<O</O

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส

ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำพระบารมีเข้าตัว หรือผู้ที่ได้แล้ว จะเห็นเองว่าจะมีพระบารมีเข้าตัวเป็นแสงสว่างวาบไปหมด ในขณะเดียวกัน แสงนั้นก็พุ่งตรงไปยังดวงวิญญาณที่จะปรับภพ ปรับภูมิให้ แต่ทั้งนี้ ไม่ใช่ดวงวิญญาณทุกดวงที่จะได้รับบุญ บางวิญญาณที่มีมิจฉาทิฐิ หรือมีโมหะ คือ ไม่รู้เรื่องว่าโมทนาคืออะไร ก็จะยังไม่ได้รับ เราก็ต้องสัพเพฯ หลาย ๆรอบ จนบารพระท่านครอบกายทิพย์สว่างเย็นไปหมด ช่วยโน้มนำให้วิญญาณนั้นละพยศและความเขลานั้นได้สำเร็จ

พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ


การนำไปใช้จริง
๑.ให้หมั่นอุทิศบุญดามวิธีดังกล่าวอยู่เสมอไม่ว่าจะเดินทางไปในที่แห่งไหน โดยเฉพาะเวลาไปจ่ายตลาดในตลาดสด วิญญาณสัตว์ที่พึ่งตาย หรือที่ค้างอยู่มีมหาศาลทุก ๆวัน ตามป่าช้าหรือข้างทางที่เราเดินทางไปทุกที่ พร้อมทั้งอธิษฐานให้ทรงทั้งยามหลับยามตื่น เพราะเหล่าวิญญาณจะได้โมทนาได้ตลอด บางทีก็ครอบให้เสร็จสรรพ แบบมัดมือให้เลย การเดินทางไปต่างจังหวัดแต่ละทีก็เก็บได้มหาศาล

ยิ่งทำบ่อยๆยิ่งคล่องครับ ถ้าทำคล่องแล้วต่อไปเวลากำหนดแผ่ก็กำพระ แล้วน้อมกำลังบุญไปได้ แค่กำหนดจิตชั่วขณะโดยไม่ต้องใช้คำพูดก็ยังได้ ขอแค่ให้ใจทรงกำลังทั้งหมดที่อาราธนามาในขณะนั้นได้ก็พอ แล้วก็กำหนดแผ่ไปได้เลย ขณะกำพระ แต่ถ้าเป็นการอธิษฐานใหญ่หรือการสวดมนต์ประจำวัน ก็อธิษฐานใหญ่ตามเนื้อหาด้านบนได้เลย แล้วก็แผ่ไปทั่ว 3 โลก ไม่ว่าพรหมโลก เทวะโลก มนุษยโลก ภพภูมิน้อยใหญ่ต่างๆ นรกโลก และทุกๆ อบายภูมิ ผู้มีพระคุณแก่ข้าพเจ้า ครอบครัว เพื่อนฝูง คนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับข้าพเจ้าทุกๆคน ญาติข้าพเจ้าทั้งหมดในโลกทิพย์ บริวารข้าพเจ้าทั้งหมด เทวดาประจำตัวข้าพเจ้าทั้งหมด เจ้ากรรมนายเวรข้าพเจ้า

๒.ก่อนทานอาหาร หลวงตาแนะนำให้ส่งวิญญาณด้วย ให้ทำจนเป็นนิสัย เนื้อไม่ว่าชิ้นเล็กชิ้นน้อย จะเป็นชิ้น หรือเป็นน้ำก็มีกระแสโยงถึงวิญญาณเจ้าของธาตุนั้นได้ ส่งให้เนื้อ กระแสบุญจะส่งถึงวิญาณเอง ให้อธิษฐานส่งให้ถึงสายใยอาหารของเนื้อนั้นทั้งหมดทั้งมวลด้วย ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งมวล ตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน และอนาคต<O
<!-- / message --><!-- sig -->ศึกษาหลักการและบทสวดเต็ม version ได้ที่ลิ้งด้านล่างครับ
http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?t=737

ส่วนแนวทางของพระอาจารย์ชุมพล ตาม link ด้านล่าง ก็จะเป็นการฉลาดใช้การอธิษฐานจิต เพื่อขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้เนรมิตกายทิพย์เป็นตัวแทนของเรากระจายออกไปตามภพภูมิต่างๆ เพื่อป่าวประกาศว่าเรามีบุญดีๆ ที่เต็มใจจะให้สรรพดวงจิตทั้งหลายในสรรพภพภูมิได้ร่วมโมทนา แนวทางนี้ก็ดียิ่งในการสร้างความรับรู้ในการบุญให้สรรพดวงจิตทั้งหลายได้ดียิ่งเช่นกัน

http://www.palapanyo.com/content/node/314

 

ผมเคยไม่นั่งสมาธิสวดมนต์เลยปกติตอนนั้นก็นั่งอยู่ เเต่ช่วงไหนขี้เกียจมักจะได้ยินเสียงเเปลกๆทุกที เเต่ก็ฟังเสียงไม่ค่อยรู้เรื่องตอนได้ยินเหมือนรู้ตื่นมางงขนาดลุกขึ้นเเล้วกลับมานอนใหม่ยังได้ยินเสียงอีกเลย เลยหันมานั่งสมาธิสักพักเเล้วเเผ่เมตตาเสียงจึงหาย จะเป็นเฉพาะกำลังหลับเสียงทำให้ตื่นเลย

 

กำลังบุญกำลังจิต

สิ่งที่กำลังพูดกันสรุปว่าเกี่ยวกับพลังบุญและการอุทิศบุญว่าถึงหรือไม่ถึง
เปรียบว่า
1.หากเรามีบุญเล็กน้อยเปรียบกับเทียนใขก็สว่างได้ไม่เกิน 5 เมตร หากอยู่ไกลก็ไม่ได้อานิสงค์ของแสงสว่าง อันนี้สมมุติให้เป็นการสวดมนต์
2. หากทำบุญตักบาตร ประจำ ดุจประทีปคบเพลิงส่องสว่าง คนอยู่ในระยะ 10 เมตรก็ได้อานิสงค์แสงสว่าง
3. หากถวายสังฆทานประกอบด้วยสิ่งเป็นประโยชน์ มีผ้าไตร พระพุทธรูป 4 นิ้วขึ้นไป อาหาร น้ำ หลวงพ่อฤษียังกำชับให้ให้เจาะจงถึงผู้รับ วิญญาณนั้นๆจึงจะได้รับ แสดงว่ากำลังบุญและเจตนาต้องเข้มข้นพิเศษ
4. ส่วนการนั่งกรรมฐาน ท่านจัดเป็นบุญพิเศษ แม้กำลังพิจารณาคดีในยมโลกมีโว่ตรวนด้วยอำนาจอกุศล ก็ยังไปสรรค์ได้ทันทีด้วยอำนาจกรรมฐาน
ทีนี้พอจะทราบระดับบุญ และผู้รับแล้วยังว่าใครจะได้ไม่ได้ ต้องประกอบด้วย กำลังบุญ และเจตนาที่มีกำลังพอที่จะอุทิศบุญ หรือ ที่โลกวิญญาณเรียกว่าสุขเวทนาเป็นอาหารและของเสพในโลกวิญญาณ อันจะพึงได้รับจากท่านเข้มข้นหรือมีกำลังมากน้อยเพียงไรและมีกำลังบุญพอจะแบ่งปันได้ทั่วถึงมากน้อย เพียงไร

เจริญพร
พระ12​

 

ผมเคยถวายสังฆทานน๊ะ ไปถวายที่ พุทธมลทล อะคับ คือ ไม่ได้ ซื้อไป ถวายเองหรอกคับ เขามีให้เช่า พอเช่าแล้วก้อเอาไป ถวาย แบบนี ผม จะได้ บุญ มั้ยอะคับ แต่ว่าผมตั้งใจทำจริงๆนะคับ

 

อนุโมทนา สาธุค่ะ ดิฉันอุทิศบุญตามแบบหลวงปู่เกษม วัดป่าสามแยก คือ
ขออำนาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน บุญทาน บุญศีล บุญภาวนา จงถึงแก่ เทวดาประจำตัว....(เรา, ลูก, สามี, พ่อแม่...หรือให้กับใครก็ได้ตามที่จะกำหนดให้ และให้กับเจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติและชาติปัจจุบันและญาติในแดนทิพย์ และ เทวดา ภูติผี ปีศาจ เปรต ปอบ นาค ครุฑ ยักษ์ กินรา เงือก คนธรรม์ กุมภัณฑ์ ยมฑูต ยมบาล ที่........(ระบุสถานที่ ๆ จะให้บุญนั้นหรือให้แก่ใคร... (ระบุชื่อ..นามสกุล) หลวงปู่เกษมท่านบอกมาว่า ถ้าเราอุทิศให้บ่อย ๆ อย่างพวก เปรตเนี่ยะเปลี่ยนสภาพเป็นเทวดาได้เลย ขึ้นอยู่กับเราว่าอุทิศให้บ่อยครั้งแค่ไหน ลองดูนะคะ

 

ซื้อถวายดีกว่านะครับ

ได้บุญอยู่ แต่ซื้อถวายดีกว่า

 

ผู้อยู่ภพภูมิอื่นจ๊ะ และรวมไปถึงพระบางรูปที่เราเองไม่เคยเจอไ ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน บางรูปก็รู้จักอยู่แต่ไม่เคยไปกราบท่านเลย(น้อยมาก ส่วนใหญ่จะไม่เคยเจอ ไม่รู้จัก) แล้วแต่ท่านจะมาสงเคราะห์จ๊ะ

 

มาตอบสิ่งทีเราอธิฐานจิตถามท่านไปบ้าง หรือบางทีก็มาให้รู้ว่าภพภูมิอื่นมีอยู่จริง(ในวิธีของท่านนั้นๆ) ส่วนพระสงฆ์ท่านที่มา บางท่านก็มาสอนเป็นคำพูดบ้าง คำถามบ้าง หรือแสดงปริศนาธรรมให้ดู ให้คิด ให้เปรียบเทียบ ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะเราเก่ง แต่ทั้งหมดเป็นเพราะการสงเคราะห์ เป็นความเมตตาจากท่านทั้งหลายเหล่านั้นทั้งสิ้นจ๊ะ

 

ขอเล่าประสบการณ์ส่วนตัว
ปกติดิฉันจะนั่งกรรมฐานแล้วอุทิศบุญกุศลให้ มารดา บิดา ญาติ ครู เทวดา เจ้ากรรมนายเวร เปรต สัมภเวสี สรรพสัตว์ทั้งปวง ปรากฎว่ามีอยู่วันหนึ่ง นั่งกรรมฐานแล้วไม่ได้อุทิศ ไม่รู้ว่ามีวิญญาณมารอรับบุญอยู่ ก็เกิดเรื่องเลย อยู่ๆดิฉันก็ขยับตัวไม่ได้ ได้แต่กรอกตาไปมา สงสัยว่าทำไมเราขยับตัวไม่ได้หว่า จากนั้นก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้ตะโกนดังก้องในหู ก็ตกใจนะขยับก็ไม่ได้ไม่รู้จะทำไงดี แต่สติบอกว่าให้อุทิศบุญกุศล ก็เลยอุทิศแบบเจาะจงเดี๋ยวนั้น ว่า ขอคุณพระศรีรัตนตรัย ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน ให้กับวิญญาณตนนี้..สาธุ เท่านั้นแหละเค้าปล่อยเราเลย เราเลยรีบวิ่งออกมาหาสามีเพราะกลัวมาก
ตอนนี้เชื่อแล้วว่าบุญกุศลสามารถอุทิศได้ แล้วผู้ที่สามารถรับได้ เค้าก็รับได้จริง ก็เค้ามาสำแดงให้ดูนี่นา

 

แต่มาสำแดงแบบรุกราน นิสัยเสียแบบนี้
มันน่าแช่งเนอะ

 

สัมภเวสี หรือ เปรตต่างๆ มีความทุกขเวทนามาก แค่บุญเล็กๆน้อยๆเค้าก็อยากได้ เคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือ ของหลวงพี่เล็กก็ดี ท่านก็บอกให้อุทิศบุญกุศลไปเถอะเค้าอยากได้ มาคิดดูอีกทีว่าเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าพระที่ห้อยคออยู่ก็ตาม ปล่อยให้วิญญาณเข้ามาอำดิฉันได้ยังไง ดิฉันคิดว่าท่านคงอยากให้ทราบว่าบุญพระกรรมฐานเป็นบุญที่อุทิศได้จริง มีวิญญาณมารอรับจริงๆ แน่ๆเลย ดิฉันคิดอย่างนี้นะ ทำให้มีกำลังใจในการทำกรรมฐานมากขึ้นตั้งเยอะ

 

ธมฺมกาโม ภวํ โหติ</SPAN>
ผู้ฝักใฝ่ในธรรมเป็นผู้เจริญ
ธมฺมเทสฺสิ ปราภโว
ผู้ชังธรรม เป็นผู้เสื่อม
นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี.


ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตยที่เคารพบูชาเป็นสรณะสูงสุด
จงอำนวยอวยชัยให้พรแก่ทุกๆ ท่านที่คิดดี พูดดี ทำดี
อยู่ในศีล อยู่ในธรรม และหมั่นเจริญพระกรรมฐาน
ขอให้ท่านเจริญ ซึ่งอายุ วรรณะ สุขะ พละ

อนุโมทนาบุญนะครับ สาธุ ๆ ๆ ​