เราด่าพ่อแม่มาเกือบตลอดชีวิต

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย อยากหาย, 10 ตุลาคม 2012.

  1. อยากหาย

    อยากหาย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +19
    เราเป็นคนใจร้อนมาก และปากจัดมาก เวลาเราไม่พอใจอะไร หรือโมโหขึ้นมา เราจะด่าทันที และนั่นก็ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อแม่เราเอง เราด่าเค้า เถียงเค้ามาตลอดเวลา ด่าคำหยาบคายมาก ด่าเหมือนเค้าไม่ใช่คนเลยทีเดียว จนทุกวันนี้ พ่อเราก็เสียไปแล้ว ก่อนเสีย เรายังทะเลาะกับเค้าอยู่เลย ตอนนี้แม่อยู่คนเดียวแล้ว แม่ก็ค่อนข้างหงุดหงิดง่าย และปากร้ายเหมือนกัน ทำให้เวลาเราอยู่กับแม่ เราจะรู้สึกหงุดหงิดเค้ามาก ทำอะไรก็รู้สึกรำคานเค้าไปหมด และยังไม่วายที่จะด่าเค้าอีก จนปัจจุบันนี้

    ทุกวันนี้ เรา เป็นคนปากเหม็นมาก ไปไหนก็มีแต่คนรังเกียจ มีแต่คนไล่ มีแต่คนหนีไปจากเรา ทำงานกี่ที่แปปเดียวก็ต้องออก เพราะมีแต่คนเกลียดเรา เหม็นเรา ทำอะไรก็ไม่เจริญ โง่ก็โง่ นี่คือกรรมที่มันติดตัวเรามา ตั้งแต่เราเริ่มด่าพ่อแม่ และมันก็คงจะเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต

    ที่เราพูดมาทั้งหมดนี้ มันคือการระบาย และการประจารตัวเอง ว่าคนที่ชั่วได้ขนาดเรานี้ ไม่มีวันทำอะไรแล้วดีหรอกนะ

    ขอให้ทุกคนเป็นคนดี รัก่พอแม่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
     
  2. sazaki

    sazaki เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +284
    อดีตมันผ่านมาแล้วถ้าสำนึกก็ทำตัวใหม่อย่ากลับไปสนใจอีก เมื่อรู็้้้ว่้านรกรออยู่เราจะไปทำไม หาทางหนีมัน การเป็นคนดีสามารถทำได้ทันทีทำบุญเยอะๆขอขมาแม่ซะ ลดมานะทิฐิของตัวเองลง กราบเท้าแม่สักครั้งแล้วจะดีขึ้นส่วนพ่อก็หมั่นทำบุญให้ กลับมาดูจิตใจตัวเองใหม่รู็เท่าทันจิต แรกๆฝึกยากแต่ไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่อยากกลับตัว หลวงพ่อฤาษีเคยสอนว่า .... พระพุทธเจ้ากล่าวว่า บุคคลใดรู้ตัวว่าเป็นพาล พาลนี่เขาแปลว่าโง่ พระพุทธเจ้ากล่าวว่าบุคคลนั้นเป็นบัณฑิตเพราะเป็นผู้รู้

    คนที่รู้ตัวว่าเป็นคนพาล มันจับความชั่วของตัวไว้เสมอ จ้องดูจิตว่า อารมณ์ชั่วมันจะเกิดเมื่อไร ในเมื่อความชั่วมันจะเกิดขึ้นมาในด้านไหน หาทางตัด นี่บัณฑิตมีความรู้สึกอย่างนี้ ไม่เคยมีความรู้สึกตัวว่าเป็นคนดี

    มองหาความชั่วของตัวให้พบ เมื่อหาชั่วพบทำลายความชั่วได้แล้ว มันก็ดีเอง นี่จัดว่าเป็นความดีอันดับต้น สำหรับคนที่เข้าถึงพระพุทธศาสนา เพราะเราเรียนกันอันดับสูง นี่เราไม่ได้เรียนเปะๆปะๆ ตายแล้วจะไปไหนก็ช่าง อันนี้เราไม่ใช้

    อย่างเลวที่สุด ตายแล้วเราไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม และมีชาติเกิดจำกัด ๑ ชาติ ๓ ชาติ ๗ ชาติ เป็นอย่างมาก แล้วไม่ลงอบายภูมิ นี่ศูนย์แห่งการศึกษาเป็นอย่างนี้ ....
    พยายามทำให้ได้นะครับ
     
  3. n_nu

    n_nu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +635
    ใช่ค่ะ.คุณควรจะกราบขอขมาแม่ซะเมื่อคุณยังมีโอกาส..แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงความสุขใจที่แท้จริง....ยังดีที่คุณยังรู้ที่มาของการกระทำ...ยังไม่สายเกินไปหรอกค่ะ...แต่ก็รีบๆหน่อยล่ะกัน...เพราะชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน..ขอให้คุณโชคดีค่ะและจงตั้งจิตตั้งใจลงมือปฏิบัติต้วยใจนะค่ะ.
     
  4. caring

    caring เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +199
    อนุโมทนากับความเห็นนี้
    และเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้เปลี่ยนแปลงตัวเอง สามารถเอาชนะใจตัวเองเป็นลูกที่ดีของแม่ให้ได้นะคะ
     
  5. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เอาละสหาย ดีละที่สำนึกได้ เราจะยกตัวอย่างเรื่องของเราให้ฟังนะ
    เราก็เป็นเหมือนสหาย ตอนอายุ 15-22 ปี เหตุผลเกิดจากความคับค้องใจ
    1.แม่เราเป็นคนที่ชอบว่าให้คนอื่น และดูถูกคนที่ด้อยกว่า + ชอบยกย่องคนรวย ซึ่งตรงกันข้ามกับเราและพ่อเรา
    2.ที่บ้านเราต้องการให้เราเรียนเก่งๆ เพราะการเรียนเก่ง อยู่สถาบันที่มีชื่อเสียง จะได้มีหน้ามีตา
    3.แต่ทางบ้านเรากับไม่ช่วยอะไรเราเลย ทั้งเงินทุน และกำลังใจ ปล่อยให้เราต่อสู้เพียงลำพัง และยังไม่พอ มีการเอาไปเปรียบเทียบ ดูถูกกับพี่ชายเราด้วย
    4.สภาพสังคมที่แข่งขันกันมาก ใครมีโอกาสมาก ทุกคนได้เปรียบมากกว่า แต่เราไม่มีอะไรสู้ใครได้เลย จน ใส่เสื้อผ้าขาดๆเก่าๆ เดินไปเรียน ไม่เคยได้เรียนพิเศษ ไม่มีตังค์กินข้าว ไม่มีแม้แต่จะซื้อหนังสือไว้อ่านเพิ่ม ด้วยสังคมที่หลอกให้คนเป็นแบบนี้ หลงไหลใน ตัวเลขทางการเงิน ตัวเลขทางการศึกษา และ ฐานะทางสังคม และเราก็ดิ้นรนไปกับมัน จนเราหลงลืม และละทิ้งคำว่าศีลธรรม คุณธรรมไป

    โอเค เหตุการณ์มันเริ่มเมื่อ อายุ 15 เมื่อต้องแข่งกันเรียน ความไม่พอใจกับสิ่งที่ครอบครัวได้ทำให้เรามันก็เกิดขึ้น
    "พ่อบอกให้ผมทำนั่นทำนี่ แล้วพ่อเคยช่วยอะไรผมมั้ย"...... เป็นคำสบถด่าเริ่มต้น ที่ผมจำได้ และหลังจากนั้นผมก็ทะเลาะกับครอบครัวเรื่อยๆมา ส่วนใหญ่กับพ่อ และ จะเถียงกับแม่ จนเพิ่งเลิกไปได้ครั้งสุดท้ายที่จำได้ คือ ปี 2550 ตอนที่อยู่ๆก็หนีไปอยู่วัดอีกรอบ คือ ครั้งนั้น ผมสุดทน ทั้งๆที่อดทน และรับรู้แล้วว่าการเถียงแม่นั้น มันส่งผลอย่างไรกับชีวิต(จะกล่าวหลังจากนี้ต่อไป) ด้วยคำพูดที่ว่า "ทุกวันนี้ แม่ก็ไม่ได้ให้อะไรกับผม แล้วมาบอกให้เราเป็นโน่นนี่ และยังมาคอยดูถูกเรา แล้วแม่ดีนักเหรอ ก็ไม่เห็นจะดีอะไรเลย" นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เถียงแม่ด้วยอารมณ์ และหลังจากนั้นมาผมก็ไม่เถียงแบบนี้อีกเลย

    ระยะเวลาที่ผมเถียงพ่อแม่ และด่าสบถพ่อแม่แรงๆ ทั้งทางโทรศัพท์และต่อหน้า ทำให้ผมก็ได้รับ ผลไปนาน แต่ก็มาพลิกกลับตัวได้เมื่อเริ่มมานับถือ พระรัตนไตย เป็นที่พึ่ง
     
  6. น้ำหวาน2

    น้ำหวาน2 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +28
    ไม่สายที่จะกับตัวนะคะ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ เอาพระรัตนไตรเป็นที่พึ่งนะคะ ขอให้คุณเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมนะคะ เป็นแรงใจช่วยอีกแรงค่ะ
     
  7. เมธาวี1

    เมธาวี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    692
    ค่าพลัง:
    +1,051
    :':)':)':)':)'( เหมือนกันเปี๊ยบเลย ทุกวันนี้ไม่พูดกับพ่อแล้ว พยายามหยุดกรรมทางวาจา ไม่รู้เราทำไรให้นักหนา ด่าเรายังกะไม่ใช่คน
     
  8. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ผลกรรมที่เราได้รับ
    1.จริงๆ เราเป็นคนที่เก่งนะ หลายด้านเลย แต่เก่งไม่สุด สักอย่าง เรียนก็เก่ง แต่ก็ไม่ถึงที่ 1-3 กีฬาก็เก่ง เกือบจะติดทีมชาติ แต่แล้วก็ไม่ติด แถมทำทีมพังเพราะเราอีก ดนตรีก็เล่นได้ แต่ไม่ถึงขั้นมืออาชีพ หน้าตาก็เหมือนจะดี แต่ก็ไม่ถึงขั้นดารา(อันนี้คิดเองนะ ^_^)
    2.มันทำให้เรามีปัญหาทางฟัน ฟันผุ ไป 2 ซึ่ และโดนถอนไปแล้ว ทั้งๆที่อายุยังน้อยๆ สมัยก่อนมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเหงือก และเลือดออกตามไร ฟันบ่อยมาก แต่แปลกที่ไม่ได้เป็นคนปากเหม็น
    3.เวลาเราทำอะไรจะมีอุปสรรคขัดขวางมากมาย
    3.1 เวลาคุณชอบใคร แล้วเค้าก็มีใจให้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นแฟนกัน
    3.2 เวลาคุณเรียน คุณสอบแข่งกับใคร คุณจะได้คะแนน และเด่นมาก แต่คุณจะไม่ชนะ ตามที่ต้องการ (ต้องเรียกว่าทำอะไร มันพลาดแค่เส้นยาแดง แบบประมาณว่า ทำไมแค่นิดเดียว สอบได้ที่1แต่อายุไม่ให้บ้าง ตกภาคปฎิบัติบ้างอะไรประมาณนี้ เจ็บใจมาก) เราต้องจบช้ากว่าเพื่ิอนอีก 1 เทอม ด้วยเหตุผลที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ "ทำดีเกินไป"
    3.3 เราจบมา ตกงานถึง 2 ปี ครึ่ง ไปสมัครงานที่ไหน เค้าก็ไม่รับ แฟนก็เริ่มตีตัวออกห่าง สอบเข้าทำงานที่ไหนก็ได้ ได้แต่ติดแต่รายชื่อทิ้งไว้ เงินก็ไม่มี งานก็ไม่มี ที่อยู่ก็ไม่มี ต้องอาศัยนอนตามห้องสหายบ้าง ที่ไหนนอนได้ก็นอนหมด และนั่นเหมือนเราจะกำลังหมดกรรมแล้ว

    หลังจากเราจบมา ได้ไปอาศัยอยู่วัดแห่งหนึ่ง จนเริ่มเกิดปัญญามากขึ้น เริ่มหันกลับมานับถือ พระพุทธศาสนาอีกครั้ง เริ่มเชื่อเรื่อง กฏแห่งกรรม เรื่อง ภพภูมิ การตายแล้วไม่สูญ ซึ่งพิสูจน์ได้จริงด้วยตัวเอง มันทำให้เราพยายามทำใจ แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ เมื่อก่อนเรื่องบุญนี่แทบไม่ค่อยได้ทำ ทำก็ทำตามประเพณี เรื่องภาวนา เรื่องจิตไม่เคยได้ฝึก ก็หันกลับมาฝึกใหม่ เราเข้าใจแล้วว่าทำไมทำอะไรแล้วมันไม่ได้ดีสักอย่าง ทั้งๆที่ก็คิดว่าตัวเองมีความสามารถ เพราะเหตุนี้ จึงพยายามไม่ทะเลาะกับพ่อแม่ หลีกเลี่ยง พยายามพูดจาดีๆ และก็แผ่เมตตาให้ท่านบ่อยๆ หากโกรธ หรือไม่พอใจ ก็เดินหลีกเลี่ยงหนีไปไกลๆเสีย จะไม่ต้องทะเลาะ แต่ก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนได้ภายในวันเดียว เราต้องใช้เวลา เป็นปีครับ ค่อยๆเปลี่ยนไป ถึงไม่ชอบแม่เราเท่าไหร่ แต่ก็ต้องสำนึกบุญคุณว่าอย่างน้อยท่านก็เป็นผู้ให้กำเนิด เลี้ยงดูและคุ้มครองเราให้เรารอดภัยในยามเล็กๆ ควรจะดูแลท่านให้ดีที่สุด เพราะท่านอาจอยู่กับเราได้ไม่นาน แม่เราเป็นคนที่ทำบาปไว้เยอะ เรื่องบุญอะไรไม่ค่อยจะทำ เราสอนท่านไม่ได้ แต่เราทำให้ท่านเห็นได้ ทุกคืนเราสวดมนต์ ทุกเช้าเราทำสมาธิ ทุกเวลายามว่างเรากำพระและก็ภาวนาในใจแล้วยิ้มไป ปรากฎว่าทุกวันนี้ แม่เรา พ่อเรา เริ่มหันมาสนใจเรื่องธรรมะมากขึ้น เพราะเค้าเห็น เห็นเรางัยสหาย ผู้ที่เคยมีอารมณ์ขุ่นค้อง รุ่มร้อน มีโมโหในจริตสูง แต่กลับเปลี่ยนไปในทางที่ดี และก็ดีมาก จำได้ว่าตอนขอบวชครั้งแรก แม่ยังบอกแกมประชดว่า "เอ่อ ดี บวชๆ แล้วไม่ต้องสึกไปเลย งานการก็ไม่มีทำ" แล้วเราก็ไปบวช โดยที่ไม่มีญาติ พ่อ แม่ ไปร่วมงานเลย มีแต่แม่ที่เป็นแม่บุญธรรมในการบวชครั้งนั้นให้ แต่ทุกวันนี้ ทั้งแม่ และพ่อ ดีกว่าเดิมมาก เราสบายใจมาก

    เป็นเวลา 3 ปีในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง หันมาประกอบแต่กรรมดี แต่เวลาทำอธิฐานตลอดนะ (ว่าบุญที่ข้าพเจ้าทำในครั้งนี้ขอให้ส่งผลกับข้าพเจ้าในปัจจุบันชาตินี้ด้วยเทอญ)
    เหมือนกับว่า 3 ปีนั้นทำบุญมากกว่า ทั้งชีวิตที่เกิดมา 20 กว่าปีอีก แต่หลังจากนั้น 3 ปี ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ดี และก็ดีเรื่อยๆ ทำอะไรก็ง่าย ประสบความสำเร็จง่ายมาก คนส่วนใหญ่ชอบ ถึงแม้ส่วนน้อยที่จะไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็หมั่นทำดีอยู่ บุคลิคเปลี่ยนไปเยอะมาก จากคนที่หน้าตาดุดัน อารมณ์โมโหร้าย เกลียดใคร แค้นใครฝั่งใจ แต่ดีตรงที่เรื่องความซื่อสัตย์ และสำนักบุญคุณคน แต่ตอนนี้ดูดีมาก

    วิธีแก้
    1. ภาวนาไว้ในใจ ยิ้มเข้าไว้ ชีวิตมีความสุข
    2. เวลาโมโห หนีไปอยู่ที่อื่นซะ จะได้ไม่ต้องไปรับเรื่องราวให้โมโห เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนเวลา ทุกอย่างมันก็เปลี่ยน ทุกสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไม่มีอะไรจีรังถาวร อารมณ์เรายิ่งเหมือนกัน เปลี่ยนงานมาก
    3.แค้นใคร เกลียดใคร สวดมนต์ แผ่เมตตา ให้บ่อยๆ พอผ่านมาสัก 1 ปี เราจะดีขึ้น ทำใจได้ และไม่ค่อยรู้สึกอะไรมาก แต่กลับกัน ถ้าคนนั้นยังทำตัวไม่ดีกับเรา เค้าจะได้รับผลกรรมแบบที่เราเห็น และรับรู้ได้เอง แต่ถ้าคนนั้นเปลี่ยนมาทางที่ดี ก็จะดีกลับเรา หรือเฉยๆกลับเราไม่หาเรื่องเราอีก

    จำไว้ทุกอย่างต้องอดทนและใช้เวลา อยากให้ทุกอย่างดีขึ้นเริ่มจากวันนี้ ไปสัก 5 ปี เห็นผล ร้อยเปอร์เซ็น หรืออาจเร็วกว่านั้น จำไว้ว่าเราเปลี่ยนได้ที่่ตัวเอง เปลี่ยนคนอื่นปล่อยตัวเค้าเปลี่ยนเอง ไม่เปลี่ยนก็เรื่องของเค้า

    เจ้ากรรมนายเวรที่แท้จริงของเรา คือ พ่อ แม่ ลูก พี่น้อง ญาติ เพื่อน นี่แหละเจ้ากรรมนายเวรของจริง
     
  9. J00M

    J00M เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2012
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +3,263
    กราบสวัสดีรอบห้องค่ะ...คุณอยากหาย ต้องปฏิบัติตนอย่างหนึ่งคือ ต้องมีสติ อดทนต่อสิ่งที่รบกวนทำให้โกรธ " จงระงับความโกรธด้วยความไม่โกรธ" คำนี้ถ้าคิดไว้เสมอ เราจักทำได้ ผลที่ตามมาจะดีแน่นอนค่ะ แล้วสิ่งที่ทำกับบิดามารดา อย่างไรท่านไม่ได้เป็นเจ้ากรรมนายเวรเราหรอกค่ะ เพราะพ่อแม่ให้อภัยเราโดยไม่ต้องขอ แต่สิ่งที่ควรทำ คือแสดงให้เห็นว่าเราอยากจะขอโทษและขอขมาต่อท่านในสิ่งที่ทำไปในอดีต และถึงปัจจุบัน รวมถึงอนาคตหากเรายับยั้งชั่งใจไม่ทัน ขอขมาไปเลยค่ะ...บาปไม่สามารถล้างได้ แต่ลดลงได้ด้วยการทำดีมากขึ้น คิดดี พูดดี ทำดี กับทุกคน เท่านี้ก็เป็นบุญ แล้วค่ะ แต่จิตที่คิดจะต้องจริงใจค่ะ บุญที่ได้รับเต็มเปี่ยมแน่นอน ส่วนกรรมที่ตามมา ทำบุญเยอะ ๆ ค่ะ หนีกรรมสะแล้วมันจะลดลงไปเอง ลองทำดูนะค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ สู้ค่ะ ถ้าคิดว่าปากเหม็นก็ปรึกษาทันตแพทย์ค่ะ สาเหตุเกิดจากอะไร ถ้ายังไม่รู้จะทำอะไร รบกวนนั่งสมาธิให้ได้วันละ 9 นาทีก็ได้ค่ะไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แค่เสียเวลา 9 นาทีค่ะ...อิอิ ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละมาอ่านนะค่ะ...ไปละ
     
  10. manigold

    manigold เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +123
    ผมคิดว่ายังไม่สายที่คิดจะทำสิ่งดีๆนะครับ ปัจุบันแม่ของคุณท่านก็ยังอยู่ ลองระงับอารมณ์เอาไว้สิครับ ผมว่าไม่มีอะไรมีความสุขเท่ากับได้อยู่
    กับครอบครัวรวมทั้งการได้เห็นรอยยิ้มของพ่อแม่เรานะครับ
     
  11. sanbung

    sanbung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +156
    ซื้อหวยเยอะกว่าทำบุญ ทำบุญเยอะกว่าบำรุงพ่อแม่...อย่างนั้นหรือ...(deejai)
     
  12. อินทิราธา

    อินทิราธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2011
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +346
    ขอให้คุณได้ไปกราบขอขมาคุณพ่อ กับ คุณแม่ ก่อนเลยค่ะ พยายามตั้งสตินะคะ ท่านทั้งสองเป็นบุคคลที่เราจะแตะต้องท่านด้วยสิ่งไม่ดีทั้งหลายไม่ได้เลย ท่านอยู่สูงค่ะ ขอขมาก่อนเลยนะค่ะ
     
  13. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    นำพวงมาลัยมะลิ และน้ำฝนสะอาด ไปกราบขอขมาแม่เลยครับ ส่วนพ่อก็ไปถวยถวายสังฆทานให้ท่านโดยระบุชื่อด้วยครับแต่ให้เลือกพระผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ(ศีล ครบ นะครับ ท่านถึงจะได้รับ หากศีลท่านไม่ครบ บุญนั้นจะเป็นของเรา ซึ่งรอเราอยู่
    โมทนาสาธุ
    ยินดีกับความสำนึกครับ
    ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
    ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพาน็นสุขอย่างยิ่ง
     
  14. marasri

    marasri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +293
    คล้ายกันกับกับกรณีที่บ้านดิฉันค่ะ แต่ไำม่ถึงขั้นด่าทอหยาบคายนะคะ แต่ถ้าโวยวาย ดุว่า เถียง พ่อแม่นี่เคยทำบ่อยมาก เรารู้ว่าไม่ดี แต่ก็ยั้งไม่อยู่
    ส่วนหนึ่งก็โทษว่ามาจากการเลี้ยงดูของท่าน เพราะตัวพ่อแม่เองก็มีนิสัยแบบนั้นเหมือนกัน ชอบตะคอก เสียงดัง โมโหโกรธาง่าย (เป็นทั้งบ้าน) ส่วนหนึ่งก็โทษตัวเราเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เราก็รู้สึกผิดมาโดยตลอดและเครียด รู้แน่ๆ ว่าได้ตีตั๋วไปนรกแล้ว แต่ไม่รู้จะทำยังไง

    ต่อมาได้อ่านเจอคำสอนของหลวงพ่อจรัลที่ให้ขอขมาพ่อแม่ เราก็ลองปฏิบัติตาม หลังจากนั้นความรู้สึกมันก็ดีขึ้น ผ่อนคลายขึ้น ที่ชัดเจนมากคือ พ่อแม่ก็เหมือนจะระมัดระวังตัวมากขึ้น ช่วยทำให้เราไม่ต้องมีประเด็นไปปะทะกับท่าน

    ปัจจุบัน แม่ก็ยังเถียงและดุว่ายายอยู่ เราก็อยากให้แม่ได้ทำแบบเรา แต่ยังไม่สำเร็จค่ะ
    รู้ว่าแม่ก็รู้สึกแบบเรา เพราะแกพูดตลอดเวลาที่ทะเลาะกับยาย ว่าแกทำบาป ได้ไปนรกแน่ๆ สงสารแม่ค่ะ
     
  15. J00M

    J00M เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2012
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +3,263
    สวัสดีรอบห้องค่ะ อยากถามคนบางคนว่า กรรมที่ถูกเมียทิ้ง เมียหนีไป หรือใครอยู่ด้วยก็ทนไม่ได้เนี่ยเป็นเพราะอะไรค่ะ หรือจะเป็นกรรมที่ชอบก่อกวนชาวบ้านคนอื่นเขาไปทั่วจนตัวเองไม่มีความสุขเสียเองค่ะ....555555 อันนี้พูดไปงั้นละค่ะ ใครรู้ตัวโปรดแสดงตนที่แท้จริง อย่าเป็นปิศาจหลบอยู่ใต้ความดีเลยค่ะ...คือรำคาญ อยากหัวเราะค่ะ แต่ไม่รู้จะหัวเราะไปทำไม อย่าเรียกร้องความสนใจเลยค่ะ หากอยากให้คนสนใจ คุณควรรู้จักปล่อยวางและจริงใจกับคนอื่นจริง ๆ เพราะคนบางคนไม่ชอบเล่นซ่อนแอบ เป็น ญ ที เป็น ช ที ...ระอาค่ะ หากผู้ใดไม่เกี่ยวข้องอย่าใส่ใจข้อความข้าพเจ้าเลยนะ...ขอบคุณ (ระวังจะไม่มีที่ให้ยืนนะ พวกชอบแอบแฝง)
     
  16. ไชยยารัตน์

    ไชยยารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +739
    เราอาศัยพ่อแม่เป็นแดนเกิดมาเป็นคนได้ ก็เป็นบุญโขแล้ว กว่าจะได้เป็นคนนั้นแสนยาก ส่วนที่พ่อแม่ด่าว่าเรานั้น นับว่าเป็นกรรมที่ติดตัวมา เราต้องพากเพียร ทำความดีต่อไป กงล้อแห่งกรรมให้ผลตรงเสมอ ดูแล้วเหมือนช่างโหดร้าย กงล้อนี้ ช่างใหญ่โตมโหฬาร จนเราไม่สามารถเห็นได้หมด ที่เห็นทุกวันนี้ แค่เศษเสี้ยวของฝุ่นในปลายเล็บ ชิตังเม
     
  17. อยากหาย

    อยากหาย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +19
    เราเคยคิด และจะทำอยู่หลายครั้งในการนำพวงมาลัยมากราบเท้าแม่ แต่พอเจอแม่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่ มันทำให้เราหมดใจกับการทำสิ่งนั้น และก็เลิกทำจนทุกวันนี้
    ปัจจุบันเราพยายามไม่ปะทะ หรือทำงานกับแม่ด้วยกัน เพราะจะมีเรื่องทะเลาะกันทุกครั้งไป เราไม่หวังลดกรรม แต่เราจะพยายามไม่เพิ่มกรรมให้ตัวเองเท่านั้น
     
  18. มณีเมขลา20

    มณีเมขลา20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +446
    เป็นอีกหนี่งกำลังใจให้นะคะ
     
  19. n_nu

    n_nu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +635
    อนุโมทนาค่ะที่คิดอยากจะทำ....นี่แหละค่ะความดีแต่คุณก็ยังมีมารมาผจญมาดลจิตดลใจให้คุณต้องไขว้เขว ลองตั้งสติ....และหวนกลับไปคิดถึงอดีตที่ผ่านมา.....เชื่อเถอะค่ะไม่มีใครรักคุณเท่ากับแม่ของคุณหรอกค่ะ.....ลองดูค่ะค่ะคุณอยากหาย..รับประกันว่าความรู้สึกที่คุณจะได้มานั้นหาซื้อที่ไหนไม่ได้หรอกค่ะ..มันคงไม่ยากเกินความสามารถของคุณแน่นอน..
     
  20. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    มาอนุโมทนาค่ะ หนูก็เคยเป็นเช่นกันผลกรรมได้เกิดอยู่ตอนนี้จริงๆค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...