เมนูอาหารจากดอกไม้

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 15 มกราคม 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="98%"> <tbody><tr><td>
    [FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif][/FONT]​
    </td> </tr> <tr> <td>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td> [​IMG]ลีลาวดี (Frangipani)

    เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ใบมีสีเขียว โตและหนา มียางมาก ดอกมีสีขาว-เหลือง ขาว-แดง
    ส่วนที่ใช้ ทั้งต้น เปลือกต้น ดอก เนื้อไม้ ยางจากต้น และเปลือกราก

    สรรพคุณ
    ทั้งต้น ใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคลำไส้พิการของม้า
    ใบ เอาใบแห้งมาชงน้ำร้อนใช้รักษาโรคหอบหืด หรือนำใบสดมาลนไฟให้ร้อนแก้ปวดบวม
    เปลือกราก ใช้เป็นยารักษาโรคหนองใน เป็นยาถ่าย แก้โรคไขข้ออักเสบ ขับลม
    เปลือกต้น นำมาต้มเป็นยาถ่าย ขับฤดู แก้ไข้ แก้โรคโกโนเรีย หรือให้ผสมกับน้ำมันมะพร้าว ข้าวและมันเนย ซึ่งจะเป็นยาแก้ท้องเดิน ยาถ่าย ขับปัสสาวะ
    ดอก ใช้ทำธูป แต่ถ้าใช้ผสมกับพลูเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย
    เนื้อไม้ เป็นยาแก้ไอ ในประเทศเขมร ใช้เป็นยาถ่าย ขับพยาธิ
    ยางจากต้น เป็นยาถ่าย รักษาโรคไขข้ออักเสบ ทำให้เกิดผื่นแดง ถ้าใช้ผสมกับไม้จันทร์และการบูรเป็นยาแก้คัน แก้ปวดฟัน

    </td></tr> <tr> <td> [​IMG]ดอกเข็ม (Ixoria / Ixora)

    เป็นชื่อไม้พุ่ม ดอกตูมมีลักษณะคล้ายเข็ม ดอกมี ๔ กลีบ สีต่างๆ เช่น เข็มพวงขาว (I. finlaysoniana Wall.) ดอกขาวกลิ่นหอม ใช้ทำยาได้ เข็มเศรษฐี (I. congesta Roxb.) ดอกแดงออกเป็นช่อใหญ่
    เข็มเป็นไม้ในเขตร้อน กระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แหลมอินโดจีน หมู่เกาะในมหาสุมทรแปวิฟิก ญี่ปุ่นอเมริกาใต้ และมีพันธุ์ที่เป็นลูกผสมใหม่ๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ เข็มเป็นต้นไม้ชอบอยู่กลางแจ้งไม่เลือกสภาพดินนัก แต่ก็ชอบดินร่วนซุยที่ชุ่มชื้นพอสมควร โดยปรกติเข็มปลูกขึ้นง่าย และทนทานต่อความแห้งแล้ง
    เนื่องจากเข็มให้ดอกตลอดปีจึงมีผู้นิยมปลูกตามบ้าน สวน และวัด บางครั้งก็ปลูกตามริมกำแพงหรือเป็นรั้วดอกก็มักใช้บูชาพระและไหว้ครู ในทางสมุนไพร ว่ารากเข็มมีรสหวาน

    ส่วนที่ใช้ ดอก
    สรรพคุณ ใช้รับประทานแก้โรคตา และเจริญอาหาร แก้ท้องผูก เข็มป่า (Ixora cibdela Craib) เปลือกใช้ตำคั้นเอาน้ำหยอดหูฆ่าแมงคาเรืองเข้าหู ใบใช้ฆ่าพยาธิ ดอกแก้โรคตาแดง ตาแฉะ ลูกแก้ริดสีดวงในจมูก

    </td></tr> <tr> <td> [​IMG]ดอกอัญชัน (Butterfly Pea)

    ชื่ออื่น แดงชัน(เชียงใหม่) , เอื้องชัน(ภาคเหนือ)
    ชื่อวิทยาศาสตร์ Clitoria ternatea Linn.

    สรรพคุณ
    ใช้กลีบดอกสด ตำให้ละเอียด นำน้ำที่ได้ชะโลมผม จะช่วยให้ผมดกดำเป็นเงางาม ดอกอัญชันสีม่วง เมื่อนำมาคั้นน้ำจะให้สีม่วง ใช้แต่งสีอาหารชนิดต่างๆ เช่น ขนมช่อม่วง ขนมชั้น เล็บมือนาง และขนมดอกอัญชัน
    อัญชัน

    วิธีใช้
    ใช้กลีบดอกสดของดอกอัญชันตำให้ละเอียดผสมกับน้ำ กรองกากออก นำน้ำที่ได้ชะโลมผมทิ้งไว้ 10 -15 นาที แล้วล้างออก จะช่วยให้ผมดำเป็นเงางาม ในสมัยก่อนคนชอบนำดอกอัญชันสดมาเขียนคิ้วเด็กอ่อน เพราะเชื่อว่าจะทำให้คิ้วดกและดำ

    การบริโภค ชุบแป้งทอด สีจากดอกใช้แต่งสีอาหารได้


    </td></tr> <tr> <td> [​IMG]ดอกขจร

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Telosma minor
    ชื่อวงศ์ Asclepiadaceae
    ชื่อสามัญ Cowslip Creeper
    ชื่อท้องถิ่น บางท้องที่เรียกดอกสลิด

    ลักษณะทั่วไป
    ดอกขจรเป็นไม้เลื้อยเถาเล็กแตกยอดจำนวนมาก ทุกส่วนของลำต้นมีน้ำยางขาว ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามเป็นใบคู่เป็นรูปหัวใจ กว้างและยาว 6 -10 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบเว้า ขอบใบเรียบ มีช่อดอกสีเหลืองอมชมพูอ่อนออกเป็นช่อแบบซี่ร่ม ดอกย่อยมีกลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันส่วนปลายแยก 5 แฉก กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายกลีบแยกเป็น 5 แฉก ดอกบานไม่พร้อมกัน ดอกอ่อนสีเขียว เมื่อบานเริ่มหอมตั้งแต่ช่วงบ่าย ดอกออกมากตั้งแต่ต้นฤดูหนาว นำดอกขจรมาเป็นผัก ทำอาหารรับประทานได้
    การปลูก
    ขจรเป็นไม้ที่ขึ้นได้ดีในดินทุกสภาพ แต่ถ้าจะให้ดีควรปลูกในดินร่วนปนทราย หรือดินที่มีความร่วนซุยมากๆ ขจรเป็นไม้ที่ชอบแดดจัดไม่ต้องการน้ำมากนัก และทนต่อสภาพความแห้งแล้งได้ดี ดังนั้นการรดน้ำให้รด 2 วันต่อครั้ง การขยายพันธุ์ขจรสามารถทำได้โดยการปักชำกิ่ง หรือทาบกิ่ง

    สรรพคุณทางยาใช้รากผสมยาหลอดรักษาตา รับประทานทำให้อาเจียนถอนพิษเบื่อเมา ทำให้รู้รสอาหาร ดับพิษ

    เมนูอาหาร แกงส้มดอกขจร ยำดอกขจร แกงจืดดอกขจร ไข่ตุ๋นดอกขจร ข้าวต้มดอกขจร



    </td></tr> <tr> <td> [​IMG]ดอกโสน

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Sesbania aculeata
    ชื่อวงศ์ Leguminosae
    ชื่อท้องถิ่น โดยทั่วไปเรียก "โสน" ภาคเหนือเรียก "ผักฮองแฮง"

    ลักษณะทั่วไป

    เป็นไม้ล้มลุก เป็นพุ่มขนาดกลาง ลำต้นสูงเปราะบางเพราะไม่มีแก่น สูงประมาณ 2 - 3 เมตร มีกิ่งก้านห่างๆ ใบเล็กฝอยคล้ายกับใบมะขามหรือใบกระถิน ดอกสีเหลืองคล้ายดอกแค แต่ดอกเล็กกว่า มีฝักยาว มีเมล็ดในฝักคล้ายกับถั่วเขียวแต่ฝักยาวกว่า ดอกโสนสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น นำมาชุบแป้งทอดกรอบ รับประทานกับขนมจีนน้ำพริก ดอกโสนมีรสหวานชวนรับประทานมาก

    การปลูก
    ต้นโสนขึ้นเองอยู่โดยทั่วไป โดยเฉพาะตามริมคูน้ำ ริมคลอง ในที่ชื้นแฉะ เป็นพืชขึ้นง่าย ไม่ต้องบำรุงรักษาก็งอกงามดี

    สรรพคุณทางยา
    เอาต้นโสนมาเผาไฟให้เกรียม แล้วเอามาต้มชงเอาน้ำดื่ม เป็นยาขับปัสสาวะ ดอกโสนนำมาผัดน้ำมันเล็กน้อย หรือเอามาลวกจิ้มน้ำพริกรับประทาน เป็นยาแก้ปวดมวนท้อง

    เมนูอาหาร ดอกโสนจิ้มน้ำพริกมะนาว แกงดอกโสน ดอกโสนผัดน้ำมันหอย ยำดอกโสน ขนมดอกโสน

    </td></tr> <tr> <td> [​IMG]ดอกแค

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Sesbania grandiflora Desv
    ชื่อวงศ์ Papilionaceae
    ชื่อสามัญ Vegetable Humming Bird, Sesban, Agasta
    ชื่อท้องถิ่น แคแกง, แคขาว

    ลักษณะทั่วไป
    เป็นต้นไม้พื้นบ้าน เป็นต้นไม้เนื้ออ่อน ปลูกได้ในทุกพื้นที่ ทั้งดินเหนียวและดินปนทราย นิยมปลูกเป็นรั้วบ้าน คันนา ริมถนน และในบริเวณบ้าน หรือปลูกไว้เพื่อปรับพื้นที่ให้มีปุ๋ย เพราะใบแคที่ผุแล้ว ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ ส่วนที่นำมารับประทานได้ มียอดอ่อน ดอกอ่อน ใบอ่อน และฝักอ่อน ออกในช่วงฤดูฝน ส่วนดอกอ่อนจะออกในช่วงฤดูหนาว ดอกแค 100 กรัม หรือ 1 ขีด ให้พลังงานต่อร่างกาย 10 กิโลแคลอรี มีเส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง และวิตามินซี การรับประทานดอกแคจะทำให้ร่างกายได้เส้นใยอาหาร ดอกแคเมื่อแก่จนกลีบร่วง ก็จะมีฝักอ่อน นำมาทำอาหารได้ เมื่อแก่จะแพร่พันธุ์ด้วยเมล็ด เจริญเติบโตง่าย มีอายุไม่นาน ก็ยืนต้นตาย แพร่พันธุ์ด้วยฝักที่มีเมล็ดแก่จัด การนำดอกแคมาทำอาหารต้องเด็ดเกสรสีเหลืองของดอกแคออกก่อนจะทำให้ไม่มีรสขม

    สรรพคุณทางยา เปลือกนำมาต้ม คั้นน้ำแก้ท้องร่วง แก้บิด แก้มูกเลือด คุมธาตุ

    เมนูอาหาร แกงส้มดอกแคปลาดุก ดอกแคสอดไส้ แกงเหลืองปลากระพงดอกแค ดอกแคชุบแป้งทอด


    </td></tr> <tr> <td> [​IMG]พวงชมพู (Maxican Creeper)

    ชื่อวิทยาศาสตร์ Antiganon Leptopus

    ลักษณะทั่วไป
    เป็นไม้เลื้อย มีกลีบดอกเล็กๆ เป็นรูปหัวใจ สีชมพู ลักษณะคล้ายพวงครามและพวงแสด ดอกจะออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง

    สรรพคุณ เถาและรากเป็นยากล่อมประสาท ทำให้นอนหลับสบาย

    เมนูอาหาร ยำ พวงชมพูชุบแป้งทอด

    </td></tr> <tr> <td> [​IMG]ดอกกุหลาบ (Rose)

    ลักษณะทั่วไป
    ก้านยาวและมีหนาม กลีบดอกเป็นชั้นซ้อนกัน มีสีสันสวยงาม มีกลิ่นหอม

    สรรพคุณ
    กลีบดอกกลิ่นหอมเย็น บำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย ช่วยระบาย

    เมนูอาหาร
    ยำกุหลาบ แกงส้มกลีบกุหลาบ กุหลาบชุบแป้งทอด

    </td></tr></tbody></table>
    ภาพและบทความจาก เวปไซต์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    [/FONT]</td> </tr> <tr> <td>

    </td></tr></tbody> </table>
     
  2. Samy

    Samy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,294
    ค่าพลัง:
    +2,719
    ต้องปลูกกินเองด้วยนะไม่งั้น ไม่ปลอดภัย:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...