เมตตาธรรมสืบทอดจากครูบาอาจารย์ไปสู่ศิษย์

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 23 ธันวาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    หลวงปู่สอนพระเณรเสมอ ให้แสวงหาที่สงัดวิเวกเร่งทำความเพียรภาวนาอย่าง หนัก อย่าประมาท การทำความเพียรให้ถือปฏิบัติจนเป็นความเคยชิน โดยไม่ เลือกเวลาหรือสถานที่ ความจริงองค์ท่านเองก็เป็นแบบฉบับอันยิ่งยอดของผู้ แสวงหาทางที่อันสงัดวิเวกอย่างแท้จริงอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเขาสูง ป่า ลึก ถ้ำที่ลี้ลับ ท่านก็ดั้นด้นผ่านไปอย่างโชกโชน ท่านสรรเสริญเสมอ ว่า การทำความเพียรภาวนาจะได้รับความก้าวหน้าทางจิตอย่างลึกซึ้ง ในสถาน ที่อันสงัดวิเวก จึงควรที่จะแสวงหาป่าเขาอันสงบเป็นที่บำเพ็ญเพียร เมื่อ หาที่สถานที่อันสัปปายะได้แล้ว ก็ควรพอใจพำนักบำเพ็ญภาวนา จนกว่าเมื่อใด จิตเกิดอาการ ชินชา หรือ ติด ที่อยู่ ก็ต้องแสวงหาที่ใหม่ต่อไป

    อาการ ติด ที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงให้พระภิกษุควรระวังมี 4 ประการ คือ ติดอาหาร ติดอากาศ ติดตระกูล และ ติดที่อยู่
    ติดอาหาร หมายถึงการติดในรสอาหาร ว่าประณีต อร่อย หวาน เปรี้ยว เค็ม
    ติดอากาศ หมายถึงการติดอากาศร้อน เย็น หนาว โปร่ง สบาย ไม่ชื้นแฉะ
    ติดตระกูล หมายถึง การติดพึงใจที่จะอยู่ใกล้ชิดญาติโยมผู้อุปัฏฐากให้ความ สะดวกสบาย
    ติดที่อยู่ หมายถึง การติดถิ่น ติดสถานที่ ถือเป็นที่อยู่ประจำ จนกลาย ถือเป็นเจ้าเข้าเจ้าของที่ไป
    พระธุดงค์จะต้องสามารถ ละ ได้ ไม่มี การติด

    หลวงปู่เตือนลูกศิษย์ของท่านเสมอว่า จะอยู่ที่ใดก็ตาม บัณฑิตย่อมรู้จัก ใช้สถานที่และเวลาให้เป็นประโยชน์ต่อการภาวนาทุกจังหวะและทุกโอกาส ไม่ เฉพาะแต่เวลาที่นั่งภาวนาหรือเดินจงกรม แม้ระหว่างบิณฑบาต ระหว่าง ฉัน ระหว่างทำกิจวัตรประจำวัน ระหว่างเดินทาง ไม่เลือกสถานที่ว่าจะ ต้องอยู่ในป่า ในถ้ำ บนยอดเขา ก็ควรจะต้องตั้งสติ มองดูจิตของตนตลอด เวลา ไม่เลือกกาล เลือกสถานที่ ไม่เลือกหนาว เลือกร้อน เลือกฝน ตก เลือกแดดออก หรือเลือกป่วยไข้ ต้องเป็นผู้มีสติอยู่ทุกกาล ทุกสถาน ที่ และอิริยาบถ

    ท่านสอนเน้นให้พระเณรมุ่งตรงต่อ สติปัฏฐาน 4 และ อริยสัจ 4 ทางนี้ เป็น เอโก มัคโค ทางเอก หนทางเดียวมุ่งตรงสู่การดับทุกข์หรือนิพพาน พระ พุทธเจ้าทรงรับรองมาตลอด ตามที่พระอาจารย์มั่นได้สอนสั่งท่าน และท่านได้ รับโอวาทมาปฏิบัติตามโดยตลอด ว่าเป็นหัวใจขอการปฏิบัตินำไปสู่การหลุดพ้น
    ท่านอธิบายว่า นิพพานไม่ได้สูญ ไม่ได้อยู่ตามที่โลกคาดคะเนหรือเดากัน ทำ จริงจะได้เห็นของจริง รู้จริง และจะเห็นนิพพานเอง เห็นพระพุทธเจ้า พระ ธรรม และพระสงฆ์ เห็นครูบาอาจารย์ที่ท่านบริสุทธิ์เอง และหายสงสัยด้วย ประการทั้งปวง

    ความข้างบนนี้เป็นคำสอนจากท่านพระอาจารย์มั่นที่เมตตามาแสดงโปรดท่านทาง นิมิตภาวนา และหลวงปู่ได้นำมาถ่ายทอดสอนต่อหมู่ศิษย์

    ท่านเล่าให้ศิษย์ผู้ใกล้ชิดว่า ท่านพระอาจารย์มั่นมากด้วยความเมตตาต่อ ศิษย์ โดยเฉพาะแล้วสำหรับหลวงปู่ เวลาท่านติดขัดในการภาวนา ท่านพระ อาจารย์จะเมตตามาแสดงธรรมสอนท่านทางสมาธิภาวนาเสมอ ไม่เลือกสถานที่ ว่า ท่านจะอยู่ ณ ที่ใด อยู่ในถ้ำ บนเขา กลางป่า หรือว่าเมือง ใด ประเทศใด ก็ตาม
    ท่านเล่าว่า การมาปรากฏของท่านพระอาจารย์มั่น บางทีก็เหาะมาในอากาศ บาง ทีก็ปรากฏร่างขึ้นเลย เมื่อท่านเมตตาสั่งสอนจบลง หลวงปู่จะก้มกราบด้วย ความเคารพและเต็มตื้นด้วยความระลึกถึงพระคุณของท่านอย่างสุดซึ้ง ที่ดูแล ห่วงใยคอยสอดส่องลูกศิษย์ตลอดเวลา

    แม้กระทั่งเมื่อท่านนิพพานไปแล้ว ท่านก็ยังคงเป็น พ่อ เป็น ครูบา อาจารย์ ผู้เมตตาต่อศิษย์ไม่เสื่อมคลาย มาเยี่ยมและสั่งสอนหลวงปู่ เสมอ เคยมีผู้กราบเรียนถามหลวงปู่ (ในปี พ.ศ. 2535) หลวงปู่ก็รับว่า แม้ ในเวลาปรัตยุบันนี้ ท่านพระอาจารย์มั่นยังมาเยี่ยมท่านอยู่เช่นเดิม


    จากหนังสือ ฐานสโมนุสรณ์ ของ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
     

แชร์หน้านี้

Loading...