เพลง ทางสายเปลี่ยว ชาญ เย็นแข

บอร์ดกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งเพื่อนๆได้นำเพลงมาโพสต์กันเต็มที่เหมือนจะบอกว่าอัดอั้นกันมาหลายวัน วันนี้ขออนุญาตนำเพลงทางสายเปลี่ยว ของคุณชาญ เย็นแข ขับร้อง คำร้อง/ทำนอง ร้อยแก้ว รักไทย เป็นเพลงเก่ามากอีกเพลงหนึ่งที่ยังอยู่ในความทรงจำของ sam_sbcc จึงขอนำมาร้องอีกสักเพลงนะครับ ขอเชิญรับฟังครับ


เพลง ทางสายเปลี่ยว

ชาญ เย็นแข ขับร้อง
ร้อยแก้ว รักไทย คำร้อง/ทำนอง

เดินไปตามทาง ที่ช่างแสนเปลี่ยว
ลำพัง คนเดียว แลเหลียวมองไป ไร้ผู้คน
เสียงสายลมคราง ดั่งใครเพ้อบ่น
ฟ้า เบื้องบน มืดมนต์ไร้ เดือนดาวส่องมา

ดั่งคนเดนตายสิ้น ไปทุกอย่าง
มุ่งเดิน ตามทาง ที่เห็นลางๆไกลสุดตา
ไร้หวังอันใด อ่อนใจเหลือกว่า
หมอง ใจพา มืดมัวคิดกลัวเดินหลงทาง

ครั้นเสียงระฆัง หง่างเหง่ง
แว่ววังเวง แสงทองส่องฟ้าสว่าง
เหมือนพบทางธรรมชี้นำแนวทาง
ไม่ อำพราง ค่อยมองเห็นทางเป็นช่องไป

ยอกรวันฑาสักการะมั่น
มุ่งเดิน ทางอัน สุขสันต์ร่มเย็นเป็นสุขใจ
ขอยึดจีวร ห่มชีวิตใหม่ หนี ทุกข์ไป
ห่างไกลพ้นมารตามผลาญ เอย

(ดนตรี........)
ยอกรวันฑาสักการะมั่น
มุ่งเดิน ทางอัน สุขสันต์ร่มเย็น เป็นสุขใจ
ขอยึดจีวร ห่มชีวิตใหม่หนี ทุกข์ไป
ห่างไกลพ้นมารตามผลาญ เอย

ชาญ เย็นแข เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิดเกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2469 สมรสกับคุณสุพรรณี สิงหราชา เมื่อปี 2494 มีบุตรสาว 1 คน คือ น.ส.ดรรชนี (ถึงแก่กรรม เมื่อปี 2529) ชาญ เย็นแข เป็นผู้พิการที่กระดูกขาซ้าย เนื่องจากรถคว่ำเมื่อวัยหนุ่ม ชาญ เย็นแข มีความรักในการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก สมัยสงครามโลก พ.ศ.2486-2488 ชาญ ได้แอบหนีไปสมัครประกวดร้องเพลงทุกวัดที่มีงาน โดยใช้ชื่อว่า "เอี่ยวพญา" และกวาดถ้วยรางวัลมาอย่างมากมาย ผู้แข่งขันของเขาคือ เบญจมินทร์ , ร.ดาวรุ่ง ( นริศ อารีย์) , ตาล กิ่งเพชร , ท.ธัมรงค์ (คำรณ สัมปุณณานนท์) , ล.ลูกทุ่ง (เลิศ ประสมทรัพย์) , ณ.ณ วังน้อย (ณรงค์ ธนะวังน้อย) ฯลฯ เพลงที่ประกวดงานวัดครั้งแรกในชีวิตของเขา คือเพลง กลางสายลม พ.ศ.2484 ขณะมีอายุเพียง 16 ปี ที่วัดจอมสุดาราม (วัดไพรงาม) สถานีรถไฟสามเสน ผลการประกวดออกมาว่า เขาได้รางวัลที่ 3 ส่วน ผู้ชนะรางวัลที่1 คือ ด.ญ.ผ่องศรี(เพ็ญศรี) พุ่มชูศรี ซึ่งในขณะนั้นเธอ มีอายุ 13 ปี ในเพลงศีลธรรม ​

ชาญ เย็นแข ได้รับการสนับสนุนจาก สมพงษ์ พงษ์มิตร ให้เข้าเป็นนักร้องประจำคณะละครศิวารมย์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2491 โดยมี สง่า อารัมภีร์ เป็นผู้ควบคุมวงดนตรี และมีโอกาสบันทึกแผ่นเสียงเป็นครั้งแรกในชีวิต ด้วยเพลง ค่าน้ำนม ผลงานเพลงของครูไพบูลย์ บุตรขัน จริงๆแล้ว ตอนนั้น บุญช่วย หิรัญสุนทร ซึ่งจะต้องเป็นผู้ร้องเพลงนี้ไม่มา ครูสง่า จึงให้ ชาญ เย็นแข ร้องและบันทึกเสียงแทนนักร้องร่วมสมัยของเขาได้แก่ ปรีชา บุณยเกียรติ, บุญช่วย หิรัญสุนทร, สมยศ ทัศนพันธ์, เฉลิม แก้วสมัย, สมจิตร ตัดจินดา, วงจันทร์ ไพโรจน์, เอมอร วิเศษสุด, เฉลา ประสพศาสตร์ เป็นต้น

ชาญ เย็นแข เคยร่วมแสดงภาพยนตร์ 5-6 เรื่อง อาทิ ศึกเจ้าทุ่ง, รักเธอเท่าฟ้า, ขบวนการเสรีจีน เป็นต้น ชาญ เย็นแข ได้จากโลกดนตรีและเสียงเพลงไป เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2531 ด้วยโรคหัวใจ รวมอายุได้ 62 ปี ขณะกำลังจะร้องเพลงที่ร้านอาหารของ วงจันทร์ ไพโรจน์ ที่อำเภอพัทยาจังหวัดชลบุรี พระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนพ.ศ. 2531 ทิ้งผลงานเพลงกว่า 800 เพลง ไว้ให้เราได้รำลึกถึง นักร้องเสียงระฆังแก้ว ที่ชื่อ " ชาญ เย็นแข" ผลงานสร้างชื่อของเขา ได้แก่เพลงค่าน้ำนม, กลิ่นโคลนสาบควาย, รักพี่นะ, สวยไม่สร่าง, ไก่ฟ้า, ตะรางดวงใจ, สามหัวใจ, ทางสายเปลี่ยว, มนต์รักจากใจ และ โอ้ชนกชนนี เป็นต้น

​

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.719710/[/MUSIC]


[AUDIOPLUS=]

 

เพราะจังเลยค่ะ....
ยังคงคุณภาพมิเปลี่ยนแปลง.....

 

สำหรับพี่แซมค่ะ....

 

​

....ต้องการเพื่อนร่วมทางไหม อิ อิ อิ ทางนี้ค่ะ
ยังคงความไพเราะ ตามต้นฉบับคุณแซมค่ะ....​

 

เพิ่งเคยฟังเป็นครั้งแรกค่ะ ฟังเพราะๆ สบายๆ ตามแบบฉบับของคุณแซมค่ะ........
คิดจะบวชจริงๆ หรือเปล่าคะอิอิ..(ดูสิอดแซวไม่ได้ซักที)

(smile)

 

:z2​

เพลงแนวนี้ต้องยกให้คุณแซม ร้องได้เพราะอย่างนี้ยังต้องเดินทางแสนเปลี่ยวอีกหรือครับ​

 

เยี่ยมมากเลยครับผม นอกจากได้ฟังเพลงเพราะๆแล้วยังได้ความรู้อีกเพียบ.....​

 

เพลงนี้ฟังดูแล้วก็เพราะดี เป็นเพลงเก่าที่หาฟังยากอีกเพลงครับ ขอมาเป็นส่วนหนึ่งของการหวนนึกถึงเพลงเก่าในอดีตกันครับ

 

ขอบคุณครับ เพลงนี้หาฟังยากนะครับสมัยนี้

 

ขอบคุณครับ สำหรับช่อดอกไม้ที่งดงาม

 

สาธุ สาธุ ขอโมทนา
อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน เพื่ออบรมหนทางความดับ ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
<O</O
ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้ อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง ขอจงได้รับขมากรรม และอโหสิกรรมอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลายได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
<O</O
สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง

 

ทางเปลี่ยวนัก ทางเปลี่ยวร้าง เดินคนเดียว
เดินไปเรื่อย ไร้จุดหมาย เปลี่ยวเปล่าใจ
เดินไม่ถึง เดินไม่รู้ เดินเดินเดิน
ไร้อารมณ์ ไร้หน้าตา ไร้ปากหู



สุขจะเกิด ได้อย่างไร ทางเปลี่ยวนี้
เดินทางไป ทักทายไป สวัสดีครับ
สบายดีไม๊ สวัสดีค่ะ สวัสดีเจ๊า
พร้อมยิ้มหวาน โปรยปราย สุขดีจริง


​

 

ขอบคุณครับ คุณดอกสร้อยนำรูปภาพประกอบได้สวยมากครับ เดินไปทางเดียวกันก็ดีครับจะได้มีเพื่อน แม้ว่าทางสายเปลี่ยวแต่ไม่น่ากลัวเพราะมีเพื่อนร่วมทางอิอิ.......

 

ขอบคุณครับ เพลงนี้ขุดกรุมาร้องครับรับรองไม่มีสถานีวิทยุไหนเปิดกันแล้วคงหาแผ่นไม่เจอฮ่าฮ่า......

 

ขอบคุณครับ สมัยก่อนยังไม่จัดแบ่งเพลงเป็นแนวลูกกรุงและลูกทุ่ง แนวเพลงนี้ก็จัดอยู่เป็นแนวลูกทุ่งแต่คนร้องเกิดในกรุงเทพสำเนียงการร้องจึงออกเสียงเป็นคนกรุง (ไม่เหน่อ) เคยชอบตั้งแต่เด็กๆเลยทำให้คุ้นเคยกับเพลงแนวนี้ครับ

 

ขอบคุณครับ ผมว่าคนที่เข้ามาฟังเพลงแล้วควรจะได้อะไรที่เป็นประโยชน์บ้างนะครับ นอกจากจะเป็นข้อมูลประวัติของเพลงและผู้แต่ง กว่าจะประสบความสำเร็จผ่านมาได้นั้นต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆนานา เราคนรุ่นหลังขอให้เกียรติยกย่องกับศิลปินที่สร้างสรรอยู่เบื้องหลัง ดีกว่าบางคนเอาเพลงเขามาร้องแล้วไม่รู้จักสำนึกในความเป็นวัฒนธรรมเดิมๆมาปรุงแต่งให้เสียความเป็นบทเพลงอมตะที่จะอยู่ตลอดไป ทำอะไรที่เป็นธรรมชาติดีกว่านะครับอย่าไปฝืนธรรมชาติเลย ตัวเราย่อมรู้อยู่แก่ใจทำอะไรลงไปแล้วตัวเองสบายใจหรือเปล่า......จริงไหมครับ

 

ขอบคุณครับ ที่ช่วยกันอนุรักษ์หรือจรรโลงบทเพลงเก่าๆอมตะไว้สืบสานกันต่อไปสมัยนี้คงหาฟังยากขึ้นถ้าไม่นำมาร้องกันก็จะหายสาปสูญไปกับศิลปินต้นฉบับ

 

เดินไปตามทาง ที่ช่างแสนเปลี่ยว.......
ลำพัง คนเดียว แลเหลียวมองไป ไร้ผู้คน........
เสียงสายลมคราง ดั่งใครเพ้อบ่น..........
ฟ้า เบื้องบน มืดมนต์ไร้ เดือนดาวส่องมา.......

ใครจะเป็นเพื่อนเดินร่วมทางบ้างเอ่ย?

 

ยอกรวันฑาสักการะมั่น
มุ่งเดิน ทางอัน สุขสันต์ร่มเย็น เป็นสุขใจ
ขอยึดจีวร ห่มชีวิตใหม่หนี ทุกข์ไป
ห่างไกลพ้นมารตามผลาญ เอย