เป็นพระจะใช้อภิญญาได้เมื่อไร ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 8 กันยายน 2008.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172
    มีอยู่วันหนึ่งข้องใจกันว่า ในขอบเขตของความเป็นพระ เราจะใช้อภิญญาได้เท่าไหร่ ปรากฏว่าเมื่อถึงตอนกลางคืนก็มีหลวงปู่องค์หนึ่ง มรณภาพตอนอายุ ๙๐ กว่า ท่านมาปรากฎตัวให้ บอกว่าลูกอยากรู้เรื่องนี้เหรอ พระก็กราบ เรียนท่านว่าใช่ครับ ท่านก็บอกว่าลูกคอยดูนะ แล้วท่านก็เดินข้ามถนนให้ดู คนแก่อายุ ๙๐ กว่าตัวก็สั่น หลังก็โกงถือไม้เท้าก๊อกๆ เดินข้ามถนนสะดุดขาตัวเองล้ม ปากแตกข้ามไปฝั่งโน้นหันกลับมาให้ดู นี่แหละลูก เราเป็นพระเราต้องยอมรับกฎของกรรม

    แต่ถ้าเรื่องมันจำเป็น พ่อจะทำอย่างนี้ ท่านพูดจบนี่มายืนจมูกชนกับเราเลย มาตอนไหนไม่รู้นั่นแหละ เสร็จแล้วท่านก็ทำภาพให้ดูว่า มีบ้านที่เขาจัดงานนิมนต์พระไปฉันเช้าฉันเพลก็นิมนต์หลวงปู่ด้วย มันสายแล้วหลวงปู่อายุมากแล้วต้องพักมากหน่อย ก็สายไปนิดหนึ่งยังไม่ถึงเวลาของเขาหรอก แต่มันก็สายแล้่วล่ะ ญาติโยมเขาก็เริ่มบ่นกัน หลวงปู่เป็นอะไรไปหรือเปล่าหนอ อายุปานนั้นแล้ว เป็นลมเป็นแล้งไปหรือเปล่า ? ป่านนี้ยังไม่มาซักที ท่านคว้าไม้เท้้าเดินก๊อก ๆ ๆ ก๊อกที่ ๓ โผล่อยู่ตีนบันได ดูไม่ทันด้วยว่าไปตอนไหน คนคิดว่าท่านมาแล้ว ก็ยืนอยู่ตรงนั้นโดยที่ก็ล้างเท้าให้คนนั้นก็ประคองขึ้นไปข้างบน เป็นไงหลวงปู่ ทำไมถึงมาช้านักล่ะครับ ท่านก็บอกเออ...คนแก่มันก็เดินช้าหน่อยล่ะูลูก นั่นน่ะเดินช้านะ ไม่ถึง ๓ วินาทีเดินถึงน่ะ แล้วท่านก็บอกนี่แหละลูก ถ้าหากว่าเพื่อกำลังใจของคนหมู่มาก โดยเฉพาะในลักษณะของบุญกุศล ถ้ากำลังใจเขาขุ่นมัว เพราะมีวิตกมีกังวลอะไร ทำให้กระแสบุญเขาลดลง เราก็ใช้ได้ แต่ถ้าหากว่าโดยทั่วๆ ไป เจ้าต้องยอมรับกฎของกรรม

    อะไรก็ตามที่สภาพร่างกายมันสามารถใช้ได้ตามปกติ ก็ตะเกียกตะกายเหนื่อยยากไป เพราะว่าถ้าเราไม่ยอมรับกฎของกรรมจะเข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้าไม่ได้ ก็เลยสรุปว่า อภิญญาถ้าพระได้หรือไม่ได้ก็เหมือนกัน เขาไม่ให้ใช้

    พระพุทธเจ้าปรับเอาไว้ชัดเลย ผู้ใดใช้ฤทธิ์ใช้อภิญญาท่านปรับเป็นโทษแล้วไม่ได้บอกว่าด้วยปรับขั้นไหน ของพระนี่ปรับโทษ ๗ ชั้นด้วยกัน ชั้นแรกเรียกว่า ปาราชิก ปรับขาดจากพระไปเลย ถือว่าเหมือนกับโทษประหารของทางโลก ชั้นที่ ๒ นี่เรียกสังฆาทิเสส อันนี้ขาดความเป็นพระชั่วคราวจนกว่าจะยอมไปอยู่จำกัดเขต จำกัดบริเวณประพฤติมานัดตามแบบแล้วออกมาให้สงฆ์ ๒๐ รูปขึ้นไปสวดคืนความเป็นพระให้ถึงจะกลับเป็นพระอีกครั้ง หลังจากนั้นมาก็มีถุลลัจจัย มีปาจิตตีย์ มีปาฏิเทสนียะ มีทุกกฎ มีทุกภาษิต รวมแล้ว ๗ อย่างโทษมันก็ ลดหลั่นกันลงไป

    แต่เรื่องการปรับผู้ใช้อภิญญาพระพุทธเจ้าท่านละเอาไว้เฉยๆ ไม่บอกว่าปรับระดับไหน เพียงแต่บอกว่าถ้าใครใช้ปรับโทษบรรลัยเลย ก็รออยู่อย่างเดียว พอบวชใหม่ๆ หลวงพ่อท่านก็ให้ ภาวนา สัมปจิตฉามิ บอกว่าสร้างกำลังใจให้มันคุ้นเคยกับสภาพของอภิญญาไว้ นานไปข้างหน้าในแวดวงของพระภิกษุสงฆ์จะมีเดียรถีย์เกิดขึ้นมาก พวกคนเหล่านี้จาบจ้วงพระพุทธศาสนา ถึงกับกล่าวว่า อภิญญาสมาบัติเป็นของปลอม เป็นของหลอกลวงกัน ถ้าหากว่าถึงเวลานั้นแล้วพวกแกต้องไปแสดงให้เขาดู

    ก็กราบเรียนหลวงพ่อว่า แล้วจะไปแสดงให้เขาดูได้เหรอครับ ? หลวงพ่อท่านบอกว่า ถ้าพระท่านสั่งก็ทำได้นะ เจ้าของกฎหมายสั่งเองใช่มั้ย ? ถ้าเจ้าของกฎหมายสั่งเองก็ทำได้





    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมีนาคม ๒๕๔๕
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ตุลาคม 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...