เปิดแหล่งปฏิบัติธรรม ถือศีล-กินเจทั่วกรุง

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 6 ตุลาคม 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="left" valign="top"><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td class="headline" align="left" valign="baseline">เปิดแหล่งปฏิบัติธรรม ถือศีล-กินเจทั่วกรุง</td></tr></tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td></tr></tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการรายสัปดาห์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">5 ตุลาคม 2550 13:48 น.</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td align="center" valign="center">[​IMG]</td></tr></tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td class="body" align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody> <tr> <td align="center" valign="top" width="350">[​IMG] </td></tr></tbody></table></td></tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td></tr></tbody></table> ชวนคนไทยเชื้อสายจีน-ไทยแท้ร่วมเทศกาลกินเจ 11-19 ตุลาคมนี้ บูชา“กิ่วฮ้วงฮุกโจ้ว”หรือดาวกระบวยทิศเหนือ ร่วมแรงศรัทธา “พุทธ-ขงจื่อ-เต๋า” ถือศีล-ละเว้นการฆ่าและกินเนื้อสัตว์เชื่อได้บุญแรง พร้อมเปิด 8 สถานที่ศักดิ์สิทธิ์กินเจดังในกทม.

    ก้าวเข้าสู่เดือนตุลาคมมาถึง ตามปฏิทินจีนถือว่าเป็นเดือนเก้า ซึ่งวัฒนธรรมจีนพื้นบ้านก็จะมีเทศกาลสำคัญเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ ตามปฏิทินจีนของทุกปี คือ “เทศกาลกินเจเดือนเก้า” หรือ (เก้าอ๊วงเจ) เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน เช่นเดียวกับในไทย “เทศกาลกินเจ”ก็ถือเป็นเทศกาลสำคัญอันหนึ่งที่มีคนเข้าร่วมมากขึ้นทุกปี...

    เทศกาลกินเจบูชา“กิ่วฮ้วงฮุกโจ้ว”

    เศรษฐพงศ์ จงสงวน นักวิชาการด้านพระพุทธศาสนามหายาน และผู้ศึกษาค้นคว้าด้านจีน กล่าวว่า เทศกาลกินเจเริ่มขึ้นในเมืองจีน จากพื้นฐานคำสอนของพุทธศาสนานิกายมหายาน โดยมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่การงดเว้นการฆ่าสัตว์ ถือศีล และงดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติธรรม ซึ่งภายหลังมีการนำไปปฏิบัติแพร่หลายรวมทั้งคนจีนในไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตามเทศกาลกินเจนี้ไม่ถือว่าเป็นเทศกาลประจำปีของจีนเหมือนกับสาร์ทจีนหรือตรุษจีน เพราะชาวพุทธจีนจะมีการกินเจในโอกาสต่างๆ ได้ด้วยไม่ใช่เฉพาะช่วงเดือน 9 เท่านั้นคือสามารถกินเจได้ในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง เช่นคนเกิดวันจันทร์อาจกินเจทุกวันจันทร์ วันเกิดลูกหลาน ฯลฯ

    โดยการกินเจจะถือปฏิบัติกันเฉพาะสำหรับคนที่เชื่อถือเท่านั้น ซึ่งนอกจากนำเอาแนวคิดทางพุทธศาสนานิกายมหายานมาแล้ว ยังถือเป็นการปฏิบัติที่หลอมรวมกับ เต๋า และขงจื่อ (ขงจื้อ) ด้วย โดย “พุทธมหายาน” เชื่อเรื่องพระโพธิสัตว์ เมตตาธรรม ช่วยเหลือกันและกัน “เต๋า” จะเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ตามธรรมชาติ เทพเจ้าต่างๆ ที่มีอิทธิฤทธิ์ ส่วน “ขงจื่อ” ก็เป็นเรื่องของความกตัญญู

    อย่างไรก็ดี การกินเจในเดือน 9 นี้ คนจีนมีความเชื่อกันว่า เป็นการบูชาดาวฤกษ์ ที่จีนเรียกว่า “กิ่วฮ้วงฮุกโจ้ว” แปลว่าจักรพรรดิแห่งดวงดาวทั้ง 9 หรือเรียกอีกชื่อว่าดาวกระบวยทิศเหนือ ซึ่งเป็นดาวที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีในชื่อดาวหมีใหญ่นั่นเอง

    “คนจีนพื้นเมืองเชื่อกันว่าเป็นดวงดาวที่มีความสว่างมากตลอดปี จึงถือว่าเป็นดาวที่มีความสำคัญต่อชีวิต นอกเหนือจากดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 ซึ่งภายหลังมีการนำความเชื่อนี้มาผนวกกับการถือศีลในช่วงเวลา 9 วัน 9 คืนนี้ด้วย”

    ดังนั้น เมื่อถึงเทศกาลกินเจเดือนเก้านี้ ก็จะมีการทำพิธีซึ่งนิยมจุดตะเกียง 9 ดวงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของดวงดาวทั้ง 9 ในโรงเจที่จัดเทศกาลกินเจด้วย โดยการกินเจในปีนี้จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 11-19 ตุลาคมนี้ โดยคนจีนจะเชื่อว่าต้องกินเจล้างท้องก่อน 1 วันคือวันที่ 10 ตุลาคมนี้ เพื่อเป็นการชำระล้างร่างกายจิตใจให้สะอาด และจะเริ่มนับว่ากินเจจริงๆ วันที่ 11 ตุลาคม

    โดยเมื่อถึงวันที่ 11 ตุลาคม ที่วัด โรงเจ หรือศาลเจ้าที่เข้าร่วมเทศกาลจะเริ่มมีการเชิญเทพเจ้ามาประทับในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้นๆ และคนที่นับถือหรือคนที่มีความตั้งใจเข้าร่วมเทศกาลกินเจก็จะไปตามที่ต่างๆ เพื่อทำการสวดมนต์ ประกอบพิธีบูชาในวันแรก และอธิษฐานจิตด้วยว่าจะเริ่มถือศีลกินเจแล้ว และจะกินเจกี่วัน ซึ่งสามารถกินเจได้ตามที่แต่ละคนต้องการคือสามารถกินแค่บางมื้อก็ได้ หรือจะกินแค่ 1 วันก็ได้เช่นกัน

    สำหรับคนที่กินเจครบทั้ง 9 วัน หลังจากวันแรกก็จะมาอีกในวันที่ 3 วันที่ 6 และวันที่ 9 ของการกินเจ ที่จะมีคนมาโรงเจหรือศาลเจ้ามากที่สุด เพราะเชื่อว่าพอกินเจไปได้ 3 วัน 6 วัน จะต้องไปจุดธูปเทียนบูชาเทพเจ้าเพื่อแจ้งว่าได้กินเจมา 3 วัน 6 วันแล้ว ส่วนวันที่ 9 หรือวันสุดท้ายของการกินเจ ก็จะมาจุดธูปเทียนบูชาเทพเจ้าและอธิษฐานจิตเพื่อเป็นการบอกว่าจะออกจากการกินเจแล้ว

    “ปีนี้อยากชวนคนไทยที่ไม่ได้มีเชื้อสายจีนให้เข้าร่วมกันมากๆ เพราะจริงๆ แล้วไม่ได้ห้ามไว้ หรือเป็นสถานที่ให้คนไทยเชื้อสายจีนเข้ามาบูชาเท่านั้น และการถือศีลกินเจถือว่าเป็นการได้บุญอย่างหนึ่ง แม้ว่าจะทำแค่ปีละ 9 วัน แต่ก็ได้ละเว้นการฆ่าชีวิตสัตว์ในขณะเดียวกัน การมาร่วมบูชาเทพเจ้าในวัด โรงเจ ต่างๆ ก็จะทำให้เกิดแรงศรัทธาที่ช่วยให้จิตใจเราบริสุทธิ์มากขึ้นได้ด้วย”

    เปิด 8 สถานที่กินเจชื่อดังในกทม.

    อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ถือศีลกินเจและอยากไปไหว้บูชาเทพเจ้าตามโรงเจ หรือศาลเจ้าต่างๆ ก็สามารถไปในวันอื่นๆได้ด้วย และไปได้ทั้งวัน เพราะคนจะไม่หนาแน่นมาก แต่ทุกครั้งที่ไปจำเป็นจะต้องแต่งชุดสีขาว เพราะเป็นความเชื่อและเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาด้วย

    สำหรับผู้ที่จะเริ่มกินเจครั้งแรกและยังไม่ทราบว่าจะไปเข้าร่วมพิธีที่โรงเจหรือศาลเจ้าไหนได้บ้าง ขอแนะนำว่าในกรุงเทพฯ จะมีโรงเจอยู่ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ โรงเจแบบพุทธศาสนานิกายมหายานจะมีการนิมนต์พระมาสวดอวยพรด้วย จะมีการทำพิธีอยู่ 4 วัดที่สำคัญคือ “วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน้ยยี่”, “วัดโพธิ์แทนคุณาราม” สาธุประดิษฐ์, “วัดทิพยวารีวิหาร” แถวๆบ้านหม้อ,และ “วัดบำเพ็ญจีนพรต” ย่านเยาวราช นอกจากนั้นในต่างจังหวัดก็มีอีกหลายที่แต่ที่มีชื่ออยู่ที่กาญจนบุรีคือวัดโพธิ์เย็น ท่ามะกา และวัดฉื่อฉาง ในอำเภอเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

    ส่วนโรงเจอื่นๆ ในกรุงเทพฯ นั้นที่สำคัญจะมีอยู่ 4 แห่งด้วยกัน คือ “ศาลเจ้าโจวซือกง” ตลาดน้อย ซึ่งเป็นโรงเจที่เป็นแหล่งการกินเจแหล่งใหญ่ในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ก็มี “โรงเจบุญสมาคม” ถนนราชวงศ์ ซึ่งสืบทอดประเพณีกินเจกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากนี้ก็มี “ศาลเจ้าแม่ชิกเซี้ยม่า” แถวบริเวณหัวลำโพง ไปทางฝั่งธนบุรีจะมี “ซอยโรงเจ” ถนนเทิดไทย ตลาดพลู ซึ่งเป็นจุดกินเจเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่สำคัญในฝั่งธนบุรี ด้วย

    เริ่มง่ายได้ที่บ้าน

    อย่างไรก็ดี นอกจากจะมากินเจที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แล้ว สามารถกินเจได้ที่บ้านเช่นเดียวกัน โดยแม้ว่าสมาชิกในบ้านจะไม่ได้กินเจทุกคน แต่ก็ถือกันว่าให้ใช้ชุดอุปกรณ์การกินข้าว การทำกับข้าวอีก 1 ชุด แต่ทางความเชื่อของพุทธมหายานนั้นก็จะไม่ได้เคร่งมากเรื่องอุปกรณ์ ให้เน้นเรื่องการละเว้นชีวิต และการถือศีลเป็นหลัก

    สำหรับคนที่ไปโรงเจต่างๆ สิ่งสำคัญคือจะได้สัมผัสกับแรงศรัทธาของผู้ที่ตั้งใจถือศีลกินเจด้วยกัน ก็จะได้รับความอิ่มอกอิ่มใจ เป็นเหมือนได้พลังจากบรรยากาศของพิธีกรรม ได้เพื่อนที่ปฏิบัติเหมือนๆ กัน นอกจากนี้ยังได้ทำบุญรูปแบบอื่นๆ ด้วยเช่น บริจาคข้าวสาร อาหารเจ ปล่อยนกปล่อยปลา ช่วยเหลือสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ ซึ่งโรงเจต่างๆ ก็ไม่ได้จำกัดว่าให้เฉพาะคนไทยเชื้อสายจีน แต่เปิดกว้างให้คนทุกคนสามารถไปเข้าร่วมพิธีได้ด้วย
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  2. s4430309

    s4430309 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +403
    เราเริ่มกินเมื่อวานตอนเย็นแล้วหล่ะ
     
  3. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ร่วม [​IMG] ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ [​IMG] สาธุ
     
  4. kobporn

    kobporn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +782
    อนุโมทนาด้วยค่ะ กินแล้วสุขภาพดีด้วย ได้บุญอีกต่างหาก
     
  5. ปัชฌา

    ปัชฌา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +1,428
    [​IMG] อนุโมทนาสาธุ กับทุกท่านที่....ปฏิบัติธรรม ถือศีล-กินเจ. [​IMG] สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2007
  6. lotte

    lotte เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    725
    ค่าพลัง:
    +4,545
    วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน้ยยี่
     
  7. Diamontcoleur

    Diamontcoleur Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +72
    อนุโมทนาสำหรับข่าวสารค่ะ ปีนี้ตั้งใจว่าจะทานเหมือนกัน
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    การกินเจนั้นมีหลักอยู่ 2 ประการคือ
    1. ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ก็คืออาหารต้องไม่มีเนื้อสัตว์ใดๆ
    2. ไม่เบียดเบียนตัวเอง จึงให้งดผักฉุน 5 ชนิด คือ
      • กระเทียม ทั้งต้น รากและหัว
      • หอม รวมถึงต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่ และหัวหอมทุกชนิด
      • หลักเกียว กระเทียมโทนของจีน ลักษณะคล้ายหัวกระเทียม แต่มีขนาดเล็กและยาวกว่า ไม่ค่อยมีในเมืองไทย
      • กุยช่าย ใบคล้ายใบหอม แต่แบนและเล็กกว่า อย่างที่รู้จักกันโดยทั่วไปก็คือนำมาทำเป็นอาหารที่เรียกว่าขนมกุยช่าย
      • ยาสูบ รวมทั้งบุหรี่ ยาเส้นและของเสพมึนเมาต่าง ๆ
    -----------------------------------------------------------------------

    อนุโมทนา สาธุ
     
  9. Xiaobao

    Xiaobao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +472
    อนุโมทนาด้วยจ้า

    เราก็จะลองกินดูบ้างละ ดูดิว่าจะอดทนได้มั้ย

    กลัวแบบ หิวๆละตาลาย เห็นอะไรก็หยิบกินเลยอ่ะดิ กลัวเจแตก แง้วๆ
     
  10. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ไม่ยากอย่างที่คิดกันหรอกใครคิดจะลองทาน ควรเลือกทานนิดนึง เพราะส่วนมากอาหารเจจะหนักไปทางแป้งและน้ำมัน ไม่ควรทานเยอะเพราะคิดว่าผักทานแล้วไม่อ้วน แต่ส่วนมากอาหารเจจะหนักไปทางแป้ง เช่น ผัดหมี่ เนื้อสัตว์เทียมก็จะมาจากแป้ง ทางที่ดีควรจะทานแต่พอดีนะคะเป็นห่วงสาว ๆ เดี๋ยวจะอ้วนหลังจากทานเจน่ะ ส่วนตัวเองทานมานานแล้ว ชอบค่ะเหมือนกับได้ล้างร่างกายให้สะอาด ขออนุโมทนา กับผลบุญที่ทุก ๆ ท่านได้กระทำในครั้งนี้ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG][​IMG][​IMG]
     
  11. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    ถ้าสะดวก อยู่ใกล้แหล่งขายอาหารเจ ก็น่าจะปฏิบัติกินเจ แต่ถ้าสถานที่อยู้ไกล ไม่สะดวกในการซื้อหาอาหารเจ ก็ถือศีล เนื้อสัตว์ช่วงนี้ก็งดเสีย ปฏิบัติแบบทางสายกลางครับ
     
  12. pisamai_3727

    pisamai_3727 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +119
    เปิดแหล่งปฏิบัติธรรม ถือศิล กินเจทั่วกรุง

    ดีค่ะเพราะการกินเจนอกจากจะเป็นการทำบุญเเล้วยังทำให้ร่างกายของเราได้ขับล้างสารพิษในร่างกายทำให้เรารู้สึกสดชื่นเเละได้บุญไปในตัวด้วยและทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็คือผลที่ตามมาของการกินเจ;)
     
  13. yupaporn144

    yupaporn144 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +112
    เปิดแหล่งปฏิบัติธรรม

    (^) (555) ขออนุโมทนาในการทำบุญในครั้งนี้ด้วยนะคะเพระการกินเจเป็นการทำบุญกุศลอันยิ่งใหญ่เพราะเราจะได้สร้างความดีในตัวเราไปด้วยเพราะการกินเจเราจะได้ทานเพาะผักและผลไม้เท่านั้นเราจะไม่มีโอกาสได้ทานเนื้อสัตว์เลยก็ดีนะคะเพราะการที่เราทานผักมากๆจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงเพราะผักแต่ละชนิดย่อมมีประโยชน์ที่แตกต่างกันค่าผักแต่ละชนิดย่อมให้คุณค่าทางสารอาหารและโภชนาการที่แตกต่างกันออกไปค่าทานผักเยอะนะคะร่างกายของเราจะได้แข็งแรงค่า
     
  14. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666
    งดเนื้อสัตว์ ขอแค่ มัง นะค่ะ กินเจ ไม่รู้ทำได้ป่าวว
     
  15. AJ_Purngkan

    AJ_Purngkan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +3,789
    ทานมาตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ ตอนนี้งดเนื้อสัตว์อย่างจริงจัง มาได้ ประมาณ เจ็ดปี แล้วครับ
    ก็มีความสุขดี และไม่มียุงมากัดเลย สัตว์ก็ไม่ได้ฆ่า และก็ถือศีลด้วยครับแต่ไม่ได้เคร่งมาก
    ที่ทานเพราะเราสงสารสัตว์เหล่านั้น แม้ว่าเราไม่ได้ไปชี้ว่าจะให้ฆ่าตัวนั้นตัวนี้ แต่ก็สงสารเค้า

    อยากตัดบ่วงกรรมที่ทำกันมา อโหสิกรรมเทอญญญญ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ
     
  16. เทพรัญจวน

    เทพรัญจวน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +248
    โมทนาสาธุด้วยครับ

    ปีนี้ผมก็จะกินเจครับ กินแล้วดี ร่างกายแข็งแรง
     
  17. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    Wake Up ! Let"s veggie ได้เวลาโกยบุญ ตุนสุขภาพ

    คอลัมน์ Story

    เรื่อง... ทีมงาน D-life

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>คุณด้วยรึเปล่า ที่ปีนี้ตั้งใจจะกินเจ ?!

    แล้วเคยถามตัวเองรึเปล่า ว่ากินเพื่ออะไร ...บุญ ?! สุขภาพ ?!

    และไม่ว่าสาเหตุจะด้วยความเชื่อ ประเพณี หรือจะเป็นเพราะกระแสรักสุขภาพ แต่เชื่อไหมว่า ตัวเลขการเติบโตของตลาดอาหารเจไม่น่ามองข้ามเลยจริงๆ เพราะอาจเป็นตัวสะท้อนว่า ความนิยมในการกินเจในวันนี้ไม่ใช่เรื่องของคนแก่ หรือแค่คนปฏิบัติธรรมเท่านั้น

    คนรุ่นใหม่ในเมืองจำนวนมากเริ่มให้ความสนใจ ในขณะที่บางคนเลิกที่กินเนื้อสัตว์มาแล้วกว่าครึ่งชีวิต วันนี้คนเหล่านั้นก็ยังคงมีความสุข...

    ความสุขที่ได้ ละ เลิก... รวมทั้งความสุขกับสุขภาพที่ยังคงแข็งแรง...

    คนแห่ เทใจให้ "กินเจ"

    ข้อมูลน่าสนใจจากศูนย์วิจัยกสิกรฯ ระบุว่า ในช่วงเทศกาลกินเจเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าตลาดอาหารเจในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นเป็น 1,800 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเกือบ 10% นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่เอื้ออำนวยในการเติบโตต่อธุรกิจอาหารเจ เป็นต้นว่า จำนวนคนกรุงเทพฯมีความตั้งใจจะรับประทานอาหารเจมากขึ้น ทั้งนี้สาเหตุสำคัญเนื่องจากคนกรุงเทพฯหันมาสนใจในเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งในปีนี้หลายๆ คนตั้งใจกินเจเพื่อบำเพ็ญกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงมีพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา

    อีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นตลาดอาหารเจ คือ ชาวกรุงหันมาบริโภคอาหารเจสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูปมากขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนเรื่องความสะดวกในการเลือกซื้อ มีจำหน่ายทั่วไป หาซื้อได้ไม่ยาก และราคาไม่แพง รวมทั้งยังมีให้เลือกหลากหลายเมนู และมีผู้ผลิตหลากหลายยี่ห้ออีกด้วย

    จึงไม่ต้องแปลกใจ หากตัวเลขตลาดอาหารเจกระป๋องเฉลี่ยในแต่ละปีสูงถึง 200 ล้านบาท !!!

    ในขณะเดียวกัน อาหารเจอย่างน้ำเต้าหู้ที่ขายดิบขายดีทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็น ก็ยังครองแชมป์ความนิยม แม้แต่นมถั่วเหลืองบรรจุกล่องก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย ถึงขนาดที่บริษัทผู้ผลิตต้องขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากภาวะปกติถึง 3 เท่าตัว !!!

    จากการสำรวจพฤติกรรมคนกรุงเทพฯไม่ถึงร้อยละ 10 เลือกที่จะทำอาหารเจรับประทานเอง สาเหตุง่ายๆ เพราะข้อจำกัดเรื่องเวลา และไม่ต้องการความยุ่งยากในการเตรียมและล้างภาชนะหลังจากการประกอบอาหาร รวมทั้งมีจำนวนสมาชิกในบ้านไม่กี่คนทำให้ซื้ออาหารเจรับประทานจะสะดวกกว่า ดังนั้นในช่วงเทศกาลกินเจ ร้านที่จำหน่ายส่วนประกอบของอาหารเจจึงมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น

    สำหรับแหล่งจำหน่ายเครื่องปรุงอาหารเจที่สำคัญและเป็นแหล่งใหญ่ที่เป็นที่รู้จัก คือ ตลาดเก่าเยาวราช อย่างไรก็ตามในปัจจุบันบรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้านับว่าเป็นแหล่งจับจ่ายที่ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยมีความได้เปรียบจากการที่เป็นแหล่งจับจ่ายของคนกรุงเทพฯในปัจจุบันอยู่แล้ว และยังมีความสะดวกทั้งในแง่ของที่จอดรถ ที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วไปทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการเดินทาง

    คึกคักรับเทศกาลกินเจ

    ก้าวเข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนเทศกาลกินเจ ช่วงนี้เองที่หลายหน่วยงานต่างเตรียมการเพื่อรับมือกับคลื่นศรัทธาของผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดงานกินเจ คือ จ.ภูเก็ต มีการเตรียม "งานประเพณีถือศีลกินผัก (กินเจ)" ระหว่างวันที่ 11-19 ตุลาคมนี้ด้วยเช่นกัน

    ถ้าพูดถึงความเก่าแก่ในการจัดงาน ใครไม่นึกถึงภูเก็ตก็แปลกแล้ว เพราะที่นี่สืบทอดประเพณีเก่าแก่นี้มานานนับร้อยปี ไฮไลต์อยู่ที่ขบวนแห่ และการจัดแสดงพิธีกรรมของศาลเจ้าต่างๆ เฉพาะที่ภูเก็ตที่จัดอย่างเป็นทางการมีถึง 14 ศาลเจ้า อาทิ ศาลเจ้าสะปำ ศาลเจ้าสามกอง ศาลเจ้าบ้านท่าเรือ ศาลเจ้าบางเหนียว ศาลเจ้ากะทู้ ศาลเจ้าซุ่ยบุ่นต๋อง แต่ที่โด่งดังสุดๆ ก็ต้องที่ "ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย"

    นี่ยังไม่รวมมินิศาลเจ้าแบบไม่เป็นทางการ ที่นับไม่ถ้วน หลายๆ บ้านพร้อมใจ โมดิฟายบ้านตัวเองกลายเป็นเหมือนโรงธรรม แล้วจัดงานกินเจโดยขอรับบริจาคเงินแล้วเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามากินฟรีได้ โดยมีขั้นตอน รูปแบบการจัด รวมทั้งมีการแสดงพิธีกรรมเช่นเดียวกับศาลเจ้าใหญ่ๆ ในเมือง

    ว่ากันว่า มินิศาลเจ้าลักษณะนี้ผุดขึ้นเยอะมาก ขนาดแค่ขับรถผ่านเส้นทางจากตะกั่วป่า-ท้ายเหมือง เท่าที่เห็นก็ปาเข้าไป 5-6 แห่ง !!!

    สำหรับประวัติตำนาน อาหาร ที่พัก รวมทั้งรายละเอียดเด่นๆ ของงานในภูเก็ตแต่ละปี ถูกรวบรวมและอัพเดตไว้ใหม่สดซิงในโลกไซเบอร์ สนใจคลิก www.phuketvegetarian.com

    อีกจังหวัดหนึ่งที่เตรียมงานอย่างยิ่งใหญ่ในปีนี้ จ.สมุทรสาคร

    "งานไหว้เจ้า 9 ศาล เทศกาลกินเจสมุทรสาคร" 10-19 ตุลาคมนี้ กิจกรรมภายในงานใครเป็นนักชิมพลาดไม่ได้กับเทศกาลอาหารเจ จากร้านชื่อดังเมืองแม่กลองกว่า 50 ร้าน โซนความรู้มีนิทรรศการความเป็นมาของประเพณีถือศีลกินเจ นิทรรศการอาหารปลอดภัย และสาธิตการตรวจเฝ้าระวังทางสุขาภิบาลอาหาร พร้อมตรวจสุขภาพแก่ผู้มาร่วมงานฟรี !

    สมพงษ์ จิระพรพงศ์ ผู้แทนศาลเจ้า 9 แห่งในงาน ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ ปีที่แล้วมียอดตัวเลขกว่า 2 หมื่นคน ในโรงเจแต่ละแห่งก็จะคลาคล่ำไปด้วยคนในชุดขาวที่มีตั้งแต่วัยเด็กไปจนถึงวัยคุณปู่คุณย่า จะว่าไปเหมือนเป็นแฟชั่น ที่เด็กๆ วัยรุ่นรอคอยที่จะได้ใส่ชุดขาวโพลนในช่วงนั้น

    น่าสังเกตว่า คนรุ่นใหม่ วัยรุ่นในปัจจุบันให้ความสนใจกับเทศกาลกินเจมากขึ้นเช่นเดียวกัน ดังจะเห็นได้จากกลยุทธ์การปรับตัวของร้านอาหารแนวโมเดิร์นในเมือง...

    "ถึงจะ urban แต่ culture ยังอยู่ ผมว่าวัยรุ่นเดินสยาม เขาก็กินเจกันนะ ไม่ใช่แค่กินเป็นแฟชั่นอย่างเดียว พวกเขาอาจจะเป็นลูกคนจีนที่กินตามครอบครัว หรือจะเป็นคนที่อยากจะลองเลิกกินเนื้อสัตว์ แค่ 10 วันต่อปีใครๆ ก็ทำได้ แล้วอาหารเจเดี๋ยวนี้หาทานได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมาก เพียงแต่อาหารเจที่ทำแล้วรสชาติอร่อยนี่อาจจะหายากขึ้นมาหน่อย เพราะผักบางชนิดที่มีกลิ่นก็ใช้ไม่ได้แล้ว เทศกาลกินเจที่จะถึงนี้เราก็เตรียมแยกเครื่องปรุงเป็น 2 ชุด เมนูเจอย่างที่เด็ดๆ ก็มีขนมผักกาดที่ทำสูตรเดียวกับ LEE KITCHEN" ธันวา ภัทรพรไพศาล ผู้บริหารรุ่นใหม่วัย 29 ปีแห่ง LEE CAFE กล่าว

    ไม่ว่ากินเจอย่างไร เคร่งหรือไม่แค่ไหน ท.พ.เกษม ศุภวรรณกิจ นักวิชาการสาธารณสุข ได้ยืนยันและให้คำแนะนำสำหรับมือใหม่ใครกำลังลังเลที่จะเริ่มกินเจว่า ปัจจุบันโภชนาการอาหารเจแทบไม่แตกต่างจากอาหารทั่วไป แต่สิ่งที่ควรระวังคือสารเคมีในวัตถุดิบ โดยเฉพาะพวกผัก ควรล้างด้วยน้ำสะอาด ถ้าเป็นไปได้เวลาล้างควรผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตหรือผงฟูเพื่อความแน่ใจ สำหรับของแห้ง อย่างถั่ว พริกแห้ง ก็เลือกให้ดีๆ อย่าให้มีเชื้อรา ที่สำคัญคือขั้นตอนการปรุงต้องสะอาด ควรล้างมือก่อนและใช้ช้อนกลางเป็นดีที่สุด

    เจาะใจคนใจบุญ

    แม้ว่าหลายๆ จังหวัดเริ่มคึกคึกเตรียมจัดงานเทศกาลกินเจอย่างยิ่งใหญ่ แต่สำหรับคนบางกลุ่มกลับพอใจที่จะกินอยู่อย่างเงียบๆ ไม่เพียงเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจ แต่พวกเขาสุขสงบ รักษาศีลไม่กินเนื้อสัตว์มากว่าครึ่งชีวิต !

    ถึงวันนี้ พวกเขาเหล่านั้นรวมตัวกันมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 25 ปีแล้ว ภายใต้ชื่อ ชมรมมังสวิรัติแห่งประเทศไทย...

    พ.ต.ศิริลักษณ์ ศรีเมือง ประธานชมรมมังสวิรัติแห่งประเทศไทย เล่าที่มาที่ไปให้ฟังว่า

    "เราก่อตั้งชมรมมาตั้งแต่ปี 2525 พอดีช่วงนั้นเป็นวันวิสาขบูชาที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ เลยมีการรวมตัวกัน ตอนแรกสมาชิกส่วนมากเป็นญาติธรรมชาวอโศก เป็นกลุ่มคนที่ปฏิบัติธรรมที่อยากทาน ต่อมาก็เริ่มมีคนอื่นๆ ให้ความสนใจ คือต้องเข้าใจก่อนว่าทั้งอาหารเจและอาหารมังสวิรัติ สมัยก่อนหากินยาก เราเลยคิดไปเปิดร้านขายกันเองนี่ละ ที่ตลาดนัดจตุจักร ขายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ปรากฏว่าคนสนใจมากจริงๆ ขายดีมากจึงต้องขยายร้าน จากล็อกเดียวก็ค่อยๆ เพิ่มเป็น 2 ล็อก 3 ล็อก จนกระทั่งต้องเหมาทั้งเต็นท์"

    ...สมัยนั้นมีการเปิดรับสมาชิกโดยเก็บค่าสมาชิกคนละ 1 บาท เราแจกหนังสือให้ด้วย ปรากฏว่าคนสนใจเยอะจริงๆ นับเงินจากค่าสมาชิกได้เป็นแสน !!!

    กิจกรรมนอกจากขายอาหารอยู่กับที่ ก็จะมีรถตู้ออกไปตามต่างจังหวัด มีแม่ครัวและหน่วยสาธิตอาหารไปให้ความรู้กับชาวบ้านชาวเขาเรื่องของการกินผักอย่างปลอดภัย ที่เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง โซนภาคเหนือเราเข้าไปหมด

    "เราได้ไปช่วยกระทรวงสาธารณสุขทำโครงการผักพื้นบ้าน อาหารพื้นเมืองด้วย เลยเริ่มศึกษาผักประหลาดๆ อย่างผักติ้ว ผักกระโดนเนี่ย เมื่อก่อนไม่เคยรู้จักเลยนะว่าเป็นยังไง ตอนแรกลองกินดูก็ไม่เห็นอร่อยเลย พอตอนหลังรู้วิธีว่าต้องกินยังไง เริ่มหาความรู้เพิ่ม คือผักพื้นบ้านพวกนี้กลับมีประโยชน์มาก มีงานวิจัยจากเมืองนอกที่บอกว่าผักสมุนไพรเรานี่ หลายชนิดเอามาทำเป็นยาต้านมะเร็งได้เลย"

    ...จริงๆ กับตัวเองตอนนั้นที่เราตัดสินใจกิน เอาจริงๆ ไม่ได้คิดเรื่องสุขภาพเลย เราคิดแค่ว่าไม่อยากกินเนื้อ ไม่อยากฆ่าสัตว์ เพราะเราถือศีล ปรากฏว่า 3 เดือนต่อมาหลังจากกินผักไม่กินเนื้อสัตว์ ตัวเราเองรู้สึกได้เลยว่าสุขภาพดีขึ้น ที่เคยเป็นภูมิแพ้ เป็นหวัดบ่อยๆ ก็ไม่เป็นอีก ลองไปถามญาติธรรมคนอื่นๆ เขาก็บอกรู้สึกเหมือนกัน...

    "ป้าอี๊ด-รัตนาภรณ์ สรวารี" สมาชิกชมรมวัย 69 ปี ป้าเล่าให้ฟังว่ากินมังสวิรัติมานานกว่า 28 ปีแล้ว...

    "สมัยก่อนอาหารเจไม่อร่อย กินยาก ตอนหลังมีการปรับปรุงความอร่อย จะว่าไปอาหารเจ หรือไม่เจ บางทีแทบไม่แตกต่าง เพราะมีเนื้อเทียม อย่างที่ไต้หวันทำเหมือนและอร่อยมากๆ ด้วย มีไก่เจ ไส้กรอกเจ ลูกชิ้นเห็ดหอม แม้แต่กะปิ ปลาร้า น้ำปลาเจก็มี อร่อยเหมือนกัน ไม่แปลกที่เดี๋ยวนี้เด็กๆ สาวๆ ก็กินกันได้ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ส่วนมากมีแต่คนแก่ๆ หรือไม่ก็คนปฏิบัติธรรมเท่านั้นที่กิน"

    ไม่ว่าจะด้วยรสชาติ หรือกระแส แต่ดูท่าว่าประเพณีการกินเจในวันนี้จะเริ่มแปรเปลี่ยน จากเทรนด์บุญ กลายเป็นเทรนด์สุขภาพไปอย่างช่วยไม่ได้

    แต่ก็นั่นแหละไม่ว่าจะเป้าหมายอะไร การทานเจก็เป็นเรื่องดี เราทุกคนรู้ว่าผักมีประโยชน์ ทางตรงไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ เรื่องความงามได้หมด แถมทางอ้อมยังได้บุญอีกด้วย :D

    กินเจกับกินมังสวิรัติ ต่างกันตรงที่มังฯคือไม่กินเนื้อสัตว์ ในขณะที่เจคือไม่กินเนื้อสัตว์และไม่กินผักที่มีกลิ่นฉุน

    ----------
    ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ
    http://matichon.co.th/prachachat/pra...sectionid=0225
     
  18. พัชนันท์

    พัชนันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +140
    ที่จริงแล้วเป็นคนไม่ทานผักเลยเกือบทุกชนิด แต่พอถึงเทศกาลกินเจเมื่อไหร่จะพยายามทานผักให้ได้ค่ะเพราะปีนึงมีครั้งเดียวที่เราไม่ทานเนื้อสัตว์ ในเมื่อเราตั้งใจแล้วเราต้องทำให้ได้ ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ
     
  19. lasomchai

    lasomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +2,036
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกุศลและความตั้งใจจริงด้วยเป็นอย่างยิ่งครับผม

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  20. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนา สาธุบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ ขอให้มีความสุขแท้ยิ่งๆขึ้นไปนะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...