เปิดบันทึก“หลวงปู่หล้า เขมปัตโต” เจ้าอาวาสวัดภูจ้อก้อ มุกดาหาร พระผู้ต่อต้าน “ลัทธิพิศดาร”

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 17 มกราคม 2020.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,319
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,274
    ค่าพลัง:
    +9,590
    วัดบรรพตคีรี หรือ วัดภูจ้อก้อ ต.หนองสูงใน อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ตั้งอยู่ระหว่าง ถนนสาย อ.เลิงนกทาง จ.ยโสธร ไป อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด จะมองเห็นป้ายบอกทางขึ้น วัดภูจ้อก้อ เห็นเด่นชัด เลี้ยวรถเข้า ถนนลาดยางไม่แคบมากนัก รถสวนกันได้ แต่จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นทางขึ้นเขาไม่สูงชัน สลับโค้งเป็นบางช่วง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงยอดภูจ้อก้อ โดยมีที่จอดรถคอยบริการญาติโยมอย่างทั่วถึงและเป็นระเบียบดีมาก

    e0b8b1e0b899e0b897e0b8b6e0b881e0b8abe0b8a5e0b8a7e0b887e0b89be0b8b9e0b988e0b8abe0b8a5e0b989e0b8b2.jpg
    สำหรับ วัดบรรพตคีรี หรือ วัดภูจ้อก้อ ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน สมันก่อนเป็นที่อาศัยของผู้คิดต่างกับรัฐบาลไทย(ลัทธิคอมมิวนิสต์) เคลื่อนไหว ปุกปั่น ชักชวนให้ประชาชนหลงเชื่อ เข้าร่วมขบวนการ ต่อต้านรัฐบาล เรียกว่า พื้นที่สีแดง เป็นเวลาหลายสิบปี ต่อมา ก็ล้มสลายไป ประชาชนกลับมาร่วมพัฒนาชาติไทยและสงบสุขจนถึงทุกวันนี้

    พระหล้า เขมปัตโต(หลวงปู่หล้า เขมปัตโต) หลังจากที่บวชพระแล้ว เดินธุดงธ์ กรรมฐาน พร้อมศึกษาพระธรรมวินัยจากพระอาจารย์สายวัดป่า ทั่วประเทศ และไปศึกษาพระธรรมวินัยกับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าหนองผือ จ.อุดรธานี ร่วมกับ พระอาจารย์ ชื่อดังหลายรูป เช่น พระอาจารย์ฝั่น อาจาโร,พระอาจารย์เทสก์ เทศรังสี ,หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นต้น กระทั่ง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ละธาตุขันธ์ และพระราชทานเพลิงศพ เสร็จงาน ก็เดินธุดงธ์ไปทางอีสานตอนล่าง ลัดเลาะตามแม่น้ำโขง ไม่ได้ข้ามไปฝั่งประเทศลาว และไปจำพรรษาอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ในเขต จ.มุกดาหาร ซึ่งอยู่บนภูเขาไม่สูงมากนัก (ภูเก้า) เช้าก็เดินลงไปบิณฑบาตรที่หมู่บ้านพื้นล่าง ทุกวัน อยู่ถ้ำภูเก้าได้ 1 พรรษา ญาติโยม จึงนิมนต์ไปจำพรรษา ที่ ภูจ้อก้อ ซึ่งอยู่ใกล้กับภูเก้า ซึ่งเป็นเทือกเขาเดียวกันกับภูพาน พุทธศาสกนิชน ญาติโยม เลื่อมใสในพุทธศาสนา ลงขันออกทุนทรัพย์เท่าที่มี มากน้อย ตามฐานะของแต่ละคน ก่อสร้างกุฏิ ศาลาการเปรียญ อุโบสถ จัดตั้ง วัดบรรพตคีรี หรือ ชาวบ้าน เรียกว่า วัดภูจ้อก้อ จนกระทั่งปัจจุบัน

    b8b1e0b899e0b897e0b8b6e0b881e0b8abe0b8a5e0b8a7e0b887e0b89be0b8b9e0b988e0b8abe0b8a5e0b989e0b8b2-1.jpg
    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต เป็นพระสงฆ์สายวัดป่า (ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต) วัตรปฏิบัติดีงาม สมถะ โดยยึดหลัก ปฏิปทาที่ว่า ไม่บอกบุญเรี่ยไร ไม่เอ่ยบอกขอใคร ไม่ใบ้หวยทายเลข ไม่ปลุกเสกผ้ายันต์ ไม่ทายฝันดูดวง ไม่ทักผี ไม่อวดกล้าถือเงินทอง ไม่ละครองบิณฑบาต เด็ดขาดฉันมื้อเดียว ปฎิบัติอย่างเคร่งครัด ตลอดที่ครองไตรจีวร เป็นพระสงฆ์ ด้วยระยะ 85 ปี ส่งผลให้พุทธศาสนิกชน เลื่อมใสศรัทธามาก หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ไม่อาจหลุดพ้น ความแก่ชราของร่างกายสังขารได้ ซึ่งมนุษย์ และสัตว์โลกทั้งหลาย ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่วันใด วันหนึ่ง ก็ต้องมาถึง มีเกิดย่อมมีดับ จะต้องพลัดพลาดจากสิ่งที่รัก ทุกคน ไม่แบ่งชั้นวรรณะ กระทั่งวันที่ 19 ม.ค.39 หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ละธาตุขันธ์ และวันที่ 28 ม.ค.39 ถวายพระเพลิงศพ โดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นประธาน

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต อายุ 85 ปี แห่งวัดบรรพตคีรี หรือ วัดภูจ้อก้อ ต.หนองสูงใน อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร บันทึกไว้ในหนังสือแจกแก่ญาติโยมที่มาร่วมงานถวายพระเพลิง ในหัวข้อ “ ลัทธิพิสดาร “ เขียนไว้ว่า สมัยข้าพเจ้าอยู่ภูเก้า เบื้องต้น ข้าพเจ้าอยู่องค์เดียว 4 เดือน ได้มีโยมคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี ขึ้นเขาไปหา พร้อมกับถ่ายรูปภาพภูเขาต่างๆและถามว่า “ญาครู (พระครู) ญาครู (พระครู) จะพูดให้ฟังจะเอาด้วยไหม” ข้าพเจ้าเลยบอกว่า “ เออ เอาไม่เอา ขอให้พูดไปเสียก่อน อย่างเพิ่งเร่งรีบ ให้อาตมาฟังเสียก่อน“ เขาจึงพูดไปว่า “ ตั้งใจฟังให้ดี จะพูดให้ฟัง ศาสนาไม่มี พ่อแม่ไม่มี ทำการทำงานได้แล้วให้ทำขึ้นสู่รัฐบาล ไม่มีกรรมสิทธิ์ส่วนตัว ให้แต่พอเพียงได้กินได้อยู่ ทำงานให้รัฐบาลหมด ให้คนเสมอกัน ญาครู(พระครู)จะยินดีด้วยไหม “ ข้าพเจ้าเลยบอกว่า “ ยินดีไม่ยินดีขอให้พูดไปก่อนอาตมาจะฟัง อย่าเพิ่มเร่ง เพิ่งรัดให้มากนัก” เขาจึงพูดต่อไปว่า “ไม่ให้มีผู้ใหญ่ ไม่ให้มีผู้ต่ำ ไม่ให้มีผู้สูงให้เสมอกันหมด เงินเดือนให้เท่ากันมีความสุขเสมอกันหมด มีลูกออกมาให้รัฐบาลเอาไปเลี้ยงไม่ต้องลำบาก ของถ้าหากได้มาให้เอาขึ้นรัฐบาลหมด ไม่ให้ผู้หนึ่งผู้ใดเป็นเจ้าของ ให้แต่พอกินพอใช้ ให้คนเสมอกัน ไม่ให้มีชั้นวรรณะ ให้เป็นนายเหมือนกันหมด

    b8b1e0b899e0b897e0b8b6e0b881e0b8abe0b8a5e0b8a7e0b887e0b89be0b8b9e0b988e0b8abe0b8a5e0b989e0b8b2-2.jpg
    ถ้าหากเป็นลูกน้องให้เป็นลูกน้องเหมือนกันหมด ถ้าจะเรียกว่านายก็เรียกว่านายเหมือนกันหมด ไม่ให้มีผู้ใดเป็นใหญ่ ให้เสมอกันหมด ศาสนาไม่มี ญาครู (พระครู) เห็นดีด้วยไหม “คุณพ่อ คุณแม่ไม่มี ท่านเลี้ยงมาเป็นเรื่องของท่าน ท่านเป็นผู้ออกมาเป็นท่านก็ต้องเลี้ยง บาปไม่มี บุญไม่มี บุญก็คือ กินได้นอนหลับนั่นเอง จะเอาด้วยไหม” ข้าพเจ้าเลยบอกว่า “เออ หมดแล้วหรือยัง ถ้าหมดแล้วอาตมาจะตอบ ถ้าหากยังไม่หมดให้พูดต่อไป” เขาบอกว่า “ขอพูดแค่นี้ก่อน ขอให้ญาครู(พระครู) ตอบมา” ข้าพเจ้าเลยพูดว่า “อาตมาจะถามบ้างละ จะทำให้คนเหมือนกันได้อย่างไร คนขาหักจะทำให้เป็นคนขาดีได้ไหม คนโง่จะทำให้เป็นคนฉลาดได้ไหม คนมีกำลังน้อย ทำให้มีกำลังมากได้ไหม “เขาตอบรับความเป็นจริงว่า “ทำไม่ได้” ข้าพเจ้าจึงพูดต่อไปว่า “ พ่อก็เป็นพ่อเต็มภูมิ แม่ก็เป็นแม่เต็มภูมิ จะไปพูดว่า เป็นเพื่อน ได้หรือ จะไม่ให้มีคุณมีค่าได้อย่างไร หน้าที่ท่านเลี้ยงมาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของเราจะต้องเลี้ยงดูท่านตอบแทน เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน เราต้องประพฤติอย่างนั้น มีคนมายกมือไหว้เราว่า สวัสดี เราต้องยกมือไหว้ สวัสดีตอบ ทำให้คนเสมอกันจะทำอย่างไร ไม่เสมอกันหรอก อาตมาจะพูดให้ฟัง

    b8b1e0b899e0b897e0b8b6e0b881e0b8abe0b8a5e0b8a7e0b887e0b89be0b8b9e0b988e0b8abe0b8a5e0b989e0b8b2-3.jpg
    โยมเก่งทางช่างไม้ก่อสร้าง ช่างเหล็ก อาตมาก็เพียงทุบหิน เขาให้อาตมาไปทุบหิน ตากแดด กลางแจ้ง ผู้คุมคงไม่ให้ไปอยู่ในร่มเงา โยมเป็นช่างไม้ก็ให้ไปอยู่ร่มเงา จะเสมอกันได้อย่างไร คนเราพ่อก็ต้องเป็นพ่อเต็มภูมิ แม่ก็ต้องเป็นแม่เต็มภูมิ ตัวเองโง่แล้วจะมาสอนให้คนอื่นโง่ด้วย โยมเป็นบ้ายังจะมาสอนให้อาตมาเป็นบ้าด้วย อาตมาไม่ไปด้วยหรอกนะ ถ้าหากว่าไม่มีชั้นวรรณะ ไม่เลื่อมใสด้วยหรอกถ้าพูดอย่างนั้น” เขาพูดขึ้นว่า “ โอ้ย ถ้าพูดไปแล้วขี้ฉ่อ (ขี้โกง) ญาครู น่าโมหาแท้ๆ” ข้าพเจ้าพูดว่า “ ถูกตามคำอาตมานะ ขอให้พิจาณาดูอย่าเพิ่งโกรธ เพราะมีที่แซง อาตมาเลยแซง จะโกหกได้เฉพาะคนโง่ๆเท่านั้น” เขาก็เลยพูดว่า “ถ้าพูดแล้วขี้ฉ่อ (ขี้โกง) ไปตะพึดตะพือ หนีดอกญาครู(พระครู)นี่ อย่างนั้นจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ข้าพเจ้าเลยบอกว่า “เออ ไปก็ไปเสียซิ” แล้วเขาก็ไป ส่อแสดงให้เห็นว่าเขานั้นไปเที่ยวประกาศให้คนโง่เลื่อมใสเท่านั้น ผู้ถึงศีลถึงธรรมจะเลื่อมใสได้อย่างไร ซึ่งเป็นเพียงตอนหนึ่งในหนังสือแจกพุทธศาสนิกชนที่ไปร่วมงานถวายพระเพลิง หลวงปู่หล้า เขมปัตโต แห่งวัดบรรพตคีรี หรือ วัดภูจ้อก้อ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร

    b8b1e0b899e0b897e0b8b6e0b881e0b8abe0b8a5e0b8a7e0b887e0b89be0b8b9e0b988e0b8abe0b8a5e0b989e0b8b2-4.jpg
    สำหรับ พุทธศาสนิกชน ญาติโยม ทั้งหลาย ที่ต้องการจะเดินทางขึ้นไปกราบหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ซึ่งประดิษฐานอยู่ในเจดีย์เขมปัตต จากลานจอดรถ ต้องเดินขึ้นบันได แบบ คสล.อีกประมาณ 700 เมตร ก็จะถึงยอดเขา ผ่านกุฎิ หลวงปู่สมัยยังมีชีวิตอยู่ สถานที่เดินจงกรม และบริเวณลานหิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ เขมปัตต ที่ความสูงประมาณ 20 เมตร ภายในเจดีย์ ประดิษฐาน หุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่หล้า เขมปัตโต และรอบผนังในเจดีย์ จะมีเครื่องอัฐบริขาร หนังสือ ของหลวงปู่ไว้แสดงให้ดูและศึกษา ท่ามกลาง แมกไม้นานาพันธุ์ สงบ ร่มรื่น ยิ่งนัก

    ก่อนเดินทางกลับ ควรแวะสนทนาธรรมกับ พระสมคิด สุทธิจิตโต อายุ 64 ปี เจ้าอาวาสวัดบรรพตคีรี หรือ วัดภูจ้อก้อ รูปปัจจุบัน ปกครองพระสงฆ์ 16 รูป ไม่มีสามเณร แม่ชี 8 คน วัดนี้ สังกัดธรรมยุติ ดูแลเนื้อที่ร่วม 1,000 ไร่ ซึ่งท่านเจ้าอาวาสจะแนะให้ถือปฏิบัติ เกี่ยวกับ ศีล ทาน ภานา คือ หนทางดับทุกข์ สู่ความสุขนั่นเอง.

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.banmuang.co.th/news/region/177130
     

แชร์หน้านี้

Loading...