เบื้องหลังแห่งกรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 31 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    วันหนึ่งข้าพเจ้าได้รับโทรศัพท์จากคุณณรงค์ ได้พูดมาจากธนาคารกรุงเทพฯ เล่าเรื่องของเด็กหญิงเพ็ญศรี อายุเพียง ๑๐ ขวบ ที่เที่ยวขายพวงมาลัยตามข้างถนน ตามสถานที่หย่อนใจตามหน้าบาร์ เพื่อหารายได้มาเลี้ยงแม่และน้องๆ อีก ๓ คน น้องคนเล็กยังอยู่ในอกแม่ น้องอีกสองคนก็ยังเล็กๆ

    แต่แล้วเด็กหญิงที่น่าสงสารก็ถูกรถยนต์เก๋งของนักท่องราตรีเที่ยวหาความสำราญทางสุรานารีชนเอา เห็นจะเป็นเพราะมึนเมา จึงขับรถชนเอาเด็กหญิงผู้น่าสมเพชล้มฟุบอาการสาหัส แล้วก็ถึงแก่ความตายขณะที่กำลังขายพวงมาลัยเพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัว รถเพชฌฆาตได้ทำลายชีวิตของเด็กหญิงผู้บริสุทธิ์ไม่รู้เดียงสา แล้วก็หลบหนีไป คุณณรงค์อยากจะชวนให้ข้าพเจ้าไปเห็นสภาพการเป็นอยู่ของครอบครัวนี้

    เหตุเกิดขึ้นในปลายเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๐๘ เป็นเรื่องเศร้าเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายถูกรถยนต์ชนตาย เมื่อคุณณรงค์ได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวัน ลงข้อความน่าเศร้าใจนึกสงสาร ตามปกติคุณณรงค์เชื่อกฎแห่งกรรม ใครทำดีทำชั่วย่อมเกิดผลตามสนอง และสนใจหนังสือของข้าพเจ้าสละเงินช่วยพิมพ์เผยแพร่ตลอดมา เป็นผู้มีจิตใจเป็นกุศลมีมนุษย์ธรรมอยู่แล้วจึงเกิดความสังเวช สงสารอยากจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกอยู่ในความยากลำบาก

    จึงจัดตั้งคนไปสืบดูความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ และคนไปดูเห็นสภาพกลับมาส่งข่าวที่ได้เห็นความทุกข์ยาก ลำบากมาให้คุณณรงค์ทราบ คุณณรงค์จึงได้จัดส่งเงินจำนวนหนึ่ง ไปมอบให้แก่แม่ของเด็กหญิงเพ็ญศรี เพื่อบรรเทาความทุกข์ยาก

    ต่อมาคุณณรงค์และพวกพนักงานในธนาคารกรุงเทพฯ ต่างก็พร้อมใจกันเสียสละเงินได้จำนวนหนึ่ง จึงตั้งใจไว้ว่าจะให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มอบแก่แม่ของเด็ก พร้อมทั้งจะได้ไปเห็นความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ ซึ่งกำลังทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์ในมุมหนึ่งของชีวิต เพื่อจะนำมาตักเตือนผู้ที่ขับรถโดยประมาทเมื่อชนคนตายแล้วก็รีบหนี กำลังเป็นข่าวขึ้นในเมืองเรา กฎหมายเรายังไม่รัดกุม ไม่นึกถึงชีวิตเบื้องหลัง ญาติพี่น้องของผู้ตายต้องผจญต่อกรรมความยากแค้นแสนสาหัสเพียงไร

    ข้าพเจ้าตอบตกลงและขอบคุณที่ได้ให้เกียรติข้าพเจ้าเป็นผู้มอบเงินให้แม่ของเด็ก ข้าพเจ้าจึงอยากพบอยากเห็นความทุกข์ยากลำบากในแง่หนึ่ง และข้าพเจ้าปลื้มปิติ ขออนุโมทนาในการสร้างกรรมดีในความเมตตากรุณาของคุณณรงค์และคุณนาย พร้อมทั้งพนักงานในธนาคารที่มีจิตเมตตาสงสารชีวิต ซึ่งกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ได้ช่วยกันแผ่เมตตาจิตช่วยเหลือเกื้อxxxล ให้ได้รับความทุกข์ยากน้อยลง พอที่จะขยับขยายมีทุนทรัพย์จะทำมาหาเลี้ยงชีพต่อไป

    วันนัดเป็นวันเสาร์ตอนบ่าย คุณณรงค์และคุณนายมารอข้าพเจ้าอยู่ที่บ้าน บังเอิญข้าพเจ้าติดธุระในตอนบ่ายวันนั้น จึงกลับบ้านล่าไป แล้วเราก็ได้เดินทางไปตามตำบลที่อยู่ของแม่ และน้องๆ ของเด็กหญิงเพ็ญศรีผู้ตาย เราต้องจอดรถไว้ที่ข้างถนนใหญ่ แล้วก็เดินเข้าตรอกแล้วก็เลี้ยวเข้าในซอยแคบๆ บางตอนเวลามีคนเดินสวนกัน เราก็ต้องเอี้ยวตัวหันหลังเกาะรั้วบ้าน พอจะหลีกกันได้โดยไม่สะดวกนัก

    เราถามชาวบ้านแถบนั้นถึงบ้านที่พักของแม่เด็กหญิงเพ็ญศรี ก็มีคนชี้ให้ และมีเด็กๆ อาสาพาไปให้ถึงบ้าน ความเห็นอกเห็นใจย่อมจะเกิดแก่ผู้ยากจนด้วยกัน เมื่อไปถึงบ้านก็ปรากฏว่า แม่ของเด็กหญิงเพ็ญศรีไม่ทราบว่าไปไหน

    เราจึงได้สนทนากับชาวบ้านแถบนั้น และหญิงเจ้าบ้านผู้ให้ที่พักอาศัยโดยคิดค่าเช่าเพียงเล็กน้อย เราต้องนั่งสนทนาเพื่อรอพบ แม่ของเด็กหญิงเพ็ญศรี ชาวบ้านผู้หนึ่งกำลังรีดผ้าอยู่ข้างทางชี้ให้ดูเด็กสามคน เนื้อตัวมอมแมมอยู่เป็นกลุ่ม เด็กคนเล็กยังเพิ่งจะนั่งได้ แล้วบอกเราว่า นี่แหละ ลูกของเขาฝากไว้ แต่ตัวไม่รู้ไปไหน เรามองดูเด็กคนเล็กกำลังร้องไห้หาแม่ พี่สองคนก็ยังกำลังเล่นอะไรตามภาษาเด็กอยู่ข้างๆ แต่แม่ของเด็กไม่ทราบว่าไปไหน ซึ่งคุณณรงค์ก็ได้ส่งคนมาบอกล่วงหน้าว่า เราจะเดินทางมาหาและชาวบ้านก็ช่วยกันไปตามหา

    เราได้ทราบจากชาวบ้านว่า พ่อของเด็กหญิงเพ็ญศรีนั้นมีคดีติดตัว คอยหลบหนีคดีอาญา ข้อหาว่าเป็นผู้ทำลูกปืนลั่นถูกคนตายโดยประมาท แม้ชาวบ้านผู้หวังดีจะได้ช่วยแนะนำขอให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทางการ สารภาพผิด เมื่อได้รับโทษใช้กรรมตามที่ตนได้ก่อขึ้นก็คงได้รับโทษไม่หนักหนาอะไร จะได้มีเวลาพ้นโทษ แล้วก็จะได้เป็นอิสระในวันหนึ่งข้างหน้า ไม่ต้องคอยหลบหนีไม่มีวันสิ้นสุด ต้องทรมานทั้งร่างกายและจิตใจตลอดเวลาทั้งหลับและตื่น ต้องสะดุ้งผวากลัวไม่มีขอบเขตตลอดวันเดือนปีที่จะพ้นความรู้สึกอันนี้ไปได้ แต่แกไม่ยอมเชื่อฟัง คอยแต่หลบหลีกการจับกุมอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ครอบครัวได้รับความยุ่งยากลำบาก ตลอดจนบุตรสาวต้องจบชีวิตลงกลางถนนอย่างน่าเวทนา เราได้ทราบข่าวนี้ด้วยความเศร้าใจ

    เมื่อได้สนทนากับชาวบ้านพอสมควรแล้ว เราก็อยากดูที่พักของแม่เด็กหญิงเพ็ญศรี ชาวบ้านชี้ให้เราดู เมื่อเห็นสภาพที่อยู่แล้วก็สลดใจ ข้าพเจ้ากับคุณณรงค์ได้ปีนขึ้นไปดูห้องพักภายใน เหตุที่ต้องปีนเพราะไม่มีทางขึ้น เมื่อขึ้นไปยืนก็เห็นเป็นช่องทึบยาวๆ สองข้างเป็นฝาบ้านกว้างไม่เกิน ๒ เมตร ไม่มีช่องหน้าต่างพอที่แสงสว่างจะลอดเข้าไปในช่องนั้นได้ จึงมัวๆ หาอากาศผ่านยากภายในมีเสื่อเก่าๆ และมีผ้าห่มนอนขาดออกเป็นหลายชิ้น นอกนั้นก็ไม่เห็นมีอะไร เมื่อเรามองดูแล้วก็เศร้าทำให้จิตใจหดหู่ลง มองเห็นมนุษย์ ๕ ชีวิตมาสุมอยู่ในห้องแคบๆ ทึบๆ และอยู่ในซอยแคบๆ

    บัดนี้ ชีวิตน้อยๆ ที่น่าสงสารชีวิตหนึ่งได้จากไปแล้วยังเหลืออีก ๔ ชีวิตที่ยังต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป เมื่อเราตรวจดูสภาพที่พักอยู่ครู่หนึ่ง แม่ของเด็กหญิงเพ็ญศรีก็กลับมา ข้าพเจ้าได้สอบถามความเป็นอยู่ของเด็กหญิงเพ็ญศรีเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เราได้สนทนากันด้วยความเห็นอกเห็นใจ ก็ได้ความว่าแม่ของเด็กเมื่อครั้งสาวๆ เคยเข้าประกวดได้เป็นรองนางงามเทพีมาก่อน วันที่ลูกสาวถูกรถยนต์ชนตาย ก็ตรงกับวันเดือนครบรอบปีที่พ่อของเด็กหญิงทำปืนลั่นถูกเพื่อนตายด้วยความประมาท จะเป็นกรรมตามสนองหรือเป็นเหตุบังเอิญก็เป็นเรื่องที่น่าคิด นอกจากนั้นก็ได้ทราบจากผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงเพ็ญศรี

    บางคืนก็มีผู้ซื้อพวงมาลัย และถามถึงชีวิตของเด็กหญิงที่ลำบากยากแค้น ต้องมาขายพวงมาลัยเวลาค่ำคืนเช่นนี้ เด็กหญิงก็เล่าถึงประวัติชีวิตจริงให้ฟัง ทำให้ผู้ทราบเรื่องแล้วก็เกิดสงสารหยิบธนบัตรใบแดงๆ มอบให้เพราะความเมตตาปรานี เด็กหญิงผู้น่าสมเพชก็ได้เก็บซ่อนธนบัตรไว้อย่างมิดชิดระมัดระวัง เมื่อกลับบ้านก็รีบนำมาให้แม่พร้อมด้วยแสดงความดีอกดีใจ บอกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...