'เทคนิคขับ กลับถึงบ้าน'เตือนสติ10วันอันตราย

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 30 ธันวาคม 2012.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    'เทคนิคขับ...กลับถึงบ้าน'
    'เทคนิคขับ กลับถึงบ้าน'เตือนสติ10วันอันตราย : คอลัมน์ เปิดโลกยนตกรรม โดย... ยุทธพงษ์ ภาษี

    -http://www.komchadluek.net/detail/20121230/148311/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A...%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99.html#.UN_SY3ed6So-


    "ไม่ว่าเราจะรณรงค์กันอย่างไร ขับเร็ว ขับช้า โอกาสการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ยังเกิดขึ้นเสมอ ช่วเทศกาลเป็นหนึ่งห้วงถนนอันตราย "เปิดโลกยนตรกรรม คมชัดลึก" นำเสนอเทคนิคขับรถ ผ่านคำแนะนำจาก "วณัฐสุข สงวนศิริ" ผู้เชี่ยวชาญการขับขี่ปลอดภัยจากศูนย์อบรมขับขี่ปลอดภัยเอดีทีซี เพื่อให้ทุกท่านขับรถไปและกลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัย

    อุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่เกิดจากเหตุหลักๆ ไม่กี่ประการเช่น การใช้ความเร็วเกินไป การมองไม่เห็นหรือมองเห็นในระยะกระชั้นชิด ต่อไปนี้คือเครื่องมือต่างๆ ที่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่า สามารถป้องกันเหตุต่างๆ ได้
    ไม่ชนท้ายหรือถูกชนท้าย

    อุบัติเหตุชนท้ายรถคันหน้ายังมีเกิดขึ้นบ่อย แต่รถยนต์สองคันจะชนกันไม่ได้ ถ้าทั้งสองคันหรือคันใดคันหนึ่งมีพื้นที่ว่างเพียงพอ เราต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าทุกครั้งก่อนที่รถจะชนกัน ผู้ขับขี่จะเหยียบเบรกเพื่อต้องการให้รถหยุด และการหยุดของรถก็ต้องมีพื้นที่ว่างรองรับ ส่วนมากเบรกแล้วถึงชน ก็หมายความว่าเบรกแต่รถไม่หยุดนั่นเอง รถแต่ละคันมีระยะเบรกหยุดไม่เท่ากันเพราะระยะของการเบรกหยุดจะแปรผันตามความเร็วในขณะนั้น การชนท้ายเกิดขึ้นเพราะเบรกไม่หยุด-เบรกไม่หยุดเพราะระยะเบรกไม่พอ-ระยะเบรกไม่พอเพราะเว้นระยะห่างน้อยเกินกว่าระยะเบรกหยุดนั่นเอง ดังนั้น ควรเว้นระยะห่างคันหน้าอย่างปลอดภัยคือควรเว้น 4 วินาที เพื่อผู้ขับขี่จะมีเวลาอย่างเพียงพอสำหรับการเบรกให้รถหยุดหรือสลับช่องทาง

    000ไม่แหกโค้ง
    การขับด้วยความเร็วที่สูงมักก่อให้เกิดการแหกโค้ง เพราะว่า เข้าโค้งที่ความเร็วเกินโค้ง ดังนั้นเมื่อท่านต้องขับรถต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่า สภาพแวดล้อมของถนนเอื้ออำนวยให้ขับได้เร็วมากขนาดนั้นหรือไม่มีหลากหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณาไตร่ตรองให้ความสำคัญของการขับเร็ว เช่น สภาพรวมของรถยนต์ ประสบการณ์ ในเส้นทาง และฝีมือของผู้ทำหน้าที่ขับรถการขับให้เร็วเท่าไรใครๆ ก็ขับได้ แต่คำถามที่น่าขบคิดคือ ต้องขับให้เร็วขนาดนั้นจนแหกโค้งหรือไม่

    000ไม่กร้าวร้าว
    ถนนเป็นของทุกคน ต่างมีสิทธิ์ใช้เท่ากัน แต่บนถนนมีทั้งคนที่เพิ่งขับรถเป็น และคนที่มีความชำนาญ ดังนั้นเมื่อเข้าใจพื้นฐานนี้แล้ว การถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกันจึงเป็นสิ่งควรปฏิบัติ และเวลาขับรถพยายามชำเลืองมองกระจกส่องหลังบ่อยๆ เพื่อจะได้มีโอกาสเห็นแต่ไกลๆ ตา คือเครื่องมือที่สำคัญมากที่สุด การจะใช้ประโยชน์จากตาให้ได้มากๆ ก็จำเป็นต้องมีวิธีการใช้ ให้มองไปยาวๆ ไกลๆ ดูวิวทิวทัศน์รอบๆ รถของเรารวมทั้งมองข้างหลังด้วย ช่วยให้เห็นหลายๆ อย่างหลายๆ มุม รวมทั้งพฤติกรรมของรถแต่ละคันด้วยว่าคันไหนขับแบบไหน เมื่อเห็นก็ประเมิน ถ้าอันตรายมากๆ บรรยากาศไม่น่าเสี่ยง ก็หลบหลีกให้พวกที่รีบเร่งแซงขึ้นหน้าเราไปเถอะ

    000ขับช้าชิดซ้าย
    การขับช้าในช่องทางขวาโดยเจตนาถือว่าไม่เหมาะสม เพราะกีดขวางเส้นทางของรถคันอื่นจำไว้ว่าช่องทางด้านซ้ายคือเส้นทางสำหรับรถช้าช่องขวาสำหรับรถวิ่งเร็ว (กว่ารถในช่องซ้าย) และถ้าหากเห็นว่ามีรถคันหลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูง รถคันหน้าจะต้องหลบไปใช้ช่องทางด้านซ้ายการขับช่องทางขวาด้วยความเร็วมากกว่ารถในช่องทางด้านซ้าย ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย ความเร็วในที่นี้หมายความว่าไม่เกินกฎหมายกำหนดหลายท่านคงกระจ่างมากขึ้นและคงจะไม่ถูกจับกรณีที่วิ่งขวา เพราะไม่ได้กีดขวางช่องทางเดินรถ และคำว่า "ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับกระแสการจราจร" หมายความว่า ถ้ารถคันหน้าวิ่งเร็วเราก็ควรจะวิ่งเร็ว รถในช่องทางขวาวิ่งเร็วเราก็ควรจะวิ่งเร็วตามกันไปถ้าใช้ความเร็วอย่างเหมาะสมกระแสการจราจรจะไหลลื่นไม่กีดขวางรถคันอื่นๆ ทุกวันนี้เราพบว่าต้องเสียเวลามากในการเดินทาง เนื่องจากมีรถหลากหลายพฤติกรรมร่วมใช้เส้นทางซึ่ง พฤติกรรมผิดๆ เหล่านี้ ผู้ขับขี่แต่ละคนสั่งสมมาเป็นเวลานานนับสิบปี การขาดข้อมูลข่าวสาร ไม่เข้าใจกฎจราจร ทางออกที่ดีคือ ต้องช่วยกันเป็นตัวอย่างที่ถูก ปัญหาต่างๆ ก็จะค่อยๆ ลดลง

    000ไม่หลับใน
    อุบัติเหตุจากการหลับในนั้นสามารถป้องกันได้ หากเข้าใจสาเหตุของการหลับใน เมื่อเรานอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมงจะไม่มีความเสี่ยงเรื่องการหลับในร่างกายของคนเรามี วงจรเปรียบเทียบเฉกเช่นกับนาฬิการอบของนาฬิกาคือ 24 ชั่วโมง คนปกติต้องทำงานกลางวันและนอนในเวลากลางคืน ความเหนื่อยล้าหรือร่างกายต้องการพักผ่อนในช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเช้าและเวลาบ่ายคือ ประมาณ 14.00-16.00 น. ระหว่าง 2 ช่วงนี้การขับรถช่วงหลังเที่ยงคืนถึงเช้าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากกว่าช่วงบ่ายการขับรถติดต่อกันประมาณ 5 ชั่วโมงแล้วเปลี่ยนให้คนอื่นขับต่อก็ไม่ได้หมายความว่าจะหลีกเลี่ยงการหลับในได้ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอของคนขับ ดังนั้นถ้าคนขับคนที่ 2 รับกะตอนเที่ยงคืน โดยที่ทั้งวันที่ผ่านมาไม่ได้นอนหลับพักผ่อนมาก่อน ก็ยังมีความเสี่ยงเช่นกันการเดินทางไปต่างจังหวัดในเทศกาล ซึ่งต้องขับรถไปไกลๆ ก็ขอให้ตระหนักถึงความเหนื่อยล้าของร่างกาย การเดินทางในช่วงกลางคืนก็ควรจะจอดพักทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยพักครั้งละไม่น้อยกว่า 30 นาที (โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ 22.00 น.เป็นต้นไป) หากรู้สึกง่วงนอนก็ขอให้จอดงีบหลับแล้วค่อยขับต่อ และโปรดจำไว้ว่า กาแฟ มะนาว ยากระตุ้นหรือเครื่องดื่มต่างๆ ไม่สามารถจะสู้กับความเหนื่อยล้าได้ คงมีเพียงการนอนหลับอย่างเพียงพอและการงีบหลับในบางช่วงเท่านั้น ที่จะหลีกเลี่ยงการหลับในได้

    000กรณีรถเบรกแตก
    รถวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถควบคุมให้รถหยุดได้ ถ้าคนขับมีประสบการณ์และควบคุมสติ เพราะรถเบรกแตกในทางราบควบคุมง่ายกว่ารถลงทางลาดชันแม้ว่าจะเป็นทางราบ แต่ไม่สามารถจะควบคุมให้รถหยุดได้ ถ้าหากว่าคนขับ รู้ว่ารถเบรกแตกภายในระยะไม่เกิน 10 เมตร ขณะต้องการเปลี่ยนทิศทางรถ การใช้เกียร์ต่ำเพื่อลดความเร็วของรถขณะเบรกแตก หรือ การใช้เบรกมือ ช่วยได้ อย่างไรก็ตามใช้เบรกอย่างถูกวิธี หมั่นตรวจสอบสภาพเบรกให้ใช้งานได้อย่างสม่ำเสมอและขับรถที่ความเร็วไม่สูงเกินไป สามารถช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้จากอุบัติเหตุ

    000จอดรถให้ถูกที่จอด
    การจอดรถ ต้องประเมินความเสี่ยง ก่อนจะกำหนดทิศทางหรือสถานที่สำหรับจอด ลักษณะการจอดที่ปลอดภัยมากที่สุด คือกำหนดทิศทางการจอด ให้ขนาน กับบริเวณหรือจุดเสี่ยงต่างๆ หากเป็นสระน้ำ ก็ควรจะให้ตำแหน่งรถ ขนานกับขอบสระ หรือถ้าเป็นถนนก็ให้ชิดขอบถนน ซึ่งบางท่านอาจจะแย้งว่าการจอดในลักษณะนี้เสียพื้นที่มาก ตัวอย่างที่ดีๆ ที่พอมีให้เห็นคือปั๊มน้ำมันจำนวนหนึ่งออกแบบได้น่าปลอดภัย เพราะให้รถจอดขนานกับร้านสะดวกซื้อแนวทางป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ ก็มีหลากหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น ขึ้นเบรกมือทุกครั้งที่จอดรถ เอากุญแจออกทุกครั้ง เปลี่ยนทิศทางการจอดให้ปลอดภัย และรวมทั้งประเมินความเสี่ยงด้วยสิ่งที่สำคัญที่สุด ควรจอดให้ถุกที่จอดด้วยการมีมารนาทในการจอดเช่น ไม่จอดปากซอยรถเข้าออก ไม่จอดทางร่วมทางแยก หรือจอดขวางทางเข้าออก รวมทั้งไม่จอดแบบคาเกียร์ P เมื่อต้องจอดบนช่องจราจร ต้องบอกรถคันหลังให้เห็นว่าเราจอดโดยการเปิดไฟจอด กระพริบสีเหลืองสองดวงพร้อมกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ถนนปลอดภัยมากขึ้น

    000ไม่ถูกชนซ้ำซ้อน
    การหยุดหรือจอด บนช่องทางจราจร ไม่ว่ากรณีใดๆ เช่นเพื่อเปลี่ยนยาง ชนท้ายคันอื่นๆ รถเสีย ควรหลีกเลี่ยงอยู่ในตำแหน่งที่มีภาวะเสี่ยง เช่นหัวโค้ง บนทางลาดลงสพาน การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซ้ำให้วางสัญญาณเตือนภัยรถอื่นๆ อย่างน้อย 100 เมตรขึ้นไป บางท่านทำสัญญาณเตือนภัยก็จริงแต่ระยะใกล้มาก พอเห็นสัญญาณก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะว่าระยะชะลอรถไม่พอ เมืองนอกมีกฎหมาย หากรถเสีย ต้องวาง สามเหลี่ยมสะท้อนแสง คนที่จะออกนอกรถไม่ว่า คนขับรถคนกู้ภัยจะต้องสวมเสื้อสะท้อนแสงแต่เมืองไทยไม่ต้องพูดถึงการคิดฉลาดๆ แบบนี้

    ให้พยายามคิดเสมอว่าอุบัติเหตุสามารถป้องกันได้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นส่วนมากล้วนเกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ดังนั้นมนุษย์เท่านั้นที่จะควบคุมอุบัติเหตุได้
    .......................................
    เข็มขัดนิรภัย
    ในการขับขี่รถยนต์ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ เข็มขัดนิรภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเมื่อคุณเบรกอย่างรุนแรง เข็มขัดจะช่วยยึดลำตัวของผู้ขับหรือรัดให้แน่นขึ้น เพื่อให้แผ่นหลังชิดกับพนักพิงโดยไม่หลุดออกไปหน้ารถ เข็มขัดนิรภัย ยังมีส่วนช่วยให้การนั่งขับมีความมั่นคง ส่งผลถึงการควบคุมพวงมาลัยได้อิสระเมื่อรถมีแรงเหวี่ยงโดยไม่ต้องฝืนตัวต้านแรง เพราะเข็มขัดจะรั้งให้

    ตำแหน่งการนั่งของคุณอยู่บนเก้าอี้อย่างมั่นคง
    1.เมื่อคาดเข็มขัด สายเข็มขัดควรจะแนบกับลำตัว (อย่าใช้อุปกรณ์เหนี่ยวรั้งอื่น ๆ)
    2.ตรวจสอบเข็มขัดโดยการดึง และระวังอย่าให้เข็มขัดบิด
    3.ควรปรับระดับเข็มขัดตรงสะโพก เพื่อให้เข็มขัด พาดอยู่ตรงกลางกระดูกเชิงกราน
    4.คาดเข็มขัดนิรภัยก่อนติดเครื่องยนต์เสมอ
    .......................................
    (หมายเหตุ 'เทคนิคขับ กลับถึงบ้าน'เตือนสติ10วันอันตราย : คอลัมนื เปิดดลกยนตกรรม โดย... ยุทธพงษ์ ภาษี)

    -http://www.komchadluek.net/detail/20121230/148311/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A...%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99.html#.UN_SY3ed6So-
     

แชร์หน้านี้

Loading...