เจ้ากรรมนายเวร มีทั้งฝ่ายบุญฝ่ายบาป ไม่จำเป็นต้องให้ฝ่ายใดครอบงำอย่างเดียว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 13 พฤษภาคม 2011.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เจ้ากรรมนายเวร ไม่ได้มีแต่ฝ่ายบาป ซึ่งคอยมานำกรรมชั่วสู่เรา
    ปกติแล้ว ผู้มีบุญบารมี "สามารถเลือกได้" ว่าจะรับส่วนบุญหรือ
    บาปก่อนกัน และปกติแล้ว "อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์" ทั้งหลายก็
    มักเลือกรับฝ่ายบุญก่อน เช่น พระพุทธเจ้า ซึ่งขณะจุติลงมากาย
    ทิพย์เป็นแบบ "อวโลกิเตศวรโพธิสัตว์" (แต่มีพระนามอื่น) ก็ลง
    มารับฝ่ายบุญก่อนบาปเช่นกัน ส่วนพระโพธิสัตว์ภาคหยางมักจะ
    เลือก "ฝ่ายบาป" ก่อนฝ่ายบุญ เช่น ผู้ชายที่เกิดมายากจน เข็ญ
    ใจ, ตกยาก แล้วเพียรพยายาม จนประสบความสำเร็จทางธรรม
    ดังนั้น เจ้ากรรมนายเวรที่คนเรามักคิดว่าต้องนำแต่บาปกรรมมา
    สู่เรานั้นไม่จริง เพราะมีทั้งสองด้านเหมือนเหรียญสองด้าน แต่
    จะมาด้านใดก่อนก็เท่านั้น เช่น บางคนโดนยิงปางตายก่อน พอ
    หมดเคราะห์นี้แล้ว กลับประสบความสำเร็จทางการงาน เป็นต้น


    "ขันติบารมี" คือ ความอดทนอดกลั้นต่อแรงกดดัน อันเกิดจาก
    "วิบากกรรมเลว" จนหมดสิ้นวิบากกรรมเลวแล้ว วิบากกรรมดี ก็
    จะมาเอง เจ้ากรรมนายเวรฝ่ายบุญจะปรากฏ ให้การสนับสนุนแก่
    บุคคลนั้นๆ ให้ได้รับบุญตามจริง ดังนั้น จึงต้อง "อดทน" รอให้
    ถึงเวลานั้นๆ ซึ่งสังเกตได้โดย "เมื่อถึงเวลาหมดกรรมเลวแล้วจะ
    มีคนมาไล่ให้เราจากไป" ถ้าเราจากไป ก็จะชำระกรรมเลวได้ขา
    เดียว ส่วนกรรมดี ก็จะเสวยไม่หมด กองรออยู่ชาติหน้าสืบไป จะ
    ไม่สิ้นชาติขาดภพไปได้ ดังนี้ จึงต้องรับวิบากกรรมทั้งดีและเลว
    (ซึ่งบางท่านรับแต่ดีหรือเลวอย่างเดียว พอหมดแล้วก็จรจากไป)
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    กรรมไม่ต้องแก้แค่ "อดทน" ก็จบแล้ว (แม้อาจจะหลายกรรม)


    วิบากกรรมเลวนั้น "ไม่เที่ยง" เจ้ากรรมนายเวรฝ่ายบาป จะทำหน้าที่
    ให้บาปเคราะห์แก่เรา จนเราเสวยบาปกรรมหมดสิ้นแล้ว กรรมจะหมด
    ไป จากนั้น เจ้ากรรมนายเวรฝ่ายบุญจะเข้ามาแทนที่ ลองสังเกตดูจะ
    มีคนที่สงสาร เข้ามาช่วยเหลือ, หรือหาทางออกให้ คนผู้นี้ ก็คีอ ผู้ที่
    เข้ามาร่วมบุญบารมีกับเราก็ดี หรือเป็นร่างที่เจ้ากรรมนายเวรฝ่ายบุญ
    ใช้ก็ดี จะนำพาเราไปรับบุญซึ่งเป็นบุญของเราเอง ดังนั้น กรรมจึงไม่
    ต้องแก้อะไรเลย เพียงใช้ "ขันติบารมี" ไม่ต้องทำกรรมอะไรเพิ่ม จง
    อดทนอยู่สักระยะหนึ่ง ให้มันผ่านไปให้ได้ จากนั้น จะเกิดสิ่งใหม่เอง
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    การจรไปเรื่อยๆ อาจรับกรรมเพียงขาเดียว ไม่ได้นิพพาน


    การธุดงค์แบบจรไปเรื่อยๆ ทำให้ต้องรับวิบากกรรมในขณะธุดงค์
    เมื่อวิบากกรรมเลวหมดสิ้นแล้ว วิบากกรรมดีจะเข้ามาถึงบ้าง เช่น
    มีคนเข้ามาหาเพื่อถวายสิ่งของ, ปัจจัยต่างๆ แต่หากพระธุดงค์จร
    จากเร็วเกินไป ก็จะไม่ทันรับวิบากกรรมดี ผลบุญเก่าจะเสวยไม่สิ้น
    ชาติขาดภพไปได้ (เพราะบุญยังเหลือ เสวยไม่หมด) ดังเช่น พระ
    ถังซัมจั๋งเดินทางไปพบแต่ภัยอันตราย (กรรมเลว) พอสิ้นเคราะห์
    แล้ว ก็เดินทางต่อทันที ไม่ทันอยู่เสวยผลบุญ ดังนี้ ผลบุญนั้น จึง
    ยังเหลืออีกมากมาย ชำระไม่หมด (ส่วนวิบากกรรมดี) เช่นนี้ ก็ไม่
    ได้นิพพาน เพราะ "ยึดมั่นถือมั่นว่าต้องจรจากไป" มากเกินไป ไม่
    ทันได้เสวยผลกรรมให้หมดทั้งสองด้าน (ทั้งกรรมดีและกรรมเลว)
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    การถูกครอบงำด้วยเจ้ากรรมนายเวรแต่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียว


    สามารถเกิดขึ้นได้ ในชาติหนึ่งๆ บางชาติ บุคคล อาจถูกกรรมเลว
    อันแรงกล้าโหมถึงตัว ทำให้เจ้ากรรมนายเวรฝ่ายบาป มีอำนาจสูง
    กว่าฝ่ายบุญ มีอำนาจมากถึงขนาดครอบงำให้บุคคลนั้นต้องรับแต่
    กรรมเลวทั้งชีวิตก็มี (ซึ่งแท้แล้ว คนเรามีกรรมทั้งดีและเลวทั้งนั้น)
    หรือบางท่าน อาจถูกมารครอบงำให้หลงโลก, หลงสุข, หลงบุญ
    เมื่อสิ้นบุญแล้ว กลับมี "ซาตาน" ปรากฏช่วยให้เสวยบุญต่อไปอีก
    ไม่ยอมจบ ไม่ยอมสิ้น ไม่ยอมรับวิบากกรรมเลวบ้าง ทำให้หลงยิ่ง
    ขึ้นไปอีก ทั้งๆ ที่เจ้ากรรมนายเวรฝ่ายบาปก็มีอยู่เหมือนกัน เมื่อได้
    ตายจากโลกนี้แล้ว "วิบากกรรมเลวมากมาย" จึงไปรออยู่ภพหน้า
    ทำให้ต้องตกนรกมืดยาวนานนักหนา ดังเช่น คนกรุงในปัจจุบัน ที่
    กำลังเรียงหน้า ถูกไล่ต้อนไปเป็นจำนวนมาก การถูกครอบงำด้วย
    เจ้ากรรมนายเวรฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งสวรรค์ไม่
    สนับสนุนให้เกิด แต่เจ้ากรรมนายเวร สองฝ่าย อาจแย่งชิงกันเพื่อ
    ครอบงำมนุษย์ จนทำให้ระบบการชำระกรรมไม่สมดุล มนุษย์โลก
    เห็นโลกด้านเดียว ไม่เห็นครบสองด้าน หรือมองเห็นกรรมไม่ครบ
     
  5. โดเรมี่

    โดเรมี่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +9
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง...เพราะตอนนี้ชีวิตคล้ายๆอยู่ในช่วงเสวยกรรมอยู่นะ รู้สึกอย่างนั้น หลายอย่างเหนือความคาดหมาย คงต้องปล่อยไป อดทนสักระยะ แล้วมันจะผ่านไป จากนั้นก็จะเกิดสิ่งใหม่เข้ามา
    "มันก็เป็นเช่นนั้นเอง"
    กรรมไม่ต้องแก้...แค่อดทนก็จบแล้ว
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไม่ต้องแก้กรรมใดๆ แต่แก้ "การติดกรรม" ขาใดขาเดียวได้


    กรรมไม่ได้มีไว้ให้แก้ และไม่จำเป็นต้องแก้ เพราะเป็นธรรมะ, ปกติ
    ของการชำระวิบากกรรมที่เบื้องบนวางไว้ ดีแล้ว สิ่งที่ต้องแก้ไม่ใช่
    กรรม แต่เป็น "อาการติดกรรม-ขาเดียว" เช่น ติดบุญขาเดียว หรือ
    ยึดติดว่าต้องรับวิบากกรรมเลวให้หมดแต่ขาเดียว การยึดติดขาใด
    ขาหนึ่งอย่างนี้ "จึงควรแก้" ให้หายการสุดโต่งยึดมั่นถือมั่นแต่ด้าน
    เดียวให้หลุด, ให้พ้น, ให้จบ, ให้สิ้นไปเสียโดยไม่ต้องแก้กรรมเลย
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไม่ใช่ว่าจะรับแต่บุญ
    หรือ จะเสวยแต่บาป
    แต่ธรรมชาติได้ทำมา
    สมดุลทั้งสองส่วนแล้ว


    เรานี่ละ "ติดบ่วง" เอง
     
  8. มณฑาสวรรค์

    มณฑาสวรรค์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +2
    อนุโมทนากับ จขกท.ด้วยค่ะ จะใช้ความอดทนรอจนกว่าจะถึงเวลานั้นค่ะ
     
  9. กรวุฒิ

    กรวุฒิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2011
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +17
    ตอนนี้รู้สึกว่ารับแต่กรรมไม่ดี จะอดทนไปเรื่อยๆนะครับ แล้วเมื่อไหร่จะหมดละครับ
     
  10. hiphopday

    hiphopday สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +2
    นั่งสมาธิปัฏิบัติกรรมฐานหน้าจะช่วยได้เยอะน่ะครับผมก็ทำอยู่^^
     
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระถัง ซัมจั๋ง ท่านมีเห้งเจีย คอยช่วยเหลืออยู่ แล้วตอนนี้ท่านอยู่ที่ใหนหนอ.......?
     
  12. Toonkun

    Toonkun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +3
    เจ้ากรรมนายเวร กับ เจ้าบุญนายคุณ ต่างหากเล่า
     
  13. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ข้อความนี้มิได้เป็นการปรามาสต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่อยากบอกกล่าวให้ทุกท่านที่เข้ามาศึกษาได้ทราบข้อมูลที่เป็นจริง ครับ
    คนทุกคนที่เกิดมา มีเจ้ากรรมนายเวรกันทุกคน เจ้ากรรมนายเวร มีดังนี้
    1.นายเวรในตัว ได้แก่คนหรือสัตว์ที่เราได้ทำให้เขาได้เดือดร้อนจนกระทั้งเขาทนไม่ไหวจนก่อนตายได้อาฆาตพยาบาทต่อเราทั้งต่อหน้าหรือลับหลังว่าจะขอจองเวร เมื่อเราตายและเกิดใหม่(หากได้เกิด) เขาก็จะอยู่กับเรา และจะคอยกลั่นแกล้งเราทั้งในทางร่างกาย จิตใจ การงาน สังคม และการเงิน นายเวรพวกนี้จะเป็นผู้กำหนดให้เราต้องเป็นไปตามที่เขาจะให้เกิดต่อเรา ทั้งหนักและเบา แล้วแต่นายเวรจะเป็นผู้กระทำ
    2.นายเวรนอกตัว เป็นพวกที่เรกระทำให้เขาเช่นข้อที่1 แต่เขาได้มาเกิดก่อนเรา จึงไม่ต้องแปลกใจว่า อยู่ ๆทำไมจึงไม่ถูกชะตากัน ไม่เคยเห็นหน้าเลยื อยู่ ๆก็เข้ามาทำร้ายเรา แกล้งเรา หรือฆ่าเรานั้นเอง
    ดังนั้น ทุกคนจึงมีนายเวรกันทุกคน แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็หนีไม่พ้นนายเวร เพราะนายเวรของพระพุทธองค์ได้โกรธแค้นพระองค์ท่านโดยการใช้มือกำทรายแล้วประกาศว่าจะขอจองเวรต่อพระองค์ท่านเท่าจำนวนเม็ดทรายในกำมือ จะเห็นได้ว่า นายเวรท่านมีทั้งในตัวและนอกตัว ทางเดียวที่พ้นได้ก็คือพระปรินิพพาน (การไม่กับมาเกิดอีกแล้วนั้นเอง หากเป็นคนธรรมดาก็คือนิพพาน เช่นหลวงตามหาบัว ฯลฯ ) ชูกชก เทวทัต ต่างก็เป็นนยเวรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครับ
    สรุปเจ้ากรรมนายเวร ไม่เคยทำให้เราได้ดี มีแต่คอยจะกลั่นแกล้งให้เราทั้งร่างกาย จิตใจ เงิน งาน สังคม ครอบครัว สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    เจ้ากรรม นายเวร ..

    หากหมายถึง มีบุคคลที่สามที่คอยส่งวิบากกรรม(ผลกรรม)ให้เรานั้นถือเป็นมิจฉาทิฐิ เพราะเรื่องกรรมเวรจัดอยู่ในหมวดอจินไตยซึ่งยากต่อการเข้าใจด้วยความคิด
    ฉนั้นเรื่องเจ้ากรรมนายเวรนี้ก็คือเรา ตัวเรา เป็นผู้กระทำ และได้รับผลจากการกระทำนั้นๆ ไม่ช้าก็เร็ว ไม่พร้อมกัน ก็ทยอยกันมา
     

แชร์หน้านี้

Loading...