เครื่องขัดกิเลส

ในห้อง 'พระไตรปิฎก' ตั้งกระทู้โดย Gemini Saga, 1 ธันวาคม 2012.

  1. Gemini Saga

    Gemini Saga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +216
    เครื่องขัดกิเลส
    ใน สัลเลขสูตร มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
    เครื่องขัดสิ่งต่างๆ ที่เห็นได้ด้วยตา ก็เพื่อให้สิ่งนั้นๆ สะอาด หมดจด มีแสง มีเงา น่าดู น่าชม น่าประดับ เครื่องขัดกิเลสแม้ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา ก็เพื่อให้จิตสะอาด หมดจด สงบ สว่าง เยือกเย็น แต่จะนำเครื่องขัดในภายนอกไปขัดกิเลสหาได้ไม่ เมื่อประสงค์จะขัดกิเลส ก็ต้องใช้เครื่องขัดที่คู่ควรกัน จิตที่หมดจดดีแล้ว จักพ้นจากเครื่องเศร้าหมอง สะอาด หมดจด มีแสง มีเงา สงบ สว่าง เยือกเย็นและแสดงอาการออกมาให้ปรากฏทางกาย ทางวาจา ล้วนแต่เป็นคุณ ไร้โทษ ให้สำเร็จประโยชน์ทั้งสามตามลำดับ จึงควรขัดกิเลสด้วยเครื่องขัด ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในสัลเลขสูตร โดยใจความตามประสงค์รวม ๔๔ ประการ
    ๑. เขาจักเป็นผู้เบียดเบียนกัน เราจักไม่เป็นผู้เบียดเบียนกัน.
    ๒. เขาจักฆ่าสัตว์มีชีวิต เราจักเป็นผู้เว้นไกลจากการฆ่าสัตว์มีชีวิต.
    ๓. เขาจักถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ เราจักเป็นผู้เว้นไกลจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้.
    ๔. เขาจักไม่ประพฤติพรหมจรรย์ เราจักประพฤติพรหมจรรย์.
    ๕. เขาจักพูดเท็จ เราจักเป็นผู้เว้นไกลจากการพูดเท็จ.
    ๖. เขาจักพูดส่อเสียด เราจักเป็นผู้เว้นไกลจากการพูดส่อเสียด.
    ๗. เขาจักพูดคำหยาบ เราจักเป็นผู้เว้นไกลจากการพูดคำหยาบ.
    ๘. เขาจักสำรากเพ้อเจ้อ เราจักเป็นผู้เว้นไกลจากการพูดสำรากเพ้อเจ้อ.
    ๙. เขาจักแพ่งเล็งอยากได้ เราจักไม่แพ่งเล็งอยากได้.
    ๑๐. เขาจักมีจิตพยาบาท เราจักมีจิตไม่พยาบาท.
    ๑๑. เขาจักมีความเห็นผิด เราจักมีความเห็นถูก.
    ๑๒. เขาจักมีความดำริผิด เราจักมีความดำริถูก.
    ๑๓. เขาจักพูดผิด เราจักพูดถูก.
    ๑๔. เขาจักทำการงานผิด เราจักทำการงานถูก.
    ๑๕. เขาจักเลี้ยงชีวิตผิด เราจักเลี้ยงชีวิตถูก.
    ๑๖. เขาจักพยายามผิด เราจักพยายามถูก.
    ๑๗. เขาจักระลึกผิด เราจักระลึกถูก.
    ๑๘. เขาจักตั้งใจไว้ผิด เราจักตั้งใจไว้มั่นถูก.
    ๑๙. เขาจักมีความรู้ผิด เราจักมีความรู้ถูก.
    ๒๐. เขาจักมีจิตพ้นผิด เราจักมีจิตพ้นถูก.
    ๒๑. เขาจักมีความคร้านกาย และง่วงงุนกลุ้มรุม เราจักปราศจากถีนะและมิทธะ.
    ๒๒. เขาจักมีจิตกำเริบฟุ้งซ่าน เราจักมีจิตไม่กำเริบฟุ้งซ่าน.
    ๒๓. เขาจักมีวิจิกิจฉาสงสัยเคลือบแคลง เราจักข้ามพ้นวิจิกิจฉา.
    ๒๔. เขาจักมักขึ้งโกรธ เราจักไม่มักขึ้งโกรธ.
    ๒๕. เขาจักผูกโกรธไว้ เราจักไม่ผูกโกรธไว้.
    ๒๖. เขาจักลบหลู่คุณท่าน เราจักไม่ลบหลู่คุณท่าน.
    ๒๗. เขาจักดีเสมอ คือ ยกตนข่มท่าน เราจักไม่ตีตัวเสมอ คือยกตนข่มท่าน.
    ๒๘. เขาจักริษยาความดีของผู้อื่น เราจักไม่ริษยาความดีของผู้อื่น.
    ๒๙. เขาจักตระหนี่หวงทรัพย์ของตน เราจักไม่ตระหนี่เหนียวแน่น.
    ๓๐. เขาจักโอ้อวด เราจักไม่โอ้อวด.
    ๓๑. เขาจักมีมารยาทหลอกลวง เราจักไม่มีมารยาทหลอกลวง.
    ๓๒. เขาจักมีมานะถือตัวเกินไป เราจักไม่มีมานะถือตัวเกินไป.
    ๓๓. เขาจักกระด้างดื้อดึง เราจักไม่กระด้างดื้อดึง.
    ๓๔. เขาจักเป็นผู้ว่ายาก เราจักเป็นผู้ว่าง่าย.
    ๓๕. เขาจักมีคนชั่วเป็นมิตร เราจักมีคนดีเป็นมิตร.
    ๓๖. เขาจักเป็นผู้ประมาทเลินเล่อ เราจักเป็นผู้ไม่ประมาทเลินเล่อ.
    ๓๗. เขาจักไม่มีศรัทธาเชื่อกรรมเชื่อผล เราจักศรัทธาเชื่อกรรมเชื่อผล.
    ๓๘. เขาจักไม่มีความละอายใจอดสูในการทำความชั่ว เราจักมีใจละอายความชั่ว.
    ๓๙. เขาจักไม่สะดุ้งเกรงกลัวในกรรมชั่ว เราจักสะดุ้งเกรงกลัวในกรรมชั่ว.
    ๔๐. เขาจักเป็นผู้สดับศึกษาน้อย เราจักเป็นผู้สดับศึกษามาก.
    ๔๑. เขาจักเป็นผู้เกียจคร้าน เราจักเป็นผู้ขยันหมั่นเพียร.
    ๔๒. เขาจักเป็นผู้ฟั่นเฟือนเลือนหลง เราจะเป็นผู้มีสติดำรงมั่น.
    ๔๓. เขาจักเป็นผู้มีปัญญาต่ำทราม เราจักเป็นผู้มีปัญญาสมบูรณ์.
    ๔๔. เขาจักเป็นผู้ถือตามความเห็นของตน และถือรั้นและอันผู้ถือตามความเห็นของตน และไม่ถือรั้น และอันผู้อื่นให้สละคืนได้ง่าย.
    เครื่องขัดเหล่านี้เป็นเครื่องขัดกิเลส ที่เขาไปปิดบังกั้นจิตไว้ มิให้แสดงตัวปกติจิตออกมา เมื่อกิเลสชนิดใดเข้าไปผสมกับอารมณ์ กิเลสชนิดนั้นก็แสดงอาการออกมาทางวาจา หาใช่จิตไม่ เมื่อได้ใช้เครื่องขัดเหล่านี้ขัดกิเลส อย่าให้เข้าไปปิดบังกั้นจิตไว้ได้แล้ว จิตก็จะแสดงอาการปกติออกมาให้เห็นเป็นธรรมะ ฝ่ายกิเลสที่ไปผสมกับอารมณ์ก็จะแสดงอาการออกมาเป็นอธรรม ที่เปรียบเหมือนดวงอาทิตย์ ตามปกติของดวงอาทิตย์มีแสงสว่างในตัว แต่บางครั้งเมื่อถูกเมฆหมอกเข้าปิดบัง ก็มองไม่เห็นดวงอาทิตย์ เห็นแต่สิ่งที่เข้าปิดบังไว้นั้น แม้แต่จิตก็น่าจะเป็นทำนองเดียวกัน เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องขัดเหล่านี้ทำลายเครื่องกั้นจิต คือ กิเลส ครั้นทำลายเครื่องกั้นจิตได้แล้ว จิตก็จักแสดงตัวจริงให้เห็น เป็นแสง เป็นเงา เป็นรัศมี มีความบริสุทธิ์ผ่องดุจทองคำธรรมชาติ เป็นธรรมะ ตรงกันข้ามกับอธรรม จึงควรใช้เครื่องขัดเหล่านี้ขัดกิเลสเหมือนขัดสนิม เมื่อขัดกิเลสหมดไปเพียงใด อธรรมก็หมดไปเพียงนั้น ธรรมะก็เข้ามาแทนที่ ธรรมานุภาพก็คุ้มครองรักษาจิต ให้แสดงอาการออกมาเป็นธรรมะ ดังที่สาธกมานั้นแล.
     
  2. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,673
    กิเลสของเขาเราไม่รู้
    แต่กิเลสของเรามันต้องขัดอีกหลายข้อเลยนะเนี่ย :(
     

แชร์หน้านี้

Loading...