เกิดอะไรขึ้นกับการเพ่งจิต รบกวนท่านผู้รู้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย โคกผักหวาน, 13 ธันวาคม 2007.

  1. โคกผักหวาน

    โคกผักหวาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +1,041
    เมื่อประมาณสองอาทิตย์เศษๆ ได้ตกลงกับน้องที่อยู่ในหมู่บ้าน ว่าจะไปใส่บาตรที่วัดป่าแห่งหนึ่ง
    ซึ่งต้องออกเดินทางเช้าพอสมควร คือต้องออกจากบ้านประมาณตี 5 เศษ
    เราตื่นขึ้นมาประมาณ ตี5.15 นาที ก็โทรไปถามว่า น้องเขาตื่นหรือยัง เขายังงัวเงีย ตอนที่รับโทรศัพท์
    ในช่วงถัดมาเราก็เข้าห้องน้ำเตรียมอาบน้ำ เราก็เพ่งจิต รู้สึกว่าตอนนั้นจิตแรงมาก ไปที่น้องเขาว่าเขาจะหลับต่อหรือว่าตื่นขึ้นมาเตรียมพร้อมแล้ว พอเราทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปหาน้องเขาที่บ้าน
    น้องเขาเล่าให้ฟังว่าผีหลอกเขา ช่วงที่เขาตื่นขึ้นมา แล้วอาบน้ำเสร็จ เขาเห็นเราโบกมือเรียกอยู่ที่หน้าบ้าน (เวลาประมาณ 5.20)(ซึ่งเป็นช่วงที่เราเพ่งจิตอยู่พอดี) เขารีบวิ่งออกมาจะบอกให้รอ
    ปรากฏว่า ตัวเราได้หายไปแล้ว เขาเลยคิดว่าคงต้องเป็นผีแน่ๆ เราได้ซักถามเขาว่าตาฝาดหรือเปล่า
    เขาบอกเห็นชัดเจนเลยว่าเป็นเรา
    ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายให้ฟังทีว่าเกิดอะไรขึ้นครับ ขอบคุณครับ
     
  2. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ผู้น้อยอยากจะขอกล่าวนะคะ
    ที่จะกล่าว มิใช่ผู้รู้นะคะ เพียงแต่เป็นความเห็นส่วนตัว

    จิตของเรา ไม่จำเป็นต้องเป็นดวงหนึ่งดวงเดียวอยู่กับร่างกายเนื้อหนังของเราค่ะ
    บางครั้งถ้าเรานึกถึงใครสักคน จิตเราบางส่วนก็อาจจะไปอยู่ที่นั่นได้โดยที่เราไม่ได้นึกคิดมาก่อน(บางคนก็คิดว่าผี)

    จิตของเรา มีความสามารถที่แรงมากๆค่ะ...
    จะสร้างภาพ(ฝัน) จะสร้างฉาก จะทำให้สิ่งรอบกายเราเป็นอย่างไรก็ได้..

    นี่เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วๆไปก็ยังไม่ค่อยรู้ค่ะ

    แต่รู้ไว้สิ่งหนึ่งว่า...จิตของคุณ "โคกผักหวาน"(น่าอร่อยอ่ะ ^^)
    ค่อนข้าง...(ใช้คำไม่ถูกอ่ะค่ะ) คือ..จิตแข็งแรงอ่ะค่ะ ^^

    ไม่ต้องตกใจค่ะ นี่เป็นเรื่องปกติ ที่เกิดขึ้นเสมอๆในเอกภพ ^^
     
  3. โคกผักหวาน

    โคกผักหวาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +1,041
    ขอบคุณคุณ mamboo ที่ให้ความเห็น

    แต่ก่อนหน้านี้อาการจะแตกต่างออกไป คือตอนนอนพอเคลิ้มๆ จิตจะหลุดออกจากร่างเป็นประจำ
    พอหลุดออกมาก็จะลอยติดเพดาน เห็นตัวเองนอนอยู่อยากจะเข้าร่างก็เข้าลำบากเหมือนติดสปริง เด้งระหว่างเพดานกับร่าง บางครั้งก็ลอยทะลุเพดานออกไปบนท้องฟ้า เป็นบ่อยมาก
    ก็พยายามคิดในแง่วิทยาศาสตร์ มีครั้งหนึ่งจิตหลุดออกมาเดินออกจากห้องเห็นพี่สาวเพื่อนเข้ามาที่ชานบ้านกำลังล้างเท้าอยู่ และเดินเข้าห้องครัว
    พอกลับเข้าร่างก็เลยถาม ลักษณะการเดินเข้ามา การล้างเท้า การเข้าห้องครัว ปรากฏว่าตรงกับที่เห็นทุกอย่างครับ
     
  4. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    เป็นมโนมยิทธิน่ะครับ เหมือนอย่างพระจูฬปันถกที่เนรมิตร่างได้มากมายให้คนเห็น(ไม่ใช่ร่างจริงนะครับ เป็นร่างที่เกิดจากจิต) แบบของคุณจะต่างจากการถอดจิตของตนออกจากร่างไปหมด จะเรียกว่าเป็นการแบ่งจิตไปก็ได้ครับ

    ถ้าเราแค่เพ่งจิตไปล้วนๆไม่ได้กำหนดอะไร(อาจจะมีเป้าหมายในใจอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ไม่ได้กำหนดจิตสร้างรูปร่างขึ้นมา) รูปร่างที่คนอื่นเห็นก็จะแตกต่างกันไปตามความสามารถในการรับรู้ของคนอื่น ส่วนใหญ่เหตุการณ์นี้มักจะเกิดโดยบังเอิญ เมื่อเหตุปัจจัยต่างๆเหมาะเจาะลงตัวพอดี ไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งที่เราเพ่งจิตไปหาใคร บางทีก็ต้องอาศัยความผูกพันรวมถึงจิตของผู้รับด้วยจึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้

    แต่ผมเคยอ่านเจอในหนังสือว่าในธิเบตมีผู้ฝึกฝนวิชานี้โดยเฉพาะจนสามารถทำให้คนอื่นเห็นรูปร่างรวมถึงบังคับการเคลื่อนไหวของร่างเนรมิตนี้ให้ผู้อื่นเห็นได้ตามต้องการเลยทีเดียวครับ วิธีการฝึกพวกเขาจะฝึกสร้างรูปร่างคนขึ้นมา ตอนแรกสร้างในใจก่อน ฝึกฝนมากเข้าจนกระทั่งลืมตาก็มองเห็น จากนั้นก็ค่อยๆฝึกบังคับให้เคลื่อนไหว เมื่อกำลังจิตกำลังสมาธิมีมากขึ้น มวลรวมของร่างเนรมิตนี้จะเข้มข้นขึ้นจนแม้แต่คนธรรมดาทั่วไปก็มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าครับ(แต่มีคนฝึกสำเร็จน้อยมากเลย เพราะต้องอาศัยเวลาและความอดทนในการฝึกฝนมากมายทีเดียวครับ)
     
  5. โคกผักหวาน

    โคกผักหวาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +1,041
    ขอบคุณคุณ wit ที่ได้กรุณาอธิบายชี้แจงครับ
     
  6. โคกผักหวาน

    โคกผักหวาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +1,041
    ไปเจอบทความ คล้ายๆกับเหตุการณ์ที่เจอมา


    เจตภูต

    ขนหัวลุก

    ใบหนาด



    "ใบไผ่" เล่าเรื่องขนหัวลุกเมื่อเจตภูตมาเยือน

    ดิฉันทำงานที่บริษัทใหญ่โตมากๆ แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ถ้าเอ่ยชื่อออกไปรับรองว่าทุกท่านต้องร้อง อ๋อ....แน่ๆ เลยค่ะ!

    เป็นงานเกี่ยวกับโทรคมนาคม สถานที่ทำงานของเราอยู่ในตึกใหญ่ มีหลายสิบชั้นหลายแผนก ดิฉันเป็นเลขาฯ ของผู้บริหารระดับสูงท่านหนึ่ง ท่านต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมาก แทบจะทุกเดือนก็ว่าได้

    ครั้งหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้ ก็เกิดเรื่องประหลาดที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้

    เวลานายไม่อยู่ ดิฉันก็ไม่ใช่จะว่าง นั่งตีพุงสบายอารมณ์หรอกนะคะ ถึงยังไงก็ต้องติดต่อประสานงานกับแผนกอื่น เพื่อไม่ให้งานชะงักหรือติดขัด นายจะสั่งงานมาจากเมืองนอกเสมอๆ ท่านเป็นคนขยันมากค่ะ

    เมื่อต้นปีที่แล้ว นายต้องไปประชุมที่ยุโรป....

    คราวนี้ไปหลายวันเชียวล่ะค่ะ เกือบสองสัปดาห์แน่ะ ดิฉันจัดเตรียมเอกสาร ติดต่อเรื่องตั๋วและที่พักจนเรียบร้อย...เหนื่อยแต่ก็สนุกนะคะ พอนายออกเดินทางไปแล้ว ดิฉันอยู่ทางนี้ ยังต้องร่วมประชุมกับแผนกอื่นหลายครั้ง จริงๆ แล้วบรรดาเลขาฯ ทั้งหลายต่างรู้จักกันดี และให้ความร่วมมือกันอย่างน่าประทับใจ

    วันนั้นดิฉันจำได้ มันเป็นวันที่นายใกล้จะเดินทางกลับมาแล้ว...

    ดิฉันย้ำกับคนรถประจำตำแหน่งของท่าน เรื่องวัน-เวลา ที่ต้องไปรับท่านที่สนามบิน จากนั้นก็นั่งเตรียมหมายกำหนดการและเอกสารการประชุมครั้งต่อไป...ขณะนั้นเองจุ๋งก็เดินเปิดประตูเข้ามา แล้วทำหน้าตาเป๋อเหลอเชียว

    "จุ๋ง" เป็นเลขาฯ ของผู้บริหารอีกแผนกหนึ่ง ซึ่งอยู่ถัดลงไปจากชั้นที่ดิฉันอยู่ถึง 3 ชั้น

    "อ้าว? ท่านไปไหนเสียแล้วล่ะ?"

    เธอถามเบาๆ ทำเอาดิฉันต้องเหลียวซ้ายแลขวาบ้าง ก่อนจะย้อนถามกลับไปว่า "ท่านไหน?"

    "ก็...นายของพี่ไงล่ะ! คำตอบของเธอทำให้ดิฉันมึนไม่น้อย

    "ท่านยังอยู่ที่ฝรั่งเศสแน่ะ พรุ่งนี้ถึงจะกลับ จำไม่ได้เรอะ?"

    จุ๋งทำหน้าแปลกๆ มองดิฉันด้วยแววตางุนงง ก่อนจะพูดโพล่งด้วยเสียงมั่นใจ

    "ท่านมาแล้ว! เมื่อกี้จุ๋งยังคุยกับท่านเลย"

    เอาละซิ! ดิฉันวางปากกา นั่งตัวตรงขึ้นทันที แล้วยังเผลอหลุดปากอุทานว่า...เฮ้ย!...มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ เออ...หรือจุ๋งจะล้อเล่น

    "อำพี่ละซิจุ๋ง แหม...ไม่มีอะไรจะเล่นแล้วเหรอ ว่างมากหรือจ๊ะ?"

    "อำอะไรล่ะพี่?" จุ๋งพูดเสียงหนักแน่น "เมื่อกี้ท่านเจอกับจุ๋งที่ลิฟต์ชั้นสอง"

    ดิฉันแน่ใจว่าเธอจำคนผิด หรือไม่ก็ฝันกลางวัน แต่จุ๋งยืนยันได้พบท่านจริงๆ ยังยืนคุยกันตั้งนานขณะรอลิฟต์

    ...ท่านสวมเสื้อเชิ้ตสีครีมลายฟ้าอ่อน หน้าตาสดใส และคุยว่าที่ฝรั่งเศสหนาวมาก...พอลิฟต์มาถึงก็ปรากฏว่าคนเต็ม ท่านเลยก้าวเข้าไปคนเดียว ส่วนจุ๋งจะรอเที่ยวต่อไป แต่ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด ท่านบอกว่าให้จุ๋งขึ้นมาหาดิฉันหน่อย เพื่อประสานงานเรื่องประชุม

    ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ เพราะจุ๋งพูดอย่างจริงจังมาก และทำท่าว่ามีพยานรู้เห็น...อย่างน้อยก็คนในลิฟต์พวกนั้น!

    เป็นไปไม่ได้! ดิฉันงงมาก โทรศัพท์ไปถามคนรถ เขาก็ไม่รู้เรื่องว่าท่านมา บอกว่างงพอๆกับดิฉัน และเมื่อสอบถามไปที่บ้านของท่าน สาวใช้ก็บอกว่าท่านยังไม่กลับ

    จุ๋งเห็นใครๆ? ถ้าเธอเห็นนายดิฉันจริง...ป่านนี้ท่านเป็นอะไรไปหรือเปล่า?

    ดิฉันพยายามต่อโทรศัพท์ไปหาท่าน แต่ท่านปิดมือถือซะนี่!

    จุ๋งยืนยันว่าไม่ได้หลอก เธอเห็นจริงๆ เห็นเป็นตัวเป็นตน ยืนคุยกันเหมือนคนธรรมดา แถมต่อหน้าคนอื่นๆ ด้วย แต่ไม่ปรากฏว่ามีใครเห็นอย่างจุ๋ง

    รุ่งขึ้นตอนค่ำ เครื่องบินก็ลงตามเวลา และนายของดิฉันก็กลับมาตามปกติ ดิฉันถอนใจโล่งอกที่ท่านไม่ได้เป็นอะไร

    เช้าต่อมา ท่านมาทำงานอย่างสดชื่น ไม่มีอาการเหนื่อยอ่อน จุ๋งแอบขึ้นมาดูท่านแล้วก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

    "จุ๋งไม่ได้บ้าหรือประสาทหลอนนะพี่! จุ๋งเห็นท่านมาจริงๆ"

    จนป่านนี้ ดิฉันไม่กล้าปริปากเล่าเรื่องนี้ให้นายฟัง เราได้แต่วิจารณ์กันในหมู่เพื่อนฝูง และพยายามคิดกันหัวแทบแตกว่า...ที่จุ๋งเห็นนั้นคืออะไรกันแน่?

    เป็นไปได้ไหมคะ ว่านายของดิฉันห่วงงานจนกระแสจิตก่อรูปเป็นตัวตน และมาคุยกับจุ๋งเป็นคุ้งเป็นแคว โดยที่นายตัวจริงไม่รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด!

    แบบนี้เขาเรียกว่า "เจตภูต" ได้หรือเปล่าคะ?

    แต่ที่แน่ๆ มันทำให้พวกดิฉันสยองไม่น้อยเลย โดยเฉพาะจุ๋ง เธอกลายเป็นคนขวัญอ่อน แอบมองนายดิฉันอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจยังไงชอบกล

    บอกตรงๆ นะคะ ตอนแรกดิฉันคิดว่าจะเป็นลางตายของนาย...คือเครื่องบินตกหรือเกิดอุบัติเหตุสยองเมื่อกลับถึงเมืองไทย! แต่เวลาผ่านไปเกือบปีแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ถึงยังไงก็อดขนหัวลุกไม่ได้หรอกค่ะ!
     
  7. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    ใช่ครับ เจตภูมิ

    ครูบาอาจารย์ที่ท่านมีกำลังมาก มีฤทธิ์มาก ท่านจะแยกจิตอีกส่วนมาคุ้มครองดูแลเราตลอดเวลาครับ...

    ไม่ต้องห่วงครับ การแยกจิตทำได้เป็นล้านๆไม่จำกัดครับ เป็นเรื่องของฤทธิ์..

    แบบบางองค์ลงมาเกิดจากสวรรค์..แต่ว่าก็ยังต้องอธิษฐานฝากเจตภูมิไว้กับเทพเบื้องบน เพื่อรับกระแส รับงานต่อที่พอทำได้โดยผ่านเจตภูมิ(ซึ่งต้องฝากไว้กับจิตที่ยังไม่ได้ลงมาเกิด)..
     
  8. อ่อนต่อโลก(ธรรม)

    อ่อนต่อโลก(ธรรม) สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +8
    อนุโมทนาครับ

    _________________________

    สุขอื่นยิ่งกว่า ความสงบไม่มี
     

แชร์หน้านี้

Loading...