อ่ะไรคือสิ่งที่สร้างจิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย tunotun, 27 มีนาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
  1. tunotun

    tunotun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +79
    อยากทราบว่าดวงจิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เช่นมนุษย์ สัตว์ เทพ ผี สัตว์นรกทั้งหลาย ทั้งหมดในจักวาลทั้งที่ยังเกิดและยังไม่เกิด อยากทราบว่ามีอยู่ทั้งหมดกี่จิตกี่จำนวน สามารถนับได้ไหม แล้วอ่ะไรคือสิ่งที่คอยสร้างดวงจิตให้มาเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ รบกวนผู้รู้แนะด้วยครับ



    ขอบคุณครับ
     
  2. บุคคลไปทั่ว

    บุคคลไปทั่ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +106
    โห..เล่นงี้เลยเหรอ:'(
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    เอ จำนวนนี่ ก็ยากส์นะ ไม่มีใครเคยบอก

    แล้วเรือง ใครสร้างนี่ก็ยากส์นะ เพราะไม่มีใครบอกเหมือนกัน

    แต่

    .....มีข้อสังเกตบางประการ ผมสดับมาแบบนี้....

    จิตใครเป็นผู้สร้างกำหนดให้ตกอยู่ในวัฏสงสารนี้ ไม่มีใครชี้
    แต่ ทว่า จิตนี้ก้าวข้ามพ้นวัฏสงสารได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนี่
    มีผู้ชี้ไว้

    ทีนี้ หากจิตสามารถก้าวข้ามพ้นวัฏสงสารได้ ก็ต้องแปลว่าก้าว
    ข้ามพ้นอำนาจผู้สร้างนั้นด้วย ถ้าผู้สร้างจะมี แต่ถ้ามีจริงๆก็ไม่
    น่าจะก้าวข้ามพ้นเป็นอิสระได้ เพราะการเป็นอิสระนั้น ท่านผู้นั้น
    บรรยายไว้ว่า "ไม่มีไป ไม่มีมา" คือ "ไม่มีมาก่อน มาหลัง" ความ
    พ้นนั้นจึงเป็นอิสระอย่างแท้จริง ไม่ใช่พ้นไปแล้วไปจ๊ะเอ๋ผู้มาก่อน

    เช่นนี้ ก็น่าจะแปลว่า ผู้สร้างนั้นไม่มี ไม่มีแม้อำนาจหน่วงรั้ง
    เราไว้ได้ ทั้งนี้เพราะผู้บอกทางกล่าวว่า เป็นเพราะ "ความไม่ยึดมั่น
    ถือมั่นทั้งปวง" แม้หนทางที่กล่าวขึ้นนี้ ชี้นี้ ท่านก็ไม่ยึดมันถือมั่นด้วย
    จึง "ก้าวข้ามพ้นได้ อย่างบริสุทธิหมดจด" ประกาศพรหมจรรย์ได้เต็มที่

    ท่านผู้ชี้นั้น ท่านก็เรียกตัวท่านเองว่า "เป็นเพียงผู้ชี้ทาง(ตถาคต)" ด้วย
    คือไม่ได้แสดงว่ามีอำนาจบงการใดๆต่อผู้สดับเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2010
  4. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อาจิณไตย คือ อะไรก็เท่านั้น
     
  5. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    คิดไม่ออกหรอกครับ มันอยู่เหนือปัญญาของเราๆท่านๆทั้งหลาย

    ผมก็เคยสงสัยอยากรู้นะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ไม่ต้องไปคิด ดีที่สุดครับ
     
  6. ปรานต์

    ปรานต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +668
    เคยอยากรู้ แต่ปัจจุบันนี้ขอรู้เรื่องตัวเองอย่างเดียวพอ
     
  7. tunotun

    tunotun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +79
    อ่อ


    ขอบคุณมากครับ
     
  8. ผู้เห็นภัย

    ผู้เห็นภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +476
    ถ้าท่านเจ้าของกระทู้ถ้าขยันนะครับ ลองไปค้นดู ในพระไตรปิฏกเกี่ยวกับการกำเนิดของโลก มีกล่าวไว้
    แต่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า เป็นเรื่องอจิณไตย คือเป็นเรื่องที่ไม่ควรคิด เพราะจะทำไห้คนที่คิดมีส่วน เป็นบ้าได้ เพราะคิดยังไง ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ ก็จะทำไห้เป็นโรคประสาทได้

    เท่าที่ผมจำได้นะครับ ที่พระไตรปิฏกกล่าวไว้ ที่ได้ศึกษามา ท่านผู้รุ้ ท่านบอกไว้ว่า จิตนี่ มีลักษณะพิเศษ คือเป็นธาตุรู้ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ไม่มีวันสิ้นสลาย หรือหายไปได้ จะดำรงคงอยู่ ตลอดไป แต่จะเปลียนไปตามสภาวะต่างๆ ขึ้นอยู่กับกฏของกรรม คือการกระทำที่ได้ทำ

    ในพระไตรปฏกก็จะไปตรงกับนักวิทยาศาตร์ ได้บอกไว้ว่า การกำเนิดของสิ่งมีชีวิตบนโลกนั้นมนุษย์ นักวิทยาศาตร์ บอกไว้ว่า การเกิด ของสรรพสิ่งที่มีชีวิต บนโลก เกิดจากเซล เซลเดียว แล้วก็มีการพัฒนา มีการวิวัฒ

    ทางพระพุทธศาสนา ก็เช่นกัน กล่าวถึงจิต การเกิด เกิดจากอณูที่เล็กมาก อณูเดียว แล้วก็มีการพัฒนา แล้วเจ้าอณู

    หรือเจ้าธาตุพิเศษ หรือจิตนี่ เกิดขึ้นแล้ว ไม่วันสูญสลาย จิตเนี่ป็นธาตุรู้พิเศษ

    ที่เหลือลองไปค้นคว้า หาต่อเอานะครับ อ่านเป็นความรู้นะครับ เรื่องนี้ ว่าเฉพาะการ

    กำเนิดของจิต ( อย่าลืม นึกถึงคำว่าอจิณไตยกำกับไว้ด้วยนะครับ)

    ถ้าอยากรู้ไห้มากจริงๆ อยากรู้ต่อ ของอดีต หรือที่มาที่ไปจริงๆ ก็ต้อง ไช้

    อดีตังญาณ คือ ญาณ ที่สามารถ ระลึกรู้อดีตย้อนหลังได้ ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกสมาธิ

    ทษฏีนะครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรืออดีตที่มา ไม่ได้หายไปไหน แต่ยังอยู่ ในมิติของจักรวาล แต่เรา ไม่รู้ว่าวิธี ว่าจะทำอย่างไรจึงจะ

    เข้าไปรู้ไปเห็นได้เท่านั้นเอง (สรุป เจ้าจิต หรือธาตุรู้พิเศษนี่เกิดขึ้นเอง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2010
  9. ้StreetWise

    ้StreetWise Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +81
    ถาม พระอรหันต์ ท่านยังไม่รู้ เลย แต่ถึงกระนั้นท่านก็ ไม่ทุกข์ ที่ไม่รู้ว่า จิตทั้งหมดในสากลจักรวาลมีกี่ ดวง
     
  10. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    http://palungjit.org/threads/สัตว์น...์บังเกิดในที่ไหน-สัตว์ดับไปในที่ไหน-ฯ.232950/

    ความจริงทุกข์เท่านั้นย่อมเกิด ทุกข์ย่อมตั้งอยู่ และเสื่อมสิ้นไป
    นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรเกิด นอกจากทุกข์ ไม่มีอะไรดับ ฯ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2010
  11. daruma

    daruma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +533
    กรรมไงคับคุณ กรรมที่คุณได้กระทำมาในอดีต ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว
    ทำไว้อย่างไร ย่อมส่งผมให้เป็นไปอย่างนั้น
    สา...ธุ
     
  12. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    จะชี้ว่าเป็นเพราะ กรรม ก็ดูเหมือนจะไม่ถูกนัก

    คุณเคยได้ยิน "อโหสิกรรม" ไหม อโหสิกรรม นี่ก็คือ กรรมชนิดหนึ่ง แต่
    กรรมชนิดนี้หากมีแล้ว ชื่อว่ามีแล้ว กรรมชนิดนี้จะไม่ส่งผลให้ไปเป็นสัตว์

    ดังนั้น การจะกล่าวฟันธงว่าเป็นเพราะ "กรรม" ก็ต้องระมัดระวัง เพราะจะ
    ทำให้กลายเป็นลัทธิสะสมกรรม โดยเฉพาะกรรมขาว หรือ ไม่กระทำกรรม
    (สะสมการไม่กระทำ)

    จริงๆแล้ว ต้องมองเข้ามาที่ หลัก "เหตุปัจจัย" หรือ "อธิปัจจัยตา" จะทำ
    ให้คมชัดขึ้น
     
  13. daruma

    daruma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +533
    อ้อ.... ผมคงอธิบายกว้างไปหรือไม่ก็แคบไป ขออภัยด้วยผผมใช้ภาษาไม่เก่งคับ ขอบคุณที่ชี้แนะ บุญรักษา สา.....ธุ
     
  14. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    เจอคนกล้า ก็ขออนุญาติลับให้คม

    อนุโมทนาครับ
     
  15. daruma

    daruma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +533
    ขอบคุณนะคร้าบบบบบบบ อนุญาติให้ลับให้คม แต่อย่าลับให้บิ่นให้ทื่อนะคับ
    ล้อเล่นนา.....
    โมทนาด้วยคับ สา....ธุ
     
  16. Nothing Eternal

    Nothing Eternal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +654
    คำถามที่ท่านถาม ลักษณะคล้ายๆอย่างนี้ เคยมีพระสาวกถามพระพุทธองค์ท่านแล้วครับ

    บางท่านถามไปถึงกำเนิดของจักรวาล และอีกหลายๆอย่าง (ผมจำได้ไม่ละเอียด)

    ท่านก็เมตตาตอบให้ครับ แต่ท่านตรัสว่า เป็น อจิณไตย อย่างที่ท่านข้างบนกล่าว

    คือ เป็นสิ่งที่ไม่ควรคิด หรือ พ้นไปจากความคิด (ความหมายตามพจนานุกรม)


    ท่านเทศน์ให้ฟังได้ แต่เป็นสิ่งที่พ้นวิสัยที่คนทั่วๆไปจะทำความเข้าใจให้กระจ่างได้

    ท่านเทศน์ไปก็ไม่เกิดประโยชน์กับมรรคผล ท่านจึงไม่ได้สอนครับ


    อุปมาเหมือน เรามีโอ่งใบเล็กๆ แต่ไปขอให้พระองค์ท่านเทน้ำทั้งมหาสมุทรใส่

    ถึงท่านจะเมตตาเทน้ำให้ แต่ภาชนะของเราก็จะรับได้ไม่หมด จึงเป็นเรื่องที่เสียเปล่า

    (อันนี้ไม่ได้ว่า ว่าคนเราโง่นะครับ แต่ต้องยอมรับว่า มันพ้นวิสัยการเรียนรู้ของเราจริงๆ)

    ไม่ต้องดูอื่นไกลหรอกครับ ทฤษฎีของไอน์สไตน์ ฝรั่งมันยังเข้าใจไม่กระจ่างทั้งหมดเลย

    ดังนั้น การจะไปรู้เรื่องอจินไตยที่มีความลึกซึ้งขนาดนั้น คงต้องปรารถนาพุทธภูมิล่ะครับ


    ที่จริงมีอีกหลายวิชาครับที่พระพุทธเจ้าท่าน"ไม่ทรงสอน" ไม่ใช่แค่เรื่องอจินไตย

    พวกเดรัจฉานวิชาต่าง ท่านก็ทรงทราบ แต่ไม่ทรงสอนครับ เพราะไม่เอื้อต่อมรรคผล

    (อ้างอิง จาก ติรัจฉานกถาสูตร ไปหาอ่านได้ครับ ว่ามีอะไรบ้าง)


    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  17. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    834
    ค่าพลัง:
    +1,524
    จิตแท้ๆ ไม่มีผู้สร้าง เป็นเช่นนั้นเอง แต่โลกของวัตถุและพลังงานในสามภพ เกิดจากสิ่งหนึ่ง สิ่งนี้คือพลังงานอันมหาศาลที่อยู่เบื้องหลังสรรพสิ่งและดำรงอยู่ในสรรพสิ่งในอนันตจักรวาลด้วยในขณะเดียวกัน จะเรียกสิ่งนี้ว่าพระเจ้าก็ได้ พลังงานนี้คือแสงไร้รูปอันสุดประมาณ ที่เปี่ยมด้วยความรักและสันติสุข จากจิตอันบริสุทธิ์ว่างเปล่าแต่เดิม ด้วยอวิชชา(ความมืดของมายา) จิตได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับรูปธรรมทางวัตถุและพลังงานในสามภพนี้ แยกตัวตนออกมาเป็นปัจเจก และก่อเกิดเป็นรูปนามต่อๆมา เป็นเทพ เทวดา มนุษย์ สัตว์นรก ซึ่งก็คือสรรพสัตว์ที่มีแก่นแท้เหมือนๆกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 เมษายน 2010
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าพูดถึงจำนวนจิตทั้งหมดในจักรวาล ทั้งที่เกิดแล้วและยังไม่เกิด เราได้ยิน
    มาว่า ผู้ที่ปรารถนาจะบำเพ็ญบารมีเป็นพระพุทธเจ้านั้นมีมากมาย ดุจดั่ง
    เม็ดทรายในมหาสมุทร และก็ขนาดเรื่องเม็ดทรายนี้เรายังไม่มีปัญญานับให้ถ้วน
    ได้ การจะนับจำนวนจิตทั้งหมดในจักรวาลนั้นคงยากยิ่งกว่าการนับเม็ดทรายใน
    มหาสมุทรเป็นไหนๆ ใครจะรู้ได้หนอ...

    เรื่อง สิ่งที่คอยสร้างดวงจิตให้มาเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้
    เราอยากตอบว่า คือ อวิชชา ความไม่รู้
    จิตเพียวๆที่ไม่ประกอบด้วยอวิชชา โดยเนื้อแท้คือธาตุหนึ่ง คือธาตุรู้ พอเข้าคู่กับอวิชชาได้
    (จิต-เจตสิก)ก็เลยเกิดเป็นเรื่องราว มีพัฒนาการสูง มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
    ไม่เที่ยง ไม่คงทน บังคับไม่ได้ ไม่มีเสถียรภาพ เปลี่ยนแปลงขึ้นสูงบ้าง ต่ำลงบ้าง
    ตามแต่วิบากกรรมจะส่งผลถึง

    ความไม่รู้ ทำให้เกิดเป็นอยากรู้ อยากลอง อยากทำ.... มันก็เลยเคลื่อน

    อวิชชา ก็พากันเพลิน สุขก็เพลิน ทุกข์ก็เพลิน เกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็ยังเพลิน
    ถ้ากำจัด อวิชชา ความไม่รู้ ได้แล้ว ก็น่าจะ รู้แจ้ง ในความจริงทุกเรื่อง(อริยสัจ)
    ความไม่รู้ ก็หมดไป กลายเป็นรู้แทน รู้แล้วก็คงหมดสงสัย หมดอยาก หมดนิวรณ์...
    อวิชชา ก็หมดไป ไม่เพลิน ไม่หลง ก็มีสติสัมปชัญญะ ก็ไม่เอา ไม่ยึด ไม่ติด ทิ้งลูกเดียว...

    ถ้าทำได้ ก็น่าจะจบนะ เลิกวนเวียน ทิ้ง ไม่เอา ไม่ยึด ไม่ติด ก็ไม่เคลื่อน ไม่จุติ

    ตอบตาม ตรรกะที่อ่านมานะ ยังติดไม่รู้ ติดเพลิน ยังเพลินเกิดๆ ดับๆ อยู่เหมือนกัน

    ถ้าสนใจเรื่อง ต้นธาตุ ต้นธรรม ธาตุรู้ ก็ลองอ่านนี้ดูนะ แต่จะถูกหรือเปล่า เราก็ไม่รู้นะ
    สนามพลังแห่งมนุษยชาติกับธาตุรู้สากล (Human Morphic Field and Immanent Spiritualness)
    http://universal-signal.com/html/human&universe/human force.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2010
  19. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    น้ำในมหาสมุทรมีกี่หยดครับ..?
     
  20. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    [​IMG]

    ซาหวัดดีคุงบามรูง!!! ณ ชิงไห่

    นี้ก็ผ่านวันที่ 26 พฤศจิกายน 2006 มาหลายนานแล้ว
    มี "ความรุ่งเรื่องเป็นศรีแก่ชน" ใหม่บ้างไหม ฤาหนอ!!!?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...