อารมณ์ที่เกิดกับจิต และวิธีการดับ

ในห้อง 'คำถามที่หลวงพี่เล็กตอบให้แล้ว' ตั้งกระทู้โดย ARAYAN, 15 มิถุนายน 2008.

  1. ARAYAN

    ARAYAN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +86
    <HR align=center width="100%" color=white noShade SIZE=1>
    กราบนมัสการอาจารย์เล็ก

    อยากกราบเรียนถามว่าการที่เราปฏิบัติมาได้สักระยะหนึ่งจิตของเราน่าจะมีความเมตตามากขึ้น เย็นมากขึ้น ใจดีกับผู้อื่นมากขึ้น แต่ทว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองกลับตรงกันข้าม รู้สึกว่าอารมณ์ร้อนขึ้น รุนแรงขึ้น ดุกับคนอื่นมากขึ้น พูดขวานผ่าซากมากขึ้น (หลายๆครั้งต้องระวังระมัดปาก ระมัดคำตัวเอง) ซึ่งก็มองว่าเป็นความคิดที่เป็นฝ่ายอกุศลกรรมที่ต้องใช้กำลังข่มเป็นอย่างมาก ซึ่งยิ่งข่มเท่าไหร่มันเหมือนกับเราต้องทนกับความทุรนทุรายของอารมณ์เหล่านั้น เหมือนกับสัตว์ที่กำลังโดนหอกโดนดาบทิ่มแทง

    นอกจากนี้ยังเห็นเป็นบางครั้งถ้าเป็นอารมณ์กิเลสที่ไม่รุนแรงมากนัก ก็จะรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นสิ่งที่เข้ามากระทบจิต เหมือนกับคนปาก้อนหินเล็กๆ เข้าใส่ทั้งๆ ที่บางครั้งเป็นการล้อเล่นของคนอื่นที่ไม่น่าจะเกิดแรงกระทบได้ มันก็เกิด

    นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกขึ้นมาบ่อยครั้งว่าตัวเอง"รู้มากกว่าคนอื่น" หรือ "ดีกว่าคนอื่น" ซึ่งเข้าใจว่าเป็นอารมณ์ศีลอุปทาน และ อัสสมิมานะที่มันรุนแรงขึ้น จนต้องปรามตนเองบ่อยครั้งว่า ถ้าตนเองดีจริงต้องบรรลุความเป็นอรหัตผลถึงจะดีจริง แต่ก็ข่มมันไม่ลง

    จึงอยากเรียนถามว่าทำไมความคิดที่เป็นฝ่ายลบมันถึงได้มากมายขนาดนี้ แล้วเราจะทำยังไงกับมันดี บางครั้งมันมีความรู้สึกว่าไอ้อาการตามดูตามรู้ใจมันดูเหมือนจะดี แต่มันยังไม่ใช่วิธีที่จะถอนรากถอนโคนกิเลสทั้งหมด จะเทียบกับอารมณ์สังโยชน์ก็รู้แต่ว่ามันยังไม่ผ่าน แล้วก็รู้อยู่แค่นั้นว่ายังมีอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง อยู่เต็มสมอง ก็งงๆ กับตัวเองว่าจะทำยังไงต่อ ไปไม่ถูก ไปไม่เป็น มืดแปดด้าน....: bat:
     
  2. เถรี

    เถรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +6,511
    ขออนุญาตหลวงพ่อเล็ก _/\_ และคุณ ARAYAN แสดงความคิดเห็นนะคะ
    เพราะหนูก็เป็นเหมือนคุณ ARAYAN เลย พบว่าแทนที่มันจะใจเย็นกว่าเดิมแต่ทำไมกลับเห็นมันกระทบอะไรได้บ่อยยิ่งกว่าก่อนๆ เลยมานั่งคิดเองว่า อาจเป็นเพราะเขาพยายามหาช่องทางจะที่ทดสอบเรา อะไรนิดหน่อยก็จะให้เราโกรธเคืองให้ได้ ถ้าเราอดทนมีสติ ไม่เสร็จเขา ให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ เดี๋ยวก็คงจะซาไปเอง
    หรือไม่ก็อาจเป็นอีกประเด็นว่า เมื่อก่อนเราไม่เคยรับรู้ว่าอารมณ์นี้เป็นอารมณ์ที่ไม่พอใจ แต่พอเมื่อเรามาปฏิบัติมากขึ้นกว่าเดิม จิตละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม เลยรับรู้กับสิ่งที่เข้ามากระทบได้ไวกว่าแต่ก่อน และเห็นชัดเจนว่ามันอาการรุนแรงแค่ไหน
    ไม่รู้ว่าเข้าใจถูกรึป่าว อยากฟังคำตอบจากหลวงพ่อเล็กเหมือนกันค่ะ เพราะตัวเองก็เป็นแต่ไม่เคยถาม

    ส่วนความรู้สึกที่ชอบคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น รู้กว่าคนอื่น ก็เป็นเหมือนกันค่ะ เลยมานั่งคิดไปคิดมา อาจเป็นเพราะตัวเราเองปรุงไว้แต่แรกเลยว่าเรารู้อะไรได้มากกว่าคนอื่น ทีนี้พอใครเข้ามาสอนหรือพูดอะไรปุ๊บ มันจะตั้งท่า ตั้งกำแพงขึ้นมาทันทีอย่างรวดเร็วแบบชนิดที่เราห้ามไม่ทัน มันจะคิดว่าตัวฉันเองรู้มากกว่าที่คุณพูดหรือบอกมาอีก แต่พอมาหลังๆความรู้สึกเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนตรงที่ว่า มันไม่คิดว่าตัวเองเก่ง หรือตัวเองไม่เก่ง เพราะมันเหมือนหาอะไรข้างในไม่ได้ รู้สึกว่างๆในใจ ( เป็นแค่เฉพาะบางครั้งเท่านั้นไม่ได้เป็นตลอด) ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้ถูกรึป่าว หากใช่มาถูกทางล่ะก็ หนูก็คิดว่าการวิปัสสนาที่พยายามหาทางคลายจากการยึดร่างกายนั่นแหล่ะค่ะ สามารถช่วยได้ ใช่เลย

    หนูว่าการหมั่นสังเกตใจและตัดร่างกายไปเรื่อยๆมันน่าจะเป็นวิธีที่มาถูกทางแล้วนะคะ เพราะหลวงพ่อเล็กเคยบอกว่า กิเลสมันไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่เราไวกับมันมากกว่าเดิม เรารู้ทันมัน และเราไม่ได้ไปยุ่งกับมัน มันก็เลยทำอะไรกับเราไม่ได้ หนูเชื่อว่าหากเราปฏิบัติตามที่หลวงพ่อฤาษีหรือพระที่ปฏิบัติดีทั้งหลายบอกไปเรื่อยๆ ไวกับมันให้ยิ่งขึ้น จนกระทั่งมันไม่ทันออกฤทธิ์กับเรา เดี๋ยวก็เฉาไปเองแหล่ะค่ะ

    ไม่รู้ว่าสิ่งที่หนูบอกพอจะเป็นกำลังใจให้คุณ ARAYAN ได้บ้างรึป่าว - -" ถือเสียว่ารับฟังเสียงหมูเสียงหมาไปพลางๆก่อน(เพราะหนูก็ยังทำไม่สำเร็จ ต้องประคองตัวเองอยู่ - -") ในระหว่างที่รอคำตอบจากหลวงพ่อเล็ก จะเอาใจช่วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2008
  3. ARAYAN

    ARAYAN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +86
    มันเหมือนไขว้คว้าอากาศ จับไม่ติด สู้กันด้วยร่างกายยังง่ายกว่า แต่ก็ขอโมทนากับคำแนะนำที่ดี....

    สาธุ
     
  4. lukwin

    lukwin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
    เป็นคำถามและคำตอบที่ใช่เลยค่ะเพราะบางครั้งเราก็เป็น
     
  5. SaveMax

    SaveMax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +582
    เมื่อก่อนเราไม่เคยดูมันเลยไม่รู้ เวลาเราดูมันมันก็จะเด่นชัดเราไม่ต้องทำอะไรกับมันเพียงแต่ตามดูมันไปเฉยๆ พอมีสติรู้ทันมันจะดับไปเอง ดูกายดูจิตไปเรื่อยๆ ก็จะรู้ทันธรรมารมย์มากขึ้น มันคือ อาการของจิตที่มัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่ไม่นาน มันดับไป วันหนึ่งๆ เกิด อารมย์ชอบ โกรษ โมโห ไม่พอใจ พอใจ เกิดขึ้นไม่รู้เท่าใด มันมาแป็บเดียว หรืออาจะนานหน่อย แต่ไม่ตั้งอยู่นาน มันต้องดับกันทั้งนั้น จิตตานุปัสสนา จะรู้มันได้ต้องเจริญสติให้มีความรู้ปัจจุบันบ่อยๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...