อานิสงส์อัปปมัญญา ๔ : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 26 กรกฎาคม 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    [​IMG]

    อ า นิ ส ง ส์ อั ป ป มั ญ ญ า ๔
    พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร)
    วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ


    การเจริญ อัปปมัญญาพรหมวิหาร ๔ นั้น เป็นกิจที่ควรกระทำโดยแท้
    เพราะเป็นธรรมอันเย็นใจของสัตว์โลกทั่วไป
    ตลอดถึงบิดามารดาวงศาคณาญาติ มิตรสหายและสัตว์ทุกจำพวก

    อีกประการหนึ่งพรหมวิหารนี้ เมื่อทำให้เกิดในใจจริงๆ แล้ว
    ย่อมระงับเวรภัยพยาบาทได้โดยเด็ดขาด
    ฉะนั้นพระศาสดาจารย์จึงเตือนพระภิกษุทั้งหลายว่า

    เมตฺตย ภิกฺขเว เตโตวิมุตฺติยา อาเสวิตาย ภาวิตาย
    พหุลีกตาย ยานีกตาย วตฺถุกตาย อนุฏฺฐตาย ปิจิตาย
    สุสมารทฺธาย เอกาทสานิสํสา ปาฏิกงฺขา


    แปลเนื้อความว่า

    ดูกร ภิกษุทั้งหลาย (ในธรรมวินัยนี้)

    ความหลุดพ้นวิเศษ (จากพยาบาทและเวรภัย)
    ด้วยอำนาจแห่งจิตเมตตา ที่บุคคลซ้องเสพแล้วโดยชอบ
    กระทำให้เกิดมีขึ้นแก่ตน และกระทำให้มากแล้ว
    ทำกระแสจิตเดินเหมือนยาน (ที่ให้สำเร็จการไปในสถานที่ต้องการ )
    ทำให้เป็นวัตถุแล้ว มิได้หยุดยั้งแห่งการทำจิตและได้สะสมขึ้นแล้ว
    ปรารถให้สม่ำเสมอ (ไม่ให้เผลอตัวในอิริยาบถทั้ง ๔ แล้ว)

    บุคคลผู้นั้นหวังอานิสงส์ได้ ๑๑ ประการ
    มีหลับเป็นสุขเป็นต้น และย่อมได้ความเย็นใจ
    คือ ทำการงานทางกายก็ดี พูดทางวาจาก็ดี คิดทางใจก็ดี
    ให้มีเมตตาจิตอยู่ทุกเมื่อ ย่อมเป็นไปเพื่อพ้นทุกข์ดังนี้


    ถ้าใครเจริญอยู่เป็นนิตย์ ย่อมมีอำนาจทำให้สัตว์ทั้งหลาย
    รับความเย็นใจไปจากจิตของบุคคลที่มีเมตตานั้น

    ด้วยเหตุนั้นผู้ทำสมาธิจำเป็นต้องทำโดยแท้
    ที่จำต้องทำให้มีขึ้นพร้อมทั้งกายวาจาใจ

    บางแห่งท่านให้เจริญแก่ท่านผู้มีโทสะจริต
    แต่ในที่นี้จะเป็นจริตอะไรก็ตาม จำจะต้องทำก่อน
    ถ้าจริตเป็นโทสะอยู่แล้วยิ่งจะสะดวกเข้าในการทำสมาธิจิต

    พรหมวิหารนี้นัยหนึ่งท่านเรียกว่า พรหม ๔ หน้า
    หรือกำแพงสี่ทิศ เป็นเครื่องล้อมจิตโดยรอบ
    ถ้าใครทำให้มีขึ้นแล้ว จิตดวงนั้นย่อมไม่มีภัยเลย


    ถ้าจะพูดถึงการบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุแล้วก็ดีมาก
    เป็นต้นว่าทำทานด้วยเมตตาจิต
    รักษาศีลด้วยเมตตาจิต ทำสมาธิด้วยเมตตาจิต
    เมื่อทำได้เช่นนี้ย่อมได้รับกุศลอันแรงกล้า

    เมตตาจิตนี้เปรียบประหนึ่งว่า

    เมล็ดฝนที่สะอาดตกลงมาจากท้องฟ้า
    แล้วยังให้ผลแก่ติณชาติ รุกขชาติงอกงามแช่มชื่นเต็มที่
    และเป็นที่ตั้งของมนุษย์ทุกเหล่า

    เหตุนั้นผู้แสวงบุญควรตรวจดูจิตขอตนอยู่เสมอๆ ว่า

    เรามีเมตตาจิตหรือไม่
    เพื่อจะได้กระทำบำเพ็ญให้มีขึ้นทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
    ให้ถูกทางแห่งความสุขต่อไป


    ข้อสำคัญ เมตตานี้สำคัญมากที่จิต
    ถ้าจิตไม่มีเมตตาแล้ว รักษากายวาจายาก
    ถ้าหากจิตประกอบด้วยเมตตาจริงๆ แล้ว
    ความเศร้าหมองย่อมไม่มีแก่กายและวาจา
    กายวาจาเขาย่อมไม่รับ จิตจะเป็นผู้รับเอาผลชั่วทั้งหมด


    เมื่อเป็นเช่นนี้จึงควรทำสมาธิอบรมจิตให้เป็นสมาธิโดยลำดับ



    (ที่มา : หนังสือ จิตตสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา
    โดย พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร)
    วัดอโศการาม สมุทรปราการ, พ.ศ.๒๕๓๙, หน้า ๑๐๓-๑๐๕)แสดงกระทู้ - อานิสงส์อัปปมัญญา ๔ : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร • ลานธรรมจักร
     

แชร์หน้านี้

Loading...