อานิสงส์ถวายนมสด

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย วงบุญพิเศษ, 30 กรกฎาคม 2011.

  1. วงบุญพิเศษ

    วงบุญพิเศษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +649
    [​IMG]

    ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ พระภัททชิเถระท่านเคยบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ พอเจริญวัย ได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบการศึกษาในศิลปศาสตร์ของพราหมณ์ ท่านมีจิตใฝ่ในการบวชไม่ต้องการที่จะครองเรือน จึงออกบวชถือเพศเป็นดาบส สร้างอาศรมอยู่ในป่า วันหนึ่งมองเห็นพระศาสดาเสด็จมาทางอากาศ บังเกิดความเลื่อมใสในจริยาวัตรของพระศาสดาเป็นอย่างมาก จึงยืนประคองอัญชลี

    [​IMG]

    พระศาสดาทรงเห็นอัธยาศัยของท่าน จึงเสด็จลงจากอากาศมาประทับยืน ณ ที่ใกล้อาศรม ท่านได้น้อมนํ้าผึ้ง เหง้าบัว เนยใสและนมสดเข้าไปถวาย พระศาสดาก็ทรงอนุเคราะห์แก่ท่าน และทรงกระทำอนุโมทนากถาแล้วเสด็จหลีกไป ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต ดำรงอยู่ในสวรรค์ชั้นนั้นจนตลอดอายุขัย จุติจากอัตภาพนั้น ก็ท่องเที่ยวไปในสุคติภพอย่างเดียว



    [​IMG]

    ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า วิปัสสี ท่านได้เกิดเป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์มาก ได้ถวายผ้าไตรด้วยความเลื่อมใสแด่ภิกษุสงฆ์ถึง ๑ ล้าน ๘ แสนรูป ท่านทำกุศลไว้เป็นอันมาก พอละโลกได้บังเกิดในเทวโลก เมื่อเคลื่อนจากเทวโลกนั้น มาบังเกิดในมนุษยโลกสมัยที่โลกว่างเปล่าจากพระพุทธเจ้า แต่บุญก็บันดาลให้ท่านได้บำรุงพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ พระองค์ จุติจากอัตภาพนั้น ไปบังเกิดในราชตระกูล ท่านหมั่นพรํ่าสอนทศพิธราชธรรมแก่ราชบุตรทั้งหลาย แล้วได้บำรุงโอรสของตนที่ได้บรรลุพระปัจเจกโพธิญาณ เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านก็ถือเอาพระบรมธาตุบรรจุไว้ในเจดีย์เพื่อสักการบูชา ท่านได้บำเพ็ญมหากุศลอันเป็นบุญใหญ่นับภพนับชาติไม่ถ้วนอย่างนี้

    ในกาลแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานี้ ท่านได้มาบังเกิดเป็นลูกชายคนเดียวของภัททิยเศรษฐี ซึ่งมีทรัพย์สมบัติมากถึง ๘๐ โกฏิ ในภัททิยนคร มีนามว่า ภัททชิกุมาร อิสริยสมบัติ โภคสมบัติและบริวารสมบัติของท่านได้มีพร้อมทุกอย่าง พระบรมศาสดาทรงตั้งพระทัยจะอนุเคราะห์ภัททชิกุมาร จึงเสด็จออกจากเมืองสาวัตถีไปภัททิยนคร พร้อมกับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ทรงประทับอยู่ในชาติวัน


    วันหนึ่ง ขณะที่ภัททชิกุมารกำลังนั่งอยู่ในปราสาทเปิดสีหบัญชรมองดู เห็นมหาชนกำลังเดินไปฟังธรรม ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า มีความสงสัยว่า มหาชนนี้กำลังจะไปที่ไหนกัน เมื่อทราบแล้วก็ไปยังสำนักของพระศาสดาพร้อมด้วยบริวารหมู่ใหญ่ เพียงแค่ได้ฟังธรรมครั้งเดียวและเป็นครั้งแรก ท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ทั้งที่ยังประดับประดาไปด้วยอาภรณ์ทั้งหลาย

    [​IMG]

    พระบรมศาสดาทรงตักเตือนท่านภัททิยเศรษฐีว่า “บุตรชายของท่านประดับประดาด้วยเครื่องอลังการฟังธรรม ได้ดำรงอยู่ในพระอรหัตแล้ว บุตรของท่านสมควรที่จะบวชเสียเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่บวชก็จักปรินิพพาน” เศรษฐีกราบทูลว่า “บุตรของข้าพระองค์ยังเป็นคนหนุ่มแน่นอยู่ กิจด้วยการปรินิพพานจะมีไม่ได้ ขอพระองค์จงให้เขาบวชเถิด” พระบรมศาสดาทรงให้เขาได้บรรพชาอุปสมบท ประทับอยู่ในที่นั้นได้ ๗ วันแล้ว ก็เสด็จไปยังโกฏิคามใกล้ฝั่งแม่นํ้าคงคา ชาวบ้านโกฏิคามได้ถวายมหาทานแด่หมู่ภิกษุมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข พระภัททชิเถระปรารถนาจะบันลือสีหนาท ท่านจึงกำหนดเวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จมา แล้วก็ได้นั่งเข้าสมาบัติที่โคนต้นไม้แห่งหนึ่ง


    เมื่อพระมหาเถระทั้งหลายมาถึง ท่านก็มิได้ลุกขึ้นต้อนรับ ทำให้ภิกษุที่ยังเป็นปุถุชนต่างพากันเพ่งโทษว่า ภิกษุรูปนี้บวชมายังไม่ทันไร ก็กลายเป็นผู้แข็งกระด้างไปเสียแล้ว ไม่ยอมลุกขึ้นในเวลาที่พระมหาเถระทั้งหลายมาถึง ส่วนชาวบ้านโกฏิคาม ได้พากันผูกเรือแพเป็นอันมากถวายแด่พระศาสดาและภิกษุสงฆ์


    พระบรมศาสดาจึงทรงดำริที่จะประกาศถึงอานุภาพของพระภัททชิ จึงประทับยืนบนเรือ ตรัสถามว่า “ภัททชิไปไหน” พระภัททชิเถระกราบทูลว่า “พระเจ้าข้า” แล้วจึงเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ยืนประคองอัญชลี พระบรมศาสดาตรัสว่า “ภัททชิ มานี่ซิ เธอจงขึ้นเรือลำเดียวกันกับเราเถอะ” พระภัททชิจึงเหาะขึ้นไปในอากาศ แล้วลงในเรือลำเดียวกันกับพระศาสดาประทับ

    ในเวลาที่เรือแล่นไปในท่ามกลางแม่นํ้าคงคา พระบรมศาสดาตรัสว่า “ภัททชิ ในเวลาที่เธอเป็นพระเจ้ามหาปนาทะ รัตนปราสาทจมลงในที่ไหนเล่า” พระเถระกราบทูลว่า “จมลงในที่ตรงนี้ พระเจ้าข้า” พระบรมศาสดาตรัสว่า “ถ้าเช่นนั้น เธอก็ควรตัดความสงสัยของเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลายเถอะ”


    พระเถระจึงเอานิ้วเท้าคีบยอดปราสาทอันใหญ่ประมาณ ๒๕ โยชน์ แล้วเหาะไปในอากาศ ท่านได้ยกปราสาทขึ้นสูงถึง ๕๐ โยชน์ เมื่อปราสาทถูกยกลอยไป พวกญาติของท่านในภพก่อน ซึ่งได้เกิดเป็นปลาเต่าและกบเพราะความโลภในปราสาท ก็พากันล้มกลิ้งไปมา พระบรมศาสดาจึงตรัสว่า “พวกญาติเธอกำลังลำบาก” พระเถระจึงปล่อยปราสาท ปราสาทก็ตั้งสถิตอยู่ตามเดิม ทำให้ภิกษุทั้งหลายหายสงสัยในคุณวิเศษของท่าน


    [​IMG]



    เราจะเห็นว่า การที่คนใดคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูงสุดได้นั้น เบื้องหลังของความสำเร็จที่แท้จริง ล้วนมาจากบุญที่เคยทำเอาไว้ในอดีต นับภพนับชาติไม่ถ้วนนั่นเอง แม้การที่พระภัททชิเถระนี้ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ ก็เพราะบุญบารมีที่ท่านบำเพ็ญมาในพระพุทธเจ้า ในพระปัจเจกพุทธเจ้าและหมู่สงฆ์ทั้งหลายในอดีต บำเพ็ญมาเรื่อยไม่เคยขาด บุญที่ท่านทำนั้นมีแต่บุญใหญ่ทั้งนั้น เป็นบุญที่สามารถทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้โดยเร็วพลัน

    เราทุกคนก็เช่นเดียวกัน ต้องสั่งสมบุญบารมีให้มากๆ เราต้องตั้งใจสร้างบารมีกันต่อไป จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางคือได้บรรลุมรรคผลนิพพาน

     
  2. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    [​IMG]

    [​IMG]
    กับท่านทั้งหลายที่ได้สร้างบุญกุศลทุกอย่างถวาย
    ให้พระพุทธเจ้า และ/หรือ ถวายเป็นสังฆทานให้พระภิกษุสงฆ์
    ตลอดจนสร้างบุญกุศลทุกอย่างไว้ในพระพุทธศาสนา
    ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและในอนาคตกาล ด้วยเทอญ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  3. พชรไพลิน

    พชรไพลิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2010
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +113
    สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ ทำบุญไปก็เพื่อบำรุงพระศาสนาและหวังนิพพาน ขอมากไปป่าวเนี่ย
     

แชร์หน้านี้

Loading...