อานิสงส์การปิดทองพระพุทธรูป

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย บุญญสิกขา, 31 ธันวาคม 2009.

  1. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    อานิสงส์การปิดทองพระพุทธรูป


    การปิดทองพระพุทธรูปนั้น มีตำนานกล่าวไว้ว่า ในอดีตกาลเมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าพระสมณโคดมพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันของเรานี้ ยังสร้างบารมีเสวยพระชาติเป็น พระโพธิสัตว์นั้น ยังมีพระราชาพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระเจ้ามหารถราช เสวยราชสมบัติในสักกราชาวดีนคร มีความเลื่อมใสใยพระพุทธศาสนา ซึ่งพระองค์มีพระสหายพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่าพระเจ้าปัญจาลราช เสวยราชสมบัติในปัญจาลนคร ซึ่งเป็นสหายที่ไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่พระเจ้าปัญจาลราชยังมิได้นับถือพุทธศาสนา
    <O:p</O:p
    <O:pครั้งหนึ่งพระเจ้าปัญจาลราชส่งผ้ารัตนกัมพลเนื้อดีราคาแพงผืนหนึ่งมาถวายพระเจ้ามหารถราช พระเจ้ามหารถราช พิจารณาดูผ้ากัมพลแล้ว ทรงเห็นว่าผ้านี้ราคาแพง เราควรจะส่งแก้วคือพระพุทธรัตนะไปถวาย แล้วพระองค์ก็ให้ช่างเขียนรูปพระพุทะเจ้าลงในแผ่นทองคำด้วยชาดหรคุณ มีขนาด ๑ ศอก แล้วให้อำมาตย์เชิญพระพุทธรูปนั้นลงสำเภาไปถวายพระเจ้าปัญจาลราช แต่ก่อนจะส่งราชทูตไป พระองค์ทรงรำลึกถึงคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วอธิษฐานว่า

    <O:p</O:p
    “พระเจ้าปัญจาลราช สหายของกระหม่อมฉันนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิมีความเห็นผิด มิได้มีความเชื่อในคำสั่งสอนของพระองค์ ถ้าพระองค์เสด็จไปพระนครนั้นแล้ว ขอพระองค์ได้โปรดแสดงปาฏิหาริย์ ชักจูงพระเจ้าปัญจาลราชให้ละเสียซึ่งความเห็นผิดจกทำนองคลองธรรมด้วยเทอญ”

    <O:p</O:p
    เมื่อทรงอธิษฐานแล้วก็เสด็จลุยไปในน้ำลึกเพียงพระศอ เพื่อส่งเสด็จพระพุทธรูปนั้นจากไป
    <O:p</O:p
    เมื่อสำเภาไปถึงกรุงปัญจาละแล้ว ราชทูตก็เข้าไปกราบทูลพระเจ้าปัญจาลราชทรงทราบ พระองค์ก็เกิดปิติโสมนัสเสด็จไปรับเครื่องบรรณาการนั้น พร้อมด้วยอำมาตย์ จตุรงคเสนา และประชาชน พระเจ้าปัญจาลราชเสด็จลงไปในน้ำลึกเพียงสอเพื่อต้อนรับพระพุทธรูป

    ด้วยแรงอธิษฐานของพระเจ้ามหารถราช พระพุทธรุปนั้นก็ได้แสดงปาฏิหาริย์ เช่น ลอยขึ้นไปในนภากาศเป็นอัศจรรย์ พระเจ้าปัญจาลราชทอดพระเนตรดังนั้นเกิดศรัทธาเป็นที่ยิ่ง ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะ ผู้ถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะต่อหน้าพระพุทธรูปนั้น พระเจ้าปัญจาลราชกลับกายเป็นผู้มีความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยเป็นยิ่งนัก ทรงให้นำพระพุทธรูปไปประดิษฐานไว้ ณ พระราชมณเฑียร แล้วบูชาด้วยดอกไม้ธูปเทียน และแสดงตนเป็นอุบาสกผู้นับถือพระรัตตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก

    ต่อมาพระองค์ได้ให้ช่างแกะสลักพระพุทธรูปด้วยแก่นจันทน์ เสร็จแล้วให้ประดิษฐานไว้ที่ศาลาบุนนาค ทรงรับสั่งอนุญาตให้ชาวพระนครพากันไปปิดทองพระพุทธรูปนั้น
    <O:p

    ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์ได้เสวยพระชาติเป็นคนเข็ญใจอยู่ในเมืองนั้น
    แม้จะเป็นผู้ยากจนอนาถาไร้ทรัพย์
    แต่เมื่อฟังข่าวเชิญชวนให้ไปปิดทองพระพุทธรูปแก่นจันทน์นั้นแล้ว
    ก็เกิดความศรัทธาอย่างแรงกล้า
    ปรารถนาจะได้นำทองไปปิดพระพุทธรูปนั้นด้วย
    จึงได้ลาบุตรและภรรยาเพื่อไปขายตัวเป็นทาส
    จะได้นำเงินมาซื้อทองไปปิดพระพุทธรูป
    ภรรยาเมื่อได้ฟังดังนั้นก็เกิดความสลดใจ
    ภรรยาจึงยอมขายตนและลุกไปเป็นทาสเสียเอง

    ฝ่ายพระโพธิสัตว์เมื่อได้เงินจากการขายภรรยาและลูกไปเป็นทาสแล้ว จึงได้นำเงินไปซื้อทองปิดพระพุทธรูป เมื่อทองไม่พอแต่ก็ยังมีศรัทธาแก่กล้า พระโพธิสัตว์จึงดำริว่า ใครหนอจักมีวิชาหรือมนตราที่จะเปลี่ยนเนื้อของเราเป็นทองได้ เราจะยอมสู้สละเนื้อของเราเองให้เพื่อจะได้นำทองไปปิดพระพุทธรูปให้ดูสวยงามตามที่ได้ตั้งใจ ด้วยความศรัทธาจึงได้ป่าวประกาศถ้อยคำดังว่าอยู่ที่ทางสี่แพร่ง


    ครั้งนั้นร้อนถึงท้าวสักกเทวราชจึงจำแลงแปลงกายเป็นพราหมณ์แก่ลงมาถามความเป็นไปกับพระโพธิสัตว์ แล้วก็รับคำว่าตัวเรานี้มีมนตราที่จะเปลี่ยนเนื้อตนเป็นทองคำได้ พระโพธิสัตว์ก็ดีใจนำมีดเฉือนเนื้อของตัวเอง ออกให้แก่พราหมณ์แก่ผู้นั้นเปลี่ยนเป็นทองคำ พระโพธิสัตว์นั้นแม้จะเจ็บปวดปานใดก็ยังไม่ตายด้วยเทวานุภาพบันดาลรักษาไว้ พราหมณ์จำแลงนั้นก็นำเนื้อเสกเล่นแร่แปรธาตุเปลี่ยนเป็นทองปิดพระพุทธรูปจนเสร็จ

    ขณะนั้นเองพระโพธิสัตว์ก็ถึงการสลบไปด้วยความเจ็บปวด ส่วนท้าวสักกะเทวราชเห็นดังนั้นก็บันดาลแก้ไขพระโพธิสัตว์ให้หายเป็นปกติมีเนื้อเต็มด้วยเทวานุภาพ ฉับพลันนั้นผิวกายของพระโพธิสัตว์ก็สุกปลั่งประดุจทองคำธรรมชาติ ทั้งได้รับคำทำนายว่าจะได้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์หนึ่งในอนาคต พระนามว่าพระสมณโคดม ความนี้ล่วงรู้ไปถึงพระเจ้าปัญจาลราช ทรงมีความเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง ได้ทรงสักการะพระโพธิสัตว์ด้วยทรัพย์สินและเงินทองมากมาย พระโพธิสัตว์ก็ได้นำเงินไปไถ่ตัวบุตรภรรยามาเสวยสมบัติสิ้นกาลนาน ครั้นวายปราณก็ได้ไปบังเกิดบนสุคติสวรรค์โลก

    ด้วยอานิสงส์แห่งการทำพุทธบชา ด้วยประการฉะนี้แล


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.818000/[/MUSIC]​


    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=17674[/MUSIC]​


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2009
  2. TUK2800

    TUK2800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,766
    ค่าพลัง:
    +1,161
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->

    การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไปเพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน><O:p></O:p>
    การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ
    กายมีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
    ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
    วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา
    ในการผิดพลาดหากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่งซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียว<O:p></O:p><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...