อานิสงค์ของการสวดมนต์

อานิสงค์ของการสวดมนต์




ข้าพเจ้าเป็นชาวกรุงเทพฯ มีพี่น้อง ๔ คน เป็นบุตรคนที่ ๒ ข้าพเจ้ามีพี่ชาย ๑ คน และน้องชายฝาแฝด ๒ คน ข้าพเจ้าเป็นลูกสาวคนเดียว ชีวิตที่ผ่านมาข้าพเจ้าไม่เคยพบกับความทุกข์ ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ ครอบครัวมีความสุขและอบอุ่น พ่อแม่เลี้ยงดูข้าพเจ้าและพี่น้องอย่างดีตามอัตภาพ ข้าพเจ้าแต่งงานปี พ.ศ. ๒๕๓๘ มีบุตร ๒ คน แต่งงานแล้ว ข้าพเจ้ายังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ไม่ได้แยกครอบครัวออกมา สามีของข้าพเจ้าเป็นคนดีมาก รักครอบครัว รักข้าพเจ้าและบุตรมาก ตั้งแต่แต่งงานกันมา ๑๐ ปี ข้าพเจ้ากับสามีไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียว ข้าพเจ้าอยากได้อะไรสามีตามใจข้าพเจ้ากับบุตรทุกอย่าง ข้าพเจ้ามีความสุขมาก จนคิดว่าข้าพเจ้าเป็นคนโชคดีที่สุดคนหนึ่ง ที่ผู้หญิงอีกหลายๆคนอยากเป็น

ปลายปี ๒๕๔๘ ข้าพเจ้าจับได้ว่าสามีนอกใจมีผู้หญิงอีกคน สามีข้าพเจ้าหลงผู้หญิงคนนี้มาก ข้าพเจ้าคิดไม่ถึงว่าสามีที่ข้าพเจ้ารักมาก จะปันใจให้กับผู้หญิงอื่น ข้าพเจ้ารับไม่ได้ เพราะไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวเองจะประสบกับปัญหานี้ เคยแต่ได้ยินเพื่อนๆ มาปรึกษาปัญหาทำนองนี้หลายคน ตัวข้าพเจ้าเองยังคิดว่าตัวเองโชคดีที่มีสามีดีรักครอบครัว ปัญหานี้ต้องไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวเราแน่ๆ แต่บัดนี้ปัญหานี้ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าแก้ไขปัญหาชีวิตนี้ไม่ได้ เพราะข้าพเจ้ารักสามีมาก และเอาชีวิตของตัวเองไปยึดติดกับสามี เราทะเลาะกันอย่างรุนแรงทั้งที่ไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน และในที่สุดก็เลิกกัน โดยทิ้งภาระหนี้สินและบุตรให้ข้าพเจ้ารับผิดชอบ

ขณะนั้นข้าพเจ้ารู้สึกว่าข้าพเจ้ามีความทุกข์ที่หนักมาก ข้าพเจ้าคิดว่าหนักกว่าคนอื่นๆ กินไม่ได้นอนไม่หลับ สงสารลูกๆมาก ที่อยู่ๆก็กลายเป็นเด็กครอบครัวแตกแยก พวกเขายังเด็กมาก ลูกชายคนโตอายุ ๑๐ ปี ลูกสาวคนเล็กอายุ ๖ ปี แต่พวกเขาก็รู้ปัญหาของพ่อแม่ ปฏิบัติตัวเป็นลูกที่ดีของข้าพเจ้า ไม่ทำความทุกข์ใจเพิ่มให้ข้าพเจ้า ความทุกข์ในครั้งนี้ของข้าเพเจ้าใหญ่หลวงนักในความคิดของข้าพเจ้าขณะนั้น ข้าพเจ้าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทั้งภาระหนี้สินและครอบครัว ลำพังเงินเดือนข้าพเจ้าไม่พอแม้แต่จะใช้หนี้ธนาคาร ข้าพเจ้าเข้าใจแล้วว่าผู้ที่มีความทุกข์และมีปัญหาที่แก้ไม่ได้ทำไมถึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะใจขณะนั้นข้าพเจ้าก็มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน แต่ข้าพเจ้ากลัวบาป เพราะเคยรู้มาว่าการฆ่าตัวตายบาปหนักมาก และข้าพเจ้าก็เป็นห่วงลูกๆของข้าพเจ้า พวกเขาขาดพ่อแล้วยังจะต้องขาดแม่อีกคน

ในความโชคร้ายของข้าพเจ้าก็มีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะข้าพเจ้ามีที่พึ่ง คือครอบครัวของข้าพเจ้า ทุกคนเป็นห่วงและคอยเป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้าผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้โดยเฉพาะแม่ของข้าพเจ้ามีความทุกข์มากกว่าข้าพเจ้าอีก คอยดูแลข้าพเจ้าตลอดเวลาทั้งที่ข้าพเจ้าโตขนาดนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้ารักครอบครัวของข้าพเจ้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแม่ และทำให้ข้าพเจ้าคิดได้ว่าที่ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เพราะคนรักนี้ ข้าพเจ้าเคยทำให้แม่ข้าพเจ้าทุกข์ใจมาก่อน ทำโดยไม่รู้ตัว และไม่ได้ตั้งใจ สมัยวัยรุ่นข้าพเจ้าชอบเถียงแม่ คิดว่าแม่ไม่รัก ทำให้แม่เสียใจ กรรมเลยตามสนองข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้าต้องทุกข์ใจกับคนที่ข้าพเจ้ารัก ข้าพเจ้าได้นำพวงมาลัยมากราบเท้าขออโหสิกรรมกับแม่ และขอให้ท่านอโหสิกรรมให้ แม่บอกว่าไม่เคยโกรธข้าพเจ้าแม้สักครั้งเดียว

เหมือนข้าพเจ้าจะมีบุญอยู่บ้าง เพื่อนสนิทของข้าพเจ้า คุณวารุณี แสนทอง ได้นำหนังสือมาให้อ่าน เรื่อง.กรรมฐานแก้กรรม. ของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน ไม่รู้จักวัดอัมพวัน แต่ในช่วงที่มีความทุกข์อย่างหนัก และไม่มีทางออกกับปัญหาของชีวิต ทำให้ข้าพเจ้าอ่านหนังสือของท่าน และหวังว่าจะพบทางออกของชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อได้อ่านหนังสือข้าพเจ้าเกิดศรัทธามาก ในหนังสือมีสอนให้สวดมนต์ด้วย โดยปกติข้าพเจ้าไม่เคยสวดมนต์ ไม่เคยนั่งสมาธิ ไม่รู้จักว่ากรรมฐานคืออะไร มีความรู้ในทางพุทธศาสนาน้อยมาก คิดว่าการทำบุญคือใส่บาตร ทำสังฆทาน บริจาคเงินสร้างวัด

เมื่อได้อ่านหนังสือที่เพื่อนนำมาให้ ทำให้มีความรู้ทางพุทธศาสนามากขึ้น รู้ว่าการทำบุญมี ๓ แบบ คือ ทาน ศีล และ ภาวนา ข้าพเจ้าเริ่มต้นสวดมนต์เพราะอยากพิสูจน์ ว่าสวดมนต์แล้วชีวิตจะดีขึ้นเหมือนที่คนอื่นๆเขียนมาจริงไหม ข้าพเจ้าสวดมนต์ทุกวัน ทำตามหนังสือทุกอย่าง สวดจบแล้วก็สวดพุทธคุณเท่าอายุบวกหนึ่งแล้ว แผ่เมตตา

ช่วงแรกของการสวดมนต์ รู้สึกลำบากใจมากที่จะต้องแผ่เมตตาให้สามีที่ทำร้ายจิตใจข้าพเจ้ากับบุตร ให้มีความสุขความเจริญ แต่ในหนังสือของหลวงพ่อสอนว่าใครก็ตามที่ทำไม่ดีกับเรา ให้สวดมนต์แผ่เมตตาให้เขามีความสุขความเจริญ ข้าพเจ้าเชื่อหลวงพ่อเพราะท่านรู้จริง แรกๆก็ลำบากใจ นานๆไปก็เกิดความเคยชิน ความโกรธแค้นและความเกลียดสามีก็เริ่มคลาย ตอนหลังก็แผ่เมตตาด้วยอารมณ์ปกติ หลังจากสวดมนต์แผ่เมตตาให้สามีได้ไม่นาน สามีก็เริ่มโอนเงินมาให้ใช้ทุกเดือน และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คำสอนของหลวงพ่อได้ผล ข้าพเจ้าเชื่อท่าน ๑๐๐ % อธิษฐานจิตขอให้ได้มากราบท่านสักครั้ง แล้วก็สมหวัง เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๙ ข้าพเจ้าได้มาเข้ากรรมฐานครั้งแรก ๓ วัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ จนถึงปัจจุบัน เมื่อมีเวลาว่างข้าพเจ้าจะไปเข้ากรรมฐานที่วัดอัมพวันทุกครั้ง อย่างน้อยปีละ ๑-๒ ครั้ง หลังจากกลับจากวัดอัมพวันครั้งแรกได้ไม่นาน สามีได้มาขอโทษและขอคืนดีกับข้าพเจ้า เพราะสามีข้าพเจ้ารักบุตรมาก และก็ยังรักข้าพเจ้าอยู่

ข้าพเจ้านึกถึงคำสอนของหลวงพ่อ คือการให้อภัย ข้าพเจ้ากับสามีก็เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง โดยสามียกเงินเดือนทุกบาทของเขาให้ข้าพเจ้าดูแล คำว่าครอบครัวอบอุ่นกลับมาเหมือนเดิม นี่ถ้าข้าพเจ้าไม่ได้อ่านหนังสือกฎแห่งกรรมของหลวงพ่อ และไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนของท่าน ชีวิตก็คงไม่ดีขึ้นอย่างนี้ ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อ ที่เมตตา ขอบคุณครอบครัวข้าพเจ้าทุกๆคน ที่คอยเป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้า กัลยาณมิตรทุกท่าน รวมทั้งเพื่อนสนิท คุณวารุณี แสนทอง ที่ได้นำหนังสือกรรมฐานแก้กรรม กับหนังสือกฎแห่งกรรมของหลวงพ่อมาให้ข้าพเจ้าได้อ่าน ทำให้ข้าพเจ้าสามารถแก้ไขปัญหาชีวิตได้ ทุกวันนี้ข้าพเจ้ามีสติขึ้นมาก

เรื่องที่สองที่ทำให้ข้าพเจ้าเป็นทุกข์อย่างหนัก คือเรื่องของหลานสาวที่ข้าพเจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเด็ก ชื่อ น.ส. เนตรชนก แซ่เนี๊ยบ (น้องต่าย) อายุ ๒๖ ปี ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ข้าพเจ้าไม่เคยนึกว่าคนในครอบครัวของข้าพเจ้าจะป่วยเป็นโรคร้ายแรงขนาดนี้ คิดไปต่างๆนานา กลัวไปหมด กลัวว่าหลานสาวจะเสียชีวิต กลัวว่าหลังผ่าตัดจะพิการเพราะเขาอายุยังน้อย สงสารหลานสาวมาก ช่วงนั้นร้องไห้ทุกวัน เป็นทุกข์หนักกว่าเรื่องของสามีอีก ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าจะเป็นทุกข์หนักอยู่คนเดียว คนในครอบครัวข้าพเจ้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ น้องชาย พี่ชาย-พี่สะใภ้ (พ่อแม่ของน้องต่าย) น้องกวาง น้องกิ๊ก (น้องสาวของน้องต่าย) เป็นทุกข์หนักไม่น้อยไปกว่าข้าพเจ้า

ช่วงนั้นทำให้ข้าพเจ้าและน้องชายเข้าใจถึงจิตใจของผู้อื่นที่ต้องสูญเสียคนที่รักไป และก็เข้าใจถึงสัจธรรม คนเราเมื่อมีทุกข์ก็จะนึกถึงธรรมะ นึกถึงสิ่งที่จะทำให้ความทุกข์ที่อยู่ในใจเบาบางลง ข้าพเจ้านึกถึงหลวงพ่อจรัญท่านเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอให้ท่านช่วยให้หลานสาวของข้าพเจ้าปลอดภัย และข้าพเจ้าก็มีความหวังว่าหลานสาวจะกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ข้าพเจ้าเข้าไปไหว้รูปหลวงพ่อจรัญในห้องพระที่บ้านของข้าพเจ้า แล้วตั้งจิตอธิษฐานต่อหน้ารูปของท่าน ขอให้ท่านช่วยให้หลานสาวของข้าพเจ้าผ่าตัดแล้วกลับมามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิม แล้วข้าพเจ้าจะเขียนเรื่องราวปาฏิหาริย์และผลที่ได้จากการสวดมนต์นี้ ลงในหนังสือกฎแห่งกรรมเล่มต่อไปของหลวงพ่อ

ช่วงที่หลานสาวของข้าพเจ้าเข้าโรงพยาบาลศิริราช วันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ นั้น ตลอดเวลาที่หลานสาวอยู่โรงพยาบาล ข้าพเจ้าได้แนะนำให้หลานสาวสวดมนต์ตลอดเวลา โดยเฉพาะบทสวดมนต์ อิติปิ โส ให้สวดตลอด สวดเสร็จก็ให้นึกถึงหลวงพ่อ แล้วแผ่เมตตาให้เจ้าที่เจ้าทาง เทวดารักษากาย เจ้ากรรมนายเวรหลานสาวก็น่ารัก ปฏิบัติตามคำแนะนำของข้าพเจ้าตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าไปเยี่ยมเขาก็จะบอกกับข้าพเจ้าว่า เมื่อคืนสวดไป ๕๐ จบบ้าง ๓๐ จบบ้าง ทุกวัน ส่วนตัวข้าพเจ้าสวดมนต์ทุกวัน สวดตามหนังสือของหลวงพ่อตลอด และได้แนะนำให้ทุกคนในครอบครัวสวดมนต์ โดยแจกหนังสือสวดมนต์เล่มเล็กของหลวงพ่อให้ทุกคน โดยเฉพาะพี่สะใภ้ซึ่งเป็นแม่ของน้องต่าย มีความทุกข์มากกว่าข้าพเจ้า สวดตลอดเวลาทั้งเช้าและเย็น แม้แต่ตอนนั่งรถเมล์ก็สวดมนต์และได้อธิษฐานว่า ถ้าน้องต่ายหาย จะมาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน ๗ วัน หลานสาวของข้าพเจ้ามีกำหนดตัดเนื้องอกในสมองวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑

ก่อนผ่าตัด ๒ วัน คือวันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้าพเจ้าและครอบครัวมีโอกาสมากราบหลวงพ่อและได้เขียนจดหมายแจ้งเรื่องหลานสาวป่วยและรอผ่าตัดถวายท่าน ขอให้ท่านแผ่เมตตาช่วยให้หลานสาวปลอดภัย

วันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ หลานสาวเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกที่ติดกับก้านสมอง เข้าผ่าตัดเวลา ๙.๐๐ น. ผ่าตัดเสร็จเวลาประมาณ ๑ ทุ่ม ใช้เวลาผ่าตัด ๙-๑๐ ชม. ซึ่งยาวนานมาก แต่ข้าพเจ้าและครอบครัวทุกคนก็รอ และเป็นกำลังใจให้หลานสาวอยู่หน้าห้องผ่าตัด ไม่ลุกไปไหน ตลอดเวลาที่รออยู่ข้าพเจ้าและทุกๆคนสวดมนต์กันตลอดเวลา สวดเกือบทุกบท ว่าจะเป็นบทพาหุง-มหากา อิติปิ โส คาถาชินบัญชร สวดกลับไปกลับมาหลายจน สวดเสร็จก็แผ่เมตตาให้เจ้าที่เจ้าทางเทวดา คุณหมอ พยาบาล และวิญญาณที่อยู่ละแวกนั้นขอให้ช่วยหลานสาวให้ปลอดภัยกลับมาเหมือนเดิม น้องกวางกับน้องกิ๊ก สวดอิติปิโส ๑๐๘ จบ ส่วนแม่น้องต่ายไม่ต้องพูดถึง ไม่ยอมพูดคุย สวดมนต์ตลอดเวลา และแล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง ผลจากการผ่าตัดดีอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด หลานสาวข้าพเจ้าไม่มีผลกระทบใดๆเลย ดีวันดีคืนอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ จนคุณหมอและพยาบาลที่รักษาแปลกใจ ว่าฟื้นตัวเร็ว แต่ข้าพเจ้าและคนในครอบครัวรู้ดี ว่านี่คืออานิสงส์ผลบุญของการสวดมนต์ ข้าพเจ้าเชื่อสนิทใจ

วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ หลานสาวข้าพเจ้าก็ออกจากโรงพยาบาลศิริราช กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ รวมเวลาที่เข้ารักษาโรคเนื้องอกในสมองตั้งแต่วันที่ ๕-๒๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นเวลาแค่ ๒๐ วัน ที่อยู่โรงพยาบาล ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้สำหรับโรคนี้ ตอนนี้หลานสาวของข้าพเจ้ากลับมามีชีวิตเหมือนเดิม ทำงานบริษัทโฆษณา

ช่วงที่หลานสาวข้าพเจ้าป่วยอยู่โรงพยาบาล ลูกชายข้าพเจ้าเรียนจบประถม ๖ และจะสอบเข้ามัธยมที่ ๑ ที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ ลูกชายข้าพเจ้าสอบไม่ติด ใช้สิทธิ์เด็กในพื้นที่จับฉลากก็จับไม่ได้ ข้าพเจ้าได้ยื่นคำร้องขอเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้ไว้ แต่คิดว่าคงไม่ได้ และไม่ได้สนใจเรื่องของลูกชาย เพราะช่วงนั้นเป็นทุกข์ใจเรื่องของหลานสาวอยู่ คิดไว้ว่าถ้าไม่ได้จริงๆจะให้เข้าเรียนที่โรงเรียนเอกชนแถวบ้าน แต่ผลออกมาปรากฏว่าโรงเรียนนวมินทราชินูทิศอนุมัติรับลูกชายเข้าเรียนได้ ข้าพเจ้าจึงคิดว่าน่าจะเป็นเพราะช่วงนั้นข้าพเจ้าสวดมนต์ทุกวัน อานิสงส์ของการสวดมนต์จึงมาถึงลูกชายด้วย

สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่มีเมตตาอย่างยิ่ง ท่านมีแต่ให้จริงๆ และขอให้หลวงพ่อมีสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของครอบครัว ข้าพเจ้าและลูกศิษย์ทุกๆคน และถ้าหากเรื่องราวที่ข้าพเจ้าได้เขียนไว้นี้ มีผลบุญเกิดขึ้น ข้าพเจ้าขอน้อมถวายหลวงพ่อท่านหมด ข้าพเจ้ารู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นชาวพุทธ และได้พบหลวงพ่อ ได้เป็นลูกศิษย์ท่าน ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน พบเจอแต่กัลยาณมิตร



กฏแห่งกรรม ธรรมปฏิบัติ
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี