อาถรรพ์.................ภูตทหารเก่าเฝ้าทรัพย์.................

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 25 เมษายน 2005.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ...........บทนำ Case Study ............


    ......หากมีคนตาบอด มาบอกเราว่า พวกเขา...ไม่เชื่อหรอกว่า บนโลกใบนี้จะมีความสว่าง
    เพราะสิ่งที่เขาเห็นมาทั้งชีวิต มีเพียงความมืดมิด ....พวกเขาไม่เคยเห็น แม้กระทั่งดวงอาทิตย์
    ที่ผู้คนต่างบอกถึงพลานุภาพอันยิ่งใหญ่ และทรงพลัง

    สิ่งที่ไม่เห็น ไม่ได้หมายความว่า สิ่งนั้นไม่มี แต่หากถามว่าคนตาบอดกลุ่มนี้ผิดหรือ..?
    เราคงไม่บอกว่าเขาผิด เพียงแต่ความรู้ที่เขามีนั้น ยังเป็นความรู้ที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งถ้าพวกเขาตา
    ดีเป็นปกติ หรือมีวิธีการแนะนำให้ความรู้ที่ถูกต้องเพิ่มเติม พวกเขาก็คงมีข้อสรุปที่ดีขึ้น...

    เช่นกันยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับชีวิตของเราอีกตั้งมากมายที่เรายังไม่รู้ ซึ่งเรา
    ก็ไม่ควรปฎิเสธก่อน ว่าสิ่งนั้นไม่มี เพราะถ้าปฎิเสธก่อน นั่นหมายถึงเราปิดกั้นทางมาของ
    ปัญญาของเราเองโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เกิดสัจธรรมของผู้มีปัญญาข้อหนึ่งว่า ผู้มี
    ปัญญาเขาไม่เคยปิดกั้นโอกาสในการรับรู้ของตัวเองเลย สิ่งใดที่ยังไม่เห็นหรือยังสัมผัสไม่ได้
    ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นไม่มี แต่จะต้องหาทางพิสูจน์ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง แล้วจึงค่อยเชื่อ

    เรื่องราวที่จะนำมาเล่าในหนังสือเล่มนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในยุคปัจจุบัน ซึ่งเล่า
    ถึงชีวิตหลังความตาย กฎแห่งกรรม การเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฎ ที่คณะผู้จัดทำได้รับ
    การถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากครูบาอาจารย์ ผู้ปฎิบัติสมาธิวิชชาธรรมกาย แล้วมาพ้อง
    ตรงกันกับเรื่องราวในพระไตรปิฎกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล เรื่อง
    ราวทำนองนี้ในสมัยหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ (สด จนฺทสโร) ยังมีชีวิตอยู่ จะได้ยินได้ฟัง
    บ่อยมาก เพื่อเป็นอุทาหรณ์สั่งสอนเหล่าศิษยานุศิษย์ของท่านมาโดยตลอด

    วัตถุประสงค์ที่เรียบเรียงเรื่องราวต่างๆ โดยได้รับอนุญาตจากบุคคลที่เป็นเจ้าของเรื่องราว
    ให้เป็นกรณีศึกษา (Case Study) เพื่อ

    ๑. ให้รู้ถึงแนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ก็เพราะมีคนอีกจำนวนมาก ที่ไม่รู้ว่าจะต้อง
    ดำเนินชีวิตอย่างไร เพราะความไม่รู้นั้นทำให้พลาด แล้วดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความประมาท
    ชะล่าใจ แล้วต้องไปใช้วิบากกรรมที่ทรมานอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เรื่องนรกสวรรค์ การ
    เวียนว่ายตายเกิด หรือกฎแห่งกรรม เป็นสิ่งที่มีสอนในพระพุทธศาสนามายาวนานกว่า ๒,๕๐๐ ปี
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสเรื่องเหล่านี้ไว้มากมาย มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกหลายแห่ง
    เพื่อให้เป็นหลักธรรมในการดำเนินชีวิตและเป็นข้อคิดเตือนใจให้ชาวโลกทั้งหลายทำแต่ความ
    ดี ละเว้นการทำความชั่วอันเป็นบาปอกุศล เมื่อละจากโลกมนุษย์นี้แล้วจะได้เสวยสุขอยู่ในสุคติ
    โลกสวรรค์ รอดพ้นจากทุคติภูมิ ไม่ต้องไปเสวยทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสในภายหลัง

    ๒. ให้มีกำลังใจในการสร้างความดี เพื่อให้ผู้ที่เชื่อเกิดกำลังใจในการทำความดี ให้มีจิตใจ
    ผ่องใสอยู่เสมอ และเกิดความเกรงกลัว ละเว้นสิ่งที่เป็นบาปอกุศล ไม่ว่าจะทำโดยเจตนาหรือ
    รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม ผู้ที่ยังลังเลสงสัยไม่เชื่อ ๑๐๐ เปอร์เซนต์ เพราะยังพิสูจน์ด้วยตนเองไม่ได้
    ก็ขอให้มุ่งทำแต่ความดี หากนรกสวรรค์มีจริง ตายแล้วจะได้เสวยสุขอยู่ในสุคติ ไม่ต้องไปรับทุกข์
    ทรมานแสนสาหัสอยู่ในทุคติ ซึ่งมีระยะเวลาอันยาวนานกว่าในเมืองมนุษย์หลายล้านเท่า หาก
    ไม่มีจริง การทำความดีหรือรักษาจิตให้ผ่องใสไว้ก็ไม่สูญเปล่าจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองใน
    ชาตินี้อย่างเห็นได้ชัดเพราะทำให้ได้รับความสบายใจในเบื้องต้น สุขใจทุกครั้งที่ระลึกถึง
    ไม่มีเรื่องให้ร้อนใจในภายหลัง การไม่ทำบาปอกุศล ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ก็ไม่ต้อง
    มีชีวิตอยู่อย่างหวาดผวา หรือต้องรับโทษทัณฑ์ในชาตินี้

    ๓. ให้เข้าใจว่า เราไม่มีทางเลือกอื่นใดที่จะไม่ไปปรโลก เราไม่มีทางเลือกอื่นใดเลย ที่จะ
    ไม่ไปปรโลก ซึ่งตอนที่เรามีชีวิตอยู่ เราไม่อยากไปที่ไหน เราก็เลี่ยงที่จะไม่ไปที่นั้นได้ แต่ปรโลก
    ....แม้ไม่อยากไปเราก็ต้องไป ซึ่งปรโลกเราแบ่งเป็น ๒ ฝ่าย คือ ฝ่ายสุคติกับฝ่ายทุคติ เพราะ
    ฉะนั้นความรู้ตรงนี้เป็นความจริงที่ต้องรู้ ซึ่งความรู้บางอย่างเราไม่รู้ ไม่เป็นไร... อย่างเราไม่รู้
    วิธีทำยานอวกาศไปดาวอังคารก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่บางอย่างไม่รู้ไม่ได้ เพราะไม่รู้แล้วไม่ปลอดภัย
    ไม่รู้แล้วอันตราย ซึ่งถ้าถึงตอนนั้นเราก็ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเราเอง

    ๔. ให้เข้าใจว่าผู้ที่ละโลกไปแล้วนั้น ต่างรอคอยผลบุญที่ผู้ยังมีชีวิตอยู่อุทิศไปให้ ดังนั้น
    การสื่อถึงกันระหว่างผู้ละโลกกับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงมีทางเดียวเท่านั้น คือ การทำบุญด้วยการ
    ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา แล้วอุทิศผลบุญไปให้ เพื่อชีวิตในปรโลกจะได้พ้นจาก
    ความทุกข์ หรือที่มีความสุขอยู่แล้วก็จะได้เป็นสุขยิ่งๆ ขึ้นไป

    สุดท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Case Study จะเป็นแนวทางที่ดีในการให้ผู้อ่านได้รับรู้ถึง
    วิธีการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ไม่หลงไปทำบาปกรรม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะกรรมบาง
    อย่าง บางทีเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เป็นบาป เราจึงหลงไปทำ หรือไม่เชื่อ... เลยทำ ถ้าไม่
    เชื่อของแนะนำว่า ให้เผื่อไว้ก็ดี ดีกว่าไม่เผื่อไว้ ถ้าสิ่งเหล่านี้มีจริง ตัวเราเองนั่นแหละจะต้อง
    เป็นผู้รับผิดชอบ ผลของการกระทำนั้นด้วยตัวเอง.....

    ยํ กมฺมํ กริสฺสนฺติ กลฺยาณํ วา ปาปกํ วา
    ตสฺส ทายาทา ภวิสฺสนฺติ

    ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม
    ตนจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
     
  2. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ..........ภูตทหารเก่าเฝ้าทรัพย์..........


    ....... " เหวียงพะโค " แปลว่า ทุ่งหญ้าใหญ่ในภาษากะเหรี่ยง
    หมายถึงดินแดนรกร้างเวิ้งว้างไพศาลทางทิศตะวันตกของ
    ประเทศไทย ในอดีตเคยเป็นเส้นทางเดินทัพระหว่างอาณาจักร
    พุกามและกรุงศรีอยุธยา มีซากเมืองโบราณสมัยทวาราวดี
    หลายเมือง ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ผู้คนแถบนี้ อยู่กระจัด
    กระจายกันเป็นกลุ่มเล็กๆ พบขวานหิดในถ้ำ และบนหลุมฝัง
    ศพมีหินเรียงเป็นวงกลมตั้งแต่พื้นที่อุ้มผางจนถึงอุทัยธานี

    ผืนป่าตะวันตกแห่งนี้ หลบเร้นอารยธรรมเมืองมานาน
    แสนนาน กลายเป็นมรดกโลก มีชื่อว่า ป่าทุ่งใหญ่ห้วยขาแข้ง
    ดินแดนบริสุทธิ์เกิดตำนานป่ามากมายกลางทุ่งนับหมื่นๆ ไร่ ที่
    เรายังไม่รู้คุณค่าและความยิ่งใหญ่ของสรรพสิ่งที่แอบซ่อนอยู่
    ในป่านานนับกัลป์ จนกระทั่ง..........

    ไฟไหม้ป่า

    .......เกิดไฟไหม้ห้วยขาแข้งครั้งใหญ่ ในปี พ.ศ ๒๕๓๗ สื่อมวลชนทุกแขนงจึงเข้าไปทำข่าว
    ในป่ากันอย่างคึกคัก พบว่านักดับไฟป่าเป็นนักเรียนตัวโค่งอายุ ๒๐ ปี อยู่ชั้น ม. ๑ โรงเรียน
    สาขาโรงเรียนห้วยคตพิทยาคม ตำบลสมอทอง อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นจุด
    ที่อยู่ใกล้ป่ามากที่สุด ข่าวโทรทัศน์ทุกช่องแพร่ภาพและสัมภาษณ์เยาวชนนักดับไฟป่าไป
    ทั่วประเทศ <!--MsgFile=1-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y3432774-1.jpg
      Y3432774-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.7 KB
      เปิดดู:
      275
  3. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    กลุ่มนวสัมพันธ์

    .......นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงคนหนึ่ง เกิดสะดุดตาข่าวนี้อย่างจัง เขาเป็นนักทำกิจกรรม
    กลุ่มนวสัมพันธ์ออกค่ายนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ร่วมกับเพื่อนนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ
    หลายสถาบัน เมื่อเห็นกำลังนักเรียนดับไฟป่าในจอโทรทัศน์ เขานึกในใจว่า " ใช่เลย เราต้อง
    ไปหานักเรียนกลุ่มนี้ "

    เขารีบจับรถประจำทางไปอุทัยธานีทันที และเมื่อไปถึงเขาขอเข้าพบครูใหญ่โรงเรียนสาขา
    โรงเรียนห้วยคตพิทยาคม อำเภอห้วยคต และเสนอกิจกรรมค่ายนักเรียนร่วมกับนักศึกษา ซึ่ง
    ครูใหญ่ก็อนุญาตและให้ความร่วมมือด้วยดี จากนั้น เขาจึงรีบกลับกรุงเทพฯ ชวนเพื่อนๆ นัก
    ศึกษาที่เคยออกค่ายด้วยกันเป็นประจำ เรียกว่า กลุ่มนวสัมพันธ์ไปออกค่ายห้วยคต ช่วงนั้น
    เป็นเดือนตุลาคม พ.ศ ๒๕๓๗ นักศึกษาสอบไล่เสร็จพอดี พร้อมที่จะเดินทางไปอุทัยธานีได้
    เหลือเพียง ๒ -๓ คนที่ยังสอบวิชาบางวิชาไม่เสร็จ พอสอบเสร็จแล้วจะขับรถตามไปทีหลัง

    .......นักศึกษากลุ่มนวสัมพันธ์มาจากสถาบันต่างๆ มี ราชภัฎสวนสุนันทา ราชภัฎสวนดุสิต
    มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล คลองหก ปทุมธานี ในจำนวนนี้
    มี นายเอกฉัตร มั่นคง รวมอยู่ด้วย เขาเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีที่ ๓ สถาบันเทค
    โนโลยีราชมงคล คลองหก ปทุมธานี เป็นครั้งแรกในชีวิตของเอกฉัตรที่ได้ออกค่ายนักศึกษา
    ร่วมกับเพื่อนๆ

    หัวหน้าค่ายเป็นศิษย์เก่าเทคนิคกรุงเทพฯ ทุ่งมหาเมฆ ฝึกสมาธิหลายปีกับพระป่าสกลนคร
    เป็นนักแต่งเพลงไทยลูกกรุง อายุ ๔๐ ปี รูปร่างท้วมขาว ลักษณะไม่ใฝ่ทางโลกมากนักและ
    ไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ใครๆ เรียกเขาว่า " ป๋า "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y3432774-2.jpg
      Y3432774-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.9 KB
      เปิดดู:
      187
  4. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    นักเรียนค่ายห้วยคต

    .......นักเรียนที่สมัครเข้าค่ายห้วยคต มี ๘๐ คน จากนักเรียนทั้งหมด ๑๐๓ คน เรียนชั้น ม. ๑
    ถึง ม. ๓ อายุระหว่าง ๑๒ - ๑๕ ปี นักเรียนเหล่านี้เป็นนักเรียนโรงเรียนสาขาโรงเรียนห้วย
    คตพิทยาคม มีครูใหญ่ชื่อ ครูปัญญา วิทยารัตน์ และครูน้อย ๒ คน คือ ครูวันเพ็ญ วิทยารัตน์
    ภรรยาของครูใหญ่และครูจิตภานันท์ ฉ่ำแสง

    ห้องเรียนของนักเรียน เป็นใต้ถุนอยู่ในวัดสมอทอง บางวันชาวบ้านเอาโลงศพมาตั้งรอ
    พระสวดไว้ข้างๆ นักเรียน พ่อแม่ของนักเรียนเหล่านี้ เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อีสานอพยพ
    และชาวไทยพื้นราบล้วนตั้งบ้านเรือนห่างๆ กันในหมู่บ้านกะเหรี่ยง ละว้าและไทย ทำไร่ข้าว
    โพด ทำสวน เก็บของป่า เห็ดป่าขาย <!--MsgFile=3-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y3432774-3.jpg
      Y3432774-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      7.9 KB
      เปิดดู:
      189
  5. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    .......เด็กนักเรียนบางคนยากจนเดินเท้าเปล่าไปโรงเรียน ชุดนักเรียนเป็นเสื้อผ้ารับบริจาค และ
    ไม่มีอาหารกิน ทำให้เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ซ้ำร้าย พ่อแม่ของเด็กบางคนไปรับจ้างที่อื่น หาย
    สาบสูญไปจากพื้นที่ ทิ้งลูกไว้ เด็กๆ ต้องพึ่งอาหารก้นบาตรของพระภิกษุ ๒ รูป ที่วัดสมอทอง
    ต่อชีวิต แต่ก็มีบางวันที่พระบิณฑบาตไม่ได้ ครู ๓ คน จึงต้องหาทุนมาทำอาหารให้ ครูวิ่งรอก
    พลัดเวรสอนหนังสือ และสอนหุงข้าว ครูให้เด็กๆ เอาข้าวมาจากบ้าน แล้วออกไปเก็บผักป่า
    มีหัวปลี ฯลฯ มาทำอาหาร ครูจะบอกให้นักเรียนใส่ผักมากๆ ใส่เนื้อไก่น้อยๆ การมีอาหาร
    กินทำให้เด็กๆ มาเรียนหนังสือกันมากขึ้น

    ห้วยคตมีธรรมชาติสวยงาม กิจกรรมค่ายห้วยคตของนักศึกษา จึงเน้นไปที่การสำรวจและ
    ศึกษาสิ่งแวดล้อม โดยมีครูปัญญาและครูวันเพ็ญ วิทยารัตน์ ควบคุมดูแลและประสานงาน
    กิจกรรมของค่ายมีป๋า นำนั่งสมาธิ ๒ รอบ มีรอบเช้าและเย็น ตอนบ่าย พี่ๆ นักศึกษาแนะนำ
    น้องๆ นักเรียนเรื่องแนวทางการศึกษาต่อ ตามด้วยชั่วโมงสันทนาการ รวมระยะเวลาเข้าค่าย
    ๙ วัน <!--MsgFile=4-->


    สำนักสงฆ์น้ำพุร้อน สมอทอง

    .......พื้นที่จัดค่าย เป็นสำนักสงฆ์ชื่อ สำนักสงฆ์น้ำพุร้อนสมอทอง ตั้งอยู่ในป่าห่างไกลจาก
    ตัวหมู่บ้านสมอทอง มีพระภิกษุ ๒ รูป คือ หลวงตาชรา และพระอาคันตุกะหนุ่มอายุราว ๓๐
    ปี เศษ ธุดงค์มาจากที่อื่นมาจำพรรษาอีก ๑ รูป หลวงตามีรูปร่างผอมบางสันทัด แก้มตอบ หลัง
    ค่อมเล็กน้อย ผมขาวแซมดำ ใบหน้าใจดี มีเมตตา และพูดภาษาพื้นบ้าน ท่านรู้สึกยินดีที่มีคน
    มาปฎิบัติธรรมในเขตสำนักสงฆ์ของท่านที่ท่าน เรียกว่า " ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ "

    ตกค่ำ บนเขาปกคลุมด้วยความมืดมิดจนผู้คนต่างถิ่นอดนึกไม่ได้ว่าไม่เคยเข้าป่ามืดสนิท
    ขนาดนี้มาก่อนเลย มีเสียงหมาหอนหลายตัวแว่วมาไกลๆ แสงเทียนไม่กี่ดวงบนกุฎิและศาลา
    สร้างบรรยากาศวิเวก วังเวง เยือกเย็น และเงียบสงัดกลางป่าใหญ่ที่ใครๆ นึกไม่ถึงว่าจะมี
    ในโลกยุคใหม่ที่อึกทึกเร้าใจด้วยเสียงเครื่องยนต์กลไก <!--MsgFile=5-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y3432774-5.jpg
      Y3432774-5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.4 KB
      เปิดดู:
      198
  6. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    .......รุ้งเช้า แสงอาทิตย์อุทัยส่องให้เห็นที่โล่งกว้างไม่มีสิ่งใดกั้นสายตา เห็นกุฎิราว ๑๐ หลัง
    กระจายห่างกันพอสมควร สภาพยังดี มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปั้นด้วยปูนเก่าๆ มีรอยร้าว
    ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ชื่อ หลวงพ่อพุทโธ หน้าตักกว้าง ๑๔ เมตร หันพระพักตร์ไปทาง
    ลำธาร

    ห่างจากพระพุทธรูปไป ๑๐๐ เมตร มีควันพลุ่งจากตาน้ำร้อนที่ผุดขึ้นตามที่ต่างๆ ถัดไปอีก
    ๑๐๐ เมตร มีลำธารสายเล็กๆ หญ้าขึ้นสูงทั้งสองฝั่งศาลาการเปรียญโล่ง ไม่เก่ามาก ซ้ายมือของ
    ศาลาเป็นแนวไฝ่ มีห้องสุขารวม ถัดไป เป็นบ่อน้ำร้อน ขอบบ่อสูง ๖๐ เซนติเมตร ไว้กักตา
    น้ำใช้อาบ น้ำอาบ ตักจากบ่อน้ำพุบ่อเล็กๆ หลายบ่อ น้ำใช้ซักล้างสูบจากลำธาร เล็กๆ ขึ้นมา
    น้ำดื่มเป็นน้ำลำธารเอามาต้มแต่ต้องกรองเพราะน้ำไม่ใสมาก ด้านบนขึงซาแลนบังแดด มีแนว
    ไฝ่กั้นตามธรรมชาติต้องลมพัดพลิ้วซ่า

    โรงอาหาร เป็นเรือนไม้ยกพื้นสูงเล็กน้อย พื้นตีกระดานหลังคามุงสังกะสี ตรงข้ามโรง
    อาหารเป็นกุฎิพระ ๒ หลัง มีหน้าต่าง ๓ ด้าน ใช้เป็นที่พักชั่วคราวของนักเรียนหญิง โดยมี
    พี่ๆ นักศึกษาจัดเวรยามเฝ้ากะ ๆ ละ ๒ ชั่วโมงตลอดคืนจนสว่าง <!--MsgFile=6-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y3432774-6.jpg
      Y3432774-6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.7 KB
      เปิดดู:
      181
  7. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ค่ายกลางป่า

    .......กิจกรรมแต่ละวันเริ่มต้นด้วย ป๋า นำนักเรียนนั่งสมาธิครั้งละ ๑ ชั่วโมงทุกเช้าเย็น คุยเกร็ด
    ธรรมะเล็กๆ น้อยๆ จากพระไตรปิฎกครึ่งชั่วโมง ก่อนนั่งสมาธิอีกครึ่งชั่วโมง นักศึกษาที่เพิ่ง
    เข้าค่ายเป็นครั้งแรกอย่างเอกฉัตร รู้สึกประหลาดใจที่ปุถุชนคนธรรมดาก็นั่งสมาธิได้ นึกว่า
    มีแต่พระเท่านั้นที่มุ่งฝึกสมาธิ ใบหน้าของป๋ายิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุขเหมือนพระพุทธรูป
    ทำให้หนุ่มน้อยริดื่มเหล้าวัย ๒๐ ปี อย่างเอกฉัตรอยากฝึกบ้าง

    เสียงเพลงสามซ่าลั่นป่าในชั่วโมงสันทนาการ ทำให้น้องๆ นักเรียนคึกคักร่าเริงเป็นพิเศษ
    หัดลีลาศเลียนท่าสวยงามแบบไทยๆ ตามพี่นักศึกษา แล้วอิ่มอร่อยกับอาหารเสร็จใหม่ร้อนๆ
    จากเตาถ่านฝีมือพี่นักศึกษาหญิง โดยมีพี่นักศึกษาชายเป็นคนขับรถกระบะเข้าไปซื้อของสด
    ใหม่ในเมืองทุกวัน ภายในช่วง ๙ วันนั้น หลวงตากับพระธุดงค์ไม่ต้องออกบิณฑบาต และ
    ได้เป็นเนื้อนาบุญกลางป่าให้เยาวชนของชาติเต็มที่



    เที่ยวน้ำตกไซเบอร์

    .......วันหนึ่งชาวค่ายทุกคนเดินทางไปที่น้ำตกไซเบอร์ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักสงฆ์น้ำพุร้อนสมอทอง
    ๔๐ กิโลเมตร ทางเดินในป่าเปลี่ยวลึกมาก ไม่ค่อยมีใครไปเที่ยว ปากทางเข้าน้ำตกเป็นหมู่บ้าน
    กะเหรี่ยง สองข้างทางขรุขระ น้ำตกนี้ไหลมาจากภูเขาสูงจึงทำให้เกิดน้ำตกเป็นระยะหลาย
    ชั้น ไหลลงมากระทบหินก้อนใหญ่กระจายลงแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ไหลซอกซอนไปตามเกาะ
    แก่งของหินสู่เบื้องล่าง เป็นทางยาวสูงต่ำหลายชั้น บริเวณโดยรอบเป็นป่า มีหวายและต้นไม้
    ใหญ่ขึ้นร่มครึ้ม ธรรมชาติของป่าแถบนี้สวยงามนิ่งๆ ลึกลับอย่างป่าดงพงไพรสมัยดึกดำบรรพ์ <!--MsgFile=7-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y3432774-7.jpg
      Y3432774-7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.4 KB
      เปิดดู:
      194
    • Y3432774-8.jpg
      Y3432774-8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      10.4 KB
      เปิดดู:
      187
    • Y3432774-9.jpg
      Y3432774-9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.2 KB
      เปิดดู:
      164
    • Y3432774-10.jpg
      Y3432774-10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      14 KB
      เปิดดู:
      201
  8. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ผู้มาเยือน

    .......เมื่อกลับไปถึงสำนักสงฆ์ เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ป๋ากำลังนำเด็กนักเรียนนั่งสมาธิ ทันใดนั้น
    ป๋าเห็นไฟลุกท่วมพระพุทธรูปในสมาธิ ทำให้ป๋ารู้สึกใจไม่ดี เกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น และแล้ว
    ป๋าก็เห็นคนคล้ายๆ ยักษ์ยืนรอบศาลาเต็มไปหมด แต่ไม่รู้ว่าเขามาทำไม ป๋าพยายามนั่งสมาธิ
    กันคนคล้ายยักษ์นั้นไว้ แต่กั้นไม่อยู่ ป๋าจึงถอนออกจากสมาธิ

    วันสุดท้ายของการเข้าค่าย ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านกำลังให้โอวาทท่ามกลางผู้ปกครองและนัก
    เรียนอยู่นั้น ฉับพลันเกิดเหตุการณ์เหนือการคาดคิด ทำให้ทุกคนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกใหม่
    อีกโลกหนึ่ง <!--MsgFile=11-->


    โลกมิติใหม่

    .......เสียงเด็กๆ ร้อง ตะโกนว่า " พี่ช่วยผมด้วย มันจะเอาตัวผมไปแล้ว !! " คนในที่นั้นพากัน
    ตื่นตระหนก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนนั้นเกิดโกลาหล นักเรียนคล้ายถูกผีเข้า ๘ คน คนที่วิ่ง
    เข้าไปใต้ต้นไม้จะต้องร้องลั่นรีบวิ่งหนีออกมา บางคนอยู่ดีๆ ลุกขึ้นฟ้อนรำป้อ มีนักเรียนคน
    หนึ่งชื่อ สมบูรณ์ ฝึกสมาธิเก่งกว่าเพื่อน วิ่งมาบอกว่า

    " พี่ๆ ไม่รู้ใคร นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดงไม่ใส่เสื้อ ยืนล้อมศาลาเต็มไปหมดเลย หัวหน้ามี
    สายสังวาล ดูดุกว่าเพื่อน นั่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์ คอยสั่งการลูกน้องให้เข้ามาจับเด็กๆ ! "

    หลวงตาไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย ท่านทำน้ำมนต์แล้วให้นักศึกษาคนหนึ่ง
    ยกพระพุทธรูปหน้าตักประมาณ ๑ เมตร มาครอบศีรษะเด็กๆ ที่ผีเข้า ป๋าและพี่ๆ นักศึกษา
    จับเด็กๆ ๘ คนนี้ มานั่งรวมกันแล้วให้พี่ๆ นั่งสมาธิล้อมไว้ แต่เด็กก็ยังไม่ดีขึ้น พี่เลี้ยงคนหนึ่ง
    จึงวิ่งไปขอให้พระธุดงค์ช่วย ท่านมานั่งสมาธิ ในศาลาสักพักหนึ่ง ท่านลืมตาขึ้นบอกว่า
    " อาตมาช่วยอะไรไม่ได้เลย เพราะญาณยังไม่สูงพอจะช่วยใครได้ "

    ทันใดนั้น พี่เลี้ยงนักศึกษาชื่อ เอกฉัตร มั่นคง ก็ต้องสะดุ้ง เพราะมีเสียงเรียกของ
    บัญชา ยอดสนิท หรือ ต๊ะ ๑ ใน ๘ ของนักเรียนที่ถูกผีเข้า

    " พี่เอก ๆ ช่วยผมด้วย นั่งสมาธิช่วยผมด้วย ! " <!--MsgFile=12-->
     
  9. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    .......เอกฉัตรจึงรีบไปนั่งสมาธิตรงหน้าเด็กชายต๊ะ จับมือกันไว้ตามที่ต๊ะบอก นึกภาวนาคำว่า

    " น้องต๊ะ ๆๆๆ " ทันทีที่จับมือต๊ะ เอกฉัตรรู้สึกมือชาไล่มาเรื่อยๆ จนถึงท้อง เขารีบลืมตา
    ถามต๊ะทันทีว่า " พี่ช่วยน้องได้ไหม " เด็กชายต๊ะตอบว่า " พี่ช่วยผมได้แค่แป๊บเดียว เดี๋ยว
    มันก็กลับมาอีกแล้ว ตอนนี้มันกลับมาอีกแล้วครับ พอพี่มาจับมือผม มันก็หนีไป เพราะสมาธิ
    ของพี่ยังไม่มั่นคงพอ พลังยังไม่มากพอ แต่ก็ช่วยผมได้บ้างครับ "

    นายปุ๊เพื่อนนักศึกษามาช่วยจับมือเอกฉัตรไว้ ส่วนน้องแกลบกับน้องหยอด นักเรียน ๒ พี่
    น้อง เข้ามาจับมือน้องต๊ะไว้ ทุกคนต้องช่วยกันเพราะรู้สึกว่าต๊ะเป็นคนที่โดนเล่นงานมากที่
    สุด ทำให้นั่งสมาธิกันนานพอสมควร คนอื่นๆ พลอยทำตามไปด้วย ส่วนเด็กๆ ที่ไม่มีอาการ
    นั่งดูเหตุการณ์อยู่รอบนอก

    ป๋านั่งสมาธิอยู่พักหนึ่ง ยังเห็นพวกคล้ายยักษ์หน้าตาดุอยู่แถวนั้น รุ่นพี่นักศึกษาอีกคนหนึ่ง
    ที่ฝึกสมาธิมานานแล้ว นั่งหลับตา สักพักหนึ่ง เขาลืมตาขึ้นมารู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาก บอกว่า
    " สู้แล้ว สู้ไม่ได้ พวกเขามากันเยอะแยะ "

    เอกฉัตรจินตนาการไม่ออกเลยว่าเขาสู้กันแบบไหน น่าแปลกใจว่าหลวงตาอยู่ในบริเวณ
    นั้นมานานกลับไม่เคยเจอเรื่องนี้มาก่อนเลย


    .......ครูปัญญา วิทยารัตน์ ครูใหญ่เรียนวิทยาศาสตร์มามาก จึงไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ คิดว่า เด็กๆ
    อาจเครียดเกินไป เพราะอบรมค่ายหลายวันติดต่อกัน ครูใหญ่จึงจับมือนายปุ๊ เอกฉัตร ต๊ะ
    น้องแกลบ และน้องหยอด ออกจากกัน แล้วบอกว่าจะพาเด็กๆ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลลานสัก
    ห่างจาก สำนักสงฆ์ ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร จากนั้น อุ้มเด็กๆ ๘ คน ที่มีอาการ ผีเข้าไปขึ้นรถ
    โดยแยกเด็กชายต๊ะออกมาจากคนอื่นๆ

    เด็กชายต๊ะนั่งนิ่งๆ เฉยๆ แต่พูดจาแปลกๆ ส่วนคนอื่นๆ ละเมอ เพ้อบ้าง ลุกขึ้นกระโดด
    โลดเต้นบ้าง พ่อแม่เด็กๆ ที่ไม่เชื่อเรื่องผีเข้า จะเอาลูกกลับบ้านท่าเดียว แต่ก็เอากลับไปไม่ได้
    เพราะพอออกพ้นเขตสำนักสงฆ์ ลูกพากันอาละวาดทันที จนพ่อแม่ต้องเอากลับเข้ามาในเขต
    สำนักสงฆ์ใหม่ เอกฉัตร กับเพื่อนๆ นักศึกษาบางส่วนจึงอยู่ดูสถานการณ์ คืนนั้น ทุกคนหลับ
    ไปด้วยความอ่อนเพลีย

    ส่วนรถที่พานักเรียนไปส่งโรงพยาบาล ยังไม่ทันออกนอกเขตสำนักสงฆ์ มีแรงกระซาก
    พวงมาลัยให้รถไหลลงข้างทาง คนขับพยายามดึงพวงมาลัยหักกลับมาบนถนน ก็ถูกดึงกลับ
    ไปใหม่ หลายครั้งจนรถเลยพ้นเขตสำนักสงฆ์ไป แต่เด็กๆ ในรถยังคงรำ หรือร้องเพลง บาง
    คนมีสติร้องให้พี่ๆ ช่วยด้วย <!--MsgFile=14--><!--MsgFile=13-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    โรงพยาบาลลานสัก

    .......โรงพยาบาลเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ นักเรียนทั้ง ๘ คนเป็นคนไข้ ผีเข้ารายแรกของโรงพยาบาล
    แต่หมอไม่เชื่อร้องว่า " บ้า ! " แล้วฉีดยานอนหลับให้นักเรียนทั้ง ๘ คนทันที

    ทันใดนั้น พัดลมเพดานตกลงมาเฉียดตัวนักศึกษาที่กำลังนอนบนแคร่นอกห้องคนป่วย
    ไปนิดเดียว ครูปัญญาเห็นเด็กๆ ๘ คน ที่ถูกผีเข้าจับมือกันล้อมเป็นวงกลมใต้พัดลมเพดานตัว
    นั้น แล้วเงยหน้าจ้องดูพัดลมเป็นตาเดียวกัน ราวกับเพ่งจิตให้น้อตขันพัดลมหลุด จนมันตก
    ลงมาจากเพดาน หวังจะให้คนที่ไม่เชื่อเห็นเป็นขวัญตา

    น้องๆ บางคนเริ่มดีขึ้น แต่น้องผู้หญิงบางคนยังรำให้พี่ๆ ดู และร้องเพลงภาษาที่ไม่เข้า
    ใจ ปกติเวลาพูด เสียงน้องผู้หญิงใสๆ แต่เมื่อผีเข้า เสียงพูดจะเปลี่ยนเป็นห้วนห้าว ตาแดงดุๆ
    ขวางๆ น่ากลัว บางคนโดนฉีดยานอนหลับถึง ๘ เข็ม แต่ไม่ยอมหลับ ยังคงละเมอเพ้อพกไป
    เรื่อย.. <!--MsgFile=15-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y3432774-15.jpg
      Y3432774-15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      14.7 KB
      เปิดดู:
      192
  11. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    .......ส่วนน้องต๊ะ มีอาการเหม่อลอยแต่ยังคุยกันรู้เรื่อง เล่าให้เอกฉัตรฟังว่า

    " เมื่อคืน พวกมันตามมาด้วยกันหลายตัว แต่พอมาถึงอนามัย มันเข้ามาไม่ได้ เพราะเจ้าที่ที่นี่
    ไม่ยอมให้เข้า แต่สุดท้ายมันเข้ามาได้เพราะมีมากกว่า ตอนนี้ มันก็ยังมาจับพวกผมอยู่เลยครับ
    เมื่อคืน ครูปัญญาไม่น่าจับมือพี่เอกกับผมแยกออกจากกันเลย เพราะจิตของทุกคนมุ่งที่จะช่วย
    ผม และเหมือนกับว่ามีอะไรมาตัดเส้นทางกะทันหัน ทำให้ไม่มีใครช่วยผมได้ "

    เอกฉัตรฟังต๊ะแล้วเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ถามว่า " แล้วต๊ะจะให้พี่ทำอย่างไร ? "

    น้องต๊ะนั่งหลับตาพักหนึ่ง แล้วพูดว่า " มีชีปะขาวมาบอกว่าให้เราทั้ง ๔ คนนั่งสมาธิจับ
    มือกันอีกครั้งหนึ่ง แล้วค่อยๆ ถอนจิตออกมา "

    เอกฉัตรนึกในใจ เดี๋ยวจะไปทำบุญ ทั้งตักบาตรและถวายสังฆทาน พอคิดเช่นนี้ น้องต๊ะ
    พูดขึ้นว่า " ผมเห็นร่างพี่เอกกลับคืนมาใหม่แล้ว สว่างกว่าเดิมอีก "

    พี่เอกดีใจมาก พลันมีรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามาพร้อมเสียงตะโกนลั่นว่า
    " ที่สำนักสงฆ์เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ! ตอนนี้ เป็นกันหมดทุกคนเอาไม่อยู่แล้ว ! "




    <!--MsgFile=16-->

     
  12. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เหตุการณ์ที่สำนักสงฆ์

    .......ครั้นไปถึงสำนักสงฆ์ เด็กๆ กำลังอาละวาดกันใหญ่ พอพี่ๆ ไปจับตัวเด็กๆ กระเด็นผาง
    ออกมา บางคนร้องกรี๊ดๆ อย่างน่ากลัว เด็กหลายคนตะโกนสั่งงานคนโน้นคนนี้ มีคนหนึ่ง
    สั่งเด็กทุกคนให้มารวมกันหน้าพระพุทธรูป พอมารวมกันแล้ว เด็กเดินวนรอบพระพุทธรูป
    ก็มี ร้องรำทำเพลงไปด้วยก็มี จนต้องนำเด็กที่มีอาการทั้งหมดไปวัดใหญ่แห่งหนึ่งในตัวจังหวัด
    อุทัยธานี

    ภายในคืนนั้น ป๋ากับนักศึกษาชื่อนายปุ๊รีบขับรถออกจากห้วยคตไปขอพึ่งพระ พระอาจารย์
    ของป๋าที่วัดป่าสกลนคร <!--MsgFile=17-->


    วัดใหญ่ในอุทัยธานี

    .......พระที่วัดแห่งนั้น เอาสายสิญจน์ปลุกเสกมาผูกข้อมือเด็กที่ถูกผีเข้าทุกคน และบอกให้เด็กๆ
    ค้างที่วัด โดยให้นักเรียนพักห้องละ ๑ คน มีพี่เลี้ยงเฝ้าดู ๒ คน ส่วนนักเรียนคนที่หมอฉีดยา
    นอนหลับให้ ๘ เข็ม พี่ๆ ต้องผลัดกันเฝ้า ได้นอนคนละ ๑ ชั่วโมง

    เด็กคนหนึ่งไม่ยอมให้พี่ๆ นักศึกษาเรียกว่า " น้อง " เพราะเขาเป็น " คนอื่น " ไม่ใช่น้อง
    และขอให้แกะสายสิญจน์ออกจากข้อมือของเขาเสียก่อน เขาจึงจะออกไปจากร่างของเด็กได้
    พี่ๆ จึงแกะสายสิญจน์ออกจากข้อมือของน้องๆ ทั้ง ๘ คน แล้วผูกข้อมือใหม่ น้องๆ จึงเริ่ม
    ดีขึ้น ก่อนหลับ มีเสียงทุบผนังห้องข้างๆ ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ในห้องนั้นเลย

    รุ่งเช้า พอตื่นขึ้นมา เด็กชายต๊ะคว้าหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ กลศาสตร์ของไหล มานั่งพิงเสา
    อ่าน แม่ของต๊ะเข้ามาถามลูกชายว่า " ลูกไม่เคยชอบอ่านหนังสือ และลูกก็ไม่เคยเรียนหนังสือ
    เล่มนี้ ทำไมถึงอ่านล่ะ ? "

    เสียงต๊ะตอบแม่ว่า " ผมเคยเรียน แต่ชื่อโรงเรียนผมอ่านไม่ออกเพราะเป็นภาษาอังกฤษ "

    เอกฉัตรได้ยินรู้สึกประหลาดใจมาก เพราะมันเป็นหนังสือสมัยที่เขาเรียนปวส. ที่โรงเรียน
    โปลีเทคนิคแห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว น้องต๊ะเพิ่งเรียนชั้น ม. ๓ และไม่ใช่เด็กเรียนเก่ง แต่
    สามารถอธิบายสมการของของไหลได้อย่างไร เขารู้สึกสับสนอีกแล้ว น้องต๊ะบอกว่า จิตของ
    เอกฉัตรค้างอยู่ที่น้องต๊ะส่วนหนึ่งตอนจับมือกันไว้ที่สำนักสงฆ์

    พอเลิกอ่านหนังสือกลศาสตร์ของไหลแล้ว น้องต๊ะตรงเข้าไปกอดแม่ของเพื่อน เรียกแม่
    ของเพื่อนว่า " แม่ " ทำให้แม่ของต๊ะถึงกับร้องไห้ด้วยความสงสารลูกชาย
     
  13. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    หัวหน้าเจ้าที่

    .......อีกฟากหนึ่งของอาคาร ณ วัดแห่งนั้น มีนักเรียน ๑ ใน ๘ คนที่ถูกผีเข้าอีกคนหนึ่ง ชื่อ
    นงลักษณ์ กำลังยืนร่างสูงใหญ่ ตัวแข็งทื่อ ตาขวางๆ

    พี่ๆ นักศึกษา เข้าไปยืนล้อมนงลักษณ์ พี่คนหนึ่งเข้าไปถามว่า " คุณเป็นใคร ? "

    เสียงดุๆ ตอบกลับมาจากนงลักษณ์ว่า " ข้าเป็นเจ้าที่ที่โน่น เราจะบอกพวกเจ้าว่า จะไปไหน
    จะทำอะไรกัน ไม่เห็นบอกเราเลย จะไปจะมา ไม่ลาไม่ไหว้เลย "

    พี่นักศึกษาถามกลับว่า " แล้วจะให้ทำอย่างไร ? "

    หัวหน้าเจ้าที่ในร่างนงลักษณ์ตอบว่า " พวกเจ้าต้องไปขอขมาเรา ให้เอกเป็นคนทำขอขมา
    และให้พาผู้ใหญ่บ้านไปขอขมาด้วย เพราะว่าวันนั้น ผู้ใหญ่บ้านเอาเหล้าเข้าไปดื่มในวัด เดี๋ยว
    เราจะออกไปก่อน พอไปถึงบ้านผู้ใหญ่ เราจะมาเข้าอีกทีหนึ่ง "

    กล่าวจบ วิญญาณหัวหน้าเจ้าที่ก็ออกจากร่าง นงลักษณ์ล้มฟุบลงกับพื้นทันทีร้อง " ว้าย !! " <!--MsgFile=19-->
     
  14. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    พิธีขอขมา

    .......เมื่อหัวหน้าเจ้าที่สั่งดังนั้น เอกฉัตรจึงตัดสินใจพาทุกคนไปทำพิธีขอขมาที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน
    ก่อนค่ำ ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนกล่าวคำปิดงานออกค่ายที่สำนักสงฆ์ก่อนเกิดเรื่อง พอไปถึงบ้าน
    ของผู้ใหญ่บ้าน นงลักษณ์ร้อง " กรี๊ด !! "

    อาการปกติของนงลักษณ์เปลี่ยนไป มีอาการเหมือนหัวหน้าเจ้าที่เข้าสิงอีก ที่รู้ว่าเป็นหัว
    หน้าเพราะเป็นคนสั่งการทุกอย่าง หัวหน้าเจ้าที่ในร่างนงลักษณ์บอกให้เอกฉัตรไปตามผู้ใหญ่
    บ้านมา ตอนแรก ผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมมาหา เจ้าที่ในร่างนงลักษณ์ จึงเดินไปตามเองและสั่ง
    ให้ผู้ใหญ่บ้านให้เตรียมธูปเทียนและให้ทุกๆ คนไปขอขมาเจ้าที่ด้วยกัน ผู้ใหญ่บ้านจึงยอม
    ทำตาม

    พอไปถึงสำนักสงฆ์น้ำพุร้อน สมอทอง หัวหน้าเจ้าที่สั่งให้เอกฉัตรกับผู้ใหญ่บ้านไปจุด
    ธูปขอขมา ให้คนอื่นๆ ไปนั่งหน้าพระประธานองค์ใหญ่ คือหลวงพ่อพุทโธ เอกฉัตรไปจุด
    ธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยในศาลาการเปรียญก่อน จากนั้น นำธูปที่เหลือทั้งหมดมาจุดและ
    ขอขมากลางแจ้ง แล้วนำธูปที่จุดแล้วไปปักรอบๆ สำนักสงฆ์ เสร็จแล้ว กลับมาที่พระประธาน
    และถามหัวหน้าเจ้าที่ในร่างน้องนงลักษณ์ว่า " ผมทำถูกแล้วหรือยังครับ ? "

    หัวหน้าเจ้าที่ตอบว่า " ทำถูกแล้ว เดี๋ยวน้องทุกคนจะหายเป็นปกติ รวมถึงใจของทุกๆ
    คนจะกลับมาอยู่ที่เดิมด้วย "

    พอหัวหน้าเจ้าที่พูดเช่นนั้น น้องๆ ทั้ง ๘ คนเริ่มหันมาพูดกันด้วยภาษาที่ไม่มีใครรู้จัก
    และแล้วหัวหน้าเจ้าที่บอกว่า " ไปแล้วนะ "

    เด็กทั้ง ๘ คนล้มฟุบลงกับพื้น สักพักหนึ่งทุกคนสติกลับคืนมาเหมือนเดิม ลืมตาขึ้นมา
    พร้อมๆ กัน ถามว่า " เกิดอะไรขึ้น พวกเรามาทำอะไรกัน ที่นี่ ? "



    <!--MsgFile=20-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ติ๋วกับสายพิณ

    .......เหตุการณ์น่าจะคลี่คลายเป็นปกติแล้ว แต่ยังมีน้องนักเรียนหญิงอีก ๒ คน คือ น้องสาย
    พิณกับน้องติ๋ว ที่ยังเหมือนมีผีสิงอยู่

    กิริยาของน้องติ๋วแปลกๆ เมื่อเดินเข้าไปคุยกับนักศึกษาคนหนึ่งชื่อ นายกิ๊ก แต่ไม่ใช่น้อง
    ติ๋วที่นายกิ๊กเคยคุยด้วยเลย พอเพื่อนของติ๋วชื่อสายพิณเดินมาใกล้ๆ ติ๋วหันมามองด้วยสายตา
    ขวางๆ และพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ ว่า " กิ๊กเป็นของฉันคนเดียวนะ ! "

    พี่ๆ นักศึกษาต้องจับตัวเด็กทั้งสองแยกออกจากกันไว้ไม่ให้ตบตีกัน แต่หลังจากที่น้องติ๋ว
    และน้องสายพิณบอกความในใจกับนายกิ๊กทีละคนแล้ว ต่างมีอาการเป็นปกติ ส่วนนายกิ๊กทำ
    อะไรไม่ถูก มึนงงสับสนไปหมดว่าเกิดอะไรขึ้นนี่ แล้วจะอย่างไรดี

    ได้แต่โอดครวญว่า " ถ้าน้องเป็นอะไรไปสักคน ผมต้องติดคุกแน่ๆ "


    วิญญาณป้าของติ๋ว

    .......ทว่าน้องติ๋วที่ดูเหมือนว่าจะหายแล้วกลับยังมีอาการเหมือนถูกผีเข้าอยู่ ครูปัญญา แม่ พูด
    คุยกันจนรู้ว่าผีใหม่ที่เข้ามาสิงน้องติ๋ว เป็นป้าที่ตายไปแล้วของน้องติ๋วเอง ป้าอยากจะพาน้อง
    ติ๋วไปอยู่ด้วยกันเพราะตอนนี้จิตของน้องติ๋วถูกดึงออกไปมากแล้ว แต่ครูปัญญาและแม่น้องติ๋ว
    ไม่ยอมบอกว่า " เป็นป้าของน้องติ๋วก็ต้องช่วยน้องติ๋วสิ "

    ป้าจึงหาทางช่วยเหลือ คือ ให้เอกฉัตรเข้าไปนั่งสมาธิในห้องน้องติ๋วตอนตีสามหรือไม่
    ก็ให้จุดธูปบอกให้ญาติของน้องติ๋วคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเนื้อคู่กันให้มาที่วัดนี้ในอุทัยธานีก่อน ๖
    โมงเช้า แล้วป้าก็เล่าเหตุการณ์ช่วงนางไม้เข้าสิงน้องติ๋วว่า.... <!--MsgFile=22-->




    <!--MsgFile=21-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    นางไม้กับนายกิ๊ก

    .......วันที่พี่ๆ นักศึกษาพาเด็กๆ ไปที่น้ำตกไซเบอร์ มีนางไม้สองตนสิงสถิตอยู่แถวนั้น นางไม้
    ทั้งสองตนเคยเป็นเพื่อนกันมาหลายภพหลายชาติ แล้วมาเจอผู้ชายคนหนึ่งที่กลายมาเป็นนัก
    ศึกษาคนหนึ่งในกลุ่มนี้ ชื่อ นายกิ๊ก

    ชาติในอดีต นายกิ๊กเคยไปหว่านเสน่ห์ให้หญิงสองคนหลงรัก แต่ไม่ยอมแต่งงานด้วย
    กลับไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นแทน พอตายแล้ว ด้วยจิตที่ผูกโกรธและผูกพัน หญิงสองคน
    นั้นไปเกิดเป็นนางไม้รอนายกิ๊กอยู่ที่น้ำตกไซเบอร์ เพราะรู้ว่าสักวันหนึ่ง นายกิ๊กจะมาเที่ยวที่
    น้ำตกแห่งนี้ พอนางไม้ทั้งสองเห็นนายกิ๊กที่น้ำตก ก็จำได้ทันที เธอทั้งสองรู้ด้วยใจว่านี่คือ
    ชายคนรักแม้มารอคอยตรงนี้มานาน และรูปร่างหน้าตาของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว

    จึงเข้าสิงร่างน้องติ๋วกับน้องสานพิณ แต่มาเข้าเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร พอนางไม้ที่อยู่ในร่าง
    น้องติ๋วออกแล้ว ก็ไปเกิดทันที ป้าจึงเข้าร่างน้องติ๋วต่อ ส่วนนางไม้ในร่างน้องสายพิณออก
    แล้วอีก ๓ เดือนจะไปเกิดใหม่

    เมื่อเล่าจบแล้ว วิญญาณป้าในร่างน้องติ๋ว ปิดท้ายว่ามีวิญญาณประเภทหนึ่ง หัวเป็นสัตว์
    ตัวเป็นคน กำลังเฝ้านายกิ๊กอยู่ แล้ววิญญาณป้าบอกว่า " ให้เอก นำพระที่ห้อยคอไปให้เพื่อน
    ผู้หญิงคนหนึ่งเพราะมีคนจ้องทำร้ายเธอ แต่เอกจะไม่เป็นอะไร ส่วนเอกอย่าเพิ่งเข้ามาใน
    ห้องที่ป้าอยู่ เพราะป้าจะต้องออกจากร่างของน้องติ๋วแล้ว "

    นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในห้องนั้น เอกฉัตรและเพื่อนๆ ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี แต่เอกฉัตร
    ก็ทำตามที่คุณป้าแนะนำทุกอย่าง เขาตื่นตี ๓ นั่งสมาธิจนถึง ๖ โมงเช้า


    ป๋าเป่ามนต์

    .......สักพักหนึ่ง ป๋ากับนายปุ๊ขับรถกลับจากสกลนคร เอกฉัตรเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ป๋าฟัง
    ป๋าฟังเสร็จ นั่งสมาธิ ท่องมนต์และเป่ามนต์พรวดไปที่ตัวน้องติ๋ว ทันใดนั้น น้องติ๋วลืมตาขึ้น
    แต่ยังเพลียๆ อยู่ พอน้องติ๋วหายเป็นปกติแล้ว ทุกคนพากันไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำของวัด ก่อน
    จะแยกย้ายกันกลับบ้าน มีนักศึกษาบางส่วนไปปล่อยปลาและนั่งสมาธิที่เขื่อนเขาแหลม ต่ออีก
    ๒ คืน หลังจากนั้น เอกฉัตรและเพื่อนบางคนเลิกดื่มเหล้าเมายาไปตลอดชีวิต เพราะเหตุการณ์
    ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนกลัวบาปกรรม
     
  17. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ดวงไฟ ๒ กลุ่มสู้กัน

    .......เมื่อนักศึกษากลับกรุงเทพฯ กันหมดแล้ว อีก ๑ เดือนต่อมา เกิดข่าวใหม่โด่งดังไปทั่วประ
    เทศ วันเปิดภาคเรียนวันแรก ขณะที่นักเรียนกำลังปลูกผักอยู่ที่ลำห้วยขุนแก้วพากันร้องกรี๊ดๆๆ
    วิ่งแตกตื่นมาหาครู ร้องว่า " พาพวกหนูหนีเร็ว !! "

    ภาพที่นักเรียนเห็นคือ กลุ่มดวงไฟตกลงมาจากท้องฟ้า แล้วก็กลายเป็นผีมาจับเด็กๆ แต่
    ก่อนที่จะจับ อีกฟากหนึ่ง มีกลุ่มดวงไฟอีกกลุ่มหนึ่ง ตกลงมาจากฟากฟ้าเหมือนกันแต่คนละ
    ซีก ทั้ง ๒ กลุ่ม มีความกว้างเท่าพวงมาลัย มีสีเหลืองและสีขาว กลุ่มหลังมาช่วยไม่ให้ผีกลุ่ม
    นั้นมาเข้าเด็กๆ ดวงไฟที่พุ่งเข้ามารบกันเองในตัวเด็ก มีมากมาย และแล้ว สิ่งประหลาดก็
    เกิดขึ้น เมื่อมี ฝูงไก่ที่กำลังเดินมาฝูงหนึ่ง พอเด็กคนหนึ่งชี้บอกว่าให้เดินถอยหลัง ไก่ก็เดิน
    ถอยหลังทันที

    ดวงไฟกลุ่มหนึ่งบอกว่า พวกตนขออนุญาตเทวสภามาเล่นแล้ว และบอกว่า ปี พ.ศ ๒๕๓๙
    จะมีเศรษฐีมาจากกรุงเทพฯ มาสร้างโรงเรียนให้เสร็จ ดวงไฟอีกกลุ่มหนึ่ง บอกว่า อย่าตกใจ
    มาแค่เล่นสนุกแป๊บๆ

    พอดี มีคนแนะนำให้ไปหาพราหมณ์ที่เรียนไสยเวทอยู่ที่ชัยนาท พราหมณ์บอกว่า สถาน
    ที่แห่งนี้ มีวิญญาณที่ไม่ได้ไปผุดเกิดมากมาย เป็นวิญญาณทหารเก่าสมัยพระนเรศวร พราหมณ์
    จึงทำพิธีสวดถอนวิญญาณ เด็กๆ ที่ถูกผีเข้าจนหายเป็นปกติ


    <!--MsgFile=25-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Y3432774-25.jpg
      Y3432774-25.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.9 KB
      เปิดดู:
      181
  18. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    กาลเวลาผ่านไป

    .......ปัจจุบัน สำนักสงฆ์น้ำพุร้อน สมอทอง ย้ายไปอยู่อีกที่แห่งหนึ่ง ส่วนที่เดิม ที่นักศึกษา
    เคยออกค่าย อยู่ใต้แผ่นดินและแผ่นน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว ตามโครงการชลประทาน
    ขนาดกลาง ยกเว้นตรงพระพุทธรูป ถมที่สูงยกพื้นขึ้นมาทำเป็นเกาะอุทยานกลางอ่างเก็บน้ำ
    ห้วยขุนแก้ว ส่วนน้ำพุร้อน สูบขึ้นมาเป็นบ่อน้ำพุร้อนสำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนนักเรียน
    โรงเรียนสาขาโรงเรียนห้วยคตพิทยาคมที่เข้าค่ายห้วยคต ต่างเติบโตแยกย้ายกันไปประกอบ
    อาชีพ มีขายของที่บ้านเดิม มีครอบครัว และเรียนหนังสือต่อในกรุงเทพฯ

    พ.ศ ๒๕๓๘ มีพระภิกษุและเศรษฐีจากบางขุนเทียนมาสร้างโรงเรียน เสร็จใน พ.ศ ๒๕๓๙
    โรงเรียนสาขาโรงเรียน ห้วยคตพิทยาคม จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า โรงเรียนสมอทองปทีปพลีผล
    อุปถัมภ์ ตามชื่อบ้านสมอทองที่ตั้งและผู้บริจาค คือ พระครูพิพิธพัฒนโสภณ และหมอทอง
    หยดกับแม่จันทร์พรรณปทีปพลีผล ส่วนครูปัญญา วิทยารัตน์ ย้ายไปเป็นผู้บริหารสถานศึกษา
    โรงเรียนทองหลางวิทยาคม ครูวันเพ็ญ วิทยารัตน์ ยังสอนอยู่ที่โรงเรียนเดิม

    ครูปัญญา วิทยารัตน์ จากเดิมเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องจิตใจ เริ่มเข้าใจแล้วว่า มีโลกอื่นนอก
    เหนือไปจากโลกวิทยาศาสตร์ที่เคยศึกษามา ประสบการณ์ที่พบด้วยตนเองคือ ได้ยินกระซิบ
    ข้างหูว่า นี่คือ พ่อขุนพลแก้วไล่ทหารพม่ามาทางนี้ พบลำห้วยขุนแก้วและตั้งฐานทัพในบริเวณ
    ที่ตั้งของโรงเรียน

    ส่วนครูวันเพ็ญ วิทยารัตน์ มีคนพาลงไปเมืองในถ้ำแห่งหนึ่ง มีคนนุ่งโจงกระเบนสีแดง
    ถือโล่ แหลน หอกและดาบเป็นอาวุธ ทั้งครูและเด็กนักเรียนได้ยินเสียงและเห็นทหารเก่า
    มาแล้ว จึงทำบุญและสวดมนต์ติดต่อกัน ๗ วัน ๗ คืน

    ชาวไร่คนหนึ่ง ชื่อ ลุงเล็ก นาคทัพ ผู้บริจาคที่ดินให้โรงเรียน ๓๕ ไร่ เล่าว่า แถบนั้น
    เคยพบวัตถุโบราณ เช่น ขวาน และ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ แล้วยังมีดวงไฟลอย ราว ๔ ทุ่ม
    และตี ๓ เป็นประจำขณะที่ชาวไร่กำลังเก็บถั่วฝักยาว และขึ้นอ้อยรถบรรทุกสิบล้อ แต่มีอยู่
    ๒ ครั้งที่ได้เห็นดวงไฟขนาดใหญ่ และสวยงามอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    มีสีครบทุกสี แบบสีรุ้งแต่เข้มข้นกว่า ดวงประมาณฟุตกว่าๆ หรือ ๔๐ ซ.ม. เห็นครั้งละ
    ดวง ลอยสูงราว ๕๐ - ๖๐ เมตรไม่เกิน ๘๐ เมตร ค่อยๆ ลดลงมาเป็นทางยาวขนานกับฟ้าจน
    ถึงระดับ ๓๐ เมตร ไม่ได้พุ่งลงมาเร็วแรงเหมือนดาวตกหรือผีพุ่งใต้ เป็นปรากฎการณ์ที่จด
    จำมิรู้ลืม <!--MsgFile=26-->


     
  19. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ปริศนา

    .......แต่เรื่องลี้ลับที่ยังเป็นปริศนาอยู่จนทุกวันนี้ไม่มีผู้ใดสามารถตอบได้ คือ

    คนตัวดำ นุ่งกางเกงสีแดง หัวหน้ามีสายสังวาล มาล้อมศาลา เด็กเห็นจริงหรือไม่
    ถ้าจริงคนเหล่านี้เป็นใคร เจ้าที่ที่มาเข้าสิงร่างของน้องผู้หญิง เป็นภูตหรือผี เหตุใดจึงต้อง
    มาอยู่แถวนั้น ผู้ที่เข้ามาร่างน้องติ๋วบอกเรื่องนางไม้ เป็นใครกันแน่ นางไม้ ๒ ตนที่น้ำตก
    ไซเบอร์มีจริงหรือไม่ และเหตุการณ์ในอดีตที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร และเหตุใด เจ้าที่และ
    ป้าในร่างน้องติ๋ว จึงต้องให้เอกฉัตรคนเดียวเป็นคนแก้ไขเหตุการณ์ เขาทำกรรมอะไรร่วม
    มาจึงต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้

    เวลาเอกฉัตรทำสมาธิและจับมือน้องต๊ะไว้ เหตุใด มือของเขาจึงชาไล่มาจนถึงปลายนิ้ว
    มือกระทั่งมาเข้าท้อง พราหมณ์บอกว่าบริเวณแถวๆ โรงเรียนแห่งใหม่มีวิญญาณทหารเก่า
    ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสถิตอยู่ เป็นความจริงหรือไม่

    ดวงไฟที่เด็กๆ เห็นตกลงมาจากฟ้าคืออะไร พิธีกักวิญญาณให้สถิตอยู่ที่ใดที่หนึ่งมีจริง
    หรือไม่และเป็นอย่างไร พิธีสวดถอนวิญญาณเขาทำกันอย่างไร และทำไมป๋าช่วยน้องติ๋ว
    ให้เป็นปกติได้ตอนที่ป๋าเป่าๆ ถ้าพบเหตุการณ์เช่นนี้ ควรทำอย่างไร

    ปริศนาเหล่านี้ อีก ๑๐ ปีต่อมา คุณครูไม่ใหญ่โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาได้เปิดเผย
    เรื่องราวความเป็นจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ให้นักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาฟัง เพื่อ
    ยืนยันให้เห็นเรื่องราวของกฎแห่งกรรมที่เกิดขึ้น ณ สถานที่แห่งนั้นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรื่อง
    ลี้ลับที่ปกปิดมายาวนาน ก็ได้แจ่มแจ้งด้วยอานุภาพแห่งญาณทัสสนะของพระธรรมกายดังนี้
     
  20. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    ฝันในฝัน

    .......ภาพที่เด็กๆ เห็นเป็นคนตัวดำ นุ่งกางเกงแดงจำนวนมากมาล้อมศาลา หัวหน้ามีสายสังวาล
    อยู่ใต้ต้นไม้นั้น เป็นสิ่งที่เด็กเห็นจริง คนเหล่านั้นเป็นภูตทหารสายยักษ์อยู่ในความปกครอง
    ของท้าวเวสสุวัณโณ ที่มาตรงสำนักสงฆ์เพราะรู้สึกโกรธมาก โกรธอาจารย์ที่พาเด็กๆ มา รวม
    ทั้งทุกคนในสถานที่แห่งนั้น ที่มาโดยไม่ได้ขออนุญาต เพราะเขาหวงแหนสถานที่แห่งนั้นมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...