อัพเดตน้ำท่วม/น้ำป่าไหลถล่ม ท่วม2เมตร สุราษฎร์เจอซ้ำ

​

อุตุฯ ประกาศเตือนภัย"ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย" ฉบับที่ 9 ชี้ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่-น้ำท่วม ฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก
วันนี้ ( 29 ต.ค.) สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย"ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย" ฉบับที่ 9 (205/2553) ระบุว่าในช่วงวันที่ 29-31 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุม ประเทศไทยตอนบน ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย และ ในช่วงวันที่ 1-2 พ.ย. จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง
ลักษณะ เช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น กับฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้

ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในระยะนี้จะมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไป โดยอุณหภูมิลดลงได้ 1-3 องศา ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 20 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่งของจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และ สตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มี ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

รายงานสภาพอากาศจากเกาะ ตอนนี้ฝนตกหนักมากตลอดตั้งแต่เมื่อวานตอนดึกจนถึงตอนนี้ ลมพัดแรงมีคลื่นสูงเรือเดินทะเลมีการปรับเปลี่ยนเวลาไม่สามารถเข้าได้ตามที่กำหนด เรือเล็กงดออกฝั่งข้ามไปที่เกาะใกล้ๆกัน โดยรวมแล้วสภาพอากาศแย่มาก

รายงานจากเกาะกลางทะเลที่สุราษฎร์ธานี

 

วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 13:54 น. ข่าวสดออนไลน์


คลื่นยักษ์ซัดหาดประจวบฯ ต้องปิดถนนเลียบชายหาด


<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE> เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลื่นทะเลสูง 2 - 4 เมตร พัดถล่มชายหาดบริเวณอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ด้านหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ทำให้รถทุกชนิดต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางถนนเลียบชายทะเล ส่วนเรือประมงขนาดใหญ่ และเรือประมงพื้นบ้านจำนวนมาก ต้องจอดหลบลมที่บริเวณเกาะหลักหน้ากองบิน 5

 

วันนี้อ่าวไทยคลื่นสูงห้าเมตร ไม่มีเรือกลางคืนวิ่งออกจากเกาะ เรือประมงห้ามออกรวมเรือหางยาวด้วย คลื่นลมแรงมาก ที่ประจวบคลื่นลมแรงน้ำขึ้นเหมือนกัน อากาศอยู่บ้านปลอดภัยกว่ามาทะเลในตอนนี้

 

กำชับทุกภาคส่วนเฝ้าระวังภาวะฝนตกหนัก-น้ำป่าไหลหลาก เน้นพื้นที่เคยเกิดเหตุซ้ำซาก

วันนี้ (30 ต.ค.) ที่โรงแรมธรรมรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์เฝ้าระวังการเกิดฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องแต่ละจังหวัดเฝ้าจับตาเป็นพิเศษในพื้นที่ที่ เคยเกิดน้ำป่าไหลหลาก เช่น จังหวัดพังงา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทยที่มีรายงานว่าอาจจะเกิดมรสุม ในช่วงวันที่ 7-8 พ.ย. นี้ และตนยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมในการรองรับภัยพิบัติที่จะ เกิดขึ้นได้ สำหรับการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลาง ตอนนี้ทุกฝ่ายได้ระดมกำลังอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันจันทร์นี้ทางคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจจะมีการพิจารณาเรื่องการชดเชย ค่าเสียเบื้องต้นให้ครอบครัวละ 5,000 บาท ซึ่งจะมีประมาณ 500,000 - 600,000 ครอบครัว และตนได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทยสำรวจผู้ที่เหมาะสมที่จะได้รับให้มีจำนวนที่ ชัดเจน คาดว่าจะมีการจ่ายผ่านทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธนาคารออมสิน

สำหรับประชาชนที่จะมารับจะต้องระบุตัวตนที่ชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องมีบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้านมาแสดงก็ได้ ส่วนผู้ที่พักอาศัยอยู่บ้านเช่าก็มีสิทธิที่จะได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายทุก คนเช่นกัน ส่วนการชดเชยพืชผลทางการเกษตรที่เสียหาย ทางเกษตรกรจะได้ค่าชดเชยมากขึ้นกว่าเดิม เช่น ข้าวจากเดิมชดเชยไร่ละ 600 บาท ก็เพิ่มเป็นไร่ละ 2,000 บาท เป็นต้น

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เรื่องการทุจริตในการแจกจ่ายข้าวของแก่ผู้ประสบภัยนั้น ปัญหาส่วนใหญ่พบว่ารับของไปแล้วแต่ยังไม่นำไปแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน ตรงนี้ได้ให้ทางกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลเป็นพิเศษ หากพบการทุจริตก็จะให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด และหลังจากที่ภาวะน้ำลดแล้วจะเรียกประชุมแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะชุมชนที่เกิดอุทกภัยเพื่อวางแผนฟื้นฟูและป้องกันอย่างเป็นระบบต่อ ไป.

 

ภาคกลางน้ำยังไม่ลดเลย มาเจอหนาวซะอีก

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-TOP: gray 1px solid" width="97%"><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD class=c2 width=4></TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>[SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย[/SIZE]
[SIZE=+1]"พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน " [/SIZE]
ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2553

</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=middle>เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (31 ต.ค) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว มีศูนย์กลางห่างประมาณ 450 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.5 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดประมาณ 50 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างในช่วงวันที่ 1-3 พฤศจิกายน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าสู่ฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง สำหรับ
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุม
ประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง และในระยะ 2-3 วันนี้ อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 1-3 องศา ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

</TD></TR></TBODY></TABLE>

www.tmd.go.th/warningwindow.php?wID=2356

 

รายงานสภาพอากาศ จ.สตูล


ขณะนี้ ฝนตกหนักสลับเบา ไม่มีแดดตั้งแต่เช้า แต่ลมไม่จัด

 

ที่เกาะจะไม่มีเรือออกจากเกาะและเข้าเกาะสองถึงสามวัน ต้องเช็กวันต่อวัน วันนี้อากาศลมแรงมาก คลื่นสูงห้าเมตร สภาพอากาศเรือไม่สามารถออกเดินทางได้ ที่สำคัญเรืออาหารไม่เข้าอ่ะ _ _" ตุนมาม่ากับโจ๊กไว้แล้ว 555+ เดี๋ยวจะตุนขนมปังกับน้ำไว้อีกเพื่อความอยู่รอดจนกว่าจะมีเรือออกจากเกาะ หนีกลับฝั่งดีกว่า แหะๆๆ

 

สภาพอากาศจากภาพถ่ายดาวเทียม พายุดีเปรสชั่นเคลื่นตัวอยู่ที่อ่าวไทย

 

ง๊านก็แพ็คเสื้อผ้าสัมภาระเตรียมไว้เลยนะ พอเรือมารับลูกค้าหมดและมีที่นั่งหรือนอนได้ ก็ขึ้นฝั่งมาด้วยเลยแล้วกันค่ะ ที่สำคัญเอาเสื้อชูชีพใส่ไว้กับตัวตอนขึ้นเรือด้วยนะคะ SAFETY FIRST ไว้ก่อนเลยหละ

 

ขอให้สภาพอากาศลดความรุนแรงและกลับสภาพปกติในเร็ววัน
ทุกคนปลอดภัยค่ะ....

 

อธิบดี ปภ.เผย สภาพอากาศ ในภาคเหนือและอีสาน 36 จว. อากาศหนาวเย็นลงอีก 1-3 องศา เฉลี่ยจะอยู่ที่ 12-16 องศา ถือว่าหนาวผิดปกติ ระวังเพลิงไหม้ ไฟป่า

นาย วิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพภูมิอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทย ในระยะ 2-3 วันนี้ ทำให้อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู จะมีอุณหภูมิ 6-12 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีอุณหภูมิมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่ ​

ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงประสานผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 36 จังหวัด ให้เตรียมความพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาว โดยติดตามการรายงานพยากรณ์อากาศ รวมทั้ง แจ้งเตือนประชาชนผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นสถานีโทรทัศน์และเคเบิลทีวี อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ยังฝากให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และระมัดระวังอันตราย จากภัยที่มักเกิดในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะเพลิงไหม้ และไฟป่า ส่วนผู้ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการขับผ่านเส้นทางที่มีหมอกลงจัด เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี หากประชาชนในพื้นที่ใด ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง​

INN​

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>[SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
"พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน " [/SIZE]
ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2553
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=middle> เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (31 ต.ค) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 400 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 104.5 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดประมาณ 50 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่างในช่วงวันที่ 1-3 พฤศจิกายน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าสู่ฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนกลางลงไปควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุม
ประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง และในระยะ 1-2 วันนี้ อุณหภูมิจะลดลงได้อีก 1-3 องศา สำหรับภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
</TD></TR></TBODY></TABLE>

www.tmd.go.th/warningwindow.php?wID=2359

 

สภาพอากาศที่เกาะตอนนี้ไม่มีฝนตกแต่คลื่นลมแรง ขับรถมอเตอร์ไซค์เกือบปลิวทั้งรถทั้งคนตอนทางลงเขา 555+ คืนนี้กลับบ้านว่าจะเอาหินถ่วงไว้ด้วย

ยังไม่กลับอ่ะ ปล่อยลูกค้าไปก่อนดิ ใครจะกล้านั่งเรือคลื่นตั้งห้าเมตรกว่า เห็นลูกค้าแต่ละคนมาอ่ะ อาเจียนเมาเรือกันสลบเป็นวันเลย เอาไว้ตัวเองมาดิ เค๊าจะให้กลับตอนมีคลื่นเล่นเรือไวกิ้งไปเลยดีป่ะ แต่เป็นไวกิ้งกลางทะเลนะ สนุกนะ พวกญี่ปุ่นบอกอ่ะ ซะพักเดียวพี่ที่ไปเรือด้วยเที่ยวเดียวกันบอกว่าอาเจียนทั้งกลุ่ม _ _" ไม่รู้ว่ายังอยากลองเรือไวกิ้งกลางทะเลอีกป่ะ

 

เชอะ! ไว้หมูดื้อนั่งไปกับพี่ด้วยสิ ถึงจะขึ้นเรือไวกิ้งกลางทะเลที่ว่าน่ะ

.

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>[SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
"พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน " [/SIZE]
ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 01 พฤศจิกายน 2553
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=middle> เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (1 พ.ย) พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 350 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 104.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดประมาณ 50 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 1-2 พฤศจิกายน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าสู่ฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนกลางลงไปควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง สำหรับภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
</TD></TR></TBODY></TABLE>

www.tmd.go.th/warningwindow.php?wID=2360

 

<TABLE width="95%"><TBODY><TR><TD class=subTitle>กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภัยฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย</TD></TR><TR><TD> กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนประชาชนภาคใต้ระวังฝนตกหนัก อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้และอ่าวไทย เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง

ที่จะเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2553

นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงข่าวแก่สื่อมวลชน เรื่อง ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย วันที่ 31 ตุลาคม 2553 เวลา16.00 น. ณ ห้องบรรยายสรุปลักษณะอากาศ ชั้น12 อาคาร 50 ปี อุตุนิยมวิทยา

นายต่อศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้(31 ต.ค) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว มีศูนย์กลางห่างประมาณ 450 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดประมาณ 50กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็ว15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2553 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าสู่ฝั่ง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย

ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง และในระยะ 2-3 วันนี้ อุณหภูมิจะลดลงได้อีก1-3 องศา ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส

นายต่อศักดิ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะนี้ขอให้ประชาชน ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัย

จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

หมายเหตุ :
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม กลุ่มประชาสัมพันธ์
31 ต.ค. 53
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<IFRAME style="Z-INDEX: 100000; BORDER-BOTTOM: 0pt; POSITION: absolute; BORDER-LEFT: 0pt; WIDTH: 1px; HEIGHT: 1px; BORDER-TOP: 0pt; TOP: 0pt; BORDER-RIGHT: 0pt; LEFT: 0pt" id=_atssh938 src="http://s7.addthis.com/static/r07/sh26.html#"></IFRAME>
ศูนย์เตือนภัยฯ เตือนดีเปรสชันขึ้นฝั่งภาคใต้คืนนี้

<SCRIPT type=text/javascript> var omitformtags=["input", "textarea", "select"]; //var message="You may not right mouse click this page."; /* Disable Right Click */ if (navigator.appName == 'Microsoft Internet Explorer'){ function NOclickIE(e) { if (event.button == 2 || event.button == 3) { alert(message); return false; } return true; } document.onmousedown=NOclickIE; document.onmouseup=NOclickIE; window.onmousedown=NOclickIE; window.onmouseup=NOclickIE; } else { function NOclickNN(e){ if (document.layers||document.getElementById&&!document.all){ if (e.which==2||e.which==3){ //alert(message); return false; } } } if (document.layers){ document.captureEvents(Event.MOUSEDOWN); document.onmousedown=NOclickNN; } document.oncontextmenu=new Function("return false") } /* ห้ามคลุมดำ */ function disableselect(e){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (omitformtags==(e.target.tagName.toLowerCase())) return; return false } function reEnable(){ return true; } function noSelect(){ if (typeof document.onselectstart!="undefined"){ document.onselectstart=new Function ("return false") if (document.getElementsByTagName){ tags=document.getElementsByTagName('*') for (j = 0; j < tags.length; j++){ for (i = 0; i < omitformtags.length; i++) if (tags[j].tagName.toLowerCase()==omitformtags){ tags[j].onselectstart=function(){ document.onselectstart=new Function ('return true') } tags[j].onmouseup=function(){ document.onselectstart=new Function ('return false') } } } } } else{ document.onmousedown=disableselect document.onmouseup=reEnable } } window.onload=noSelect; </SCRIPT>
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกประกาศทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อเวลา 10.00 น.ให้ภาคใต้ตั้งแต่ชุมพรจนถึงนราธิวาสระวังน้ำท่วม ดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก ทะเลคลื่นลมแรง...
จากประกาศเตือนภัย "พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 01 พฤศจิกายน 2553 ของกรมอุตุนิยมวิทยา ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ออกประกาศเตือนภัยผ่านทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับ พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง บริเวณอ่าวไทย ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี คาดว่าพายุนี้จะเข้าฝั่งในคืนนี้ (1 พ.ย.) ถึงคืนพรุ่งนี้เช้า (2 พ.ย.)

ลักษณะดังกล่าวจะทำให้อ่าว ไทยมีคลื่นลมแรง และมีฝนตกหลายวัน ศุนย์กลางพายุนี้เคลื่อนตัวจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ฝั่งในคืนนี้ แต่ขณะนี้พายุได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งแล้ว โดยทำให้มีฝนตกหนักตั้งแต่วานนี้ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภับพิบัติแห่งชาติ จึงขอประกาศให้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ต้องเฝ้าระวังเรื่องคลื่นพายุลมแรง ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป และขอให้เรือต่างๆ งดออกจากฝั่ง

ส่วนฝนที่ตกในจังหวัดต่างๆ ของภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป อาจมีแผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันได้ ตั้งแต่ชุมพรจนถึงนราธิวาส และเมื่อพายุได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลฝั่งอันดามัน จ.ทางด้านตะวันตกก็จะมีคลื่นลมแรง และฝนตกมากขึ้น จึงขอให้ประชาชน ภาคใต้ฝั่งตะวันตกตั้งแต่ชุมพรจนถึงนราธิวาส ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่ง ในช่วงของวันที่ 1-3 โดยตั้งฟังข่าวจากราชการ และทางจังหวัด ที่จะประกาศเตือนแจ้งให้ทราบเป็นระยะ

เมื่อพายุดีเปรสชันตัวนี้ข้าม สู่ฝั่งอันดามันไปแล้วอาจเหนี่ยวนำให้เกิดพายุอีกตัวหนึ่งก่อตัวขึ้นในอ่าว ไทย ที่จะเข้ามาในระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย.2553 เพราะฉะนั้นจึงขอให้ผู้ที่อาศัยติดกับชายฝั่งด้านอ่าวไทยในคืนนี้ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนการเตรียมตัวของพี่น้องประชาชน จะต้องเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของใช้จำเป็น รวมถึงยาประจำตัวไว้ในที่ที่หยิบฉวยใช้ได้ในทันที และศึกษาวิธีการศึกษาการอพยพหนีภัยของทางราชการ


ไทยรัฐออนไลน์

• โดย ไทยรัฐออนไลน์
• 1 พฤศจิกายน 2553, 11:12 น.

 

​

ประกาศเตือนภัย 7 จังหวัดชายแดนใต้ ศูนย์เตือนภัยแจ้งชาวบ้านเตรียมรับมือวิกฤตน้ำท่วม หลังพายุจ่อตัวถล่มคืนนี้
เมื่อ เวลา 10.15 น. วันที่ 1 พ.ย. นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รักษาการอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ได้อ่านประกาศเตือนภัยผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ระบุว่า เนื่องด้วยสภาวะอากาศในอ่าวไทย ขณะนี้ พายุดีเปรสชันอยู่ในอ่าวไทยที่ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 103.5 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวเข้าชายฝั่ง คาดว่า จะเข้าสู่ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยระหว่างจังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี คืนนี้ถึงวันพรุ่งนี้เช้า ลักษณะดังกล่าว จะทำให้อ่าวไทยมีคลื่นลมแรง และมีฝนตกหนักหลายวัน พายุนี้ เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งในเวลาเที่ยงคืนนี้

กรมอุตุนิยมวิทยา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จึงขอประกาศให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ต้องเฝ้าระวังเรื่องของคลื่นพายุ ลมแรง ซึ่งจะมีผลกระทบตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป เรือต่าง ๆ งดออกจากฝั่ง ส่วนฝนที่ตกอยู่ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปถึงนราธิวาส อาจจะก่อให้เกิดแผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลับ เมื่อพายุได้เคลื่อนข้ามไปฝั่งอันดามันจังหวัดทางด้านตะวันตกจะมีคลื่นลมแรง มากขึ้น จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรถึงนราธิวาสได้ระวังน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. โดยฟังข่าวจากทางราชการ โดยเฉพาะจังหวัด และอำเภอ ที่จะประกาศให้ทราบเป็นระยะ

เมื่อพายุข้ามสู่อันดามันแล้ว อาจจะทำให้เกิดพายุอีกตัวหนึ่งก่อตัวขึ้นในอ่าวไทย และจะมีพายุอีกตัวหนึ่งเข้ามาในวันที่ 5-6 พ.ย. ในช่วงนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด การเตรียมตัวของพี่น้องประชาชน ต้องเตรียมอาหาร สิ่งของจำเป็น ยาประจำตัวไว้ในส่วนที่ปลอดภัย และหยิบใช้ได้โดยฉับพลัน และศึกษาวิธีการอพยพ โดยเฉพาะพี่น้องที่อยู่ตามแนวชายฝั่งในคืนนี้ ขอเน้นย้ำว่าจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ต้องเฝ้าระวังอย่างยิ่ง กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจะประกาศให้ทราบเป็นระยะ
ชี้ต้องเฝ้าระวังอุบลฯ น้ำสูง

ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยังศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) ภายในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสอบถามสถานการณ์อุทกภัยล่าสุดจาก นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการ ศชอ. โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก่อนไปเป็นประธานประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

จากนั้น นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่ภาคกลางเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง เพราะน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดอีกครั้งในวันที่ 8 พ.ย.นี้ ส่วนพื้นที่ภาคอีสานยังเน้นการบริหารจัดการลำน้ำชี และลำน้ำมูล โดยในวันที่ 2 พ.ย.นี้ น้ำจากลำน้ำมูลจะเคลื่อนจาก จ.สุรินทร์ เข้าสู่ จ.อุบลราชธานี ด้วยความเร็ว 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำใน จ.อุบลราชธานี เพิ่มขึ้นเป็น 112.7 เมตร จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังพื้นที่ 3 จุด คือ เทศบาลนครเมือง อ.เมือง และ อ.วารินทร์ชำราบ ซึ่งขณะนี้ ทางจังหวัดเริ่มอพยพประชาชนแล้ว ส่วนน้ำจากลำน้ำชีจะเคลื่อนเข้าสู่ จ.อุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 6-8 พ.ย.นี้ จึงเป็นอีกช่วงที่ต้องเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ในภาคใต้แม้จะมีฝนตกอย่างต่อเนื่องแต่คาดการณ์ว่า จะไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำอีก

“รัฐบาลจะหาข้อสรุปเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนครัวเรือนละ 5,000 บาท ให้ได้ในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ซึ่งในเบื้องต้น มีผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 6,000 ครัวเรือน ถ้าได้ข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว จะเร่งโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และธนาคารออมสิน เพื่อให้เม็ดเงินถึงมือประชาชนโดยเร็วต่อไป”