อัธยาศัย ๖ ประการแห่งการบำเพ็ญพระโพธิสัตว์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 8 ธันวาคม 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870


    [​IMG]


    ๑.เนกขัมมัชฌาสัย หมายถึง มีจิตใจเบื่อหน่ายในการครองเรือน บริโภคกามคุณใคร่ที่จะหนีจากการครองเรือนอย่างเต็มทน ใคร่ที่จะประพฤติพรหมจรรย์ด้วยเห็นโทษของการครองเรือนเห็นการประพฤติพรหมจรรย์เป็นทางปลอดภัย

    ๒.วิเวกกัชฌาสัย หมายถึงท่านที่มีจิตใจใคร่ที่จะแสวงหาความวิเวก ความสงบใจ ความไม่คลุกคลีกับหมู่คณะ ด้วยเห็นทุกข์ โทษ ภัยมากมายกับการอยู่ร่วมกับหมู่ชนหมู่คณะ จึงเห็นว่า ความวิเวก ความไม่คลุกคลีกับหมู่ชน ความสงบเป็นทางแห่งความปลอดภัยไม่มีทุกข์ ไม่มีปัญหายุ่งวุ่นวาย

    ๓.อโลภัชฌาสัย หมายถึง ท่านมีจิตใจเป็นทุกข์ โทษ ภัย อันตรายจากความละโมบเห็นแก่ได้
    มองเห็นความมักมาก ความไม่มักน้อยสันโดษเป็นภัย เป็นทุกข์โทษ ใคร่ที่หลีกหนีจากความโลภ ความมักมากอยากได้ จึงมองเห็นว่า ความมักน้อยสันโดษ ความไม่โลภ คือทางแห่งความปลอดภัย สิ้นทุกข์ สิ้นความวุ่นวาย

    ๔.อโทสัชฌาสัย หมายถึง ท่านมีจิตใจเป็นทุกข์ โทษ ภัย เวร อันตราย อันเกิดจากความโกรธ
    ความแค้น ความอาฆาต พยาบาท ความปองร้อย ความคิดร้ายต่างๆ แล้วมองเห็นความจริงว่า การหลุดพ้นจากความโกรธ ความแค้น ความอาฆาต ความพยาบาท ความคิดร้ายว่าเป็นความสุข เป็นความสงบเย็น จึงใคร่ที่จะหลุดพ้นจากความโกรธ แค้น อาฆาต พยาบาท ปองร้าย ให้จงได้

    ๕.อโมหัสฌาสัย หมายถึง ท่านมีจิตใจเห็นทุกข์ โทษ ภัย เวร อันตราย อันเกิดจากความลุ่มหลง ความมัวเมา ความยึดมั่นถือมั่นในลาภ ยศ สรรเสริญ เกียรติ กาม แล้วใคร่อย่างยิ่งที่จะหลุดพ้นจากโมหะ ความหลง ความมัวเมา ความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง เพราะเห็นในความจริงว่าการหลุดพ้นจากโมหะ ความหลง ความมัวเมา ความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวง เพราะเห็นความจริงว่าการหลุดพ้นจากโมหะ ดังกล่าว คือความสุขอย่างยิ่ง

    ๖.นิสรณกัชฌาสัย หมายถึง ท่านมีจิตใจมองเห็นโทษของการเกิดแห่งชีวิตมองเห็นความจริงว่า ชีวิตคือความทุกข์ หากหลุดพ้นจากการเกิดได้ ก็หลุดพ้นจากความทุกข์ จึงใคร่พยายามอย่างยิ่งที่จะบำเพ็ญเพียรภาวนา ให้หลุดพ้นจากวัฏสงสาร คือพ้นจาก นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ สวรรค์ และพรหมโลก เพื่อเสวยสุขอย่างยิ่งคือนิพพาน

    เมื่อนักปฏิบัติตรวจสอบแล้ว เห็นว่าตนมีคุณธรรมที่จะสำเร็จมรรคผล นิพพานในชาติปัจจุบันแล้วก็จะต้องตรวจจริตนิสัยของตนว่า ปัจจุบันชาติว่ามีจริตทางใดใน ๖ ทางจริต


    ที่มา http://www.phuttha.com


     
  2. มาร-

    มาร- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    262
    ค่าพลัง:
    +487
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ธรรมรส ประเสริฐ ยิ่งแล้ว
    _____________________


    บุญกุศลเหล่าใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำจัก จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี ร้อยชาติก็ดี หมื่นชาติก็ดี อสงไขย์ชาติก็ อนันตชาติก็ดี

    ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมอำนาจพระพุทธคุณอันไม่มีประมาณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทั่วทั้งอนันตจักวาลที่มิได้มีประมาณ ทั้ง ห้วงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตกาล โดยมีสมเด็จ ภันเต ภควา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมเด็จองค์พระประถม
    องค์พระสิริมิตร องค์พระธรรมสามี พระธรรมราชา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระ สิขี ทศพล ญาณที่1 เป็นสมเด็จองค์พระประธาน แห่งองค์พระพุทธคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจคุณพระธรรม พระสัจธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ อั้นไม่มีประมาณ เป็นองค์พระธรรมคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งองค์พระปัจเจกพุทธคุณ แห่งองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ อันไม่มีประมาณ ทั่วทั้งอนันตจักวาล ทุกกาล ทุกกัปป์ ทั้ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็น องค์พระปัจเจกพุทธคุณ

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจ แห่งคุณพระสงฆ์ พระสาวกแห่งพระผู้มีพระภาค องค์ภันเต ภควา สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ทั่วทั้ง อนันตจักวาล อันไม่มีประมาณ อันหาที่สุด มิได้ เป็น พระสังฆคุณ

    ข้าพระพุทธขอน้อมอำนาจ แห่งคุณพระบิดา พระมารดา พระอรหันต์ แห่งบุตร ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย และของข้าพเจ้าทุกๆชาติ ทุกๆภพ ทุกๆภูมิ เป็น คุณแห่งบิดาและมารดา

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งคุณพระอาจารย์ ทุกๆรูป ทุกๆนาม ทุกๆภพ ทุกๆภูมิ ตลอด อดีต ปัจจุบัน และอนาคต มีพระคุณที่ได้ประสิทธิประสาท วิชา สั่งสอนในคุณความดี ตั้งมั่นในสัมมาทิฐิ เป็น
    คุณแห่งครูบาอาจารย์

    ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมอำนาจแห่งคุณของ พระพรหม และเทพ เทวดา พระยายมราช ทุกรูป ทุกนาม ทุกๆชั้นฟ้า ทั้วทั้ง อนันตจักวาล สากลพิภพ อันไม่มีประมาณ จงร่วมกันบันดาล ปกป้องรักษาและอนุโมทนา

    ขออำนาจแห่งพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระปัจเจกพุทธคุณ พระสังฆคุณ คุณแห่งบิดา มารดา คุณแห่งครูบาอาจารย์ และ ทวยเทพเทวดาทั้ง โปรดดลบันให้....

    กุศลผลบุญ เหล่าใด ที่ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำมา ได้บำเพ็ญมาโดยชอบ จำได้ก็ดี จำมิได้ก็ดี ข้าพระพุทธเจ้าขออุทิศกุศลเหล่านั้น แด่ สรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกรูป ทุกนาม ทุกภพ ทุกภูมิ ขอให้ได้ร่วมอนุโมทนา ขอให้มีส่วนร่วมในกองกุศลของข้าพเจ้า เพื่อยังผลให้ที่สุดแห่งกองทุกข์ จงหมดสิ้นไปด้วยเทอญ....
     
  3. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    ๒.วิเวกกัชฌาสัย หมายถึงท่านที่มีจิตใจใคร่ที่จะแสวงหาความวิเวก ความสงบใจ ความไม่คลุกคลีกับหมู่คณะ ด้วยเห็นทุกข์ โทษ ภัยมากมายกับการอยู่ร่วมกับหมู่ชนหมู่คณะ จึงเห็นว่า ความวิเวก ความไม่คลุกคลีกับหมู่ชน ความสงบเป็นทางแห่งความปลอดภัยไม่มีทุกข์ ไม่มีปัญหายุ่งวุ่นวาย

    ผมว่าถ้าหากรักสันโดษมากๆ แล้วเวลาตรัสรู้แล้ว จะไปสอนใครที่ไหนครับ น่าจะเป็นคนที่ชอบสังคมเสียด้วยซ้ำ เป็นหัวหน้าคน เป็นคนที่นำคนอื่นให้ทำความดีแบบพระอินทร์แบบนี้ซิใกล้เคียงกว่าอีก ถ้าจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องบริวารมากๆ ถ้าจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าก็รู้เอง ไม่จำเป็นต้องตามสอนใคร สงเคราะห์ตามโอกาส ก็อาจจะสันโดษได้มากหน่อย ได้ยินว่าอันตรกัปป์ที่จะถึงนี้จะมีพระปัจเจกพุทธเจ้าตรัสรู้ 500 องค์ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ
     
  4. napapatch_datch

    napapatch_datch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +57
    อนุโมทนา ด้วยจ้า

    แต่ยังทำไม่ได้ ซักข้อเลยนะเนี่ย

    ห่วงลูกสุด ๆ
     
  5. chaianan

    chaianan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +8
    คนเราเกิดมาย่อมมีกรรมเป็นที่พึ่งมีกรรมเป็นคู่ชีวิตเสมอไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ยิ่งใหญ่ขานาดไหนก็ไม่พ้นกรรมทั้งนั้ ขึ้นอยู่ว่ากรรมนั้นจะดีหรือร้าย การที่จะพยายามหลุดออกจากบ่วงกรรมนั้นดีนักแล แต่ในทางปฏิบัตินั้นค่อนข้างที่จะลำบากเมื่อเปรียบเทียบกับสังคมในปัจจุบันที่มีแต่ความเร่งรีบและแย่งชิงกัน ผมคิดว่าใคร่ควรปกิบัติในสิ่งที่คิดว่าเราจะกระทำแล้วดีต่อเราและผู้อื่น อย่าน้อยก็เป็นการลดกรรมของเราบ้างก็ดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...