อัจฉริยลักษณ์ของอานาปานสติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 15 กันยายน 2009.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,494
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>อัจฉริยลักษณ์ของอานาปานสติ

    [​IMG]




    </TD><TD vAlign=top width=155></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :ว.วชิรเมธี:


    </TD><TD>วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ในคัมภีร์พระไตรปิฎกเล่าว่า พระโพธิสัตว์ก่อนแต่จะตรัสรู้ มีพระชนม์เพียง 7 พรรษาเท่านั้น ก็ได้เคยฝึกอานาปานสติสมาธิภาวนาด้วยพระองค์เองมาครั้งหนึ่งแล้ว


    และก็ด้วยประสบการณ์คราวนี้เองที่ทำให้พระองค์ทรงหวนระลึกถึงว่า “น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้บรรลุภาวะนิพพาน” หลังจากที่ทรงทดลองฝึกวิธีการต่างๆ มาแล้วจากครูบาอาจารย์แทบทุกสำนัก แต่กลับทรงค้นพบว่า ไม่ใช่วิถีทางที่ทรงแสวงหา ประสบการณ์ในวัยเยาว์คราวนั้นแท้ๆ ที่ทำให้พระองค์ทรงค้นพบอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ด้วยเหตุนี้ที่อานาปานสติสมาธิภาวนา เป็นภาวนาวิธีที่ทำให้พระองค์ประสบความสำเร็จอันใหญ่หลวง จึงทรงยกย่องสมาธิวิธีข้อนี้เป็นอย่างมาก ถึงท่านพุทธทาสภิกขุเอง เมื่อได้อ่านพบอานาปานสติสูตร ก็รู้สึกประทับใจเป็นอันมาก จึงได้อุทิศตนทุ่มเทศึกษาพระสูตรนี้อย่างจริงจัง กระทั่งนำมาเขียนเป็นหนังสือ จัดตั้งวางเป็นแบบแผนแห่งการปฏิบัติขึ้นที่สำนักสวนโมกขพลาราม ซึ่งยังคงมีการสอนกันอยู่มาถึงบัดนี้ ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ
    ท่านพุทธทาสภิกขุ กล่าวถึงอานาปานสติสมาธิว่า
    “อานาปานสติภาวนา เป็นกรรมฐาน หรือเป็นสมาธิภาวนาแบบที่พระพุทธองค์ได้ปฏิบัติและตรัสรู้, มีคำตรัสยืนยันว่า ตรัสรู้ด้วยอานาปานสติภาวนาโดยเฉพาะ นี้ก็เป็นเรื่องพิเศษเรื่องหนึ่งว่า ทำไมจึงระบุอย่างนี้, กรรมฐานภาวนาตั้งมากมาย ทำไมตรัสระบุอานาปานสติภาวนา, ใช้คำว่าอานาปานสติภาวนา ไม่ใช้คำว่า สติปัฏฐาน; แม้ว่าเรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องเดียวกัน จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างก็ไม่เท่าไร, พระองค์ก็ยังตรัสเรียกว่า ระบบอานาปานสติภาวนา เป็นระบบที่ทำให้พระองค์ได้ตรัสรู้, นี้ก็ควรจะสนใจ
    มันมีของดีหลายอย่างหลายประการสำหรับแบบนี้, ตัวอย่างเช่นแบบนี้เมื่อทำแล้ว จะเป็นทั้งสมถะและวิปัสสนาพร้อมกันไปในตัว ไม่ต้องแยกทำคนละที และยังแถมกล่าวได้ว่า มีศีลพร้อมกันไปในตัว ไม่ต้องทำพิธีรับศีลก่อนแล้วจึงมาทำ, ขอให้ลงมือทำเถิดตามระบบนี้ ก็จะมีศีล สมาธิ ปัญญา พร้อมกันไปในตัว, แบบนี้จะสู้แบบที่เขากำลังเล่าลือกันในโลก คือแบบเซน อย่างแบบเซน ของจีน ของญี่ปุ่น ที่ไปมีชื่อเสียงโด่งดังในตะวันตก ในพวกฝรั่งนั้น ก็เพราะว่า มันเป็นแบบที่มีสมถะและวิปัสสนาตัดกันอยู่ด้วยพร้อมกันไปในตัว
    เมื่อมาพิจารณาดูถึงแบบฝ่ายเถรวาท ก็เห็นว่า แบบอานาปานสตินี่แหละ มีสมถะและวิปัสสนาพร้อมกันไปในตัว แล้วก็อย่างรัดกุมที่สุด, เลยเป็นเหตุที่ต้องทำให้นึกถึงข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่า เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสถึงทางออกจากความทุกข์ คือ วิถีทางดับทุกข์นั้น โดยทั่วไปก็ตรัสเป็นอัฏฐังคิกมรรค หรือมัชิมาปฏิปทา แต่ก็มีมากแหล่งเหลือเกิน แทนที่จะตรัสว่า มัชิมาปฏิปทา ก็ตรัสแต่เพียงว่า สมโถ จ วิปัสสนา จ เท่านั้นก็มี คือ สมถะและวิปัสสนา เป็นนิโรธคามินีปฏิปทา คือ ตรัสแทนคำว่า มัชิมาปฏิปทา....
    ทำไมมันแทนกันไม่ได้ เพราะว่ามรสมถะนั้น มีศีลรวมอยู่ด้วย, เมื่อพูดว่าสมถะและวิปัสสนา ก็มีทั้งศีล ทั้งสมาธิและทั้งปัญญา ในอริยมรรคมีองค์ 8 นั้น, ถ้าสงเคราะห์ย่นย่อแล้วก็มีเพียงศีล สมาธิ ปัญญา ดังนั้นมันจึงมีค่าเท่ากัน, พระองค์จึงนำมาตรัสแทนกันได้, ระหว่างคำว่า มัชิมาปฏิปทา กับคำว่า สมโถ จ วิปัสสนา จ, ขอให้เป็นที่เข้าใจกันในข้อนี้
    ทำสมาธิภาวนาโดยวิธิอานาปานสติภาวนาแล้ว จะเป็นการปฏิบัติอย่างถึงที่สุดทั้งในศีล สมาธิ และทั้งในปัญญา เรียกว่ามันสมบูรณ์แบบในตัวถ้าจะพูดอย่างธรรมดาสามัญก็ได้ว่า เป็นวิธีที่ได้เปรียบที่สุด”
    อานาปานสติสมาธิภาวนา เป็นทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในตัวเองพร้อมบริบูรณ์ วิธีปฏิบัติก็ง่าย ไม่ต้องใช้องค์ประกอบมากมาย อาศัยเพียงแต่การตามระลึกรู้ลมหายใจ (กาย) เวทนา จิต ธรรม อย่างรู้ตัวทั่วพร้อมเท่านั้น หากผู้ใดปฏิบัติตามวิธีการดังกล่าวนี้อย่างถูกต้องก็จะได้รับผลตั้งแต่ขั้นต่ำ คือ ความอยู่เป็นสุขในปัจจุบันทันตาเห็น เกื้อกูลต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต ส่งเสริมให้ศักยภาพทางจิตและปัญญาเข้มแข็งเฉียบคม สุกสว่าง กระจ่างใส สดชื่น เบิกบาน ผ่อนคลาย สบายใจ ไร้ความตึงเครียด และประโยชน์ขั้นสูงสุด คือ ทำให้หยั่งลงสู่สัจธรรมระดับปรมัตถ์ กล่าวคือภาวะพระนิพพาน อันเป็นที่สิ้นสุดลงของความทุกข์บรรดามีทั้งมวล อานาปานสติสมาธิภาวนา จึงเป็นสมาธิภาวนาที่ควรนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างทั่วถึง ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ ทั้งนี้เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้ลิ้มชิมรสอมตธรรมในชีวิตนี้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอให้เนิ่นนานไกลออกไปนับแสนล้านชาติภพอย่างที่เคยเชื่อกันมาอย่างผิดๆ แต่โบราณอีกต่อไป ดังที่มีในพุทธพจน์ตรัสยืนยันอย่างชัดเจนว่า
    ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอเจริญอานาปานสติแล้วอย่างนี้แล ทำให้มากอย่างนี้แล้ว เธอพึงหวังผล 7 ประการ ผล 7 ประการ คืออะไรบ้าง กล่าวคือ
    บรรลุอรหันตผลในปัจจุบันทันที
    หากไม่ได้บรรลุอรหันตตผลในปัจจุบัน ก็จะบรรลุในเวลาใกล้มรณะ
    หากไม่ได้บรรลุอรหัตตผลในปัจจุบันและในเวลาใกล้มรณะ ก็จะได้เป็นพระอนาคามีผู้อันตราปรินิพพายี
    หากไม่ได้บรรลุอรหัตตผลในปัจจุบันและในเวลาใกล้มรณะ ก็จะได้เป็นพระอนาคามีผู้อุปหัจจปรินิพพายี
    หากไม่ได้บรรลุอรหัตตผลในปัจจุบันและในเวลาใกล้มรณะ ก็จะได้เป็นพระอนาคามีผู้อสังขารปรินิพพายี หากไม่ได้บรรลุอรหัตตผลในปัจจุบันและในเวลาใกล้มรณะ ก็จะได้เป็นพระอนาคามีผู้สังขารปรินิพพายี
    หากไม่ได้บรรลุอรหัตตผลในปัจจุบันและในเวลาใกล้มรณะ ก็จะได้เป็นพระอนาคามีผู้อุทธังโสโตอกนิฏฐคามี เพราะอุทธัมภาคิยสังโยชน์ 5 ประการหมดสิ้นไป
    ภิกษุทั้งหลาย เมื่อเธอเจริญอานาปานสติแล้วอย่างนี้แล ทำให้มากอย่างนี้แล้ว เธอพึงหวังผล 7 ประการดังกล่าวมานี้”



    -------------
    [​IMG]
    http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=66768
     
  2. lamb of god

    lamb of god เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +436
    อนุโมทนา อนาปานสติ เป็นพื้นฐานแห่งกรรมฐานทั้งปวง สาธุ
     
  3. porrawee

    porrawee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +779
    เป็นกรรมฐานที่ปฏิบัติง่ายและมีประโยชน์มากมายจริงๆครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...