อะไรเป็นเกณฑ์วัดว่าเรามีศีลบริสุทธิ์

อาจารย์วศิน อินทสระตอบปัญหาธรรม

คำถาม
1.เมื่อเราตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ตลอดชีวิต เราต้องรักษาศีลนานแค่ไหน ถึงจะบอกกับตัวเองได้ว่า ศีลเราบริสุทธิ์แล้ว เรามีอะไรเป็นเกณฑ์วัดครับ.?

2.ตลอดชีวิตที่ผ่านมาได้ทำผิดศีลไว้มาก แต่ถึงแม้เราจะกลับใจรักษาศีลตลอดชีวิตแล้ว กรรมที่ผ่านมาเราก็ยังต้องใช้ ถูกต้องไหมครับ.? แล้วจะมีโอกาสได้เป็นอริยบุคคลไหมครับ.? ปล.ผมนับถือศาสนาอื่นตั้งแต่เกิด พึ่งจะศึกษาธรรมะของตถาคตเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ยอมรับครับว่าเมื่อก่อนมีแต่มิจฉาทิฏฐิ จึงมีแต่ความทุกข์ เดี๋ยวนี้มีสัมมาทิฎฐิแล้ว และตั้งใจจะเป็นอริยบุคคลในชาตินี้ ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบพระคุณครับ








คำตอบ
การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ไม่ได้ขึ้นกับระยะเวลาว่านานเท่าใด

แต่ขึ้นอยู่กับการประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง

เมื่อไม่ทำผิดศีล ก็ถือว่ามีศีลบริสุทธิ์ ในขณะนั้นแล้ว

ไม่ผิดศีลคือไม่ละเมิดองค์ของศีล (เช่น ข้อปาณาติบาต มีองค์ ๕ คือ สัตว์มีชีวิต ๑ รู้ว่าสัตว์มีชีวิต ๑ เจตนาจะฆ่า ๑ พยายามฆ่า ๑ และสัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น ๑ อย่างนี้เรียกว่า ศีลขาด ถ้าทำไม่ครบองค์เช่น สัตว์ไม่ตาย หรือการเบียดเบียนสัตว์ เตะสุนัขเล่น อย่างนี้ศีลไม่ขาด แต่ ด่างและพร้อยไป) หากดีกว่านั้นคือ ประพฤติตามกุศลกรรมบถ ๑๐ ซึ่งเป็นศีลสำหรับการปฏิบัติธรรม ซึ่งคุมจิตใจด้วย เมื่อกลับใจมามีสัมมาทิฏฐิ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ผลกรรมที่ไม่ดีในอดีตคงตามมาบ้าง แต่อานิสงส์ของการประพฤติดีมีศีลมีธรรม ก็ช่วยบรรเทาวิบากให้เบาบางไปได้มาก ย่อมมีโอกาสเป็นพระอริยบุคคลได้หากดำเนินตามอริยมรรคมีองค์ ๘ มีทาน ศีล ภาวนา และเจริญศีล สมาธิ ปัญญา ให้แน่วแน่

...แต่ปุถุชนนั้นจะยืนยันจิตใจตัวเองว่าจะไม่ทำผิดอีกนั้นเป็นไปได้ยาก ขอให้คุณตั้งใจให้กำลังใจตัวเอง หากมีเผลอพลั้งทำผิดพลาดไปก็ขอให้สำรวมระวังใหม่ หากคุณมีสัจจะ และมีความเพียรด้วยปัญญา เชื่อว่าตัวเราจะตั้งใจรักษาศีล จะเจริญภาวนาตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ไม่ทำสิ่งผิดศีลผิดธรรม ต่อไปก็ต้องสำเร็จถึงฝั่ง ดั่งที่หวังไว้แน่นอน ขออนุโมทนา

 

ท่านเจ้าของกระทู้มีเพจสำหรับถามตอบปัญหาธรรมะกับท่านอาจารย์วศินหรือครับถ้ามีกระรุณาลงเวปเพจให้ด้วยได้ไหมครับเผื่อผมจะได้ถามปัญหาธรรมกับท่านอาจารย์บ้าง...ผมติดตามผลงานของท่านอาจารย์มาตลอด...ขอบคุณล่วงหน้านะครับ(ถ้ามี) ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ ศึกษาเอาจากงานเขียนของท่านได้...สวัสดี

 

ไม่มีจ๊ะ
แต่คิดว่าเพื่อนในเฟสคงมี
เพราะนี่ก็เอามาจากโพสต์ของเค้าแหละ
เดี๊่ยวพรุ่งนี้ถามให้หนา

 

เวปตอบคำถามของอาจารย์ครับ

..ชมรมกัลยาณธรรม..

 

คำถาม
1.เมื่อเราตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ตลอดชีวิต เราต้องรักษาศีลนานแค่ไหน ถึงจะบอกกับตัวเองได้ว่า ศีลเราบริสุทธิ์แล้ว เรามีอะไรเป็นเกณฑ์วัดครับ.?

การวัดนั้น ขอตอบว่าเราสามารถวัดได้สองส่วนคือ วัดที่เหตุคือการกระทำปัจจุบันที่เกิด และวัดได้ที่ผลคือผลที่เกิดหรือได้รับในปัจจุบัน
เครื่องมือที่ใช้วัดมีตัวเดียวคือสติ+สมาธิ
หากคุณมีสติ สม่ำเสมอคุณก็จะรู้ดีว่าทุกลมหายใจเข้าและออกต่อเนื่องคุณได้ละเมิดศีลข้อใดข้อหนึ่งหรือยัง และด้วยสติที่เป็นมหาสติ ก็จะมีปัญญารู้ทันก่อนที่จะทำอะไรลงไปจึงรู้ทันที่จะไม่ทำผิดศีล จึงรู้ทันว่าศีลของตนยังบริสุทธิ์ ยังไม่บกพร่องหรือขาดลงไป
สรุปคือให้รักษาสติอยู่กับปัจจุบันเป็นปกติ คุณก็จะรักษาศีลได้ ตลอดไป จนเมื่อกระทำเป็นอุปนิสัยสันดารแล้ว ศีลย่อมรักษาจิตเกิดขึ้นเป็นปรกติของมันเองในที่สุด เพราะอาศัย ธรรมะที่เกิดประกอบเป็นเครื่องขัดเกลาจิตนั่นเอง และเมื่อใดที่จิตบรรลุธรรม จิตจะรักษาศีลได้โดยปรกติของมันเอง เพราะพระธรรมมีอานุภาพมาก สภาวะนี้คือจิตถึงธรรม ธรรมรักษาจิตครับ

2.ตลอดชีวิตที่ผ่านมาได้ทำผิดศีลไว้มาก แต่ถึงแม้เราจะกลับใจรักษาศีลตลอดชีวิตแล้ว กรรมที่ผ่านมาเราก็ยังต้องใช้ ถูกต้องไหมครับ.? แล้วจะมีโอกาสได้เป็นอริยบุคคลไหมครับ.? ปล.ผมนับถือศาสนาอื่นตั้งแต่เกิด พึ่งจะศึกษาธรรมะของตถาคตเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ยอมรับครับว่าเมื่อก่อนมีแต่มิจฉาทิฏฐิ จึงมีแต่ความทุกข์ เดี๋ยวนี้มีสัมมาทิฎฐิแล้ว และตั้งใจจะเป็นอริยบุคคลในชาตินี้ ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบพระคุณครับ

การเป็นอริยะบุคคล เป็นเจตนาที่ดี แต่คุณธรรมความดีที่จะต้องเห็นและเข้าถึงคือสิ่งสำคัญ ต้องหมั่นทำบุญทาน รักษาศีล หมั่นสวดมนต์ภาวนาไม่ขาด ฝึกสมาธิและวิปััสนาเสริมปัญญา หากทำสามสิ่งนี้ได้ ก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นอริยะบุคคล แต่ประเภทไหนขึ้นอยู่กับกำลังความสามารถของจิต ประการสำคัญเครื่องขัดขวางความก้าวหน้าทางจิตคือ
1การทำบาปกรรมทำปวงและที่มีผลหนักมากคืออนันตริยะกรรม
2นิวรณ์ทั้ง5
3การคบคนพาล
4การมั่วสุมอบายมุข
5การขาดความศรัทธาเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยและกล่าวปรามาส

พึงตั้งใจให้ดีหนักแน่นและแน่วแน่ก็จะสำเร็จครับ สาธุ

 

เมื่อเราเว้น จนเป็น นิสัยที่ปกติแล้ว ก็ สบาย สบาย

ไม่แตกต่างจาก การซื่อสัตว์ กับ ตนเอง รัก ตัวเอง อย่างถูกต้อง
บางที
ช่วยไม่ได้ ต้อง ถอยห่าง
เช่น คนที่ดื่มสุรา มันเป็น น้ำทองแดง ตั้งแต่ ปาก ลิ้น ตี ยาวไป ท้อง มันร้อนยิงยาว ไปถึง อารมณ์ และ ส่ง ผลให้ คนรอบข้าง กระจาย หนึ่งในนั้น เป็น ข้าพเจ้าเป็นต้น
เราก็ ถอยดีกว่า เพลง ใคร น๊า

 

โฮ้ ภาพเนี้ย(เด็กร้องให้)
ชัดเจน เปลี่ยน
ถูก ถูก ถูกต้องแล้วครับ
555+

 

ดูที่หน้าตาได้ไหมครับ บางคนหน้าตาคล้ำ ไม่ผ่องใส บางคนผ่องใส อวบอ้วนน่ากอด

 

เราจะพยามรักษาศีลของเราให้บริสุทธิ์

 

ขอบคุณท่าน pasu นะคะ ที่ช่วยหาคำตอบให้
สำหรับ facebook ของอาจารย์วศินนั้น
ตามนี้เลยค่ะ


https://www.facebook.com/W.Indhasara?ref=ts&fref=ts

 

แล้วถ้าหากเรายังมีสติและสมาธิไม่สมบูรณ์ การจะรักษาศีลให้บริสุทธิ์จะเป็นไปได้ไหมคะ?

 

อนุโมทนาจ๊ะ

 

ท่านอิ๊ดเป็นแบบไหนคะ?

 

อนุโมทนาด้วยจ้า

 

คำตอบอยู่ในนี้แล้วนะครับ

คำตอบ
การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ไม่ได้ขึ้นกับระยะเวลาว่านานเท่าใด

แต่ขึ้นอยู่กับการประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง

เมื่อไม่ทำผิดศีล ก็ถือว่ามีศีลบริสุทธิ์ ในขณะนั้นแล้ว

ไม่ผิดศีลคือไม่ละเมิดองค์ของศีล (เช่น ข้อปาณาติบาต มีองค์ ๕ คือ สัตว์มีชีวิต ๑ รู้ว่าสัตว์มีชีวิต ๑ เจตนาจะฆ่า ๑ พยายามฆ่า ๑ และสัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น ๑ อย่างนี้เรียกว่า ศีลขาด ถ้าทำไม่ครบองค์เช่น สัตว์ไม่ตาย หรือการเบียดเบียนสัตว์ เตะสุนัขเล่น อย่างนี้ศีลไม่ขาด แต่ ด่างและพร้อยไป) หากดีกว่านั้นคือ ประพฤติตามกุศลกรรมบถ ๑๐ ซึ่งเป็นศีลสำหรับการปฏิบัติธรรม ซึ่งคุมจิตใจด้วย เมื่อกลับใจมามีสัมมาทิฏฐิ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ผลกรรมที่ไม่ดีในอดีตคงตามมาบ้าง แต่อานิสงส์ของการประพฤติดีมีศีลมีธรรม ก็ช่วยบรรเทาวิบากให้เบาบางไปได้มาก ย่อมมีโอกาสเป็นพระอริยบุคคลได้หากดำเนินตามอริยมรรคมีองค์ ๘ มีทาน ศีล ภาวนา และเจริญศีล สมาธิ ปัญญา ให้แน่วแน่

...แต่ปุถุชนนั้นจะยืนยันจิตใจตัวเองว่าจะไม่ทำผิดอีกนั้นเป็นไปได้ยาก ขอให้คุณตั้งใจให้กำลังใจตัวเอง หากมีเผลอพลั้งทำผิดพลาดไปก็ขอให้สำรวมระวังใหม่ หากคุณมีสัจจะ และมีความเพียรด้วยปัญญา เชื่อว่าตัวเราจะตั้งใจรักษาศีล จะเจริญภาวนาตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ไม่ทำสิ่งผิดศีลผิดธรรม ต่อไปก็ต้องสำเร็จถึงฝั่ง ดั่งที่หวังไว้แน่นอน ขออนุโมทนา






​

 

ขอบคุณค่ะที่ชี้แนะ ^ ^

 

ครับป๋ม ^_^" ^_^"

 

===============

ทำได้ครับ แต่เราต้องมีกลวิธีในการวางกรอบที่ดีให้เป็น ยกตัวอย่างเช่น ในบางสถานการณ์บางสถานที่ เราต้องอาศัยสติอย่างมากและต่อเนื่อง เพราะเสี่ยงต่อการผิดศีล แต่ในบางสถานการณ์ เป็นสภาพที่ปลอดภัยไม่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดศีล แม้สติเราในช่วงนี้ตกหล่นไปบ้าง แต่ด้วยปัจจัยภานนอกและภายในดีงามจึงไม่มีส่วนที่จะดึงไปให้เราผิดศีลได้ครับ ดังนั้นตรงนี้ต้องมีปัญญารอบรู้ครับ ยิ่งในช่วงเวลาที่เราอยู่สันโดษคนเดียวนั้นให้ระวังความคิดให้มาก หากรักษาไว้ได้โอกาสผิดศีลก็น้อยมากครับ

ดังนั้นใหม่ๆในการฝึกสติ ต้องแบ่งแยกช่วงเวลาในหนึ่งวันให้ดีและควรรู้ว่าควรพยายามประคองสติหนักเบาในแต่ละเวลาอย่างไรและประการสุดท้ายคือเมื่อเราภาวนา ให้ตรวจดูสติในสมาธิ ของตนให้มากๆครับ แล้วจะชำนาญมากยิ่งขึ้นครับ สาธุ

 

สติในสมาธิอาการเป็นอย่างไรคะ ทำอย่างไรคะ?

 

สติในสมาธิมีสองลักษณะคือ
1 สติในสมาธิแบบสมถะกรรมฐานหรือสติในสมาธิฌาณ
2 สติในสมาธิแบบวิปัสสนาญาณ
ครับ สาธุ