อะไรที่ทำให้เพื่อนๆ หันมาปฎิบัติธรรมบ้างคะ? แล้วเป็นแบบนี้กันไหม?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย DharmaJaree, 18 มิถุนายน 2013.

  1. DharmaJaree

    DharmaJaree เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2013
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +107
    ตัวเองเพิ่งเริ่มมาทางนี้ได้ 3-4 เดือนเองค่ะ ก็เริ่มจากความทุกข์อย่างหลายๆ คน วันนึงหยิบหนังสือสวดมนต์มาลองสวดดู ไม่ได้คิดอะไรมาก เคยมีคนบอกให้สวดมนต์มานานแล้วแต่ไม่สนใจ ตอนนั้นเริ่มสวดเมื่ออยากสวด แล้วมันก็ค่อยๆถี่ขึ้น จนสวดและสมาธิแทบจะทุกวัน

    เข้าออกวัดบ่อยมาก ทั้งที่ไม่ได้แพลนจะไป นึกอยากไปก็ไปเลย ทั้งที่เมื่อก่อนไม่สนใจไม่รู้ไปทำไม ต้องทำอย่างไร เดี๋ยวนี้รู้สึกชอบขึ้นมาเอง แล้วก็เริ่มได้ทำบุญมากขึ้น

    ต่อมาก็เริ่มชอบอ่านชอบศึกษาธรรม เริ่มรำคาญไม่เชิงรำคาญนะ แต่อารมณ์ไม่ค่อยอยากฟังเพลงดูทีวีเหมือนแต่ก่อน จะชอบฟังธรรม สวดมนต์ อ่านหนังสือ
    บางวันตั้งใจว่าอยากจะดูหนังเรื่องนี้ เปิดดูก็สนุกดี แต่นะมันก็แว๊บขึ้นมาในใจ อยากรู้ อยากหาข้อมูล หยุดหนังไว้ มาเปิดเน็ตหาข้อมูล หรืออ่านหนังสือ เป็นอันว่าไม่ได้ดูหนัง

    มีโอกาสได้ทำบุญมากขึ้น ไม่ตั้งใจ คือไม่ได้แพลน นึกอยากก็ทำเลย มีคนมาบอกบุญเรื่อยๆ เรียนรู้ที่จะทำบุญโดยไม่เบียดเบียนตัวเอง

    หลังๆชอบไปสนทนาธรรมกะพระหรือชีที่วัดซะงั้น

    อยากบวชมาก แต่รู้ว่าตัวเองต้องขัดเกลาอีกเยอะ

    สิ่งที่รู้สึกว่าจากที่เมื่อก่อนรู้เฉยๆ ตอนนี้ได้สัมผัสและเข้าใจแล้ว คือตอนที่เราเป็นทุกข์ ไม่มีที่พึ่งทุกข์เหลือเกิน จู่ๆสักพักความรู้สึก เรามีไตรสรณคมณ์ แล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

    หลังๆเริ่มได้รู้ประวัติต่างๆของพระพุทธเจ้ายิ่งเกิดความรู้สึกเลื่อมใสขึ้นเรื่อยๆ

    ได้รู้จักกะความสุขอีกแบบ ความสงบ เมื่อก่อนได้ยินคำนี้แล้วเฉยๆนะคะ นึกว่ายังไงสุขดีกว่า แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าสงบดีกว่า

    คำว่าดวงตาเห็นธรรม ก็พอเคยได้ยิน แต่รู้สึกว่าไกลตัว ไม่ค่อยเข้าใจหรอก จู่ๆเวลาไหว้พระขอพรจู่ขอให้ดวงตาเห็นธรรมขึ้นมาเองซะงั้น

    ไม่เคยมีใครบอก ไม่ได้อ่านเจอจากที่ไหน ไปไหนมาไหนก็เเผ่เมตตาไปทั่ว มันเป็นไปเอง..

    หลายๆอย่างเลยค่ะ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

    แต่ก็ยังมีหลายอย่างที่ยังสงสัย ขัดเเย้ง... อย่างเช่น

    1. พอเข้าใจเรื่อง อนัตตา แต่ก็คงแค่รู้ยังไม่รู้สึก เพราะก็ยังทำใจไม่ได้ในชีวิตจริง ดีขึ้นหน่อยตรงปล่อยวางไวขึ้น

    2. เป็นคนมีราคะจริตสูง ชอบสวยๆ งามๆ หอมๆ ชอบทานมาก ขนาดบ้านยังต้องหอม รักความสะอาด ทั้งที่ก็รู้นะ มันเป็นกาม ภายนอก บางครั้งปฏิบัติทำก็รู้สึกพอสัมผัสได้ภายในจิตใจสำคัญหว่า บางครั้งก็รู้สึกดีที่รู้สึกตัวเองถึงในทางโลกอาจจะไม่ได้เป็นคนดีเด่เก่งอะไร แต่อย่างน้อยเรามีจิตใจที่โอเคไม่ชอบเบียดเบียนใคร ชอบช่วยเหลือคน มีความสุขเวลาที่เห็นคนอื่นมีความสุข... ซึ่งมันสำคัญกว่าการเป็นคนสวย หรือเก่งทางโลกแต่จิตใจเห็นแก่ตัวมาก ยกตัวอย่างนะคะ

    แต่พออยู่ในสังคมชีวิตประจำวันก็กลับไปรู้สึกแบบเดิมอีก ทำอย่างไรให้เราตัดราคะจริตได้อย่างถาวรคะ? รู้นะว่าไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน ไม่ควรยึดติดกับมัน ร่างกายคนเราก็เหมือนถุงมูล ไม่ใช่ความสุขแท้จริง

    แต่ไม่วายก็ยังรู้สึกดีที่จะสวย ไปไหนมาไหนก็ยังชอบแต่งให้มันดูดี ถ้าไม่ขี้เกียจ ชอบกินของอร่อย ชอบอยู่บ้า่นสะอาดๆ หอมๆ เป็นต้น ถ้าเราตัดราคะจริตออกได้ ก็แค่แต่งตัวถูกาลเทศะก็พอ สะอาดพอสุขอนามัย บ้านสะอาดบ้างไม่ต้องเว่อเอิ่มอ่องหอม น้ำหอม ครีมแครม เครืิ่องสำอางก็ไม่ต้องใช้ ธรรมชาติดีอยู่แล้ว

    เรื่องแต่งหน้้าก็ลดน้อยลงนะ รู้สึกสิวหายผิวดีขึ้น แต่เรื่องหอมๆ กะเรื่องกิน ยังไม่ดีเลยค่ะ ตอนจะกินสติหายทุกที พอได้กลิ่นหอมก็ยังชอบ

    ช่วงนี้ทานยาอยู่ผลข้างเคียงทำให้ปวดหลัง เวลานั่งพื้นนานๆ หรือต่อให้เก้าอี้ ถ้าเป็นเก้าอี้ไม่สบายนานๆก็ปวดหลัง ทำให้เราไม่มีสมาธิ ใจก็คิดว่าคราวหน้าก็ให้มันสบายจะได้มีสมาธิ อีกใจก็คิดว่าเราต้องแค่ดูเวทนามัน ก็ยังสับสนนะคะ


    เพื่อนมีใครเป็นคล้ายทำนองนี้ไหมคะ?

    บางคนภายนอกเขามองเราว่าสุดโต่ง (เมื่อก่อนเคยอ้วนมากร้อยสามสิบกว่าโลจู่ๆก็ชอบออกกำลังกายมาก ชอบนะคะ คนภายนอกจะดูว่าเราสุดโต่งหักโหม ทั้งที่ตัวเองไม่รู้สึกอย่างนั้นแต่กลับเพลินที่ทำมากกว่า เหมือนตอนนี้)

    ทุกอย่างเราไม่ได้แพลนหรือเจาะจง มันเป็นของมันไปเอง แต่คงเพราะมันเกิดในเวลาไม่กี่เดือน บางคนก็มองว่าเพราะเราทุกข์เลยมายึดตรงนี้มาก

    แต่จริงๆตัวเองกลับรู้สึกว่า การทุกข์แค่เป็นจุดเริ่มต้นให้เราค้นพบเฉยๆ ต่อจากนั้นมันเป็นไปเอง

    สิ่งที่เกิดขึ้นมันไวเกินไปเหรอคะ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2013
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    หาแก่นคำสอนหลักของพุทธศาสนาให้เจอ แล้วปฏิบัติตามนั้น
    แก่นแท้ของพุทธศาสนา ไม่ใช่สวดมนต์ ไหว้พระ รักษาศีล ใส่ชุดขาว
     
  3. พงพัน

    พงพัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +478
    ก็ตอนที่มีปัญหาครับสำหรับผม ในตอนนั้นที่ตัดสินใจมาเริ่มต้นทำธุรกิจเองทั้งสับสนทั้งหวาดระแวง"จะอยู่หรือจะไปรอดหรือไม่รอด"มันเป็นความทุกข์ของคนที่กำลังตั้งไข่ในธุรกิจ พอดีไปได้หนังสือสวดมนต์"หลวงพ่อจรัญ"ก็เลยลองสวดดู ก็ได้ผลจิตใจหายสับสนและว้าวุ่นไปได้ จนต่อมาก็เริ่มอยู่ตัวช่วงที่แย่ๆเงียบๆกำลังเป็นทุกข์เรื่องค่าใช้จ่ายเดือนต่อๆไปทำไงดี สักพักก็จะมีลูกค้ามาต่อให้ก็ไม่ถึงกับรวยแต่ก็ไม่อับจนถูไถไปได้ ประกอบกับรักษาศีลห้า หมั่นทำทานบ่อยๆเสมอๆอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนไว้"ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด เราไม่หวงเราไม่อด หมดก็มาเรื่อยๆ" ทำให้เชื่อมั่น"ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"สำหรับผมเป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาแค่ศีลห้าที่ผมพยายามรักษา(ได้ครบบ้างบางทีก็ไม่ครบ) การฝึกสมาธิ(ที่ต้องพยายามอยู่ทุกเช้าตีสี่)และสวดมนต์(ก่อนนอน)ก็ทำให้ชีวิตมีความสุขแบบพอเพียงแล้ว ทำให้ได้คิดว่าน่าเสียดายมากเลยตั้งแต่ครั้งยังเล็กๆอยู่หากเป็นชาวพุทธที่แท้จริงแล้วจะประสบแต่ความราบรื่นและไปได้ไกลกว่านี้ คงไม่ต้องมาลุ่มๆดอนๆและเข้าใจชีวิตมากขึ้น ก็อยากให้ชาวไทยที่ตีทะเบียนเป็นชาวพุทธหันมาปฏิบัติให้สมกับชาวพุทธที่แท้จริงแล้วชีวิตจะมีความสุขพอเพียง หรือหากอยากจะรวยผมก็เชื่อว่าไม่น่าจะยากเพียงแต่สำหรับผมส่วนตัวนั้นคิดว่าพอแล้ว พยายามชวนแฟนและคนรอบข้างให้ทำบ้าง อย่างน้อยๆก็ช่วยให้ใจสงบลงไปได้เป็นข้อแรก ก็คงต้องรอให้เจอเรื่องหนักๆเสียก่อนถึงจะทำถึงจะเชื่อเหมือนผมกระมัง
     
  4. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ปฏิบัติเพื่อเข้าให้ถึงธรรมะของพระพุทธองค์อย่างแท้จริง "..แ่ก่นสารพระพุทธศาสนาอยู่ที่แก่นสารของชีวิตของตนนั่นเอง เพราะว่าพุทธศาสนาเป็นเรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของวัด ไม่ใช่เรื่องข้างนอก..."

    พระพุทธองค์ยืนยันว่า ที่ตถาคตให้พวกเธอทั้งหลายละความชั่ว บำเพ็ญความดี ชำระจิตใจของตัวเองให้บริสุทธิ์นั้น ก็เพราะเป็นสิ่งที่พวกเธอทำได้ ถ้าพวกเธอทำไม่ได้ ตถาคตก็ไม่สอน ขอให้สำนึกว่าการพูดว่า "ละไม่ได้" "ทำไม่ได้" เป็นการไม่เชื่อพระพุทธองค์ เป็นการค้านคำสอนของพระพุทธองค์ เป็นความดื้อ พระพุทธองค์สอนว่าเราทำได้ แต่เราต้องมีความพากเพียรพยายาม คุณงามความดีทั้งหลายไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ เราต้องทำให้มันมีขึ้น ภาวนาเป็นสิ่งที่ทำให้มันมีขึ้น ทำให้มันเจริญ ทำให้สิ่งทั้งหลายดีกว่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำได้ แต่เราต้องพยายาม สร้างความรู้ ความตื่น และความเบิกบานขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา และแม้ว่าการปฎิบัติของเรานั้นยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่า การปฎิบัติชอบ อย่างน้อยที่สุดขอให้เรา ชอบปฎิบัติ เสียก่อน...
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    เพราะบุญกุศลค่ะ ได้พบเจอกัลยาณมิตรตั้งแต่เด็กๆ คือคุณยาย พาไปปฏิบัติตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ยังไม่รู้จักทุกข์ ไม่รู้จักกิเลส ตัณหา อุปาทาน เลยค่ะ

    แต่เมื่อปฏิบัติไปแล้วจึงได้เห็นจิตเดิมที่ใสกระจ่างไร้มลทิน แต่กว่าจะใสได้นั้น ก็ต้องผ่านการขัดเกลาด้วยสมถะกรรมฐานเป็นเวลาถึง 7 วัน จึงทำให้รู้ว่าในทุกวันจิตของเรารับมลทินเครื่องเศร้าหมองเหล่านี้มาไว้ในจิต ทำให้จิตไม่สว่างสดใสดังเดิม ไม่มีเวลาใดเลยที่จิตจะไม่รับไว้ ทุกวินาทีเรารับมันไว้โดยไม่รู้ตัว ที่ไม่รู้ตัวเพราะไม่มีสติ หรือสติไม่แคล่วคล่องว่องไวทันต่อกิเลส ตัณหา อุปาทาน นั้นๆ

    หลังจากผ่านการปฏิบัติครั้งนั้นมาแล้ว รู้ได้เลยว่าจิตของเราเบิกบาน แช่มชื่นขึ้น มันเบาขึ้น ไม่รู้สึกหนักเหมือนเมื่อก่อน สติรู้เท่าทันอกุศลจิต จึงได้นำหลักการปฏิบัติที่เคยทำไว้ดีแล้ว มาปฏิบัติต่อไปในชีวิตประจำวันค่ะ ไม่ได้ยึดติดสถานที่หรือตัวตนบุคคล ไม่จำเป็นต้องไปถึงวัดหรือสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ แล้วค่อยปฏิบัติ มีลมหายใจที่ไหนปฏิบัติได้ที่นั่นค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2013
  6. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    1. อยากพิสูจน์ว่าผีมีจิงไหม

    2. คนที่ดิฉันรักมากเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาดิฉัน เคยโดนทรมานต่อหน้าดิฉัน โดยที่ไม่มีใครช่วยได้ ดิฉันจึงไม่มีอะไรเหลือแล้วคะสำหรับโลกนี้ เลยมาปฏิบัติธรรมเพื่อเตรียมตัวตาย
     
  7. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ตัดราคะมันยากครับ
    ไม่ง่าย
    ปูพื้นฐานด้วย ตัดร่างกายก่อนครับ
    คือทำใจยอมรับให้ได้ว่า ร่างกายต้องตาย
    ต้องเจ็บ ต้องป่วย ต้องแก่
    ต้องเจอกับของไม่ชอบใจ
    ต้องพลัดพรากจากของที่รักหรือคนรัก

    ทำใจตรงนี้ก่อน ทำได้แล้วไปตัดราคะมันไม่ยาก
     
  8. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ส่วนที่ทำให้สนใจปฏิบัติธรรม... ต้องการพระนิพพานก็ต้องปฏิบัติสิ
     
  9. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ไม่ได้ปฏิบัติธรรม แค่อายชั่วกลัวบาปมาตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กกำลังสติไม่พอก็เลยอายที่จะทำดี มาตอนนี้ก็เลือกที่จะทำดีมากว่า เพื่อจะมีคำตอบให้กับหลายคำถามบ้างเท่านั้น และเลือกเจริญสติตั้งแต่ตื่นจนเข้านอน ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่จมอดีตไม่หลงอนาคตค่ะ
     
  10. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ต้องพิจารณาตลอดเวลา
    เหนื่อยก็เข้าสมาธิ
    และก็เข้าสมาธิให้ได้ในทั้งสี่อิริยาบถ
     
  11. พุธทสิณ

    พุธทสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +404
    (ตอนเด็กๆก็เคยเจอผีบ่อยๆ จื่งเชื่อว่าชาติหน้า,ภพภูมิมีอยู่จริง)
    เพราะว่าเห็นความไม่ยั่งยืนในสิ่งต่างๆรอบกายเรา...
    มีโกรธ มีโลภ มีหลง,มีชาติมีภพเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบสิ้น เราตกเป็นทาสแก่กิเลสมานานมากพอแล้ว,หลงในสิ่งสมมุติต่างๆเลยอยากทําปัญญาให้แจ้งเตรียมตัวตายอย่างมีจุดหมายคือนิพพาน...
     

แชร์หน้านี้

Loading...