อย่าสงสัยให้มาก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย โลน้อย, 4 มกราคม 2012.

  1. โลน้อย

    โลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +695
    การที่เราเกิดมาในยุคใหนสมัยใหนไม่สำคัญ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงต้องการอย่างเดียวกันคือพามนุษย์ข้ามพ้นฝังแห่งภพคือการไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย ( นิพพาน) แล้วทำไมพวกท่านยังต้องการเป็นโพธิสัตยว์ ต้องการเกิดยุคพระศรี ในเมื่อสมเด็จพ่อทุกๆพระองค์ก็ทรงสอนเหมือนกัน รีบเถอะครับรีบหาทางหลุดพ้นก่อนที่จะตาย เพราะว่าเกิดใหม่อาจไม่เจอคำว่าพระพุทธเจ้าอีกเลย แล้วยังจะสงสัยทำไม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2012
  2. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    เป็นพระโพธิสัตว์แล้วตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า แล้วโปรดพรหม เทวดา คน ให้ได้บรรลุ นิพพาน เป็นจํานวนมากไม่ดีเหรอ ?
     
  3. ตามมาฮา 555

    ตามมาฮา 555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +6
    คือสำหรับเราแล้วเข้าใจว่าอย่างนี้น่ะนะ คือคนเราแต่ละคนทำกรรมมาไม่เหมือนกัน เปรียบเหมือนกับสัตว์คนละประเภทกัน เช่น นกเวลาจะหากินหรือเอาตัวรอดก็ต้องใช้ปีกเพื่อบินหาอาหาร ใช้ปากและเท้าคุ้ยเขี่ยหาอาหาร หรือแมวเวลาจะหาอาหารก็จะจ้องหรือเล็งเหยื่อไว้ก่อน จากนั้นก็ค่อยๆลอบเข้าไปตะครุบเหยื่อ ซึ่งการหาอาหารหรือเอาตัวรอดของสัตว์แต่ละชนิดนั้น เปรียบไปก็เหมือนกับการหาทางนิพพาน ซึ่งสัตว์แต่ละชนิดนั้นก็เอาตัวรอดไม่เหมือนกัน แล้วธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิดก็จะมีหัวหน้าของสัตว์แต่ละชนิด ซึ่งก็เปรียบเหมือนกับพระโพธิสัตว์นั่นเอง สรรพสัตว์ที่ทำมีกรรมน้อยก็มักจะได้นิพพานเร็ว แต่สรรพสัตว์ที่ยังเหลือกรรมอยู่มาก ก็จะนิพพานช้ากันไป เหมือนๆกับเทียนที่จุดพร้อมกัน แต่เล่มนึงสั้น อีกเล่มนึงยาว เวลาดับมันก็ดับไม่พร้อมกัน เท่าๆที่พอจะรวบความคิดและสติปัญญาอธิบายได้ มันก็เป็นประมาณนี้แหละครับ
     
  4. โลน้อย

    โลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +695
    คนเรามีบุญได้เกิดในประเทศไทยแต่นั่นยังน้อยกว่าการเกิดมาได้รู้จักศาสนาพุทธแต่ก็ยังน้อยกว่าคนที่ได้นับถือศาสนาพุทธแต่ก็ยังน้อยกว่าคนสำเร็จในศาสนาพุทธ การเที่ยวไปช่วยเหลือใครคุณช่วยตัวเองได้หรือยัง การเอาตัวเองให้รอดมิใช่เห็นแก่ตัว พระพุทธเจ้าทรงสอนตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
     
  5. tuta868248

    tuta868248 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    563
    ค่าพลัง:
    +1,116
    ความต้องการเหล่านี้ยังติดกิเลสคือความอยากอยู่คะ ยังไม่หลุดพ้นคะ เร่งปฎิบัติธรรมให้หลุดพ้นดีกว่าไม่ต้องอยาก ถ้าอยากท่านจะไม่ได้อะไรเลยคะ เร่งปฏิบัติแล้วมันจะมีทางไปของมันเองคะ ธรรมมะจัดสรรคะ บุญรักษาคะ
     
  6. wayokasin

    wayokasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +277
    ทางเดิน 2 สาย ได้แก่ มรรคผล และ โพธิ
    1.ผู้ที่เร่งบำเพ็ญเพื่อหลุดพ้นจากวัฏตะ ไปโดยลำพัง ช่วยโปรดญาติโยมได้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อถึงคราวดับขันธ์ไป ก็กลับลงมาโปรดใครไม่ได้อีกแม้แต่ ญาติพี่น้อง พ่อ-แม่ เพื่อนฝูง ตลอดจนสัตว์โลกทั่วไป เพราะจิตได้ก้าวพ้นไปแล้ว ไปเลยถอยกลับมาไม่ได้อีก
    ครูอาจารย์ ท่านเป็นพระอรหันผู้พ้นโลกเมื่อท่านละสังขาร ท่านจะมีศิษเอก มาแทนท่านเพื่อให้เกื้อกูลสัตว์โลกผู้ยังไม่เห็นทางรุ่น 1 สอน รุ่น 2 และ จะมีรุ่นต่อ ๆ ไป
    ผู้ถึงอรหัตผลจะไม่ช่วยใครเลย ก็ไม่ใช่ หรือถ้าท่านเมตตาจริง ๆ ท่าน ก็จะไม่เข้าผลจะไปถึง แค่มรรค อนาคามี หรืออรหัตมรรคจะยังไม่พิจารณา ธรรมใหเแจ้ง เผื่อไว้จะได้พอจะช่วยสัตว์โลกได้ (ครูอาจารย์บอกมาครับ)

    2.ผู้บำเพ็ญเป็นโพธิสัตว์ เพื่ออนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในอนาคต เป็นทางเดินที่ยากลำบาก เจอ มหาอุปสรรค เครื่องกีดกั้นมากมกาย เกิดตายเป็นทั้งมนุษย์ เทวดา เดรัจฉาน เปรต อสูรกาย รู้อยู่ว่าอัตรายและเสี่ยงมาก ยังไม่อาจปิดประตูนรกได้ แต่ ก็ด้วยมหาเมตตา จะเสีย เลือดเนื้อ อวัยะ ชีวิต เพื่อพระโพธิญาณนั้น ก็สละได้
    ทุกอย่างล้วนมีเหตุและปัจจัย มีสัตว์โลกผู้มืดบอด จึงมีพระโพธิสัตว์ มีพระโพธิสัตว์ จึงมีผู้บรรลุพุทธภูมิ เพราะมีพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มเปี่ยมที่พร้อมจะตรัสรู้ จึงมีพระตถาคต และมี พระตถาคตเราจึงมีพระนิพพาน มีศาสนาพุทธ ให้เราได้พึ่งพิงอาศัย
    พระโพธิสัตว์จึงเป็นเหตุปัจจัยทั้งมวลให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้
    ขอให้เจริญในธรรม​
     
  7. ukitake

    ukitake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    311
    ค่าพลัง:
    +140
    ถ้าไม่มีพระโพธิสัตว์ก็จะไม่มีพระพุทธเจ้า ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าใครจะชี้ทางสว่างสู่นิพพาน????
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    สรุปว่าถ้าไม่มีเหตุ ก็ไม่มีผล ไปคิดต่อนะว่า....ต้องการผลอย่างไรแล้วจึงค่อยไปทำเหตุ
     
  9. โลน้อย

    โลน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    351
    ค่าพลัง:
    +695
    แทบทุกคนเกิดมาในโลกล้วนมีจิตเมตตา สงสาร เสมือนว่าเรามีจิตของพระโพธิสัตว์อยู่แล้ว หากชาติใดแรงปราถนามากก็ตั้งใจมากแรงปราถนาน้อยก็ตั้งใจน้อย อีกอย่างผลกรรมส่งต้องเกิดเป็นสัตย์เดรัจฉานเกิดในที่ไม่มีศาสนาหลายๆปัจจัยส่ง ลำบากนะแค่ชาตินี้ยังไม่เบื่ออีกเหรอ เราโชคดีได้เกิดเป็นคนพร้อมทุกอย่าง ประเทศ ศาสนา และยังหาจุดหมายเดียวคือพระนิพพานเหมือนกัน สติพร้อมปัญญามีแล้วจะมัวรอชาติอื่นอีกเหรอ อย่าพยายามเป็นอย่างพ่อเลย ผมคงโพสน์เป็นครั้งสุดท้ายเป็นห่วงแต่คงไม่อยู่รอ บาย
     
  10. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมคิดว่า คิดว่านะ ยังไม่แน่ใจ ผมเข้าใจความคิดของคุณ คือ อยากให้คนไปนิพพานมุ่งนิพพานสถานเดียว เกิดอีกก็ทุกข์อีกกว่าจะได้เจอศาสนาพุทธก็คงอีกนาน

    ผมก็เข้าใจ แต่พระโพธิสัตว์บางองค์ ก็มุ่งมั่น บําเพ็ญอย่างยิ่งยวด คือประมาณว่า เห็นคนมีอวิชชาเยอะแยะ อยากพาคนอื่นพ้นทุกข์ไปด้วย ไปคนเดียวมันไม่ใช่นิสัยของเค้า เค้าต้องน่าจะ พาบุคลที่ เกิดแก่เจ็บตาย ไปด้วย ไปคนเดียวมันไม่ใช่

    อันนี้ถ้าผมพูดผิด ผิดหลักธรรมขอขมาต่อพระรัตนตรัยด้วยที่นี้ด้วยอโหสิกรรมให้กับตัวข้าพระพุทธเจ้าด้วย ถ้าผิดช่วยแก้ด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...