อยากให้พี่ๆสอนเรื่องทำใจครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย xanxus, 30 พฤศจิกายน 2011.

  1. xanxus

    xanxus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +175
    ผมเปนคนใจร้อนและหงุดหงิดง่ายครับ จนทำให้อารมขึ้นบ่อยๆ บางครั้งผมก้อนึกเสียใจทีหลังเหมือนกันว่า ถ้าผมใจเยนกว่านี้ก็คงจะดี

    พี่ๆพอจะมีวิธีแนะนำปฏิบัติบ้างมั้ยครับ
     
  2. หลานศิษย์

    หลานศิษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +560
    ภรรยาผมก็เป็น ขนาดขัดใจไม่ได้ ห้ามพูดห้ามเถียง
    เรื่องเล็กทำให้เป็นเรื่องใหญ่ พูดจนตัวเองโมโห

    ตอนนี้เขาก็เริ่มกลับมาสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิ
    รู้สึกจะดีขึ้นเหมือนกัน

    สำหรับผมจะสอนตนเองว่า จะเอาไฟมาเผาใจตนเองไปทำไม
     
  3. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
    เมื่อก่อนผมก็เป็นอย่างท่าน จขท. เหมือนกันครับ ให้ทำอย่างที่ท่าน หลานศิษย์ ว่าไว้ครับ
    ศึกษาธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ รักษาศีล ท่านพระอาจารย์มิตซูโอะคเวสโก เคยกล่าวไว้ว่า "เหตุสมควรโกรธ...ไม่มีในโลก" ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ :>
     
  4. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    สังเกตุใหมครับ...ว่าคุณโกรธตอนที่ ปะทะสังสันท์ กับ ผู้คน ได้..และ อารมณ์โกรธ เมื่อคิดถึงเรื่องขุ่นเคือง เก่าเก่า...ขั้นแรกเจริญกายคตาสติ(รู้ การเดิน นั่ง นอน พูด ทุกอริยาบถที่ระลึกได้ เนืองเนือง)ควบคู่กับสติระลึกรู้(โลภะ โทสะ โมหะ) เนืองเนือง ไม่ว่า ตอนใหน กิน เดิน นั่ง นอน พูด...จะเห็นได้เลยว่า มาจาก อายตนะ ผัสสะ เวทนา..แล้วเกิด ยินดี ยินร้าย...ถ้าโยนิโสมนสิการพระสัทธรรม(ทำในใจอย่างแยบคายเกี่ยวกับพระสัทธรรม) สติระลึกรู้ภาวะ กาย-ใจ ในปัจจุบัน จะ ช่วยคุณได้...สะสมสุตตะ(ฟังสัทธรรม) เยอะเยอะ ครับ:cool:
     
  5. tuta868248

    tuta868248 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +1,117
    ที่เป็นอย่างนี้เพราะยึดติดตัวตนเองคะและขาดสติคะ ขี้โกรธ ขี้โมโหใจร้อน จะต้องใจเย็นๆคะคือหมั่นให้ทาน รักษาศิล สวดมนต์ไหว้พระ เจริญกรรมฐานภาวนาแผ่เมตตามากมากคะ และศึกษาธรรมไปด้วยคะ อะไรเกิดขึ้นพยายามอุเบกขานิ่งเฉยคะ มันเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ทุกสิ่งในโลกนี้มันไม่เที่ยงมันเปลี่ยนแปลงได้มันไม่แน่นอนคะอย่าไปยึดติดมันคะ แม้ตัวเราก็ไม่ใช่ของเรา เป็นเพียงสิ่งสมมติ ทุกสิ่งในโลกย่อมสลายคะบุญรักษานะคะ
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    หาหนังสือธรรมะให้อ่านค่ะ หาที่อ่านสนุกๆ เช่นประวัติพระอริยสงฆ์
     
  7. xanxus

    xanxus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +175
    ขอบคุณพี่ๆมากครับ หลังมาผมก้อพยายามใจเย็นๆลง จากใครที่พูดไม่ค่อยเข้าหูก้อพยายามมองเป็นเหตุผลว่าเพราะอะไร แล้วตอบด้วยเหตุผล แล้วก้อสวดมน แต่ผมไม่ได้นั่งสมาธิหรอกครับ แต่พอตอนจะนอนบางครั้งผมจะท่อง หายใจเข้า-ออก พุธโธ ครับ
     
  8. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ไปหา หนังสือ พรหมวิหาร4 มาอ่านแล้วคิดตาม

    ใช้เวลาเล็กน้อย สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ สัก 3-4ครั้ง แล้วคิดตามพรหมวิหาร4(ทำบ่อยๆ)

    ฝึกมองสีแดงๆ จำให้ขึ้นใจ ติดใจ ทำบ่อยๆ

    ทำนิดๆหน่อยๆบ่อยๆ ผลพลอยได้เยอะ.....สักวันหนึ่งจะลืมโมโห(ท่านว่า...)
     
  9. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    เชื่อในกฏแห่งกรรมสิครับ และทำใจให้กว้าง แมนๆ เป็นสุภาพชน อย่าโทษคนอื่น อย่าหงุดหงิดใส่คนอื่นเพราะเข้าใจผิดว่าเค้าเป็นต้นเหตุสร้างความทุกข์ให้เรา

    ต้องเข้าใจความจริง ตามหลักกฏแห่งกรรมว่า ถ้าเราไม่เคยทำกรรมนั้นมา เราจะไม่มีวันต้องรับผลกรรมนั้นๆเลย

    เราจึงเป็นทายาทแห่งกรรมที่เราเคยทำมาเอง ไม่ว่าจะเคยคิดดี พูดดี ทำดีมา หรือเคยคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่วมา แม้เป็นกรรมที่ไม่ได้ทำชาตินี้ก็ต้องเคยทำมาในชาติก่อนๆ ดังนั้นต้องเลิกโทษว่าคนอื่นเป็นเหตุที่ทำให้เราทุกข์ใจ เลิกเพ่งโทษโจทย์ความชั่วคนอื่น เพราะเค้าไม่เกี่ยวเลย ที่เราต้องทุกข์ใจไม่สบายใจ มันเป็นเพราะอำนาจกรรมปัจจุบันและอำนาจกรรมเก่าที่เราเคยทำมาล้วนๆ

    คือเวลากรรมเลวเข้าให้ผลกับชีวิตเรา อำนาจกรรมเลวที่เราเคยทำก็จะไปบังคับให้คนรอบข้างเราเค้าไม่อยากทำดีกับเรา แต่อยากทำไม่ดีกับเราแทน
    แต่ในทางตรงข้าม ในเวลากรรมดีเข้าให้ผลกับชีวิตเราบ้าง อำนาจกรรมดีที่เราเคยทำก็จะไปบังคับให้คนรอบข้างเราเค้าเปลี่ยนมาอยากทำดีกับเรา

    ชีวิตเราจึงแปรปรวนไปตามอำนาจกรรมที่เราเคยทำไว้ไม่ว่าในอดีตหรือในปัจจุบันดังนี้เอง

    ที่เราป่วย ก็เพราะกรรมชั่วฆ่าสัตว์ทำร้ายสัตว์ที่เราเคยทำมาเอง อำนาจกรรมนั้นบังคับให้เราต้องป่วย ไม่ใช่เพราะคนอื่นทำให้เราป่วยโดยไม่มีเหตุปัจจัย

    ที่เราได้ยินคำพูดทำร้ายจิตใจจากคนรอบข้าง ก็เพราะกรรมชั่วที่เราเคยทำมาเอง อำนาจกรรมนั้นบังคับให้คนรอบข้างพูดจาให้ชื่นใจเราไม่ได้ ไม่ใช่เพราะคนอื่นอยากทำกับเราแบบนั้นโดยไม่มีเหตุปัจจัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2011
  10. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337

    แค่รู้ว่าตัวเองเป็นคนใจร้อนและหงุดหงิดง่าย ดิฉันคิดว่าคุณเองรู้จักตนเองในระดับหนึ่งแล้ว เพราะน้อยคนนักที่จะรู้จักตัวเอง คนส่วนใหญ่มักรู้จักแต่ผู้อื่่น


    ลองหาอุบายในการเจริญสติดู เช่นกำหนดรู้ลมเข้าออกตามธรรมชาติ เข้าและออกนับเป็นหนึ่งครั้ง จนครบ10 หากสติหลุดไปคิดเรื่องอื่นก็กลับมานับ1ใหม่ แรกๆอาจจะไม่ชินและรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเอง ลองทำไปสักระยะแค่รู้ว่าเข้าและรู้ว่าออก หรือจะหาบทสวดมนต์มาใช้บริกรรมในเบื้องต้นก็ได้แล้วแต่จริต


    หลากหลายมากมายวิธีที่ล้วนแล้วแต่เป็นอุบายให้จิตนิ่ง จิตรวมเร็ว ดิฉันคิดว่าอาณาปานสติน่าจะถูกจริตกับคุณมากที่สุด เมื่อคุณมีตั้งมั่นจะกระทำและทำจนชิน คุณจะรู้สึกเย็นขึ้น ความคิดปลอดโปร่ง และมองโลกนี้สดใสขึ้น



    ขอให้คุณมีความสุขในทุกๆวันค่ะ
     
  11. tOR_automotive

    tOR_automotive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    582
    ค่าพลัง:
    +184
    ระดับต้น ๆ ให้รู้ให้ทันก่อนว่าใจร้อน
    ระดับต่อมา รู้แล้วว่าใจร้อนก็พยายามข่มไว้
    ระดับต่อมา ข่มได้แล้ว ก็มานั่งใครครวญว่าโทษของความใจร้อนเป็นไงบ้าง

    ต้องมาใคร่ครวญด้วยนะ ให้เห็นโทษ ถ้าไม่เห็นโทษ เดี๋ยวก็ไม่นานจะกลับไปเป็นอย่างเดิมได้อีก
     
  12. amornvut

    amornvut Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +82
    เรื่องตะปูอารมณ์

    เด็กน้อยคนหนึ่งที่สีหน้า แสดงอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก
    พ่อของเขาจึงให้ตะปูกับเขา 1 ถุง
    และบอกกับ เขาว่า ทุกครั้งที่เขารู้สึกโมโห หรือโกรธใครสักคน
    ให้ตอกตะปู 1 ตัวเข้าไป กับรั้วที่หลังบ้าน”

    วันแรกผ่านไป เด็กน้อยคนนั้นตอกตะปูเขาไปที่รั้ว หลังบ้านถึง 37 ตัว
    และก็ค่อย ๆ ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ
    ในแต่ละวันที่ผ่าน ไป ก็ลดจํานวนลง น้อยลง น้อยลง
    เพราะเขารู้สึกว่า การรู้จักควบคุมอารมณ์ของ ตนเองให้สงบ
    ง่ายกว่าการตอกตะปูตั้งเยอะ
    และแล้ว หลังจากที่เขาสามารถ ควบคุมตนเองได้ดีขึ้นใจเย็นมากขึ้น
    เขาจึงเข้าไปพบกับพ่อ และบอกกับพ่อของ เขาว่า
    เขาสามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้แล้ว

    ไม่มุทะลุเหมือนแต่ก่อนที่ เคยเป็นมา
    พ่อยิ้ม และบอกกับลูกชายของเขาว่า
    ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงเจ้า ต้องพิสูจน์ให้พ่อรู้
    โดยทุกๆ ครั้งที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ฉุนเฉียวของตน เองได้
    ให้ถอนตะปูออกจากรั้วหลังบ้าน 1 ตัว ทุกครั้ง”

    วันแล้ววัน เล่า เด็กน้อยคนนั้นก็ค่อยๆ ถอนตะปูออก
    ทีละตัว จาก 1 เป็น 2 .... จาก 2 เป็น 3
    จนในที่สุดตะปูทั้งหมดก็ถูกถอนออก จนหมด

    เด็กน้อยดีใจมากรีบวิ่ง ไปบอกกับพ่อเขาว่า
    “ฉันทำได้ ในที่สุดฉันก็ทำจนสำเร็จ !!”

    พ่อไม่ ได้พูดอะไร
    แต่จูงมือลูกของเขาออกไปที่รั้วหลังบ้าน
    และบอกกับลูกว่า “ ทำได้ดีมาก ลูกพ่อ
    และเจ้าลองมองกลับไปที่รั้วเหล่านั้นสิ
    เจ้าเห็นหรือ ไม่ว่า รั้วนั้นมันไม่เหมือนเดิม
    ไม่เหมือน..กับที่มันเคยเป็น

    จำ ไว้นะลูก
    เมื่อใดก็ตามที่เจ้าทำอะไรลงไปโดยใช้อารมณ์
    สิ่งนั้นมันจะเกิด เป็นรอยแผล
    เหมือนกับการเอามีดที่แหลมคมไปแทงใครสักคน
    ต่อให้ใช้คำพูด ว่า “ขอโทษ” สักกี่หน
    ก็ไม่อาจลบความเจ็บปวด
    ไม่อาจลบรอยแผลที่เกิดขึ้น กับเขาคนนั้นได้
    ฉันใดก็ฉันนั้น “กับเพื่อน” ..
    เปรียบ เสมือน อัญมณีอันมีค่าที่หายาก
    เป็นคนที่ทำให้เรายิ้ม
    เป็นคนที่คอยให้ กำลังใจ และยินดีเมื่อเราพบกับความสำเร็จ
    เป็นคนที่คอยปลอบใจเราเมื่อยาม เศร้า ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา
    และจริงใจกับเราเสมอ ... แสดงให้เขาเห็น

    ว่าเราห่วงใยเขามากแค่ไหน
    และระวังสิ่งที่เราทำไป ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำ
    และจงจดจำไว้เสมอว่า " คำขอโทษ "
    ไม่ว่าเขาจะยกโทษให้เราหรือ ไม่ก็ตาม
    แต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น คือ
    รอยร้าวที่เขาคงไม่อาจลืมมัน ได้ ...... ตลอดไป”
     
  13. whimsicle

    whimsicle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +36
    แก้ได้ด้วยการภาวนาคะ อย่าลืมต้องสวดมนต์ทุกวัน แต่ก่อนเป็นเหมือนกันขี้โมโหมาก พอสวดพระคาถาชินบัญชร ทุกวันจะทำให้เราสงบขึ้น ต้องสวดทุกวันนะคะอย่างน้วย๑รอบ มันจะเหมือนเครื่องเตือนสติอัตโนมัตว่าเวลาเราเกิดกิเลส อยากได้นั้นได้นี้.. โมโห คนอื่นมันก็จะน้อยลง เพราะเราจะระลึกขึ้นมาได้เองว่าเฮ้ยเย็นนี้ต้องกลับไปสวมนตร์อย่างนี้เราจะโกรธคนอื่นได้ยัง พอหนักเข้าๆ สวดมากๆเข้า เอ้า อยากสวดหลายบท... เอ้าทีนี้อยากลองนั่งสมาธิมั้งแล้ว ... พอใจจขคเริ่มติดเรื่องสนใจไหว้พระไหว้จ้าว ความรู้สึกโกรธ กิเลส ต่างๆมันก็จะหายไปเอง
     
  14. gentboy

    gentboy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2011
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +240
    ผมก็เคยเป็นครับ เมื่อก่อน ผมจะขอแนะนำวิธีที่ผมใช้ ให้ก็แล้วกันครับ มีอยู่หลักๆ ก็คือ
    1 หากเราโกรธใครคนนึงให้เราคิดถึง ข้อดีของเขา เอาใจเขามาใส่ใจเรา
    2 กำหนดรู้เมื่อความโกรธเกิดขึ้น ว่าโกรธหนอๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้ใจมีสติรู้เท่าทันความโกรธ แล้วใจมันก็จะ ปล่อยวางจากความโกรธ
    3 หายใจเข้า ออกลึกๆ ช้าๆ ไปเรื่อยๆ
    4 ตื่นเช้ามา ตั้งใจไว้เลยว่า วันนี้เราจะไม่โกรธใคร ให้คิดว่าถ้าเราอยากจะไปนิพพานสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำให้ได้คือ ดับโทสะให้ได้
    5 เจริญพรหมวิหาร 4 ระลึกถึงพรหมวิหารสี่ ไปที่ละข้อ ปลูกให้มีขึ้นในใจ
    ถ้าว่างๆใจสบายๆ ก็หัดนั่งสมาธิไปด้วย
     
  15. happyness

    happyness เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +163
    ฝึกรู้ว่าตัวเองโกรธ อยู่ตลอดเวลา

    ต้องบอกว่าเป็นเหมือนกันแต่ก่อน
    หมาเดินตัดหน้า ยังโกรธ
    จนมันคิดได้เองว่า ทำไมเราโกรธง่ายจัง เราต้องเป็นโรคจิตอะไรสักอย่างแน่ๆ
    อยากจะเป็นคนใจเย็น เหมือนเพื่อนอีกคน เพราะใครๆก็อยากอยู่ใกล้ น่ารัก
    ก็เลยฝึก วิธีฝึกก็ง่ายๆ
    ต้องบอกว่าคนเวลาโกรธ ห้ามไม่ได้ จะไปหยุดไม่ให้โกรธไม่ได้ แต่เราสามารถรู้สึกตัวได้ ขอให้รู้ว่าเรากำลังโกรธ หรือว่าเรารู้สึกอย่างไรในตอนนั้น แล้วพิจารณาว่ามันดีกับตัวเราอย่างไร สังเกตุว่าตอนโกรธใจมันจะเต้นเร็ว หน้าจะแดง ขั้นแรกให้รู้ตัวก่อนว่าเรากำลังโกรธ พอสักระยะ มันจะเริ่มดีขึ้นๆ หัดมองในมุมของคนอื่น เราจะเห็นใจคนอื่นมากขึ้น พอเราเข้าใจ เราจะไม่โกรธหรอกที่เขาหรือใครมาทำให้เราไม่พอใจ จะมองว่ามันก็แค่นั้น

    ที่สำคัญต้องหัดฝึกมองอารมณ์ตัวเองบ่อยๆเวลาโกรธ ทำบ่อยๆ จะดีขึ้น แล้วหัดมองในแง่ดีๆ หัดเข้าใจคนอื่นๆมากขึ้น ส่วนมากคนที่โกรธง่าย มักจะเอาเหตุผลตัวเองเป็นใหญ่ ลองมองในมุมของคนบ้างอะนะ
    สู้ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2011
  16. หมี พลเสน

    หมี พลเสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +358
    คุณมาถูกทางแล้วครับ เปลี่ยน มุม มองครับ อย่าคิด ว่าใครได้หรือ เสีย อะไร คุณ มาหาคำตอบ แบบนี้ แสดงว่า ใกล้หายแล้วนะครับ มีอยู่วิธีนึง ผมทำตลอด หายครับ ไปโหลด คำสอนของ ท่านจิตโต บ้านสบายใจ มาฟังครับ ขับรถ ก็เปิดฟังไป นั่งรถไม่ได้ขับ ก็เป็นในโทรศัพย์ อุดหูไว้ ไม่ต้องห่วง ว่าจะไม่หายครับ เข้า กูเกิล นะครับ พิมพ์ คำว่า ท่าน จิตโต บ้าน สบายใจ แล้วไปโหลดมาฟังครับ ฟังแล้ว ผมเลิกฟังเพลงมาได้น่าจะเกือบปปีนึงแล้ว หายแน่ๆครับ อยู่ที่คุณจะ ทำหรือไม่ทำแล้ว เลือกเอานะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ คนทุกคนอยากเป็นคนดีหมดแหละครับ แต่เป็นได้ตามภูมิ ธรรม หรือ เรียกง่ายๆว่า เท่าที่คิดได้ครับ เร่งๆเร็วๆไวๆนะครับ ชีวิตนี้ น้อยนัก คุณโชคดีนักหนา มากกว่าเศรฐีระดับโลกอีกนะครับ เพราะได้เกิดมาพบคำสอนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่า คนทุกคนมีความทุกข์ตามเหตุและปัจจัยของตนเอง ที่ใครๆเขาว่ารวยแล้วจะมีทุกข์น้อย นั้นไม่จริงนะครับ ความสุขที่สุดของมนุษย์คือ ความสบายใจครับ สู้ๆนะครับ แล้ววันนึง คำว่าโชคดีแล้ว ที่ ไม่ว่าเรื่องดี เรื่องร้าย ที่เข้ามาในชีวิตคุณนั้น ต้องขอบคุณมันเหลือเกิน ที่ทำให้ได้มาศึกษาและปฎิบัติ ตามคำสอน ของ องค์สมเด็จพระสัมมานัมพุทธเจ้า จะปรากฎ จ้า อยู่ในหัวใจคุณครับ ทางนี้ ถูกแล้วครับ สู้ๆนะครับ ท้อ แต่อย่าถอยนะครับ
     
  17. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    คนโกรธบ่อย เท่ากับตายผ่อนส่ง โกรธมากก็ยิ่งตายเร็ว เพราะหัวใจเต้นเร็วทำงานหนัก เดี๋ยวก็หมดแรง หมดกำลังจะทำหน้าที่ของหัวใจ ให้ตั้งสติเอาไว้ อย่าให้อารมณ์โทสะ ครอบงำนาน หรืออย่าให้มีเลย ดีที่สุด ให้คิดว่าแม้แต่เราก็ยังไม่ถูกใจตัวเอง ดังน้นก็อย่าหวังว่าคนอื่นจะถูกใจเราทุกอย่าง ตั้งสติ ใจเย็น ๆ แผ่เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาคือทำใจให้เป็นกลาง ไว้มาก ๆ นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 ธันวาคม 2011
  18. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    ทำใจ ---> ธรรมใจ :cool:
     
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ระลึกถึงความตายเป็นสรณะ ไม่ว่าเขา ว่าเรา ยังไงๆ ก็ตาย จะโกรธจะโมโหเพื่ออะไร เอาเวลาที่จะโกรธ จะโมโห หรือเวลาที่เหลืออยู่นี้มาทำประโยชน์ให้กับชีวิต ทำความดีให้กับชีวิตดีกว่า ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง เกิด แก่ เจ็บแล้วก็ตาย เหมือนกันทุกคน ชีวิตคือการเดินทาง สุดท้ายทุกสรรพชีวิต ก็ต้องตาย

    เมื่อคุณระลึกเรื่องความตายได้แล้ว ที่เหลือธรรมชาติมันจะบอกเองว่าจะต้องทำยังไงต่อไป
     
  20. rose_tk4

    rose_tk4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +189
    เป็นคนโกรธง่ายเหมือนกันค่ะ พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง สวดมนต์ นั่งสมาธิ ตั้งสติให้ได้ ค่อยๆทำไป ดูสิว่าจะเปลี่ยนตัวเองได้มากแค่ไหน แต่รู้สึกตัวเองได้เร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะจะไม่เอามาคิดซ้ำวกวนไปมานานแสนนานเหมือนเมื่อก่อน
     

แชร์หน้านี้

Loading...