อยากฟังประสบการณ์การเห็นของผุ้ฝึกมโนมยิทธิหรือกสิณครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Akazaba, 13 กุมภาพันธ์ 2009.

แท็ก: แก้ไข
  1. Akazaba

    Akazaba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +435
    คือ ถึงพวกเรายังฝึกไม่ได้แต่ ท่านที่ฝึกชำนาญ ผมว่าท่านมาเล่า ให้พวกผมฟัง ทำให้พวกเราเกิด ศรัทธา กลัวบาป กรรม
    และมีใจอยากฝึกบ้าง ท่านเล่าครั้งหนึ่งอาจมีผู้สนใจหรือมาอ่านเป็นร้อย อย่างน้อย มี ซัก 10 คนที่ศรัทธา แล้วไปฝึกจริง
    ผมว่านั้นก็บุญมหาศาลแล้วครับ ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็ช่างเขาไปครับ บังคับกันไม่ได้ แต่ผมเชื่อสุดใจ ผมอยากฟังเรื่องเกี่ยวกับ นรก เรื่องบาปกรรม และภุมเทวดาครับ ผมว่าอย่างน้อยก็ทำให้บอร์ดคึกคักขึ้นบ้าง สร้างศรัทธาให้เกิดก่อน กันดีกว่า
     
  2. unix_family

    unix_family เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +217
    เป็นเสียงเรียกร้องที่ดีมากครับ อนุโมทนาด้วยครับ

    เป็นเสียงเรียกร้องที่ดีมากครับ อนุโมทนาด้วยครับ
     
  3. unix_family

    unix_family เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +217
    มโน ฝึกเพื่อให้รู้ให้เห็นในภพภูมิต่าง ๆ ทั้ง 36 ภพภูมิเพื่อเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจในคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า โดย ให้เห็นและเข้าใจในสิ่งที่เกินวิสัย เกินปัญญาแห่งปุถุชน ธรรมดา ที่มีปัญญาอันน้อยหนิด หากแม้เรา ปฎิเสธ มิยอมรับ ในสิ่งต่าง ที่เป็นอยู่ตามธรรมชาติ โดยเอาเหตุผล ทางวิทยาศาสตร์มา เปรียบเทียบโดยที่ไม่เปิดใจยอมรับ ธรรมดา อันเป็นไป ย่อมเท่ากับเรา เดิน ทางไป ตามความเชื่อ ซึ่งไม่ได้รับการพิสูจน์ ว่าเป็นจริงหรือไม่จริง อย่างไร

    และนอกจากนั้น เมื่อท่านได้ฝึกจนได้ผล แล้ว ผลของการฝึกนี้ ยังนำไปสู่ ความรุ้ซึ่งมากกว่าความรู้ทั่ว ๆ ไป มากกว่าความเข้าใจทั่ว ๆ ไป เพราะสามารถ ที่จะวิเคราะห์อดีต วิเคราะห์ ปัจจุบัน และวิเคราะห์ อนาคต ได้ อันเป็นผลพลอยได้จาก ญาณ ต่าง ๆ เช่นทิพจักขุ ญาณ อตีตังคญาณ เป็นต้น

    หากท่าน ทั้งหลาย ปฎิเสธ โดยที่ยังไม่ได้ลองพิสูจน์ นั้นเท่ากับท่าน มิได้ปฎิบัติตาม คำสอน ในเรื่องกาลามสูตร แต่หากท่าน เชื่อโดย ไม่พิสูจน์ก็คงไม่ถูกต้องเช่นกัน

    จะดีกว่าไหมครับ ถ้าท่านทั้งหลาย ได้ลองพิสูจน์เพื่อให้ได้ซึ่งผล แห่งการปฎิบัติ ดีกว่า คงความคลางแคลงใจเอาว่า ?
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,867
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,021
    ที่มา http://audio.palungjit.org/showthread.php?t=575

    มโนมยิทธิ โดย คุณป้านิภา คงสุข

    ไฟล์ต้นฉบับ โดย คุณ อำนาจ


    คุณแม่นิภา คงสุข ประสบการณ์เร้นลับทางจิต
    <!-- / message --><!-- attachments --> <table id="AutoNumber1" style="border-collapse: collapse;" width="330" border="1" bordercolor="#ffffff" cellspacing="1"> <tbody> <tr><!-- player --> <td width="317">กดที่ [​IMG] หน้าชื่อไฟล์ เพื่อรับฟังเสียงที่คุณเลือก. </td></tr></tbody></table>
    <!-- OEF MS Player --> <fieldset class="fieldset"><legend>ไฟล์แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody> <tr> <td width="10%"><input id="play_4744" onclick="document.all.music.url=document.all.play_4744.value;" value="attachment.php?attachmentid=4744" name="Music" type="radio">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>01 มโนมยิทธิ _ป้านิภา.wma (6.70 MB, 3924 views)</td></tr> <tr> <td width="10%"><input id="play_4745" onclick="document.all.music.url=document.all.play_4745.value;" value="attachment.php?attachmentid=4745" name="Music" type="radio">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>02 มโนมยิทธิ _ป้านิภา.wma (6.69 MB, 2203 views)</td></tr> <tr> <td width="10%"><input id="play_4746" onclick="document.all.music.url=document.all.play_4746.value;" value="attachment.php?attachmentid=4746" name="Music" type="radio">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>03 มโนมยิทธิ _ป้านิภา.wma (6.46 MB, 1655 views)</td></tr> <tr> <td width="10%"><input id="play_4747" onclick="document.all.music.url=document.all.play_4747.value;" value="attachment.php?attachmentid=4747" name="Music" type="radio">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>04 มโนมยิทธิ _ป้านิภา.wma (6.47 MB, 1612 views)</td></tr></tbody></table></fieldset>
     
  5. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ครั้งแรกที่เคยไปฝึกบ้านสายลม ผมบอกตรงๆว่า เหมือนกับการนึกคิด คือไม่รู้สึกอะไรมาก
    ปนกับไม่ค่อยเชื่อด้วยซ้ำ เพราะผมเป็นประเภท จะเชื่อต่อเมื่อพิสูจน์ได้ หรือมีอะไรที่เป็น
    รูปธรรม มากกว่านี้ จนได้ไปฝึกกับพี่ในเวปท่านนึงในเวปพลังจิตนี่แหละ จัดบ่อยๆ
    แถวสวนลุม พี่เค้าพาขึ้นไปข้างบน ซึ่งระหว่างที่ขึ้นไปเนี่ย ความรู้สึกเวลาที่เราขึ้นไปนั้น
    จะเย็นสบายมีความสุข เหมือนเราไปจริงๆ มากครับ ทำให้เริ่มเชื่อบ้างว่าเราสามารถขึ้น
    ไปได้ โดยขอบารมีพระท่านพาไป จะง่ายและไวที่สุด นึกอยากไปไหน นึกถึงพระท่าน
    ขอให้ท่านช่วย มองไม่เห็น มองไม่ชัดก็ขอบารมีท่านให้มองเห็นชัด ซึ่งสุดท้ายหลังจาก
    ไปนู่นไปนี่ ก็เบื่อ เหลือไว้แค่ภาพพระท่าน ทรงไว้ให้อยู่กับเรา ตลอดเวลา คอยดูจิตเรา
    ให้เป็นแก้วใสตลอดเวลา พอทรงภาพท่านบ่อยๆ คำสอนธรรมะต่างๆ จะไหลจากจิตสู่จิต
    ทำให้เราเข้าใจทางจิต มากกว่าการอ่าน หรือท่องจำ และเข้าใจทางสมอง

    เล่าแบบคร่าวๆ และรวบรัดนะครับ ถ้าพอจะทำให้ใครสนใจธรรมะได้มากขึ้นก็ยินดีครับ
    เรื่องลึกกว่านี้ผมไม่อยากเล่า จะกลายเป็นการอวดตัว แต่จะทิ้งท้ายไว้ว่า แรงครูบารมีครู
    บารมีพระพุทธเจ้าท่านยังมีอยู่จริง พิสูจน์จนผมเห็นเป็นรูปธรรม

    การจะทำอะไรทุกอย่าง ทางโลก ทางธรรม ถ้าเราทำเข้าตัวเรา มันจะได้น้อย แคบๆ
    แต่เมื่อใดเราทำเพื่อคนอื่น จะได้เร็ว ไว และสั้น มากๆ
    ก็ขอให้เอาข้อคิดนี้ฝากสำหรับทุกท่านครับ
     
  6. สังวรคุณ

    สังวรคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +765
    ตอนปี 2526- 2527 ผมได้มีโอกาสไปฝึก มโนมยิทธิที่วัดท่าซุง มีอยู่ช่วงหนึ่งหลวงพ่อท่านจะให้ครูฝึกบันทึกเทปในขณะฝึกไปด้วย เสร็จแล้วจะอัดมอบให้กับผู้ร่วมฝึกนำกลับไปฟังที่บ้าน ผมฝึกอยู่วัดหลายวัน พอจะกลับไปกราบลาองค์หลวงพ่อ ท่านถามว่าได้เทปไปหรือเปล่า เอาไปฟังเรื่อยๆนะลูกนะ ผมก็คิดในใจ ฟังรอบเดียวก็จำได้หมดแล้ว ทำไมต้องให้ฟังซ้ำเรื่อยๆด้วยนะ แต่ก็มาคิดว่าเรามีครูบาอาจารย์ระดับองค์หลวงพ่ออย่างนี้ ท่านบอกอะไรเราก็ควรทำอย่างนั้นดีกว่า ผมก็เอาเทปตอนฝึกมโนมยิทธิไปฟังเรื่อยๆ ต่อมาต่อมา ผมก็สามารถไปตามภพภูมิต่างๆได้แบบไม่รู้ตัวเลย มันมีความรู้สึกชัดขึ้นมาในใจ ไปรู้ไปเห็นอะไรก็ชัดเจนจนหายสงสัยไปหมด และที่สุดคือ หายสงสัยเรื่องพระนิพพานเมื่อเราสามารถสัมผัสสภาวะพระนิพพานได้อย่างชัดเจนแจ่มใส
    คืออยากจะบอก คุณ skazaba ถ้าสนใจอย่างที่บอกมา ให้ไปหาเทปเกี่ยวกับมโนมยิทธิมาฟัง ที่หลวงพ่อท่านแนะนำเอง คือเทปที่ท่านสอนเองคณะสมุทรปราการ หาซื้อได้ในรายการเทปของวัดท่าซุงครับ หมวดฝึกมโนมยิทธิ มีจำหน่ายที่ซอยสายลม และที่วัดท่าซุง ขอให้ประสบผลสำเร็จตามที่ปราถนานะครับ
     
  7. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    อ้าว ยังงี้ผมก็ฝึกผิดมาโดยตลอดสิ ผมเชื่อ ไม่ต้องพิสูจน์ ผมก็เชื่อ แต่ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ยังงั้นผมก็ไปไม่ถึงไหน แล้วต้องควรทำอย่างไรอ่ะครับ แต่แรงศรัทธา มีมากโขเลยทีเดียว เฮ้อ ติดก็ตรงที่ไม่มีเวลาไปเนี่ยซิครับที่ซอยสายลมหน่ะ

    แล้วไม่มีอาจารย์นำ แต่เรา พูดเอง นำเองได้ไหมคับ หรือฟังเทปไปเรื่อยๆ แล้วคิดตามไปด้วย -*-
     
  8. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ชักอยากลองฝึกดูบ้างแล้วสิ คุณสังวรคุณ ไม่สนใจแจกเทปเป็นธรรมมะทานบ้างหรือครับ
    หรือท่านอื่นก็ๆได้ มีไครสนใจให้เทปเป็นธรรมมะทานบ้างไหมครับ
     
  9. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    มหาโมทนาครับ ที่พี่นัท (nuttadet) พูดไว้ถูกแล้วครับ ฝึกให้เห็นแล้วไปศึกษาปริยัติจะดีมากครับ เปรียบธรรมหนึ่งคือกาแฟ แม้ผู้รู้วิธีชงไม่เคยลิ้มรสไม่อาจบอกถึงรสกาแฟได้ถ่องแท้(ปริยัติไม่ปฏิบัติ)...สอนธรรมได้ไม่แจ้ง ไม่รู้รสชาติ
    แม้หนึ่งผู้ลิ้มรสกาแฟแต่ไม่เคยรู้วิธีชงไม่อาจสอนการชงกาแฟให้ละเอียดได้(ปฏิบัติไม่เรียนปริยัติ)..บอกเล่ารสพระธรรมได้แต่สอนเทียบความเข้าใจอย่างละเอียดได้ยาก
    แม้อีกผู้หนึ่งเคยชงและลิ้มรสมาเอง ผู้นั้นย่อมชงกินเองและแบ่งปันผู้อื่นได้อย่างง่ายดาน(ปฎิบัติประกอบปริยัติ)...สอนธรรมได้รู้ถึงรสและมีคำควบคุมอย่างตรงหลัก อ้างอิงให้เกิดศรัทธาได้

    ขอโมทนาทุกดวงจิตที่หวังก้าวข้ามมหรรณพแห่งวัฏสงสารนี้ครับ...ข้าพระพุทธเจ้าขอพุทธานุญาตอ้างเอาพระบรมมหาบารมีแห่งสมเด็จพระชินสีหได้โปรดดลบันดาลให้เหล่าผู้ใฝ่ธรรมเหล่านี้ก้าวล่วงหลุดพ้นมหรรณพแห่งวัฎสงสารได้ถึงพร้อมซึ่งพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเทอญ ด้วยกรรมอันใดได้ทำไว้ดีแล้วแม้จะยืดเวลาการเดินทางข้าพระพุทธเจ้าขอเป็นอำนาจประทานพรให้ทุกท่านเข้าสู่พระนิพพานโดยเร็ววันและถ้วนทั่วด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  10. สุภิญโญ

    สุภิญโญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +325
    ของผมฟังดูไม่ดี ตรงที่ ผมฝึกกสิณได้ไวมาก ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดนะครับ

    แต่ตอนนั้น ใจมันเร่าร้อน บ้าอำนาจ และก็ ติดฤทธิ์ ติดฌาณ

    เรียนก็ไม่อยากไปเรียน กลับบ้านมาก้นั่งสมาธิ อิ่มใจ

    ตอนนั้นเหมือนคนขี้เกียจ ที่นี้วันนึงครูสอนวิชาพระพุทธศาสนาที่โรงเรียน เอาหนังสือมายื่นให้อ่าน

    ทุกอย่างก็กลับสู่ปรกติ

    ชีวิตผมช่วงนั้น แย่ครับ เพราะไม่มีครูฝึก จะลำบากอย่างนี้ ผลเสียก้มากมาย

    ถ้าจะฝึก ต้องมีครูนะครับ

    พูดแล้วผมยังละเหี่ยใจ

    ทุกวันนี้ปกติดีครับ ใช้ชีวิตตามครรลอง ครองอยู่ในศีลธรรม
     
  11. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,867
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,021
    ที่พี่ nuttadet กล่าวมานั้นถูกต้องหมดเเล้วครับ เห็นด้วยทุกอย่างครับ ต้องทําเองถึงรู้เองครับของเเบบนี้
     
  12. Akazaba

    Akazaba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +435
    ขอรายละเอียดเยอะๆครับ ถือว่าเล่าสู่กันฟังดีกว่าครับ ไปเห็นนรก แล้วมีอะไรบ้าง บางทีที่ท่านเห็น มันก็อาจเป็นประโยชน์กับพวกเรานะครับ
    เข้าใจว่าปฏิบัติเองรู้เอง แต่ทำไมหลวงพ่อท่านกล้าบอกกับพวกเรา ครับ
    เพราะท่านเชื่อว่าแนวทางท่านไม่ผิด นิครับ และเป็นประโยชน์กับคนทั่วไป เรื่องอวดอ้างผมว่าถ้าคนที่ศรัทธาปฏิบัติแล้ว ไม่คิดว่าอวดอ้างแน่นอน การอวดอ้างถ้าผู้ปฏิบัติ ไม่ได้เห็นจริงรู้จริง อวดไปแล้วจะได้อะไรครับ มันไม่มันส์หรือไม่สนุกหรอกครับ หลอกตัวเองป่าวๆ ถ้าทุกคนต่างคนต่างทำ แล้ว จะ
    ดึงให้คนอื่นได้ยังไง อย่างคนที่มีจริต ไปทางฤทธิ์ อำนาจ ถ้าได้ฟังประสบการณ์หรือคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ผมว่าก็มีสิทธ์ช่วยชี้ทางให้เค้าได้นะครับ
     
  13. Akazaba

    Akazaba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +435
    อยากให้คุณคำอ้นมาเล่าประสบการณ์ ดีดีของคุณครับ ได้อ่านแล้วรู้สึกอยากไปฝึกมโนมากๆ
    ผมเชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านในบอร์ดนี้ก็อยากฟังเรื่องแบบนี้อยู่แล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2009
  14. Akazaba

    Akazaba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +435
    ขออนุญาตินำเรื่องของพระมาลัย ที่นำเอาเรื่องนรก สวรรค์มาบอก
    สิ้นพระศาสนาเข้าสู่กลียุค

    <CENTER></CENTER><CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="93%" border=0></CENTER>

    เมื่อพระศรีอริยเมตไตยได้ฟังปุจฉาของพระมาลัยเถระถามถึงเรื่องการจะมาตรัสรู้ของพระองค์ในอนาคตกาลข้างหน้า จึงมีพระวิสัชนาดำรัสตรัสว่า " อีกไม่นานดอกพระคุณเจ้า เมื่อครบถ้วนห้าพันปีสิ้นศาสนาของพระพุทธโคดมแล้ว
    ครั้งนั้นพวกสัตว์ทั้งหลายจะหน้ามืดตามัวประพฤติชั่วไม่รู้จักทำบุญกุศลสุจริต มีแต่จะคิดกระทำกรรมอันบาปหนาหยาบช้า ขาดหิริโอตตัปปะมิรู้จักละอายต่อบาปกรรม แม่กับลูกจะอยู่กินด้วยกันเป็นสามีภรรยา พี่สาวกับน้องชาย พี่ชายกับน้องสาว พี่ป้าน้าอาลุงหลานก็จะสมสู่อยู่กินกันเป็นสามีภรรยามิรู้ว่าลูกเขาเมียใคร เมามัวในกามา ใจบาปหยาบช้าเต็มไปด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง ประพฤติชั่วนานานัปการอันล่วงละเมิดศีลห้า ด้วยว่ามิมีผู้ใดจะดำรงทรงจำไว้ได้พระสัจธรรมเสื่อมหาย

    พระสงฆ์ทั้งหลายคนก็มิรู้จัก ด้วยมักละเมิดพระวินัยบัญญัติตัดนั่นเติมนี่ในที่สุดก็มีความประพฤติดังเช่นฆราวาสผู้ครองเรือน ผ้าเหลืองแปดเปื้อนเป็นมลทินจึงเปลื้องออก ครั้นเมื่อมีกิจทางศาสนาจึงนำมาห่มคลุมเพื่อหากิน ในที่สุดก็ลืมสื้นในวิธีการครองผ้าจึงฉีกบางส่วนออกมามัดไว้ที่คอ ข้อมือเพื่อหมายให้รู้ว่ามีอาชีพเป็นนักบวช ครั้นนานเข้าก็ขาดเปื่อยไปสิ้นคิดขี้เกียจสรรหามาใหม่ในที่สุดแล้วไซร้ก็หมดซึ่งสีของผ้ากาสาวพัสตร์ ความชั่วกำเริบหนักหนาอายุของสรรพสัตว์ก็จะลดน้อยถอยลงตราบจนเหลือ ๑๐ ปี เด็กเกิดมาได้เพียง ๕ ปี ก็มีระดูแต่งงานได้ อาหารทั้งหลายจะถอยถดหมดลงไป

    ข้างฝ่ายเทพยดาพากันเอ็นดูหมู่สัตว์มีวิบากทั้งหลายก็จำแลงแปลงกายเป็นคนเสียสติบ้านุ่งผ้าแดงร้องบอกแก่สรรพสัตว์กลางตลาดร้านถิ่นว่าจักเกิดมิคสัญญีว่าวันนั้นคืนนั้นจะมีการเข่นฆ่ากัน [​IMG] โดยบอกก่อนล่วงหน้าเป็นเวลา ๗ วัน ผู้ใดมีคุณธรรมแลสติปัญญาก็พากันจดจำหลีกหนีไปเสียได้เพียงแต่เล็กน้อย เข้าไปคอยอาศัยอยู่ในถ้ำภูผากลางป่าเขา เหลือแต่เหล่าพวกหยาบช้าพากันไม่เชื่อถือในคำพูดของเทพยดาก็พากันเยาะเย้ยถากถางเข้ารุมกระทำอันตรายหมายจะเข่นฆ่า เทพยดาเจ้าก็เร้นกายหายวับกลับวิมานอันเป็นสถานที่อยู่แห่งตน
    ครั้นเมื่อถึงวันกำหนดคนทั้งหลายพากันหิวกระหายออกหากินเป็นปกติวิสัย ครั้นเห็นหน้ากันไซร้ก็เข้าใจว่าเป็นเนื้อเป็นปลา จับอะไรได้เป็นต้นว่าท่อนไม้ผุก็กลับกลายเป็นหอกดาบอาวุธศาสตรา เข้าทำการเข่นฆ่าไล่ทิ่มแทงกันจนล้มตายเป็นอันมากเหลือจะประมาณได้กลายเป็นมิคสัญญีกลียุควุ่นวายเป็นหนักหนาจนเข่นฆ่ากันหมดสิ้น

    ข้างฝ่ายพวกที่มีสติปัญญาวิชาความรู้ซ้อนเร้นอยู่ตามเถื่อนถ้ำเงื้อมผาป่าดงลึกสุด ครั้นเมื่อมนุษย์บ้าดีเดือดทั้งหลายฆ่าฟันกันจนหมดสิ้น ก็พากันออกจากที่ซ่อนกำบัง ครั้นมาพบกันเข้าก็ดีใจเหลือกำลังสวมกอดกันเข้าว่าเรานี้หนายังมีสหายรอดตายเหลืออยู่ ต่างก็พากันปรึกษาหารือกันว่า

    อันความฉิบหายที่เกิดแก่พวกเราในครั้งนี้ก็เพราะมีความประมาทพลาดพลั้งในกรรมดี มีแต่ก่อบาปหยาบช้าเป็นส่วนใหญ่ แต่นี้ต่อไปในเบื้องหน้าพวกเราจงอุตส่าห์กระทำแต่กรรมดีมีศีลธรรมเว้นจากการฆ่าสัตว์ ประหัตประหารกัน เว้นเสียจากการลักขโมยฉ้อฉลหลอกลวงกัน เว้นเสียจากการผิดลูกผิดเมียไม่มัวเมาในกาเมมิจฉาจารปราศจากการพูดเท็จ งดเว้นจาการพูดคำหยาบช้า ไม่พูดจาส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ เว้นจากความโลภ ความโกรธ ความหลง ความเห็นที่ผิดจากธรรมนองคลองธรรม เมื่อคนมีสติปัญญาปรึกษากันแล้ว ก็ตั้งหน้าตั้งตาบำเพ็ญบุญกุศลมีให้ทานรักษาศีลเป็นต้น ครั้นคนเหล่านี้มีลูกหลานสืบสายตระกูล ลูกก็จะอายุยืนได้ ๓ ปี มีหลานหลานก็อายุยืนขึ้นเป็น ๕ ปี จะเจริญไปดังนี้เป็นลำดับ ตราบเท่าอายุมนุษย์เจริญได้ถึงอสงไขยหนึ่งความแก่แลความตายไม่ปรากฏให้เห็นซึ่งหน้า ครานี้มนุษย์ก็จะมีความประมาทไม่ตั้งมั่นในความดี อายุของเขาเหล่านี้ก็จะเสื่อมถอยลงมาเป็นลำดับดังนี้ เหลือเพียงแปดหมื่นปีครานี้ก็จักเข้าสู่ยุคของข้าพระองค์ ขอรับพระคุณเจ้า

    เครดิตhttp://www.larnbuddhism.com/pramarai/


    <TBODY></TBODY>
    </TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2009
  15. Akazaba

    Akazaba เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +435
    ยุคพระศรีอารีย์




    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="93%" border=0></CENTER>



    เมื่อสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ตรัสถึงกลียุคจนถึงมนุษย์อายุเสื่อมถอยน้อยลงมาถึงแปดหมื่นปีแล้วจึงตรัสต่อว่า " ครั้นเมื่ออายุมนุษย์ลดน้อยถอยลงได้แปดหมื่นปีตอนนั้นจักมีฝนตกทุกๆ ๑๕ วัน แลส่วนมากนั้นจักตกแต่เพลาใกล้รุ่งทำให้มนุษย์มีความชุ่มชื่นใจพื้นดินกว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์ แม่น้ำลำคลองมีกระแสน้ำไหลขึ้นข้างหนึ่งไหลลงข้างหนึ่ง เต็มเปี่ยมเพียบฝั่งไม่มีพร่อง ไม่มีล้นเป็นอยู่อย่างนี้เสมอ ดอกไม้นานาพรรณผลิดอกออกช่อบานสะพรั่งตลอดกาล
    บ้านเรือนจะปลูกอยู่ใกล้ๆกันพอไก่บินถึง ปราศจากโจรผู้ร้าย บริบูรณ์ไปด้วยน้ำแลข้าวปลาอาหาร ผัวเมียจะไม่รู้จักวิวาทกัน ผู้ชายไม่ต้องทำไร่นาค้าขาย ผู้หญิงก็ไม่ต้องทอหูกปั่นฝ้าย ผ้านุ่งผ้าใช้ล้วนแต่เป็นของทิพย์ อำมาตย์ข้าราชการตั้งมั่นอยู่ในความสุจริตธรรมไม่เบียดเบียนอาณาประชาราษฎร์ให้เดือดร้อน พระมหากษัตริย์จะไม่มีความกริ้วโกรธถือโทษลงพระราชอาญา มีน้ำพระทัยรักใคร่กรุณาแก่ประชาชนทวยราษฎร์

    บรรดาสรรพสัตว์ที่เป็นศัตรูกันทั้งหลายเช่นกากับนกเค้า แมวกับหนู งูกับพังพอน หมีกับไม้สะคร้อ ทั้งหมดก็จะแผ่เผื่อเมตตาจิตต่อกันเลิกเป็นคู่เวรคูกรรมต่อกัน สรรพสัตว์อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เครื่องใช้ไม้สอยมีอุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง แผ่นดินใหญ่กว้างล้วนราบเรียบเป็นหน้ากลอง ไม่มีหลักตอเสี้ยนหนาม คนทั้งหลายรูปงามเหมือนกันหมด ไม่มีคนใบ้บ้า คนหูหนวกตาบอดง่อยเปลี้ยเสียขาพิกลพิการก็ไม่มีแต่อย่างใด ทุกคนปราศจากโรคภัยเบียดเบียน เห็นกันเข้าก็มีแต่รักใคร่ไมตรีอันดีต่อกันหาศัตรูหรือรู้จักโกรธให้กันก็ไม่มี ในครั้งนี้บุรุษจะมีภรรยารักคนเดียว สตรีก็จะมีสามีคนเดียวกลมเกลียวรักใคร่ปองดองกัน ไม่มีการล่วงประเวณี แลคนในยุคนี้มีแต่ความผาสุขสมบูรณ์มากไม่ต้องลำบากในการหากิน เพียงตั้งภาชนะปิดฝาเอาไว้ครั้นอยากกินสิ่งไรเปิดภาชนะก็ได้กินสิ่งนั้น [​IMG]
    ครั้นว่าบริโภคโภชนากระยาหารอิ่มหนำสำราญแล้วอาหารนั้นก็อันตรธานหายไปไม่ต้องเก็บต้องล้าง ข้าวของทุกอย่างใช้สอยแต่เครื่องทิพย์ มีกิจอยู่แต่นั่งกับนอนฟังเสียงอันเป็นทิพย์ไพเราะนักหนาอันเกิดจากเวลาลมพัดต้องหมู่ไม้ใบพฤกษาก็สั่นไหว เป็นเสียงทิพยดนตรีมีความไพเราะเป็นหนักหนา ทุกคนถ้วนหน้ามีสมบัติเหมือนกันหมด ปราศจากกำพร้าอนาถา ปราศจากคนชราหรือเข็ญใจไร้ทรัพย์สมบัติ อันเหตุวิวาทแก่งแย่งชิงเอาบ้านเรือนไร่นาของกันและกันนั้นไม่มีเลย แลยุคนั้นนี้มีพืชข้าวกล้าเพียงเม็ดเดียวหากตกลงเหนือพื้นแผ่นดินแล้วก็งอกขึ้นเป็นต้นเป็นลำเป็นปล้องเป็นหน่อ แลเป็นกอใหญ่ๆออกไปได้หลายร้อยเท่าพันทวี ทั้งหมดเป็นดังนี้ก็เพราะข้าพระองค์ได้สร้างสมบุญบารมีเอาไว้มาก

    ในศาสนาของข้าพระองค์ไม่มีคนบ้า คนใบ้ ด้วยเหตุที่ข้าพระองค์ไม่เคยพูดเท็จหลอกลวงใครๆ ไม่มีคนตาบอดเพราะข้าพระองค์มองสมณะผู้มีศีลแลยาจกวนิพกเข็ญใจด้วยนัยน์ตาที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักใคร่สงสาร ไม่มีคนง่อยเปลี้ยเสียขาเพราะเวลาทำบุญทานข้าพระองค์ยืนตรงเสมอ ไม่มีคนเจ็บไข้ได้ป่วยไร้โรคาพยาธิ์ก็เพราะข้าพระองค์ถวายยาเป็นทานอยู่เสมอเนืองนิจ ไม่มีมารผจญเพราะข้าพระองค์ไม่เคยทำให้คนหรือสัตว์นั้นตกใจ ในศาสนาของข้าพระองค์ไม่มีใครขี้ริ้วขี้เหร่ มีแต่คนรูปงามเพราะยามข้าพระองค์ให้ทานให้แต่ของอันเป็นที่รักแก่ยาจกวนิพกตลอดจนสมณพราหมณ์เสมอ [​IMG]
    ในศาสนาของข้าพระองค์ทุกคนได้ไปสวรรค์ทุกคนเพราะข้าพระองค์ให้ช้างม้าราชรถยวดยานพาหนะเป็นทาน ในศาสนาของข้าพระองค์นั้นแผ่นดินราบเรียบเสมอกันหมดเพราะข้าพระองค์แผ่เมตตาจิตไปยังสรรพสัตว์เสมอ คนในศาสนาของข้าพระองค์มั่นคงสมบูรณ์ด้วยทัพย์สินโภคาเพราะเหตุว่าข้าพระองค์ให้ทานแก่ผู้ยากไร้เข็ญใจด้วยทรัพย์สิ่งของเงินทองตามที่เขาปรารถนาอยู่เนืองนิตย์โดยทั่วถึง

    ข้าแต่พระคุณเจ้า ข้าพระองค์บำเพ็ญบารมีมาช้านานถึง ๑๖ อสงไขยแสนกัป บารมี ๓๐ ทัศนั้นก็ได้บำเพ็ญมาอย่างพร้อมมูลแล้ว ข้าพระองค์จะลงไปเกิดในโลกมนุษย์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเพื่อโปรดสัตว์ทั้งหลาย โดยจะเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาลอันบริบูรณ์ด้วยสมบัติ พระบิดานั้นทรงพระนามว่า สุพรหมพราหมณ์
    เป็นปุโรหิตของพระเจ้าสังขจักรพรรดิราช พระมารดานั้นทรงพระนามว่า เหมวดีพราหมณี พระอัครสาวกเบื้องขวามีนามว่า พระอโสกเถระ พระอัครสาวกเบื้องซ้ายมีนามว่า พระสุพรหมเถระ พระอัครสาวิกาเบื้องขวามีนามว่า พระปทุมาเถรี พระอัครสาวิกาเบื้องซ้ายมีนามว่า พระสุมนาเถรี อุบาสกพุทธอุปัฏฐากมีนามว่า สุทัตตคหบดีคนหนึ่ง แลนามว่า สังฆหบดีคนหนึ่ง อุบาสิกาพุทธอุปัฏฐากมีนามว่า ยสปวดีอุบาสิกาคนหนึ่ง แลนามว่า สังฆอุบาสิกาคนหนึ่ง
    มีไม้กากะทิงเป็นไม้ที่ตรัสรู้ ขนาดลำต้นจากพื้นไปถึงคาคบ ๑๒๐ ศอก จากคาคบไปถึงยอด ๑๒๐ ศอก รวมจากพื้นถึงยอดปลายสุด ๒๔๐ ศอก ไม้นี้มีกิ่งใหญ่ ๔ กิ่งทอดออกไปในทิศทั้ง ๔ มีความยาวกิ่งละ ๑๒๐ ศอก มีดอกเท่ากงล้อรถแต่ละดอกมีเกสรได้ทันานหนึ่ง มีกลิ่นหอมฟุ้งขจรไปไกลถึง ๕๐๐ โยชน์

    ตอนที่ข้าพระองค์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านั้นมีพระวรกายสูงได้ ๘๘ ศอก จากพื้นพระบาทถึงพระชานุ ๒๒ ศอก จากพระชานุถึงพระนาภี ๒๒ ศอก จากพระนาภีถึงพระรากขวัญ ๒๒ ศอก จากพระรากขวัญถึงพระอุณหิส ๒๒ ศอก พระชนมายุได้แปดหมื่นปีจึงปรินิพพาน ศาสนาของข้าพระองค์นั้นยืนยาวได้ ๘,๐๐๐ ปีจึงหมดสิ้นขอรับพระคุณเจ้า"
    <CENTER>** จากคุณหนอนหนังสือ**</CENTER>




    </TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="93%" border=0>เครดิตhttp://www.larnbuddhism.com/pramarai/<TBODY></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="93%" border=0>

    <TBODY></TBODY>





    </TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2009

แชร์หน้านี้

Loading...