อยากทราบความแตกต่างระหว่างสมาธิ ฌาณ และหลับใน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย vorapoap, 18 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. vorapoap

    vorapoap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +250
    เรียนถามสมาชิกครับ

    ที่จริงก็อ่านมาหลายที่แล้ว แต่ก็ไม่แน่ใจ หรืออาจจะเข้าใจผิด
    วันนี้ ขณะที่นั่งสมาธิอยู่นั้น รู้ว่ามีบางช่วงที่หลับ ตัวมันจะทรุดลง
    ต้องพยายามเรียกสติ ให้มันตื่นขึ้นมาใหม่ ด้วยวิธีการต่างๆ

    แต่ไม่ค่อยเข้าใจตรงฌาณ เคยอ่านมาเขาบอกว่า มันจะเหมือนไม่ได้ยินเสียง

    เพราะจำได้ ตอนช่วงหลัง หลังจากที่สมาธิเต็มเปี่ยมแล้ว
    ( ภาวนา พุทโธ ตามลมหายใจ)
    พระท่านเทศน์อะไรบางอย่าง ตอนแรกๆ ก็ได้ยิน
    แต่ตอนหลัง มันเหมือนเงียบไปหมดเลย ไม่มีแม้แต่การภาวนา
    แต่มันรู้สึกว่าไม่ได้หลับ.... มันเหมือนเงียบไปหมด...ตัวไม่ทรุด
    แต่ไม่รู้เรียกว่ามีสติอยู่รึเปล่า แล้วสักพักก็รู้สึกตัวใหม่(กลับมาที่การภาวนา)...
    แบบนี้มันก็เป็นการหลับชนิดหนึ่งรึเปล่าครับ
    ถ้าไม่ใช่การหลับ เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรรักษาไว้รึเปล่า
    หรือว่ากลับมาที่การภาวนาดีกว่า

    รบกวนช่วยอธิบายภาษาง่ายๆให้เข้าใจด้วยนะครับ
    (พึ่งเริ่มนั่งสมาธิอย่างจริงจังได้ไม่นานครับ)

    pig_ballet

    ขอบคุณมากครับ
     
  2. วิศว

    วิศว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,349
    ค่าพลัง:
    +5,104
    การฟังพระเทศน์ ไม่ใช่ไปฟังเพื่อรู้แปลเอาความหมายคำพระเทศน์
    ควรฟังด้วยการรักษาใจ กำหนดสติระลึกรู้ตัวทั่วพร้อมกายใจ

    เมื่อธรรมเข้าสู่ใจ ธรรมนั้นสัปยุตต์กับใจลงที่นั่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างใจกับธรรม
    ธรรมจะลึกซึ้งถึงเข้าไปในใจ เกิดปิติทั่วสรรพางค์กายและใจ
    ใจจะว่าง สว่าง เบาเย็นสบาย อันเป็นผลจากใจที่น้อมรับธรรมนั้นเข้าสู่ใจ



    ส่วนในเรื่อง....
    พระท่านเทศน์อะไรบางอย่าง ตอนแรกๆ ก็ได้ยิน
    แต่ตอนหลัง มันเหมือนเงียบไปหมดเลย ไม่มีแม้แต่การภาวนา
    แต่มันรู้สึกว่าไม่ได้หลับ.... มันเหมือนเงียบไปหมด...ตัวไม่ทรุด

    สักพักก็รู้สึกตัวใหม่ (กลับมาที่การภาวนา)...

    ถูกต้องแล้ว...
    จิตตกอยู่ในภวังค์ พักอยู่ในสมาธิ
    จิตจะถอนออกจากสมาธิเอง เมื่อถึงคราวที่จิตได้พัีกจิตพอสมควรแก่กาล
    จิตจะรู้สึกเบา สบาย สงบ เกิดจากผลจากสมาธิ
    จากนั้นจิตจะเริ่มทำงานโดยภาวนา หรือจะพิจารณาอรรถธรรมก็ได้
    ขึ้นอยู่กับจริตนิสัยวาสนาของตน

    พิจารณาดูตรงตามที่ชี้แจงหรือไม่
     
  3. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    หลับในเราควบคุมได้ไหมละ ถ้าควบคุมมันได้ด้วยสติแล้วจะเข้าจะออกเมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องการก้อแสดงว่า นั่นไม่ได้หลับใน ส่วนถ้าไม่รู้เข้าเมื่อไหร่ออกมาเมื่อไหร่และเกิดอะไรขึ้นในนั้นควบคุมมันไม่ได้เลย นั่นแหละหลับในก็ได้ หรือ หลับนั่นแหละ นี่แหละที่หลวงปู่หลวงตาว่าควบคุมมันได้โดยใช้สติควบคุมมัน นี่คือ สมาธิ ฌาน จิต ที่เกิดขึ้นบางครั้งก็ตกภวังค์คือมีสติรู้แต่มีไม่มากพอจะควบคุมจิตได้ มันก็แช่อยู่อย่างนั้นไม่รวมอัดลงละเอียดยิ่งๆขึ้นจนถึงที่สุด เท่าที่จิตจะทำได้
    อนุโมทนาครับ
     
  4. chartz

    chartz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +223
  5. vorapoap

    vorapoap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +250
    ขอบคุณครับ
    ผมเป็นพวก ง่วงนอนได้ตลอดเวลาจริงๆ สมัยก่อนเรียนหนังสือ หลับในห้องได้เป็นประจำ เลยมีปัญหากับตรงนี้มาก

    สำหรับคำถามนะครับ
    เป็นการปฏิบัติธรรมสั้นๆ 3 ชั่วโมงที่วัดครับ กระทำมาสม่ำเสมอสักช่วงหนึ่งแล้ว
    ช่วงแรกของการปฏิบัตินั่งสมาธิ ปกติ ช่วงแรกนี่ผมจะต้องต่อสู้กับความง่วงอยู่เกือบชั่วโมง กว่าจะนิ่งเข้าถึงการภาวนาแบบเต็มที่ได้ ก็ช่วงท้ายๆแล้ว ก็จะเป็นเวลาที่ต้องออกจากสมาธิ เพื่อเริ่มเดินจงกลม ในใจมีสติรู้ ไม่อยากออกเลยครับ เพราะพึ่งเริ่มนิ่งได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ({)

    พอเดินจงกลมเสร็จ พระท่านจะแสดงธรรม ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจและอยู่ในใจอยู่แล้ว บางครั้งเลยไม่ได้ตั้งใจฟัง เพราะอยากจะกลับเข้าไปในสมาธิที่นิ่งใหม่

    ช่วงนี้แหละครับ เป็นช่วงที่มักจะเกิดสภาวะแบบนี้ขึ้นครับ แต่ก็แยกไม่ออกจากสภาวะหลับในเสียที เพราะเวลาที่หลับในจริงๆจะรู้สึกเลยว่า กายจะทรุดลง(คล้ายคนสัปหงก) บางทีก็แค่ไหล่ทรุด หรือคอทรุด บางทีก็ทรุดแบบน่าเกลียด เหมือนคนเรียนหนังสือแล้วสัปหงก

    โดยแต่ละครั้งที่เกิดขึ้น มันบังคับไม่ได้ครับ เข้าสู่สภาวะนั้นและออกจากสภาวนะนั้นเอง มันคล้ายกับหลับในมาก จนไม่รู้ว่า อาจจะเป็นหลับในก็ได้ เหมือนเวลาอยู่บนรถเมล์ กึ่งหลับกึ่งตื่น พอจะรู้ว่ากำลังจะถึงป้ายแล้วต้องลงอะไรแบบนี้

    เพราะส่วนตัวแล้ว ไม่อยากเข้าใจผิด ปล่อยให้หลุดไปในสภาวะนั้นบ่อยๆหากไม่ใช่สภาวะที่ผู้ปฏิบัติธรรมปรารถนา
     
  6. vorapoap

    vorapoap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +250
    ขอบคุณครับ จริงๆก็อ่านมาแล้ว แต่ส่วนตัวก็ยังไม่อยากปักใจ และยังไม่กล้าวิเคราะห์เองด้วยครับ เพราะประสบการณ์ยังน้อยอยู่ และก็มีปัญหากับความง่วงจนกลัววว่าจะเข้าใจผิดน่ะครับ

    แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์เข้าข้างตนเอง อาการของผมจะเป็นอาการของอัปปนาฌาณเหรอครับ?.....
     
  7. s.orr

    s.orr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +327
    อ่านตามที่คุณเขียนไว้ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่
    เรื่องของสมาธิกับการหลับ มันมีจุดต่างหลายจุด
    คุณลองสังเกตุเอาเองก็แล้วกันครับ

    การหลับนั้นเมื่อหลับลงไปแล้ว มันก็ไม่ได้ยินเสียงหรอก
    ส่วนสมาธิ เมื่อเข้าไปแล้ว เสียงมันก็ไ่ม่ได้ยินหรอก อย่าเอาเสียงเป็นตัววัด

    สมาธิจะมีสติพร้อม คือรู้ตัวทุกขณะว่าเกิดอะไรขึ้น มีอะไรเข้ามากระทบ มีอะไรเกิดขึ้น อะไรเกิดกับร่างกาย อะไรเกิดกับจิต มันจะรู้ชัดเจน ถ้าอะไรมันเกิดมันจะเกิดต่อหน้าต่อตาเลย เช่น เมื่อเวลาเคลิ้มๆแล้ววูบลงไป มนจะวูบลงไปต่อหน้าต่อตา มันรู้ชัดว่ามันวูบ รู้ชัดว่ามันเคลิ้ม

    ส่วนการหลับนั้น มันไม่มีสติ หรือถ้ามีสติก็ไม่ชัด ความรู้สึกตัวจะมัวๆไม่ชัด มีอะไรมากระทบ ก็รู้ แต่รู้ไม่ชัด เมื่อเวลาเคลิ้มๆ วูบลงไป มันเผลอวูบลงไป แบบไม่มีอะไรหยุดยั้ง แบบไหวตัวไม่ทัน นึกจะวูบก็วูบ สติตามไม่ทัน อันนั้นเรียกว่าหลับ

    แต่หลายๆคน เข้าสมาธิแบบไม่มีสติ คือเคลิ้มๆวูบลงไป พอผงะขึ้นมาอีกที จิตก็สงบสว่างโล่งก็มีเยอะ อันนี้เรียกว่าสมาธิแบบสติไม่กล้า สมาธิแบบขาดสติ มีสมาธิเหมือนกัน แต่สมาธิที่ขาดสติมันจะเคลิ้มๆแล้วก็วูบลงไป แล้วก็จะสงบนิ่งเหมือนกัน
     
  8. ทิพย์พิมล

    ทิพย์พิมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    245
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,512
    หากเป็นการทำสมาธิ จนไปถึงระดับสูงขึ้น บ้างทีความรู้สึกทางรางกายก็อาจหายไป หูอาจไม่ได้ยิน แต่มีสติครบสมบูรณ์ แต่หากทำสมาธิแล้วสติไม่มี น่าจะหลับก็ได้นะค่ะ
    เคยฝึกทำสมาธิเหมือนกันค่ะ (นอนสมาธิ ผลก็ได้หลับไปเมื่อไรก็ไม่รู้) อย่าทำตามนะค่ะ อิอิ!
     
  9. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    อนุโมทนาสาธุ ครับ ผมคิดว่าคุณได้อัปปนาสมาธินะ เมื่อก่อนผมก็เป็นแบบนี้แหละครับ ไปสวดมนต์ที่วัดหลวงพ่ดอศรีทองท่านก็เปิดเทปพระอาจารย์ต่างๆ ผมฟังไป ฟังไป แล้วก็ไม่ได้ยินเสียง เป็นบ่อย ๆ ตอนหลังๆ ฝึกจริงจังมาก ๆ และเมื่อสามปีที่แล้วผมมีความรู้สึกว่าอารมณ์ตอนใกล้จะเข้าฌาน กับอารมณ์ง่วงนอนจะคล้ายๆ กัน พอฝึกต่อไปอีกจะมีส่วนต่างหลายประการเช่น มีปีติเกิดน้ำตาไหล (มากจนหยดลงแก้มไหลลงที่ตัก)ก่อนที่จะมีสมาธิ อารมณ์จะดิ่ง และคิดอะไรช้า อารมณ์จะสงบระงับ ต่อมาหูจะอื้อ จนไม่ได้ยินอะไร และคิดอะไรไม่ได้เลย และรู้ตัวว่ายังไม่ตาย
     
  10. vorapoap

    vorapoap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +250
    เรียนขอบพระคุณทุกท่านที่มาแสดงความคิดเห็นนะครับ

    ผมพอจะแยกออกได้ว่า เวลามีสมาธิ จะมีสติ ในขั้นของผม(พื้นฐาน) มันจะยังมีองค์ภาวนา
    แต่เวลาที่องค์ภาวนาหายไป ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเข้าสู่ฌาณรึเปล่า เพราะกลัวว่าจะเป็นหลับ เพราะเท่าที่อ่านดู ฌาณก็เหมือนจะขาดสติ คล้ายการหลับ? แล้วยังมีเรื่องของภวังค์อีก อาจจะเป็นเพราะปัญญาผมมีน้อย เลยยังไม่เข้าใจเสียที มีใครจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆบ้างไหมครับเนี่ย.....


    ขอบพระคุณความคิดเห็นข้างบนมากเลยนะครับ ถ้าเป็นอย่างที่คุณบอกก็จะดีมากเลยครับ
    ผมจะลองเฝ้าสังเกตมากกว่านี้ครับ

    ตอนนี้มาลองถามใหม่ดีกว่าครับอาจจะง่ายขึ้น ระหว่าง ฌาณ กับ ภวังค์ กับ หลับ ต่างกันอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2010
  11. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    ต่อนะครับเมื่อสักครู่งานเข้า ผมเองสังเกตุตนเองมานานว่า เราหลับหรือเราเข้าฌานกันแน่ สีปีเต็มที่สงสัย จนปัจจุบันนี้ผมหายสงสัยแล้วส่วนหนึ่งที่หายสงสัยก็เพราะถามผู้รู้ในเวบนี้ และคนแถวบ้านที่เขานั่งสมาธิสามารถดูได้ ถ้าหลับต้องมีบางครั้งสัปหงก เช่นนั่งหลับหนึ่งร้อยครั้งต้องมีสักครั้งที่สัปหงก หากสังเกตุดูพระที่เข้าพิธีปลุกเสก บางท่านนั่งนานๆไปศีรษะจะต่ำลงมากๆ ที่สำคัญเรารู้ตัวเราดีที่สุดกว่าใคร จะสงสารสรรพสัตว์ แม้เขานินทาเราด่าเรา คิดจะตอบโต้เท่านั้นก็สงสารเขาเสียแล้ว อารมณ์จะละเอียดขึ้น และปิดโคมไฟ ดวงไฟ ยังติดตาอยู่นานมาก เหลียวไปทางไหน ก็มีดวงไฟอยู่ ตอนเข้าสมาธิและตอนออกสมาธิจะรู้ถึงพลังสมาธิได้เลย
     
  12. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    ณาน (ชาน) ตอบด้วยปัญญา (ความเข้าใจของตน) คือสภาวะหนึ่งสภาวะใดในขณะจิตเข้าสู่สมาธิ

    ภวังค์ (พะ-วัง) คือ อาการที่บ่งบอกถึงการเริ่มเข้าสู่การเข้าฌานนั้นๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นจังหวะนิ่งแผ่วเบา วูบๆ แล้วจึงเข้าสู้ภวังค์เพื่อเปิดเข้าสู่ฌานนั้นๆ

    หลับ คือ หลับไม่รู้ตัว(รู้ตัวบ้างก็มี ในที่นี้หมายถึงหลับแบบไม่รู้ตัว) อาการที่สงสัยว่าหลับหรือเข้าภวังค์นั้นลักษณะคล้ายๆกันต่างกันที่ขาดตัวรู้ ตัวรู้นี้ก็จะมีทั้งแบบเพ่งรู้(จงใจ ตั้งใจ) และ รู้แบบเบาๆสบายๆคือมาแล้วรู้ เกิดแล้วรู้ ยังอยู่รู้ ดับไปรู้ ส่วนการหลับจะสบายเคลิ้มจนขาดสติไหลไปกับแรงดึงดูดของโลกหรือบางครั้งมีลักษณะอาการสัปหงก อันนี้ระวังไว้ให้ดีนะ หน้าผากอาจจะโขลกพื้นได้



    สำหรับสภาวะที่กล่าวขานและให้ความสำคัญจนมุ่งเน้นย้ำเน้นของสภาวะฌานสี่นั้นมื่อได้ฌาน 1,2,3, แล้วก็ต้องมี 4 ... ไปเรื่อยๆ จะเป็นไปไม่ได้หรอกถ้าจะเอาแต่ฌานสี่ทีเดียวเลย ฉนั้นควรใจเย็นๆ เรื่องแบบนี้ทำช้าๆจะได้เร็ว
    หากมีคนบอกว่าจุดสูงสุดของการบรรลุธรรมคือชั้น 10
    มีทางเดินขึ้นทีละชั้นโดยผ่านทุกชั้นในตึกสังเกตุและจดจำแต่ละชั้นมีอะไรบ้าง
    กับอีกทางนึงคือมีเชือกห้อยลงมาจากชั้นสิบแล้วปีนเชือกขึ้นไปชั้น10 เลยทีเดียว

    พอไปถึงมีคนถามว่าชั้นที่ 1-9 มีอะไรบ้างแล้วจะตอบว่ายังไง ??
    แล้วปีนเชือกขึ้นไปกับเดินขึ้นบันไดทีละขั้นทีละชั้นอันไหนมันปลอดภัยกว่าอันไหนมันแน่นอนกว่า อันไหนมันเร็วกว่าก็ขอลองนำไปพิจารณาจุดนี้ด้วยนะครับ
    ขออุปมาอุปมัยไว้อย่างนี้ก่อนก็แล้วกัน




    ชายสี่บะหมี่เกี๋ยวอร่อยดีเหมือนกันนะ ถ้าสั่งแบบแห้งแต่ขอน้ำขลุกขลิกรสชาติก็ใช้ได้ แต่กินเข้าไปซักพักก็ดูด้วยว่าท้องมันหิวหรือว่าปากมันอยากกันแน่ ลองไปพิจารณาเล่นๆดู
     
  13. vorapoap

    vorapoap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +250
    เข้ามาอ่านคำตอบและความคิดเห็นครับ ขอบคุณมากนะครับ
    จะรอฟังท่านอื่นๆต่อไปครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...