อธิษฐานสัจจะบารมี

การสัพเพ..คือการแผ่เมตตา..เพราะจิตเรารับพลังงานจากพระ จากหลวงพ่อดู่ และ สัพเพแผ่เมตตาส่งออกไป ให้จิตเรานึกถึงพระ เมื่อจิตมีเมตตาจะเบา เพราะจิตมีกำลัง จิตมันจะนิ่ง ไม่หงุดหงิดง่าย เป็นจิตของพรหม......
(พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)

 

" สายการปฏิบัติของหลวงปู่ เวลาทุกลมหายใจจะเป็นกรรมฐานหมด เป็นการบันทึกบุญ ทุกเวลา
ทำกรรมฐานแบบไม่รู้สึกตัว ทำทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นยันหลับ มีประโยชน์มาก สวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตา โมทนาบุญ อ่อนน้อมถ่อมตน
จะกินก็สัพเพ เห็นคนป่วยก็สัพเพ ธาตุและจิตไปไหนก็เป็นประโยชน์ต่อภพภูมิ
ทำซักหนึ่งปี ธาตุข้างในก็จะกลายพันธุ์ ปฏิบัติสายหลวงปู่ไม่มีตายโหง
เพราะมีประโยชน์ต่อโลกวิญญาณ ไปไหนแล้วขนลุก พรึ้บ! ถือว่าใช้ได้"
ข้อความ : หนังสือคติธรรมคำสอน โดยพระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า)

 

" ไม่มีปาฏิหาริย์อันใดจะอัศจรรย์เท่ากับการฝึกหัดอบรมพัฒนาตนเองจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ทั้งหลักศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็คือการพัฒนาความสามารถในการมีความสุขของตนให้ละเอียดประณีตยิ่งขึ้น กระทั่งถึงภาวะความสุขชนิดที่จะไม่กลับกลายเป็นความทุกข์ได้อีก นั่นก็คือพระนิพพาน "
พระพรหมปัญโญ(หลวงปู่ดู่)

 

..ฝึกความไว..ของจิต..
ด้วยการแผ่เมตตา(สวดมนต์)..
บันทึกบุญ ..ให้นึกถึงหลวงปู่ดู่
ท่าน ตลอดเวลา..
..แล้วไปยังสิ่งที่เห็น..สิ่งที่ได้ยิน
ไม่ให้จิตมันว่าง..ให้จิตอยู่ในบุญ
อยู่กับพระ..อยู่กับหลวงปู่ดู่ ท่าน
อยู่ในบทสวด..อยู่ในไตรสรณคมน์
อยู่ในพระมหาจักรพรรดิ..ให้มันวนเวียน
อยู่แถวๆนี้แหละ..อย่าไปไหน.."
*..ตอนสวดมนต์ก็คือ..การแผ่เมตตา
(ในศาสตร์ของหลวงปู่ดู่ ท่าน)
===========
..อย่าไปเชื่ออะไรง่ายๆ
หมั่นคิดตามความเป็นจริงว่า..
สวดมนต์แล้ว..เป็นยังไง ?
อารมณ์ที่ไม่ดี..มันลดลงไหม?
แต่มันจะลดเลย..เป็นไปไม่ได้
เราต้อง.."..ห่างมันก่อน.." โดยสวดมนต์
ตอนสวด..มันจะโกรธ..ด่า
หรือทำร้ายใคร..ก็ทำไม่ได้..
มันก็เหลือแต่คิด..ขณะที่เราสวด..
ความอยาก..ความโกรธ..ความโลภ
ความหลง..และอื่นๆ อีกมันห่างหมดเลย
ที่มา:- โอวาทธรรมคำสอน วันที่ 6 ก.ย.58
(พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)

 

เวลาจะแผ่บุญ ให้นึกถึงหลวงปู่ดู่ทุกครั้ง แล้วแผ่ให้กับมนุษย์, สัตว์, วิญญาณ หรือ แผ่ให้กับสิ่งที่มากระทบทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ …ไปไหนก็หมั่นสวดหมั่นแผ่เป็นประจำจนกลายเป็นปกตินิสัย
“หลวงปู่ดู่” ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีมาก กระแสบุญบารมีของท่านยังหมุนเวียนอยู่ในโลก ดังนั้น เราจึงน้อมมาเพื่อแผ่เมตตา หรือเพื่อสร้างบารมี หรือเพื่อสร้างประโยชน์ทั้งต่อตนเอง, ต่อส่วนรวม, ต่อโลกของโอปปาติกะ, มนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งในการขอบารมีท่านมาสร้างประโยชน์นี้ ขอเพียงเป็นสิ่งที่ถูกครรลองคลองธรรม.
(พระเดชพระคุณหลวงตาม้า)