อธิบายแบบวิทยาศาสตร์ ว่าด้วย สวรรค์ กับ เวลา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nyeb, 10 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. nyeb

    nyeb สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +21
    บทที่ 4 ในหนังสือ ความลับของจักรวาล ทางแห่งนิพพาน

    ....เวลาที่ขยาย ก็เหมือนกับการขยายพื้นที่ เช่นเราส่องกล้องจุลทรรศน์ขยายเหรียญบาทให้ใหญ่ขึ้นแสนเท่า เหรียญนั้นก็ไม่ได้ขยายไปทับพื้นที่อื่นรอบๆ เวลาก็เช่นเดียวกัน แม้จะไปใช้ชีวิตอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตหนึ่งปี ไม่ได้หมายความว่า เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง เวลาบนโลกจะผ่านไปกว่าแสนปี เวลาในแต่ละภพเป็นเอกเทศจากกัน จะนำมานับต่อเนื่องไม่ได้ ชาติภพที่แต่ละคนเคยผ่านมาแล้วมีนับจำนวนไม่ถ้วน เช่น พระสารีบุตร ทรงระลึกชาติได้ถึงหนึ่งอสงไขยกับอีกแสนกัป ถ้านำเวลาในแต่ละชาติมานับต่อเนื่องจะมากกว่าอายุจักรวาลเสียอีก ซึ่งเป็นไปไม่ได้

    ในมิติที่สูงขึ้น ความเร็วแสงจะน้อยกว่า 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที ถ้าในมิติหรือภพภูมินั้น มีความเร็วแสงเพียง 5,000 กิโลเมตรต่อวินาที่ เวลาจะยืดยาวขึ้นอย่างมาก และแน่นอนว่า มวลที่สร้างจากสูตร E=Mc2 เมื่อ c(ความเร็วแสง) ไม่เท่ากัน มวล(M)ในมิตินั้นก็จะมองไม่เห็นจากมิตินี้ ตาททฤษฎี p-brane นักวิทยาศาสตร์พบว่า แสงไม่สามารถสะท้อนมวลในมิติอื่น แล้วมาเข้าตาเราได้

    แม้ในมิติเดียวกัน เวลาก็ยังยาวนานไม่เท่ากัน เช่นช่วงเวลาขณะเกิดบิ๊กแบงใหม่ๆเวลาจะผ่านไปเร็วมาก ประมาณว่า 1 นาทีในขณะนั้น เทียบเท่าหนึ่งหมื่นล้านปีในปัจจุบันเลยทีเดียว

    ปลาที่อยู่ในตู้จะไม่รู้สึกว่ากำลังถูกจองจำ เพราะตัวมันไม่สามารถแยกออกมาจากน้ำได้ ถ้ามีปลาสักตัวสามารถออกมานอกตู้แล้วมองเข้าไป มันจะเข้าใจทันทีว่า เพื่อนๆมันไม่ได้มีอิสระแต่อย่างใด เช่นเดียวกัน มนุษย์ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกจองจำ จนกว่าจะมีใครหลุดพ้นจากอิทธิพลของแสงและเวลา แล้วมองกลับเข้าไปจึงจะรู้ว่า เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งไตรลักษณ์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย น่าเวทนายิ่งนัก และสภาวะที่สามารถพ้นจากวงจรนี้มีอยู่จริง ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงค้นพบแล้ว

    สภาวะนิพพานอยู่เหนืออิทธิพลของแสงและเวลา ดังนั้นเมื่อบรรลุนิพพาน จะสามารถหยั่งรู้ ทุกมิติ ทุกภพภูมิ อยู่ในช่วงปัจจุบันขณะทั้งหมด เข้าใจทุกอย่างทะลุทุกมิติที่แฝงอยู่ในจักรวาล

    พระพุทธองค์ทรงพบว่า ใน 31 ภพภูมิเวลาเดินเร็วช้าไม่เท่ากัน ยิ่งภพภูมิสูงเวลายิ่งเดินช้าลง แต่อย่างไรก็ตาม ชั้นนี้ยังไม่ใช่นิพพาน เพราะยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของเวลาอยู่ มีเกิด มีดับ มีอนิจจัง ทุกขัง เพียงแต่นานมากเท่านั้นเอง


    ที่มา ห้องศาสนา Pantip
     
  2. nyeb

    nyeb สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +21
    การจะเข้าใจเรื่องตายแล้วเกิด ต้องแยกจิตออกจากสมองให้ได้ แต่การจะเข้าใจเรื่องภพภูมิทั้ง 31 ภพ ต้องแยกสติออกจากจิต อีกชั้นหนึ่ง เรื่องภพภูมิเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ เพียงแต่พระพุทธองค์มาทรงพบ แล้วประกาศให้ทุกคนรับรู้ เมื่อบรรลุญาณระดับนี้ จะเห็นว่า จักรวาลทางกายภาพที่นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาอยู่เป็นเรื่องเล็กๆในมิตินี้เท่านั้น แต่ภพภูมิเป็นเรื่องใหญ่ที่มีอะไรให้น่าค้นคว้ามากกว่าอย่างชนิดที่เทียบกันไม่ได้ ดังนั้นพระพุทธองค์จึงทรงเผยแผ่ธรรม มาทางจิตนิยาม กรรมนิยาม และธรรมนิยาม มากกว่า อุตุนิยามกับพีชนิยาม


    สภาวะนิพพาน คือสภาวะที่สามารถแยกสติออกจากดวงจิตได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จึงรู้เท่าทันอาการอันละเอียดทางจิตทุกชนิด และอาการแบบหยาบๆทางสมองทั้งหมด สภาวะนี้ต่างจากการนอนหลับหรือ สลบ เพราะ ขณะนั้นขาดสติซึ่งเป็นตัวรู้ และขณะหลับจิตกับสมองก็ยังคงทำงานร่วมกันอยู่ ไม่ได้แยกออกจากกัน หรือ แม้จะสามารถปฏิบัติธรรมจนบรรลุขึ้นสู่ชั้นสูงสุดของอรูปพรหม ก็ยังไม่ใช่นิพพาน เพราะถึงมีสติแต่ยังไม่สามารถแยกออกจากดวงจิต สภาวะนิพพาน จะไม่มีจิตอีกต่อไป

    สรุปง่ายๆก็คือ ร่างกายเป็นตัวตนของเราในชาตินี้ จิตเป็นตัวตนของเราในทุกๆชาติ และเมื่อเกิดปัญญาสูงสุดจะรู้ว่า ทั้งร่างกายและจิต ไม่ใช่ตัวเราเลย เมื่อไม่ยึดติดกับจิต จึงไม่มีการเกิดอีกต่อไป แต่ตัวรู้ที่เรียกว่าสติยังอยู่ เหมือนการหลุดจากคุก 31 ชั้น 31 ภพ ที่มี เวทนา กิเลส ตัณหา อุปาทาน สัญญา สังขาร วิญญาณ ฯลฯ เป็นกลุ่มผู้คุม
    <O:p></O:p>
    การเจริญสติ จะทำให้สามารถเข้าใจจักรวาลได้ทั้งรูปและนาม และลึกซึ้งยิ่งกว่า การนั่งยานอวกาศออกไปสำรวจเสียอีก จะเข้าใจมิติทั้งหมด ความไม่มีอยู่จริงของกาลเวลา และระยะทาง ความลับของจักรวาล ซ่อนอยู่ในจิตของเรานี่เอง นอกจากนั้นยังเข้าใจเรื่องภพภูมิต่างๆที่ซ้อนทับกันอยู่ การเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งวิทยาศาสตร์ไม่มีวันเข้าใจ แต่เป็นความจริงอีกระดับของจักรวาล<O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • covers.jpg
      covers.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.3 KB
      เปิดดู:
      672
  3. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919


    แนวคิดของพวกมั่วคิดเองเออเอง แล้วทำไมมันไม่คิดกลับกันว่า อายุจักวาลที่รู้ๆตามๆกันมาจากพวกนักวิทยาศาสตร์เป็นอายุที่แท้จริงหรือถูกต้องแน่นอนมั้ย หรือทำไมไม่คิดไปว่าจักรวาลนี้ได้มีการเกิดดับๆๆมาแล้วหลายรอบ
    ดูอย่างพระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพุทธมารดาซิ ใช้เวลา 3 เดือน กว่าท่านจะเสด็จลงมา ไหนจะเรื่องของนางปติปูชิกาอีก

    ไอ้แนวคิดแบบนี้เหมือนเคยอ่านในหนังสือของ สม สุจีรา พวกทำตัวอวดฉลาดให้ความรู้ผิดๆกับผู้อ่าน ดูๆแล้วเป็นอันตรายทั้งผู้เขียน และผู้อ่านที่ไม่ได้ศึกษามา

    ปล.ไม่ได้กล่าวถึง จขกท

     

แชร์หน้านี้

Loading...