หลังวันสิ้นโลก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย piyaa, 29 พฤศจิกายน 2009.

  1. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072
    ปกหน้าหนังสือ ปริศนาแห่งหิมพานต์ (สำนักพิมพ์อมรินทร์) พิษณุ ศุภ. ผู้เขียน มีคำอธิบายว่า นรก สวรรค์ และพรหมโลก สามดินแดนที่เฉียดใกล้ประตูแห่งนิพพาน

    เมื่อ เริ่มกันด้วยความเชื่อว่า มีนรก มีสวรรค์ มีพรหมโลกกันแล้ว ก็ยังมีความเชื่อต่อไปว่า วันหนึ่ง...ก็จะถึงอวสานแห่งหิมพานต์ ซึ่งนั่นหมายถึงจุดจบของโลกจักรวาล ด้วย

    พิษณุ ศุภ. กล่าวว่าสัตว์โลกสิ้นชีวิตไปด้วยเหตุ 4 อย่าง ตายเพราะหมดอายุ ตายเพราะสิ้นกรรม ตายเพราะหมดอายุและสิ้นกรรม และตายเพราะอุบัติเหตุ

    ส่วน เทวดา ตามตำราว่าไม่ตาย แต่ใช้คำว่าจุติ เหตุที่เทวดาจะต้องจุติจากสวรรค์ มี 4 ข้อเหมือนกัน จุติเพราะหมดอายุ จุติเพราะสิ้นบุญ จุติเพราะสิ้นอาหาร

    ประเด็น นี้เป็นเรื่องแปลก แต่เข้าใจว่าเพราะเทวดาสำเริงสำราญจนเกินเหตุ ปกติต้องกินอาหารตามมื้อ หากกินไม่ครบมื้อ ผิวหนังเทวดาจะเหี่ยวย่น เหมือนดอกบัวขาดน้ำ ถ้าไม่มีอะไรทำให้สดชื่นได้อีก ก็ต้องจุติไป

    ข้อ สุดท้ายเทวดาจุติเพราะความโกรธ หากเทวดามีความอิจฉาริษยา โกรธแค้น ทะเลาะวิวาท แล้วทะเลาะกัน องค์หนึ่งไม่โกรธ ระงับความโกรธได้ ก็เหมือนมีน้ำมาดับไฟ แต่ถ้าโกรธทั้งคู่ก็ไหม้ทั้งคู่ ต้องจุติทั้งคู่

    ด้วย เหตุทั้งหลายเหล่านี้ วันหนึ่งก็จะถึงวันที่ เทวดา อินทร์ พรหม สิ้นอายุเพราะหมดบุญ โลกที่เป็นสิ่งแวดล้อมของสรรพสัตว์ก็ต้องถึงเวลาวิบัติ

    หลาย ศาสนามักจะกล่าวถึงวันสิ้นโลก วันล้างโลก หรือจุดจบของจักรวาล เป็นวาระของโลกที่จะกวาดล้างความสกปรกให้หมดสิ้นไป พร้อมรับโลกใหม่ที่จะอุบัติมาในอนาคต

    กระบวนการที่โลกจะพินาศ เกิดจากไฟ น้ำ และลม

    ไฟเกิดขึ้นบ่อยๆ เรียกว่าไฟบรรลัยกัลป์ ไฟนี้จะมาล้างเมื่อสิ้นอายุของกัปหนึ่ง

    ถึง วันนั้น จะมีดวงอาทิตย์เพิ่มขึ้นเป็นสองดวง ขึ้นทั้งกลางวันกลางคืน หมายความว่าไม่มีกลางวันกลางคืน ความร้อนของโลกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นดวงอาทิตย์จะเพิ่มขึ้นเป็นสามดวง แม่น้ำห้าสาย คงคา ยมุนา อจิรวดี มหิ และสรภูที่ไหลจากหิมพานต์ก็จะแห้งลง

    เมื่อพระอาทิตย์เริ่มเป็นสี่ดวง สระทั้งเจ็ดในหิมพานต์ก็จะเริ่มแห้ง สระอโนดาต จะแห้งเป็นแห่งสุดท้าย

    และ เมื่อมีดวงอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันเจ็ดดวง ปลาใหญ่ 7 ตัวที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรก็จะตาย ไฟเริ่มไหม้ ไปสู่แผ่นดินชมพูทวีป และลุกลามไปจนหมดทวีปทั้งสาม ไหม้ลามไปถึงเมืองครุฑ เมืองอสูร เมืองบาดาล ลงไปถึงเมืองนรก ลึกลงไปใต้สุดถึงอเวจีมหานรก

    ด้านบนแดนมนุษย์ ไฟไหม้เขาสัตตบริภัณฑ์ ทั้งเจ็ดที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ เริ่มแต่เขาอัสสกัณณะที่อยู่รอบนอกสุด ไปจนถึงเขายุคนธรติดกับเขาพระสุเมรุ ลามเข้าปราสาทท้าวจตุโลกบาล แล้วไฟก็ลามเผาเขาพระสุเมรุ ลามไปถึงเมืองพระอินทร์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    ที่สุดเขาพระสุเมรุแกน โลกจักรวาลก็พังทลาย ไฟยังไหม้ต่อถึงสวรรค์ชั้นมายา ดุสิต และสวรรค์ ชั้นหก พรหมโลกบางส่วนก็ไหม้ ยกเว้นพรหมโลกชั้นมหาพรหม ที่ไฟไหม้ไปไม่ถึง

    เหตุที่สัตว์ทั้งหลายมุ่งหมายไปอยู่พรหม-โลก ก็ต้องการหนีให้พ้นจากไฟบรรลัยกัลป์ ล้างโลกนี่แหละ

    ไฟบรรลัยกัลป์จะไหม้ยาวนานถึงหนึ่งอสงไขย แล้วก็ดับลงเมื่อน้ำท่วมมาถึง น้ำกวาดล้างสิ่งสกปรกหมดไปแล้ว ลมก็พัดมาทำให้น้ำแห้ง

    ท้าวมหาพรหมที่รอดจากไฟจากน้ำมาได้ จะเสด็จมาดูโลก เห็นดอกบัวผุดขึ้นจากน้ำ ก็แสดงว่า จะมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาโปรดชาวโลก

    ดอกบัวหนึ่งดอก จะมีพระพุทธเจ้าหนึ่งองค์ ดอกบัวห้าดอก จะมีพระพุทธเจ้ามาโปรดถึงห้าองค์.

    บาราย
    ไทยรัฐออนไลน์


    • โดย บาราย
     
  2. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    อนุโมทนา ครับ
    *******************************
    ทุกสิ่งย่อมดับไป เป็นธรรมดา ไม่จีรัง ยั่งยืน
    มีสภาพเป็นทุกข์ และไม่มีตัวตน................
     

แชร์หน้านี้

Loading...