หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 6 สิงหาคม 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์


    <CENTER><TABLE width="90%" border=0><TBODY><TR><TD width="100%">
    [​IMG]



    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ffcc66>
    สถานที่ประดิษฐาน พระวิหารวัดป่าเลไลยก์ วรวิหาร


    อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ​

    </TD></TR><TR><TD width="100%" bgColor=#ffcc66>
    พุทธลักษณะ ศิลป์อู่ทอง ปางเลไลยก์


    ขนาดสูง ๒๓.๔๘ เมตร รอบพระวรกาย ๑๑.๒๐ เมตร วัสดุ ก่ออิฐถือปูนปิดทอง​

    </TD></TR><TR><TD width="100%">


    วัดป่าเลไลยก์เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองสุพรรบุรีมาเป็นเวลาช้านาน ในวรรณคดีเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน ซึ่งมีท้องเรื่องเกี่ยวกับเมืองสุพรรณบุรีก็มีปรากฏว่าขุนแผนได้เคยมาบวชเรียน ยังวัดป่าแห่งนี้กับสมภารที่เก่งกล้าทางอาคมชื่อสมภารมี หลงพ่อวัดป่าเลไลยก์เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้าน เมืองสุพรรณบุรีและหัวเมืองใกล้เคียง ในเทศกาลงานบุญต่างๆ ชาวบ้านจะพากันมาทำบุญเลี้ยงพระ ขนทรายเข้าวัดและนมัสการหลวงพ่อ ดังมีพรรณาใน ขุนช้างขุนแผน ว่า ​



    ทีนี้จะกล่าวเรื่องเมืองสุพรรณ ยามสงกรานต์คนนั้นก็พร้อมหน้า


    จะทำบุญให้ทานการศรัทธา ต่างมาที่วัดป่าเลไลยก์


    หญิงชายน้อยใหญ่ไปแออัด ขนทรายเข้าวัดอยู่ขวักไขว่


    ก่อพระเจดีย์ทรายเรี่ยรายไป จะเลี้ยงพระกะไว้พรุ่งนี้​



    หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรีมาเนิ่นนาน โดยพุทธลักษณะแล้วหลวงพ่อโตเป็นศิลปะสมัยอู่ทอง แม้ไม่มีหลักฐานการสร้างที่ชัดเจน แต่ก็สันนิษฐานได้ว่าจะต้องสร้างขึ้นก่อนปี ๑๗๐๖ เพราะมีระบุอยู่ในพงศาวดารเหนือว่าในปีนั้น พระเจ้ากาแต่กษัตริย์อู่ทองเชื่อสายพม่ามอบหมายให้"้ มอญน้อย" มาทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดและพระพุทธรูปใหญ่ในวัดป่าเลไลยก์นี้ ​



    การบูรณะปฏิสังขรณ์ที่ทำมาแต่ละยุคสมัย นอกจากจะทำให้หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะศิลปะหลายยุคอาทิ อู่ทอง สุโขทัย และอยุธยาผสมปนเปกันแล้ว ยังมีผลสำคัญ ประการหนึ่งคือการเปลี่ยนปางของพระพุทธรูป ดังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิฐานว่าเดิมหลวงพ่อโตน่าจะพระพุทธรูปปางแสดงปฐมเทศนา เมื่อแต่ชำรุดผู้บูรณะอาจทำผิดไปเป็นปางป่าเลไลยก์หรือปางลิไลยก์ ซึ่งสองปางนี้ผิดกันตรงลักษณะพระหัตถ์ขวาเท่านั้น โดยพิจารณาจากพระหัตถ์ที่ซ่อมแวมภายหลังว่าไม่ได้ส่วนกับพระกรเดิม อย่างไรก็ตามหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ก็ยังคงเป็นที่กราบไห้วบูชาของชาวสุพรรณ และเป็นพระพุทธรูปองค์หนึ่งซึ่งใครผ่านไปมายังจังหวัดสุพรรณบุรีก็มักจะต้องเข้าไปสักการะเสมอ ส่วนงานเทศกาลปิดทองหลวงพ่อโตนั้น​



    ทางวัดได้จัดขึ้นปีละ ๒ ครั้ง ได้แก่ วันขึ้น ๖ ค่ำ ถึงวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๕ และวันขึ้น ๖ ค่ำ ถึงวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ ​


    <HR width="80%" color=#ffcc66></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    http://www.geocities.com/clcseacon/153.html
     
  2. Falcon_Se

    Falcon_Se เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +223
    วัดข้างบ้านผมเองครับ! ภูมิใจจัง โตมากับวัดนี้แหละ เกิดมาก็เห็นหลวงพ่อโตแล้ว..

    ตอนเด็กๆ ป. 1 ผมเรียนที่โรงเรียนอนุบาลวัดป่าเลย์ไลยก์ แต่หลังจากนั้นย้ายมาเรียนที่กรุงเทพ พอม. 3 ก็ย้ายกลับไปเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดสุพรรณ ซึ่งบ้านผมอยู่ใกล้กับวัดป่าฯ อยู่แล้วก็เลยรู้สึกผูกพันธ์มากเป็นพิเศษ มีช่วงเรียนมหาวิทยาลัยที่ย้ายมาเรียนต่อทีกรุงเทพที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้ห่างหลวงพ่อไป แต่ปัจจุบันนี้กลับมาทำธุรกิจส่วนตัวที่จ.สุพรรณต่อ ทำให้ได้อยู่ใกล้หลวงพ่อเหมือนเดิม อยากเดินไปไหว้ก็ได้สบายใจดี เข้าไปในวิหารทีไรก็มีความสุขทุกครั้งจริงๆ ครับ รู้สึกเย็นและสงบมากๆ

    ก่อนผมจะเกิด แม่ผมฝันว่าได้เดินผ่านวัดป่าเลย์ไลยก์ และได้เก็บทองได้หน้าวัด หลังจากนั้นผมก็เกิดมา เมื่อปลายปีผมก็บวชที่วัดนี้ คือตั้งแต่เกิดมาก็เห็นท่านแล้ว ทำให้ผมยิ่งผูกพันธ์กับหลวงพ่อโตและวัดแห่งนี้มาก

    ผมจะเล่าประวัติที่พระอาจารย์เล่าให้ฟังเมื่อช่วงบวชครับ ท่านเล่าว่าองค์หลวงพ่อโตนั้นข้างในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ ท่านมีเทวดารักษา ทำให้ศักดิ์สิทธิ์มาก ตอนที่สร้างนั้นคนโบราณสร้างหลวงพ่อขึ้นมาก่อน ส่วนวิหารนั้นสร้างครอบองค์พระทีหลัง โดยการนำเอาท่อนซุงต้นตะเคียนใหญ่หกต้น ล่องตามน้ำมา ความใหญ่ของไม้ตะเคียนนั้นใหญ่ขนาดที่ว่าคนสามารถนั่งท่อนซุงตามน้ำมายังวัดได้ และไม้ตะเคียนทั้งหกก็ถูกนำมาสร้างเป็นเสาของพระวิหาร ปัจจุบันเสาตะเคียนทั้งหมดก็ยังอยู่แต่ถูกปูนพอกหุ้มเสาเอาไว้ ใครที่มาเที่ยวทีวัดลองดูเสาเล่นๆ ก็ได้ครับ เสาใหญ่ๆ ในวิหารหลวงพ่อทั้ง 6 นั่นแหละข้างในเป็นเสาตะเคียนยักษ์ครับ นับว่าคนโบราณนั้นสุดยอดมากจริงๆ

    ประวัติของหลวงพ่อช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีตำนานว่า ที่วัดป่าฯ นั้นทรุดโทรมมาก ตอนนั้นร.4 ท่านยังบวชเป็นพระอยู่ ได้มาที่วัดและอธิษฐานกับหลวงพ่อโตว่าหากท่านได้ขึ้นครองราช ท่านจะมาปฏิสังขรณ์วัดให้ดีดังเดิม และนับตั้งแต่นั้นวัดป่าฯ จึงเจริญรุ่งเรืองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่ผมมีเรื่องที่ไม่ใช่ตำนานแต่เป็นเรื่องจริงอีกเรื่องหนึ่งมาเล่าให้ฟังครับ ว่านายกคนปัจจุบันก็มาไหว้อธิษฐานกับหลวงพ่อในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งเช่นกัน (ว่าแต่ดีหรือไม่ดีเนี่ยที่หลวงพ่อช่วยให้ลุงแกได้เป็นนายก -"-)

    เมื่อประมาณปีพ.ศ. 249x (จำปีไม่ได้ครับ) ในหลวงร.9 ของเรา และสมเด็จพระราชินีได้เสด็จมาที่วัดป่าฯ และถวายผ้าให้หลวงพ่อโต ใครที่มาเที่ยวที่วัดจะเห็นรูปพระองค์ท่านกับพระราชินีเมื่อครั้งนั้นติดอยู่ในวิหารครับ

    ที่วัดนี้แต่ก่อนผีดุมาก แต่ก่อนมีเรื่องเล่าว่าผีชอบออกมาหลอกคนตอนดึกๆ มีเรื่องเล่าว่าขนาดพระ ผีก็ยังอุตส่าห์เข้า และเข้ามันตอนเย็นๆ นั่นแหละ เมื่อปีที่ผ่านมาก็มีผีมาเข้าเด็กนักเรียนตอนช่วงเช้า เข้ามันตรงหน้าวิหารหลวงพ่อนั่นแหละ ตรงนี้ผมจำไม่ได้ว่าทำยังไงถึงออก แต่มีสิ่งหนึ่งของหลวงพ่อที่ศักดิ์สิทธิ์มากๆ หากใครมาที่วัดควรจะนำกลับไปด้วย นั่นคือน้ำมนต์หน้าวิหารหลวงพ่อโต เป็นน้ำมนต์ที่อธิษฐานขอจากหลวงพ่อ ใครที่ไม่เชื่ออาจจะคิดว่าน้ำมนต์นี่ไม่เห็นมีอะไรเลย พอจะหมดก็เอาน้ำมาเติมใหม่ ไม่เห็นขลัง ซึ่งไม่จริงครับ เพราะน้ำทุกหยดในขันธ์น้ำมนต์หน้าวิหารหรืออาจจะเรียกได้ว่าหน้าองค์หลวงพ่อนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ผมเข้าใจว่ามีอำนาจแห่งพุทธคุณที่สถิตย์อยู่ในนั้น ใครที่โดนผีเข้าเอาน้ำมนต์นี่แหละกรอกให้กินไปเลยหายแน่นอนครับ อันนี้ประสบการณ์ตรงครับ เพราะน้องสาวผมเคยโดนผีเข้ามาแล้วและได้น้ำมนต์หลวงพ่อนี่แหละที่ช่วย ถ้ามีเคราะห์หรือมีเรื่องไม่สบายใจก็ดื่มน้ำมนต์เพื่อขอกำลังใจได้ (แต่ปัญหาจะแก้ได้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเรานะ)

    หลังวิหารหลวงพ่อโตจะมีพระเก่าแก่อีกองค์หนึ่งชื่อหลวงพ่อดำ ท่านศักสิทธิ์เช่นเดียวกัน ตามตำนานเล่าว่าท่านมีมาก่อนหลวงพ่อโตซะอีก (แสดงว่ายิ่งมีอายุนานมากหลายร้อยปีทีเดียว) หน้าหลวงพ่อดำจะมีหินเสี่ยงทายสองก้อน ให้อธิษฐานเรื่องที่ปรารถนาแล้วยกหิน ถ้ายกขึ้นจะสมหวัง ผู้ชายยกก้อนใหญ่ ผู้หญิงยกก้อนเล็ก ขอบอกว่าหนักมากกกก ผมยกมาแล้วและขึ้นสูงจากพื้นประมาณ 1 นิ้วเท่านั้น (แต่ก็ยกขึ้นล่ะนะ) ตอนนั้นสมัยเด็กๆ เลยอธิษฐานเรื่องเอ็นท์ทร้านเข้ามหาวิทยาลัย ใครสนใจจะไปยกหินก็ลองดูได้ครับโดยเฉพาะท่านผู้ชาย ใบ้ให้นิดว่าตอนยกนั้นต้องใช้ปัญญาครับถึงจะยกขึ้น (ห้ามใช้อุปกรณ์ช่วยนะให้ใช้หนึ่งสมองกับสองมือแล้วก็ร่างกายทั้งหมดนั่นแหละให้เป็นประโยชน์ คำใบ้ในการยกขึ้นอยู่ในประโยคนี้หมดแล้ว) ถ้าไปยกตรงๆ หลังจะหักเอา ลองดูนะครับ เพราะหินเสี่ยงทายนี้มีมาเป็นร้อยปีแล้ว จริงๆ แล้วผมคิดว่ากุศโลบายของหินนี้มีไว้วัดคนมีปัญญามากกว่า (อันนี้ไม่ได้ชมตัวเองนะครับ) ใครที่ใช้แรงอย่างเดียวยกไม่ขึ้นแน่นอน ..เมื่อสองสามปีก่อนทางวัดได้นำช้างเล็กๆ เพิ่มขึ้นมาให้คนได้เสี่ยงทาย แต่ผมไม่ใคร่เชื่อช้างที่วัดนำมาใหม่มากนัก ผมเชื่อตำนานยกหินมากกว่า เพราะมีมาก่อนเป็นร้อยปีแล้ว ดังนั้นใครที่มาถ้าจะอธิษฐานผมแนะนำให้ยกหินครับ อย่าไปยกช้าง อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะ

    ที่วัดแต่ก่อนจะมีเหรียญพระนเรศวรที่ดังมาก (จริงๆ มีดังๆ เยอะพอสมควรครับแต่ขอยกมาเพียงเท่านี้) จะเด่นทางด้านคงกระพัน แต่ก่อนช่วงสงครามคอมมิวนิสต์มีตำรวจนำไปใช้แล้วผู้ร้ายยิงมาแต่กระสุนไม่เข้า ..ทียกมาเพราะต้องการเล่าถึงที่มาของเหรียญนี้ครับ แต่ก่อนที่วัดยังไม่มีศาลาให้ญาติโยมมาทำบุญกันเป็นกิจจะลักษณะ ในสมัยก่อนมีหลวงพ่อฐิรเป็นเจ้าอาวาสท่านได้ฝันเห็นสมเด็จพระนเรศวรมาบอกให้สร้างเหรียญนี้ขึ้นมา เพื่อนำปัจจัยไปสร้างศาลาให้ประชาชนได้มีไว้ใช้ในยามที่ต้องการทำบุญ และเมื่อทำออกมาแล้วคนที่นำไปบูชาก็พบเรื่องอัศจรรย์ทางด้านคงกระพันหนังเหนียว ทำให้เหรียญรุ่นนี้จำหน่ายได้ดีมาก และวัดจึงได้มีปัจจัยมาสร้างศาลาจนแล้วเสร็จ และตั้งชื่อศาลานี้ว่าศาลาสมเด็จพระนเรศวรครับ

    ในวิหารหลวงพ่อโตจะมีแผ่นซีดีจำหน่ายให้คนนำเอาหลักธรรมะไปฟังครับ อยู่ตรงบริเวณใบตรวจเซียมซี แนะนำว่าใครที่ไปเที่ยวที่วัดอย่าลืมแวะอุดหนุนด้วย เพราะเงินทุกบาทที่ท่านบริจาคตรงส่วนของซีดีนี้จะส่งตรงถึงมือเด็กๆ ที่ด้อยโอกาส โดยที่วัดจะรับเด็กมาฝึกอบรมเนกขัมมะทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เงินที่ท่านบริจาคตรงนี้จะกลายไปเป็นเงินค่าข้าวและปัจจัยอื่นๆ ให้เด็กเหล่านี้ในช่วงที่มาฝึกที่วัดครับ แต่ก่อนตอนที่ผมบวชผมช่วยพระอาจารย์คุมตรงนี้ เด็กๆ มันดื้อจริงๆ แต่เมื่อขัดเกลาไปก็เห็นความน่ารักขึ้นมา ..ใครที่อยากสนับสนุนให้เด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติได้มีธรรมะของพระพุทธเจ้าในใจสนับสนุนตรงนี้ได้เต็มที่ครับ เงินของท่านจะส่งตรงไปสนับสนุนโครงการนี้ทันที ผมรับรอง

    อีกเรื่องที่อยากจะประชาสัมพันธ์คือทุกๆ เย็นเวลาประมาณ 17.45 น. ทางวัดจะมีการสวดมนต์หมู่ในวิหารหลวงพ่อครับ ใครอยากสวดก็สามารถไปสวดได้เลย สวดทั้งคาถาบาลีและสวดแปลแบบรู้ความหมายด้วย เมื่อสวดเสร็จก็นั่งสมาธิและแผ่เมตตาด้วย ผมรับรองด้วยชีวิตว่าการได้ไปนั่งสวดมนต์และนั่งสมาธิหน้าองค์หลวงพ่อโตนั้นทำให้จิตรวมได้ดีมาก และเป็นการยากที่จะได้มาสวดมนต์หน้าองค์หลวงพ่อ แต่ก่อนที่วัดไม่มีโครงการนี้นะครับ เพิ่งมีมาเมื่อไม่นานนี้เองปัจจุบันมีญาติโยมมาสวดกันมากจริงๆ ครับ เต็มวิหารเลย

    ตอนที่ผมบวชที่วัดนี้ ตอนประมาณตีสี่ต้องลุกมาทำวัตรในวิหารหน้าองค์หลวงพ่อ จะมีแต่พระแหละครับที่ได้มีโอกาสมาทำวัตรและนั่งสมาธิหน้าองค์หลวงพ่อในตอนตีสี่ก่อนที่จะไปบิณฑบาตร นับว่าเป็นโอกาสอันดีมากๆ ในชีวิต ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ถ้าได้นั่งหน้าหลวงพ่อแล้วจิตสงบและเป็นสมาธิได้เร็วมากจริงๆ

    สิ่งที่ผมหวังก็คือในช่วงชีวิตนี้ผมอยากสร้างศาลากรรมฐานที่วัดป่าฯ มากๆ จะต้องทำให้ได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรถ้าผมมีลมหายใจอยู่ผมจะต้องทำให้ได้ สำหรับปัจจุบันผมได้รวบรวมพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุไว้ คาดว่าน่าจะเป็นปีหน้าที่จะนำไปให้ทางวัดได้ตั้งไว้ให้คนกราบไหว้เพื่อระลึกถึงพระพุทธองค์และพระอรหันตสาวกเพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดี โดยผมมีความตั้งใจว่าเมื่อรวบรวมได้มากจะอัญเชิญใส่เจดีย์องค์เล็กเพื่อนำไปตั้งให้คนกราบไหว้ในพระวิหารหน้าองค์หลวงพ่อ ถ้าใครไปเที่ยวแล้วเห็นเมื่อไร นั่นแหละครับฝืมือผมเอง ตอนนี้คงต้องสะสมเงินมาซื้อเจดีย์ก่อน ถ้ามีอะไรคืบหน้าคาดว่าจะบอกบุญกับทางเว็บพลังจิตอีกครั้งครับ ตอนนี้ถ้าใครมาเที่ยวที่วัดท่านจะได้มีโอกาสสร้างบุญใหญ่กับการร่วมสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ตอนนี้กำลังสร้างอยู่ครับ คาดว่าอีกไม่นานคงแล้วเสร็จ สวยงามมากทีเดียว

    สุดท้ายนี้ขอฝากรูปหลวงพ่อและบทบูชาหลวงพ่อให้กับทุกท่าน (รูปนี้ผมถ่ายมาเองครับ)

    [​IMG]
    พระคาถาบูชาหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลย์ ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองสุพรรณบุรี

    โตเสนโต วะระธัมเมนะ
    โตสัฏฐาเน สิเว วะเร
    โตสังอะกาสิ ชันตูนัง
    โตสะจิตตัง นะมามิหังฯ

    ครั้งนี้เป็นอะไรที่ผมพิมพ์ยาวมากจริงๆ เรื่องที่เล่านั้นถ้าไม่ใช่คนที่อยู่ใกล้วัดและสนใจจริงๆ จะไม่ค่อยรู้ และไม่สามารถหาได้จากเว็บไซต์หรือแม้กระทั่งในหนังสือครับ ถือว่าเป็นการเล่าสู่กันฟังตามประสากัลยาณมิตรก็แล้วกัน ..ขอให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญ ขอให้ท่านได้มาซึ่งขณิกะสมาธิ อุปจาระสมาธิ อัปปนาสมาธิ และได้วิปัสสนาญาณในชาตินี้และเร็วๆ นี้กันทุกท่านครับ ใครที่ได้แล้วก็ขอให้ได้อรูปฌาน และคล่องตัวในการเจริญวิปัสสนาญานยิ่งๆ ขึ้นไปครับ สาธุ :)

    ปล. ผมลืมบอกไป แต่เดิมพระหัตถ์ข้างขวาชูขึ้นเป็นปางปฐมเทศนาจริงๆ ครับ แต่ว่าพระหัตถ์ที่ยกขึ้นมานั้นมีน้ำหนักมาก เมื่อเวลาผ่านไปทำให้พระหัตถ์ชำรุดและหักลงมาเนื่องจากโครงสร้างของพระกรรับน้ำหนักในส่วนของพระหัตถ์ไม่ไหว ตามตำนาน (อีกแล้ว) ได้กล่าวว่าพระหัตถ์ขวาได้หักลงมาหลายครั้ง ช่างในสมัยก่อนจึงตัดปัญหาด้วยการเปลี่ยนปางให้เป็นปางปาลิไลยก์ซะเลย คือให้พระหัตถ์ขวาวางพาดลงไปบนเข่าของพระองค์ท่านดังในภาพ จึงทำให้ไม่เกิดปัญหาพระหัตถ์หักชำรุดลงมาเนื่องจากน้ำหนักที่มากอีกต่อไปครับผม :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2008
  3. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    [​IMG]


    [​IMG]




    อนุโมทนา สาธุ

    จะหาโอกาสร่วมทำบุญครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • laylai.jpg
      laylai.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.6 KB
      เปิดดู:
      8,981
    • laylai2.JPG
      laylai2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      57.3 KB
      เปิดดู:
      10,226
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2008
  4. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p


    _____________________________<O:p</O:p
    เชิญร่วมบริจาคหนังสือ เข้าห้องสมุดชุมชนวัดย่านยาว<O:p</O:p
    http://palungjit.org/showthread.php?t=130823<O:p</O:p
     
  5. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ๑๒ สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปกราบนมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ และร่วมทำบุญสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    นอกจากนี้ยังร่วมทำบุญแผ่นโลหะ เพื่อร่วมหล่อพระประธาน พระศากยมุนีศรีสุพรรรภูมิ ด้วยครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...