หลวงพ่อเล่าเรื่องพระเจ้าตากลาพระโพธิญาญ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย mahaasia, 29 มกราคม 2008.

  1. mahaasia

    mahaasia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,130
    ค่าพลัง:
    +4,971
    เรื่อง...พระเจ้าตากสินลาพุทธภูมิทีนี้ วันพระเจ้าตากสิน วันที่ ๒๘ ธันวาคม เราก็ไหว้ ไหว้พระเจ้าตากสินที่เป็นกษัตริย์ด้วย ไหว้พระเจ้าตากสินที่เป็นพระด้วย อันนี้เป็นการยืนยันว่าพระเจ้าตากสินก่อนจะสวรรคตเป็นพระ แล้วก็ไม่ได้ถูกฆ่าตาย สวรรคตที่นครศรีธรรมราช ถ้ำของท่านยังอยู่ใครอยากจะไปดู ก็ไปดู กุฏิหลังนั้นเขาทำเลียนแบบไว้ แต่ความจริงกุฏิที่ท่านอยู่จริงๆ ดีกว่านั้น เขาทำมีความผาสุกกว่านั้น เวลาท่านออกมาจากถ้ำ ท่านก็มีที่พัก มีห้องพัก ห้องร้อน ห้องเย็นของท่านตามสบายๆ แต่ความจริงไม่ได้สั่งลูกชายเป็นคนสร้าง ท่านอยู่ด้วยความสงบ คนที่เป็นกษัตริย์มาแล้ว เป็นทุกอย่างมาแล้วมันก็หมดความโลภ ความโกรธ ความหลง แล้วก็คนแก่ด้วย ก็หมดความรักฉะนั้น การปฏิบัติธรรมของท่าน ก็เป็นด้วยความเคร่งครัด คือไม่ได้เคร่งเครียด คำว่า "เคร่งครัด" คือปฏิบัติตรงไปตรงมาใน "มัชฌิมาปฏิปทา" แต่ทว่า พระเจ้าตากสิน เป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็น " พระโพธิสัตว์" แล้วต่อมาภายหลัง ถามภาพนิมิต ระยะเวลาใกล้ๆประมาณ มกราคม ๒๕๓๓ เอากันแค่ วันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๓๓ วันนั้นพบ พระเจ้าตากสินอีกครั้งหนึ่ง คือว่า พ.อ.สถาพรนำดาบเล่มหนึ่ง มาจากเมืองตาก เขาบอกว่า ดาบของพระเจ้าตากสิน เพื่อมาให้เจ้ากรมการสัตว์ทหารบกที่นครปฐม ซึ่งเป็นนายทหารม้ารุ่นพี่ของ พ.อ.สถาพรเมื่อคืนวันที่ ๒๙ เขามาให้ไว้ คืนนั้นก็ปรากฏว่า ตั้งไว้ในที่มีเครื่องสักการะตั้งไว้บนเตียงที่สมควร พอตอนดึกเวลาประมาณสักหกทุ่ม เวลาจะนอนลงก็ทำจิตเป็นสมาธิตามปกติของพระ ก็เห็นภาพพระเจ้าตากสิน สวยงามมาก มาที่ดาบถามว่า "มาทำไม?"ท่านบอกว่า "ก็เขาว่าดาบของผมนี่ครับ ผมก็ทำให้มันหน่อย"ถามว่า "ทำแล้วจะมีประโยชน์อะไรบ้าง?"ท่านก็บอกว่า "ประโยชน์มี"ท่านอธิบายให้ฟัง แต่ขอปิด ไม่ใช่ปิด แต่ไม่บอกให้ทราบหลังจากนั้นก็คุยกัน ถามว่า "เวลานี้ลาจากพุทธภูมิหรือยัง?"ท่านบอกว่า "ยังไม่ได้ลา"ก็ถามว่า "ตั้งใจจะเป็นพระพุทธเจ้าจริงๆ หรือ..?"ท่านบอกว่า "เวลานี้ปรากฏว่าพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเต็ม รอคิวกันยาวเหยียด ผมก็อยากจะลาจากพุทธภูมิเหมือนกัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าลาแล้วจะมีผลเป็นประการใด?"ก็เลยบอกว่า "ถ้าอย่างนั้น ก็ไปคุยกับพระกันดีกว่า ไปด้วยกันไหมล่ะ?"ท่านบอกว่า "ไปซิ! ที่มานี่ก็จะมาชวนไปด้วยกัน"ไปด้วยกัน ไปหาพระท่าน ไปถึงเมื่อกราบท่านแล้วก็ถามว่า... "เวลานี้ พระสิน เทวดาสินนี่ เวลานี้เป็นพระโพธิสัตว์ ก็ชักเอือมๆ อยากจะทราบว่า จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไหร หลังจากพระศรีอาริย์ไปแล้ว...?"พระท่านก็บอกว่า "จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓๐ หลังจากพระศรีอาริย์นิพพานแล้ว" ก็เล่นเอาเทวดาสินหน้าซีดเซียว...ต้องไปนั่งยิ้มที่ชั้นดุสิตอีกถึง ๓๐ พระพุทธเจ้า ๓๐ พุทธสมัย ก็เลยถามพระท่านบอกว่า(พระอะไรน่ะห้ามถามนะ! ถ้าจะถามว่า ถามพระอะไร ก็บอกว่าพระก็แล้วกัน) "ถ้าเทวดาสินจะลาพุทธภูมิ เมื่อไรจะไปนิพพาน"ท่านบอกว่า "เทวดาสินนี่ ถ้าหากลาจากพุทธภูมิเป็นสาวกภูมิ กำลังเต็มมานานแล้วกำลังเหลือ ก็เหลือแค่ "เอหิภิกขุ" เท่านั้นก็พอแล้ว ถ้าตรัสว่า "เอหิภิกขุ" เทวดาสินก็เป็นพระสมบูรณ์แบบ"ท่านก็เลยเข้าไปกราบพระ พระท่านก็บอกว่า "เอหิภิกขุ เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด" เพียงเท่านี้ เทวดาสินก็กลับสภาพจากเทวดาเป็นเทวดาต่อไป คำว่าเทวดาต่อไป ก็หมายถึงว่าเป็น "วิสุทธิเทพ"นี่เป็นเรื่องของนิมิตลืมตา ไม่ใช่นิมิตหลับตา ไม่ได้เข้าฌานสมาบัติ ถ้าถามว่า ถ้าไม่เข้าฌานสมาบัติรู้ได้อย่างไร ก็บอกว่า ท่านแสดงภาพให้รู้ มันก็รู้ด้วยกันทุกคนแหละ ไม่ว่าใคร ไม่มีความจำเป็น คนที่เห็นผีน่ะเข้าฌานหรือเปล่าล่ะ เดินไปแล้วก็ถูกผีหลอก ต้องเข้าฌานหรือเปล่า มันก็เปล่า สภาพนี่ก็เหมือนกัน ผีไม่ได้หลอก แต่ว่าผีมาชวนคุย ผีมาบอกตามความเป็นจริง ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าฌานสมาบัติ มันเรื่องง่ายๆ เรื่องไม่ยาก เรื่องนี้ก็จบกันไปแล้วจากนิตยสารธรรมปฏิบัติ ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๒๓๔ ตุลาคม ๒๕๔๓(ถ้าลองสังเกตดู...เรื่องเกี่ยวกับการพยากรณ์ว่าใครจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไหร แม้แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเองท่านก็ยังต้องถามกับพระท่านโดยตรง) ที่มา เวปแดนพระนิพพานดอทคอม
     
  2. tendosuji

    tendosuji เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +228
    เรียนท่านผู้ตั้งกระทู้ บทความนี้ ทางเวปแดนนิพพาน เขาสงวนใว้ให้กับสมาชิกของเขาเท่านั้น ทั้งนี้เนื้อหาบทความเสี่ยงต่อการปรามาสหลวงพ่ออย่างยิ่ง มิสมควรเผยแพร่ ที่สาธารณะแบบนี้เลยมิควร ในความคิดผมนะ ...

    และอีกอย่างท่านเอง ปรารถนา พุทธภูมิ สาย วิริยะธิกะ

    http://palungjit.org/printthre...?t=1417&pp=100

    ตามข้อมูล แต่ท่านเองทำไม มักง่ายไม่ทำบารมีเองไป copy คนอื่นเขามา ทั้งที่คนเขากว่าจะพิมพ์เสร็จก็ใช้เวลาจัดเรียงตัวหนังสือ ไม่อายเหรอ ทำแบบนี้แบบนี้ คงมิใช่วิสัยพุทธภูมิ สาย วิริยะกะ แน่นอน มันต้องทำเองไอ้เรื่องเล็กๆ น้อยที่อยากจะทำบารมีแค่นี้ ทำไม่ได้เรื่องใหญ่ ในการเลื้อขนสัตว์มันยากกว่านะ และคนที่โมทนาก็ต้องโมทนาด้วยปัญญาด้วยนะ ถ้าโมทนากับคนผิดก็ไปที่ผิดตามระวังให้ดีนะ ... ถ้ามิอยากให้ใครปรามาสหลวงพ่อ อย่าเอาบทความแนวนี้มาโพสอีก มันจะเป็นโทษต่อคนปรามาสนะ
     
  3. civil60

    civil60 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +60
    นิพพานนังปรมังสุขขัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...