หลวงปู่โม่ ปัญญาโชโต พระเกจิฯผู้มากเมตตา

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 7 เมษายน 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,175
    [​IMG]หลวงปู่โม่ ปัญญาโชโต วัดสระธาตุ บ้านเตาบ่า ต.นาสีนวล อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นพระเกจิมีชีวิตร่วมสมัยยุคเดียวกับหลวงปู่มี กนฺตสีโล แห่งวัดป่าสันติธรรมดงสมป่อย พระเกจิผู้เรืองวิทยาคม ปฏิปทางดงาม

    หลวงปู่โม่ มีชื่อเสียงโด่งดังในแถบอีสานกลางและอีสานใต้ ช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ท่านจะละสังขารไปนานกว่าสิบปีแล้ว แต่เมื่อถึงวันครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพในแต่ละปี จะมีศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมทำบุญที่วัดสระธาตุ เพื่อน้อมรำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน

    อัตโนประวัติ เกิดในสกุล บัวเสนา เกิดเมื่อปีพ.ศ.2439 ณ บ้านโนนงิ้ว ต.หนองสนิท อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายพรรณาและนางดำ บัวเสนา ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

    ต่อมา ครอบครัวได้อพยพย้ายที่ทำมาหากินมาอยู่ที่บ้านเตาบ่า เนื่องจากบ้านเดิมเกิดภาวะภัยแล้งต่อเนื่องกันหลายปี

    ช่วงชีวิตเยาว์วัย ท่านได้ช่วยงานครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง แต่ด้วยความที่เป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม ช่วงเวลาว่างงานมักจะไปเที่ยวเล่นและช่วยงานให้กับวัดในหมู่บ้าน
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    เมื่ออายุได้ 10 ขวบ ได้เข้าพิธีบรรพชา กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดบ้านสระธาตุ โดยมีพระครูจันทรสีตลคุณ วัดทองนพคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูจันดี วัดดงบัง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูบาทูลวัดดอนหลี่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังเข้าพิธีอุปสมบท ได้มาอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านสระธาตุ โดยท่านจะเดินเท้าวันละเกือบสิบกิโลเมตรไปศึกษาพระธรรมวินัย กับพระอาจารย์จันดี ที่วัดบ้านดงบัง เล่าเรียนมูลกัจจาย บาลี อักขระโบราณ และวิทยาคม จนแตกฉาน

    นอกจากนี้ ในช่วงหลังเทศกาลออกพรรษา ท่านยังออกเดินธุดงควัตรไปตามพื้นที่ต่างๆ แสวงหาความหลุดพ้นตามป่าเขาลำเนาไพรในภาคอีสาน
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    หลวงปู่โม่ เป็นพระที่มีปฏิปทางดงาม พูดน้อย รักความสงบ กอปรด้วยเมตตาธรรม เห็นได้จากภายในวัด ท่านจะนำสุนัขและแมวมาเลี้ยงไว้นับร้อยตัว ญาติโยมในยุคนั้นต่างร่ำลือว่าท่านสามารถพูดกับสัตว์ได้

    ด้วยความที่เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบชื่อเสียงของหลวงปู่โม่ เริ่มโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็วพร้อมกับหลวงปู่มี กนฺตสีโล แห่งวัดป่าสันติธรรม (ดงส้มป่อย)

    ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศ เดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม ปะพรมน้ำพุทธมนต์ และปรารถนาวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนและตะกรุดโทนที่เข้มขลัง

    หลวงปู่โม่ จะพร่ำสอนญาติโยม ให้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ควรอยู่ร่วมกันด้วยความรักความเมตตา หากประพฤติกรรมดีชีวิตจะพานพบแต่ความสงบสุข

    วัตรปฏิบัติของหลวงปู่โม่ ในแต่ละวันจะเข้านั่งกัมมัฏฐานในอุโบสถ เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ญาติโยมว่าช่วงเวลาดังกล่าวท่านจะไม่รับแขกและห้ามรบกวนท่านเด็ดขาด

    หลวงปู่โม่ เป็นพระที่สิ้นกิเลสอย่างแท้จริง ท่านไม่สนใจยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น มุ่งเจริญภาวนาเพียงอย่างเดียว

    อย่างไรก็ตาม ท่านยังให้ความสำคัญด้านการศึกษาของพระสงฆ์ ให้การสนับสนุนให้เปิดสำนักเรียนขึ้นภายในวัด ด้วยทราบดีว่าการบวชเรียน เป็นหนทางหนึ่งของคนยากจนชาวอีสาน

    จตุปัจจัยที่ได้จากศรัทธาญาติโยม หลวงปู่ได้นำมาเป็นทุนส่งเสริมการเรียนของพระภิกษุสงฆ์ และนำไปพัฒนาเสนาสนะภายในวัดให้เจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน

    ในช่วงบั้นปลายชีวิต หลวงปู่โม่ มีสุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง มีอาการอาพาธบ่อยครั้งด้วยโรคชรา

    สุดท้าย ได้มรณภาพลงในปี พ.ศ.2535 สิริอายุ 96 พรรษา 76

    คงเหลือปรากฏแต่คุณงามความดีของท่าน ในจิตใจศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนชาวอีสานตราบนานเท่านาน
     
  2. baodang

    baodang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +205
    ขอขอบคุณที่นำประวัติ ปฏิปทา ของพระสุปฏิปันโนมาให้ศึกษากันครับ อนุโมทนาด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...