หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

​

อัตชีวประวัติหลวงปู่แขก

ชาติภูมิของพระมงคลสุธี (แขก ปภาโส)นามเดิม ลำยอง นามสกุล นาทีทองพิทักษ์ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๗ ตรงกับแรม ๗ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีชวด ณ บ้านกรุงกรัก ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก บิดาชื่อนายเฮง มารดาชื่อนางพัน อาชีพทำไร่ มีพี่น้องรวม ๗ คน

การศึกษา เข้าโรงเรียนศาลาวัดกรุงกรักจบชั้นประถมปีที่ ๔ เรียนหนังสือพอไปได้ ไม่เก่งนัก เพราะมีหน้าที่ช่วยเหลือบิดา มารดาและน้องๆ งานประจำคือเลี้ยงควาย เช้ามืดทุกวันต้องนำควายออกจากคอกโคลนตมไปลงแม่น้ำเพื่อล้างโคลนตมออก สมันก่อนๆชาวนาจะนำควายนอนโคลนตมเพื่อกันยุง และนำไปไถนาเสร็จฤดูทำนา ต้องแจวเรือพายเรือไปกับบิดามารดาจากบ้านบางปลาบ้าถึงบ้านบางระกำ นำปลาผักไปแลกข้าวเปลือกที่จังหวัดสุโขทัย สวรรคโลกไปถึงเมืองเก่า สุโขทัย ตามริมคลองและริมแม่น้ำยม เพื่อแลกข้าวเปลือกมาสีเป็นข้าวสารไว้กินในฤดูทำนา เมื่อพี่ๆแยกไปมีครอบครัว ตนเองต้องรับภาระหนักช่วยบิดามารดา ตลอดจนมีอายุได้ ๒๑ ปี เหตุเพราะน้ำท่วมทุกปี อีกทั้งมีฐานะยากจน

ชีวิตนี้ขอให้ได้บวชก่อนตาย เมื่อวัยหนุ่มถึงอายุ ๒๑ ปี ได้มองเห็นพระภิกษุสามเณรน้อยๆตลอดเวลาที่ไปทำบุญที่วัดและคิดว่าอาชีพในเพศฆราวาสวิสัยนี้ลำบากมาก จึงคิดอยู่เสมอว่า ถ้ามีโอกาสมีบุญวาสนาบ้างคงได้บวชตั้งจิตอธิษฐานว่า “ขออย่าได้ตายก่อน ขอให้ได้บวชเสียก่อน เมื่อบวชแล้วจะไม่ลาสิกขา ขอบวชจนกว่าชีวิตจะหาไม่” และแล้วบุญที่ตั้งใจไว้ก็สัมฤทธิ์ผล บังเอิญแม่แก่ชื่อโถม ซึ่งเป็นแม่ของโยมแม่อยู่ตลาดบางระกำไปเยี่ยมบ้านที่กรุงกรัก แม่แก่ถามว่า มึงจะบวชพระไหมเท่านั้น หลวงปู่แขกท่านก็ตอบรับทันที แม่แก่จึงนำตัวลงเรือพามาอยู่ที่บ้านบางระกำและนำตัวมาฝาก หลวงพ่อพระครูพุทธสุนทร (หลวงพ่อหรุ่น) ซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาส และเป็นพระอุปัชฌาย์ในสมัยนั้น หลวงพ่อรับไว้แล้วให้อยู่วัดนานถึง ๔ เดือน เพื่อท่องขานนาคหนังสือเจ็ดตำนานที่ใช้ในงานพิธีต่างๆ สมองจำไม่ค่อยได้ ต้องพยายามใช้ขันติอดทนใช้กะลาตาเดียวหนุนศีรษะ ถ้าศีรษะตกเมื่อไร เมื่อนั้นตื่น เมื่อตื่นต้องท่องหนังสือให้ได้ตามที่หลวงพ่อสั่งไว้
ได้ออกบวชตามปรารถนา
เมื่อบวชแล้ว จากนั้นก็เล่าเรียนการศึกษา เพราะหนังสือเราก็เรียนใม่เก่ง เราไม่ได้เรียนอะไรมามากมาย เรียนหนังสือวัดก็ต้องอาศัยการฝึกฝน อยู่ในวัดเรียนปริยัติธรรม สอบนักธรรมตรี สอบนักธรรมโทได้ ต่อมารุ่นพี่ๆ เขาสึกไปหมดก็เหลือเราคนเดียว ก็เลยต้องช่วยเหลือหลวงพ่ออุปัชฌาย์ ช่วยเหลืองานปกครองพระในวัด และอะไรต่ออะไร เพราะท่านก็อายุมากแล้วเราก็ต้องช่วยสอนหนังสือ ดูแลพระสงฆ์องค์เฌรแทนท่าน เป็นเลขาฯ ให้ท่านคุมการสอบด้วย จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๑๐๐ หลวงพ่ออุปฌาชย์ท่านมรณภาพ พอหลังจากทำพิธีศพท่านเสร็จแล้ว เขาก็แต่งตั้งให้อาตมาเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสและเป็นเจ้าอาวาส ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอตั้งแต่นั้นมา
พ.ศ. ๒๔๘๗ ได้อุปสมบทโดย พระครูพุทธสุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เปลื้องเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เรื่อง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ณ พัทธสีมาวัดสุนทรประดิษฐ์ ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อบวชแล้วได้ศึกษาพระปริยัติธรรมชั้นตรี ชั้นโท ได้ตลอด แต่นักธรรมชั้นเอกสมัครติดต่อกันถึง ๑๐ ปี ก็สอบไม่ได้ พยายามจนถึงที่สุดก็สอบไม่ได้ บุญไม่ถึง ในระหว่างสอบนักธรรมชั้นเอกอยู่นั้น ก็ได้เป็นครูสอนนักเรียนชั้นตรี-โท รุ่นน้องๆ ทุกพรรษา บางพรรษาก็สอนที่วัดพรหมเกสรบ้าง วัดกรุงกรักบ้าง เวียนกันไป
เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาแล้ว ได้สนใจปฎิบัติธรรมจากพระไตรปิฎกบ้าง จากพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงสอนกรรมฐานในที่ต่างๆ บ้าง เช่น หลวงพ่อปุย วัดปากลัด บางตาโต อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร และนั่งกรรมฐาน เช้าออกรับบิณฑบาตรแล้วไม่เข้าวัด เดินเลยไปฉันในป่าช้ากลางป่า ในท้องทุ่งนาบ้าง ส่วนใหญ่ในป่าช้าที่มีหลุมฝังศพจะไปบ่อยครั้ง และฉันน้ำที่เป็นหลุมบ่อในป่านั่นเป็นประจำ แล้วรีบกลับวัด เพื่อนำพระเณรทำวัตรเช้าและเย็น ได้ท่องอักขระเลขยันต์ วิชาศาสตร์กรรมฐานในสติปัฏฐานสูตร ฝึกดำน้ำวิปัสสนา บางครั้งหลงจมน้ำเกือบตาย ต้องหายใจทางหูแทนทางจมูก จึงรู้วิธีกลั้นลมหายใจทางจมูกแล้วยังมีหายใจทางหูได้อีก จึงได้ฝึกฝนทุกวันทั้งทางน้ำและในที่สงบ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน
เริ่มฝึกกรรมฐานทางการเพ่ง
ส่วนมากทางด้านปฎิบัติ พื้นเดิมทีอาตมาเป็นคนบ้างนอก อ่านเขียนปริยัติก็ไม่ได้ ศึกษาอะไรมาก็ไม่มาก หนังสือก็เรียนมาน้อย ความรู้ต่ำ เมื่อมาบวชแล้วนี่คนเราธรรมดาเหมือนปลาเอาขึ้นจากน้ำ มันก็จะดิ้นลงน้ำอีก คนเราก็เช่นเดียวกัน เมื่อเข้ามาบวชแล้วทั้งๆ ที่หนีทุกข์มา เมื่อมาถูกร้อยรัดเพราะพระธรรมมันยังไม่เข้าหัวฝังจิตใจ ก็เป็นธรรมดาที่อยากจะสึกตามพรรคตามพวกก็ว่ากันไปตามเรื่อง แต่พอมาคิดมุมกลับอย่างนี้ คือ มาคิดว่าเราท่องหนังสือก็ไม่ค่อยได้ด้วย เพราะจิตใจมันถูกแบ่ง มันไม่เข้าถึงสมาธิอะไร ก็เลยเอาพระพุทธรูปเข้ามาขัดแล้วก็นั่งเพ่งเป็นครั้งแรกเลยที่ฝึกอย่างนั้น พอฝึกได้ก็รู้สึกว่าดี ท่องหนังสือพอจำได้ เมื่อก่อนหนังสือหน้าหนึ่งหลวงปู่ท่องตั้งสองวันสามวันกว่าจะได้ เพราะเราไม่เคยท่องมันก็ไม่ได้ พอฝึกอย่างนี้ก็รู้สึกความจำดีขึ้น ก็พยายามฝึกมาเรื่อยๆ หนักเข้าก็นั่งฝึกเพ่งตะเกียงบ้าง แสงไฟบ้าง ใช้วิธีเพ่งจนน้ำหูน้ำตาไหลเต็มหน้าอก เปียกหมด ทำอย่างนั้นตลอด
ถือวาจาสัตย์
ต่อมาก็ไปเรียนวาจาสัตย์ จากหลวงพ่อต่วน วัดราชศีรีมาส เรียกว่าห้ามเพ้อเจ้อ ห้ามด่า ห้ามโกรธ อะไรทำนองนั้น เรื่องความสัตย์ก็พยายามฝึก การฝึกพวกนี้ก็ต้องอาศัยสติ พยายามเดินเวลาจะไปถาน ไปส้วมนี่ต้องเดินไปตามสะพานเข้าไปในป่าโน่น ซึ่งอยู่ห่างจากกุฎิ ก็ต้องพยายามใช้สติเวลาออกจากกุฎิถอดกลอนเราก็รู้ค่อยๆ เปิดไม่ให้ดัง ให้มีสติตลอดเดินมาที่ถานกี่ก้าว กลับมากี่ก้าวให้รู้ใช้สติ ก็พยายามฝึกทำมาเรื่อยๆ เวลาเด็กเล็กทำผิดอะไร เราก็พยายามไม่โกรธ ไม่ดุ ไม่ด่า ทำนองนี้ ผลที่สุดก็ฝึกได้ดี มาวันหนึ่งก็นั่งฝึกเพราะเบื้องต้นนี้เราไม่มีครูบาอาจารย์แนะนำ แต่อาศัยฝึกตามตำราบทเรียน
เมื่อปฎิบัติเห็นผล
วันนั้นนั่งฝึกอยู่ก็อารมณ์ดีหน่อย ราวๆเที่ยงคืนนั่งฝึกอยู่ก็รู้สึกแตกโพล่ง สว่างโล่งเลย เหมือนลูกไฟ อาตมาก็ตกใจสุดแรง ใจมันเต้นอย่างไม่เป็นปกติ อาตมาก็พยายามถอนตัวแล้วบอกว่ากูไม่บ้าๆๆๆ ต้องว่าไวๆนะ และปลอบใจตัวเองจนใจเป็นปกติ สบายๆ แล้วเรียกพระข้างเคียงมาคุยด้วยเพื่อให้สบายใจ แต่ก็ไม่ได้พูดว่าเรามีอะไร พอใจสบายดี แล้วก็บอกให้เข้าไปนอนเถอะ ดึกแล้ว ตั้งแต่นั้นมาก็ห่างจากการฝึก จิตเรามันคม ถ้าพูดกันตามตรง เอามีดทางสันฟันมันก็เข้า ทางคมฟันก็เข้า ทำนองนั้น แล้วรู้สึกตัวเองในลักษณะที่ว่า เวลาคนมาหา เด็กมาหา ญาติโยมมาหาก็ไม่มีอะไรให้เขา นึกถึงพุทธคุณทำน้ำมนต์พ่นให้อะไรให้ บางคนที่ไม่สบายก็หายเป็นปกติ
ปฎิบัติในป่าช้าเพื่อฆ่าความกลัว
ต่อมาก็เข้าหาครูบาอาจารย์ เล่าให้ท่านฟังว่า มีประสบการณ์อย่างนี้ มันจะเป็นยังไง ท่านก็ให้ความเห็นต่างๆก็ยังไม่ซึ้งใจ ต่อมาหลวงพ่ออุปัชฌาย์เห็นเรานั่งนานๆ นั่งฝึกเวลาสวดมนต์รู้สึกตัวจะลอยขึ้นอย่างเดียว ปกติอาตมาเป็นหัวหน้านำพระสวดมนต์ โดยมากจะนิ่ง แต่หลวงพ่ออุปัชฌาย์ท่านก็ไม่ชอบวิปัสสนา ท่านไม่ส่งเสริม ท่านก็ส่งอาตมาไปให้พ้นไปอยู่ที่วัดพรหมเกสร (วัดบางปลาบ้า) ตำบลชุมแสงสงคราม ให้ไปสอนปริยัติธรรมในพรรษา อาตมาก็ไป เพราะอุปัชฌาย์ให้ไปเราก็ต้องไป พอไปสอนพวกพระเขาก็ไม่ค่อยเรียน อาตมาก็ไม่บังคับอะไรเขา เมื่อไม่เรียนอาตมาก็นั่งฝึกสมาธิ ฝึกอยู่ในป่าช้า หลุมผีก็อยู่ข้างๆ รอบๆก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ธรรมะเกิดขึ้นในลักษณะที่ว่า คนเรากลัวผี กลัวทำไม ทำไมถึงกลัวเขา กลัวตายใช่ไหมถึงกลัวผี ถ้าเราไม่กลัวตายแล้ว เราไปกลัวอะไรกับผี เพราะมันมีอยู่ว่า ผีต้องพึ่งผี ผีกลัวคน คนก็กลัวคน
เมื่อธรรมเกิดในจิต
อาตมาก็ได้ข้อคิด ธรรมะเกิดขึ้น มนุษย์เราก็ผีอยู่แล้ว เพียงแต่เราหายใจ แต่ผีไม่หายใจเท่านั้นเอง แล้วโดยส่วนใหญ่เราจะกลัวตายกับกลัวผี ไม่ว่าตกใจอะไร มันตกใจทำไม เพราะกลัวใจไหม กลัวทำไม ก็กลัวตายเท่านั้นแหละสติมันก็อยู่ได้ รักษาอารมณ์ได้ อะไรมันก็เป็นห่าฝนมายังไงเราก็ไม่ได้สนใจ เราก็วางอารมณ์สบายๆ ขั้นแรกอาตมาก็ฝึกในลักษณะนี้ ศึกษาจากครูบาอาจารย์บ้าง อะไรบ้าง กับหลวงพ่อปุ่ย วัดปากลัด อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร อาตมาก็ไม่ได้เข้าสนทนาธรรมกับท่านนัก เพราะท่านไม่รับแขก สองเดือนท่านถึงจะออกมาปลงผมก็ได้เห็นหน้าท่านเท่านั้นเอง ปกติท่านจะไม่ออก จะอยู่แต่ในกุฏิ เราก็ไม่มีทางได้สนทนาอะไรกับท่าน แต่ได้หลักข้อปริยัติปฏิบัติของท่านเอามาเป็นหลักถือปฏิบัติ
เมื่อปฏิบัติก็เห็นผล แต่เมื่อห่างฌาณก็เสื่อม
เมื่อพรรษา ๓ ก็เคร่งหน่อย เคร่งในลักษณะที่ว่าเอาให้สำเร็จเลยล่ะ ตั้งใจอดอาหาร ฉันอาหารมื้อเดียว ไปบิณฑบาตรมาแล้วก็ฉันอาหารในบาตรนั้นแหละ ห่มผ้าผืนเดียว เพราะสมัยนั้นจน ญาติโยมก็จนต้องไปเอาผ้าที่เขาพาดกันใยแมงมุมบนหลังคาเอามาซักให้ขาว แล้วก็เอามาย้อมสีอิฐ สมัยนั้นลำบากแต่ก็ต้องอาศัยความลำบากมาสอนตน ฝึกตน อาหารก็ไม่ค่อยมี แต่ก็ฝึกได้ดี ยิ่งเหงื่อออกยิ่งร้อนเราก็ยิ่งมีจิตมุมานะ ทำจิตได้ดีจนมาประมาณพรรษาที่ ๕ พรรษาที่ ๖ หลวงพ่ออุปัชฌาย์ท่านไม่มีใครก็จำเป็นต้องมาช่วยท่านทางการปกครองพระ ทางด้านการสอนหนังสือนักธรรมตรี นักธรรมโท แนะนำสวดมนต์ไหว้พระ อาตมาเป็นเลขาฯท่าน เวลามีเผยแพร่ตามอำเภอ ทีนี้ภาพมุมกว้างมันก็เกิด พอปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอ ทีนี้การฝึกเราก็ถอย ฌาณก็ถอย พอเข้ารับหน้าที่การปกครองจากทางคณะสงฆ์แล้วมีการประชุมที่โน้นที่นี่ ก็ห่างจากการปฏิบัติ ทีนี้ที่เราทำมามันก็เสื่อมถอย
บางทีก็คิดน้อยใจพระอรหันต์ท่านก็มีชีวิตจิตใจอย่างเรา มีอาการ ๓๒ ก็เหมือนเรา เหตุไฉนท่านถึงได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ บรรลุโสดา สกิทาคา อนาคา ฯลฯ เพราะอะไรทำไมเราก็เหมือนกัน แล้วเราจะไม่ได้บ้าง เอาล่ะ...เราไม่เอาอะไรแล้ว ก็ไม่เอาอะไรทั้งหมด ด้วยความน้อยใจเราก็มานึก อ๋อ ท่านสำเร็จ หมายความว่า ท่านไม่ได้ชุ่มด้วยยาง ยางคือกิเลสที่มันชุ่มอยู่ในจิตใจ ยางมันแห้งก็แห้งไปเลย ของเรามันชุ่มด้วยยาง ความโลภ ความโกรธ ความหลง ราคา โทสะ โมหะ ยังมีอยู่ไม่ขาดจะให้สำเร็จอย่างท่านก็ไม่ได้ พอจับได้อย่างนี้แล้ว เราก็พยายาม
เมื่อปีติเกิด (เขาว่าเราลอยได้)
ประสบการณ์ ในการฝึกจิตที่ประทับใจมากที่สุด ท่านได้ปิติมากที่สุดก็ที่ค่ายนเรศวรมหาราช เพราะนั่งได้นาน วันนั้นเขาเททองหล่อพระ เป็นพระกริ่งพระอะไรต่างๆที่ค่ายนเรศวร อาตมาไปก่อน คือที่จริงก็ไม่รู้เขาบอกจะทำพิธีประมาณบ่าย ๓-๔ โมงจะเททอง แต่พอเพลแล้วอาตมาไปก็เที่ยงแล้ว แล้วจะไปนั่งอยู่ยังไงล่ะ แต่เขาเตรียมอาสนะไว้แล้ว อาตมาก็เข้าไปนั่งลมก็พัดเย็นๆ นั่งสบายๆ อธิษฐานจิตแล้วก็นั่งเพ่งนึกถึงอดีตของพระนเรศวรมหาราชด้วย ที่ท่านเกิดในที่นี่แล้วท่านก็พลีชีวิตของท่าน เอาเลือดทาแผ่นดิน เจิมแผ่นดิน สละเลือดเนื้อเพื่อแผ่นดินผืนน้อยๆ แผ่นนี้ไว้ให้คนไทยทั้งชาติอยู่กันทั้งประเทศสยาม ให้มีแผ่นดินทำมาหากินอยู่สุข อยู่สบาย อยู่เจริญ แต่ท่านมีความทุกข์ตั้งแต่ท่านเกิดมาจนกระทั่งสวรรณคต ท่านไม่มีความสุขเลย ไปเป็นเชลยเขาบ้าง ออกรบกับข้าศึก โดยมากจะเสียชีวิตในสนามรบด้วยความอาฆาตแค้นที่ประเทศไทยเราตกเป็นทาสของเขา ที่พม่ามารุกรานด้วยความสำนึกเราที่ไปเห็นอย่างนี้แล้วก็นึกวาดภาพว่า ถ้าหากไม่เสียชีวิตเสียก่อน พม่าจะถูกเผาไม่มีอะไรเหลือ ไปดูซิ บุเรงนองอยู่น่ะ ท่านเผาเสียเตียนเหี้ยนจริงๆไม่มีอะไรเหลือ จะเหลือก็แต่เสาที่ฝังอยู่ใต้ดินมั้งหมดแล้วเขาขุดขึ้นมาไว้ในพิพิธภัณฑ์ ยาวเป็นวาเลย สองเมตรสามเมตรบ้าง ที่เป็นไม้สักต้นโตๆนี่แสดงว่าท่านอาฆาตมากเลย ถ้าท่านมีชีวิตอยู่คงจะเผาให้ราบคาบไม่เหลืออะไรเลย แต่ท่านก็มาเสียชีวิตก่อนในสนามรบ อาตมาก็นึกภาพดูก็เกิดปิตินั่งอยู่ ๓-๔ ชั่วโมง พอเขาเป่าแตรเททอง ตัวพุ่งไปโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับลอยไป แล้วไปตกบนพื้นดิน จนทหารมาช่วยกันอุ้ม อาตมาก็ตื่นคนเขาก็ลือว่าอาตมาเหาะได้จริงๆ แล้วมันเกิดจากอะไรไม่รู้ อาตมาก็ไม่รู้เรื่องนี้มันเกิดปิติ
มหัศจรรย์แห่งการสั่งจิต
ครั้งที่สองคิดว่าสั่งจิตได้ ก็คิดว่าดีแล้ว เป็นหลักของการปฏิบัติธรรมะ ตอนนั้นเจ๊กมันจะฟันหัวเมื่อประมาณพรรษาที่ ๕ เพื่อนที่เขาสึกไปมีลูกมีเมียอยู่ตลาด เจ๊กนี่แฟนเขาตายทั้งกลม กลางคืนอาตมาก็ไปสวดให้เขา พวกเพื่อนเขาก็มาอ้อนวอนให้ไปพรมน้ำมนต์ให้มันหน่อย เพราะมันเสียใจ คลุ้มดีคลุ้มร้าย ก็บอกใจเย็นๆก่อน เพราะอาตมาก็เพิ่งปลงผมใหม่ๆเป็นวันโกนด้วย ไม่ค่อยดี เขาก็อ้อนวอนให้ไป อาตมาก็บอกว่าเย็นหน่อย พอเย็นก็ไป เขาก็เตรียมน้ำไว้ให้เสร็จ มีเทียน ไม้ขีด ดอกไม้ตั้งไว้พร้อม ไปถึงอาตมาก็ตั้งใจสวดอิติปิโส พาหุง ทำน้ำมนต์ให้ ตอนนั้นเจ๊กมันก็นอนอยู่ข้างๆ อาตมาก็ได้ยินเสียงแกรก เห็นเขาลุกไปที่หลังห้อง อาตมาก็ไม่ได้คิดอะไร ตั้งใจภาวนาไป หยดเทียนได้ยินเสียงแกรกอีกทีมันค่อมหลังอาตมาแล้ว มีดอย่างยาวเลย ตอนนั้นอาตมาก็เพิ่งโกนหัวใหม่ๆก็คิดว่าไม่ให้ฟันหัวหรอก ถ้าจะฟันๆตัวเลย อยากให้ฟันเร็วๆด้วยใจนึกอย่างนั้น เห็นมีดเป็นไม้ไปเลย ไม่ได้กลัว แปลกมาก แต่ถ้าคนไปกลัวมันฟันตายโหงเลย เพราะมันขาดสติ อาตมาก็เพ่งลองดูสิ มึงกับกูใครจะดีกว่า จิตก็เพ่ง มันก็ตาแดงเลย มีดที่อยู่บนหัวเราก็ค่อยๆขยับ แล้วก็ห่างออกๆ พอพ้นรัศมีจิตของเรามันก็ฟันเลย แต่ฟันไม่ถูก ปู่ก็กลับวัด คนก็มาช่วยกันจับเจ๊ก ให้สติกับคนขาดสติ เมียเขาตั้งท้องคลอดลูกชายตายได้เพียง ๗ วัน จิตใจเขาฟุ้งซ่านมาก คุมสติไม่อยู่ เพื่อนพระนิมนต์ให้ไปอบรมจิตใจจึงรับปากไปช่วยเหลือ
ในระหว่างที่ไปโรงเรียนพระปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรมจากสำนักเรียนและกลับมาสอนนักเรียนนักธรรมเพื่อช่วยเหลือหลวงพ่อ เจ้าอาวาสพระอุปัชฌาย์ที่ท่านอายุมากขึ้น ก็ได้อาศัยกุฏิเดียวกับหลวงพ่อได้ออกบิณฑบาตรเช้า จัดอาหารเช้า-เพลถวายหลวงพ่อ ปูที่นอน กวาดถูกุฏิที่ท่านพักมาตลอด ซักผ้าห่ม จีวร สบง เวลาท่านอาพาธก็นอนเฝ้ารักษาจนท่านถึงแก่มรณภาพ
เมื่อโยมมารดา (แม่พันธ์) ได้ถึงแก่กรรมลงแล้ว ก็ได้รับโยมบิดา (พ่อเฮง) จากบ้านเกิดมาอยู่เลี้ยงดูที่วัดโดยพักอาศัยในหลังคากุฏิเดียวกัน ได้เลี้ยงดูบำรุงรักษาไม่ให้เจ็บป่วย หาข้าว หาน้ำ ให้ทาน ๓ เวลา สบายใจก็พาไปแสวงบุญตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วไป แนะนำให้ยึดกรรมฐานเป็นหลัก เช้าให้ตักบาตรทุกวันให้รักษาศีลฟังธรรมจนถึงแก่กรรม
กุฏิเรือนไม้ผีตายทั้งกลม
ในขณะที่ไปเล่าเรียนกรรมฐานมนต์คาถาต่างๆ นั้น พระอาจารย์ให้ไปพักหลับนอนอยู่ที่กุฏิไม้เก่ามาก ก็มีเสียงผู้หญิงมาร้องขอความช่วยเหลือ ได้ยินว่าขอให้บอกทางให้ด้วย หิวข้าว ไม่มีผ้านุ่ง เจ็บปวดท้องมากเหลือเกิน ได้ยินติดต่อกันก็นั่งสมาธิคิดถึงเรื่องเสียงผู้หญิงขอร้องนั้น ก็ได้แผ่เมตตาไป พิจารณาเสร็จแล้วฉันอาหาร กรวดน้ำอุทิศ แล้วเสียงขอความช่วยเหลือก็หายไป จึงสอบถามพระที่พักด้วยกันท่านได้เล่าว่า กุฏิไม้ที่พักนั้นเป็นไม้เรือนเก่ามีคนคลอดลูกตายทั้งกลม เก็บไว้ไม่ได้ โยมเลยนำมาถวายวัดนี่แหละ อ้อ..จึงรู้ว่ามีอะไรแปลกๆ
นิมิตอัศจรรย์
เมื่ออยู่นานๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย จังหวัดกำแพงเพชร มีอาการป่วยที่คออย่างหนัก สามีได้พาไปพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญหลายที่ก็ไม่หาย ตรวจแล้วไม่พบสิ่งปกติ ทานยาก็ไม่หาย วันหนึ่งนอนหลับไปได้ฝันเห็นพระสมเด็จพุฒาจารย์โต บอกมาว่า ให้เดินไปทางทิศเหนือ ไปพบพระรูปหนึ่งที่มีรูปร่างเล็กหน้ากลมผิวสองสี จะช่วยได้ และสามีก็พาไปหลายที่ สุดท้ายได้มาแวะที่วัด ภรรยาบอกว่าใช่พระรูปนี้แหละที่ฉันฝันเห็น เชิญให้นั่งแล้วไม่นั่ง เลยเอาน้ำมนต์ซัดเขาก็เลยล้ม จึงได้ทำน้ำมนต์และนำแผ่เมตตา คอหายเจ็บและดึงปลอกคอที่พันไว้ออกหายเป็นปกติ
มีให้ทราบอีกอย่างหนึ่ง ตอนนั้นไปพักที่กุฏิรับรอง รู้สึกปวดศรีษะตนเองยิ่งนัก มีเสียงลมออกหูอยู่ตลอดเวลา ร่างกายเคยแข็งแรงก็อ่อนเพลีย กลางคืนฝันว่า โยมแม่นำไม้มาตีศรีษะ แล้วบอกว่าคุณมานอนได้อย่างไร มีตอไม้โพธิ์เก่าแทงรากมาหา จงย้ายที่นอนหรือไปขุดออกเสียนะคุณ แล้วโยมแม่ก็ชี้ตอไม้ที่ฝังดินอยู่ให้ทราบ จึงไปขุดและพบจริงๆ พอย้ายไปแล้วก็สบายใจขึ้น
ต่อมาได้เรียนมนต์ต่อกระดูกได้บำบัดทุกข์บำรุงสุขมาโดยตลอด จึงได้เกิดความมั่นใจว่า การปฏิบัติกรรมฐานอย่างต่อเนื่องทำให้ได้เห็นในสิ่งที่ควรเห็น ได้พบในสิ่งที่ควรพบ และได้พบปัญญาสมาธิแก้ปัญหาอุปสรรคนั้นได้จริง ดังพระอาจารย์หนุ่มรุ่นก่อนๆ ได้เคยเล่าไว้ในอดีตนั่นแหละ จงปฏิบัติธรรมเถิด รู้เอง เห็นเอง เกิดปัญญาเอง แก้ได้เอง
ท่องไปในโลกกว้างจาริกยังต่างแดน
ได้ไปนมัสการสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย ๔ ครั้ง ไปเกาหลี ไปประเทศเนปาล ประเทศจีน ฮ่องกง พม่า ประเทศไต้หวัน ประเทศมาเลเซีย-ปีนัง ประเทศสิงคโปร์ ประเทศศรีลังกา ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศธิเบต ประเทศสหรัฐอเมริกา ๓ ครั้ง ๑ ปี ๘ เดือน ตามรัฐ เช่น ยูทา ซอร์รีจูน พัดตาเวีย ซานโซ แพริโก เพาดิเลีย รอสมาโซ เนทาต้า แดนเวอร์ คาราโดโก แคสเปน รัฐเวกัส อริโซน่า ดิสโตน ฟาเซนั่น พีมอส เนปากา แกนเอแลน ได้ร่วมประชุมสมัชชาสงฆ์ในรัฐคุมอยู่ ๖๔ แห่ง ในเครือธรรมยุตมี ๒๕ แห่ง ในแคนนาดามี ๖ วัด ในยุโรปประเทศเนเธอร์แลนต์ ๑ วัน สวีเดน ๒ วัด ได้พักอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริการู้สึกอึดอัดใจมาก เพราะภาษาไม่สันทัด สถานที่ไม่เคยไป ต่างชาติ ต่างภาษา อาศัยใจสู้และประสบการณ์ แก้ปัญหาทั้งส่วนรวม ส่วนตัว บางครั้งการเดินทางเสี่ยงชีวิต กลางเวหา บนหิมะ อากาศไม่ดีต้องพึ่งสมาธิตลอดเวลา
มีลูกศิษย์มาจากอเมริกาก็นิมนต์ให้ไป อาตมาก็ไปโดยไม่ได้วางแผนอะไรเลย ปรากฏว่าเกินคาดจริงๆ ไปถึงกงศุลอะไรต่างๆ เขาก็มาหา บอกหลวงพ่อไปออกรายการหน่อย เขาวางแผนให้ไปฉันที่สถานีแล้ว ก็ไปสวดธรรมจักรแล้วก็เทศน์แล้วอาตมาเองเรื่องเทศน์นี้ทิ้งมา ๒๐ กว่าปีแล้ว ก็บอกกับโยมว่าจะสวดธรรมจักรก่อนสวดเสร็จแล้วอาตมาจะเอาท้ายธรรมจักรเทศน์ สรุปไปหน่อย ธรรมจักรนี้เป็นวงล้อวงแรกที่พระพุทธเจ้าหมุน ที่พระพุทธเจ้าใช้หลักวิชาที่ท่านได้มาสั่งสอนเวไนยสัตว์ ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ได้บรรลุถึงธรรมะชั้นสูง เป็นพระอรหันต์องค์แรก นับว่าวิชาที่ท่านได้มานี้เป็นผลสำเร็จดั่งความมุ่งมาดปรารถนาของท่านจนได้มีพระอรหันต์มากมาย อริยสัจ ๔ นี้ที่ท่านสอน แล้วก็เล่าหลักการสั่งสอนของท่านก็มี ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ๘ แล้วก็สรุปตรงนี้ก็ได้แพร่ออกไปทั่วทุกรัฐในอเมริกา คนไทยอยู่ไหน เขมร ลาวที่เขารู้จักก็โทรมา ฝรั่งที่มีแฟนคนไทยก็ให้ไปเจิมบ้าน ไปพรมน้ำมนต์บ้าน เขานับถือจะมาร่วมเททองสร้างโบสถ์ด้วย ก่อนจะกลับมาทางกงสุลไปเป่าหัวพรมน้ำมนต์ นับว่ามีค่าอย่างสูงที่ไปครั้งนี้ ได้ช่วยบางคนที่เขามีฐานะค่อนข้างแย่ ร้านอาหารก็แย่ เงินไม่พอส่งพอผ่อน ชักหน้าไม่ถึงหลังก็เยอะแยะ บางคนไปเตะฝุ่น โดยคิดว่าจะไปขุดทองอะไรทำนองนั้น คนไทยที่ไปอยู่อเมริกาเยอะ แต่เขาสู้คนทางเขมรไม่ได้ เขมรกับลาวเขาไปก่อนเรา เขมรลาวเป็นพวกอพยพ รัฐบาลเขาให้การสนับสนุน เขามีเงินเดือน แต่คนไทยต้องพึ่งลำแข้งตัวเอง ต้องมีความสามารถจริงๆ ถึงจะตั้งตัวได้ เพราะเราไม่ได้อพยพอย่างเขา แต่คนไทยที่เป็นตำรวจ พยาบาล ทหารก็มี และก็ประสบความสำเร็จ
ข้อคิดในใจตัวเอง
คิดว่าตั้งใจทำสมาธิให้มั่น ปัญญาเป็นแสงสว่างนำทางไปเอง เมื่อมีตาดี หูดี ร่างการแข็งแรงดี มีเงิน มีทอง ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ ทั้งส่วนตัวและส่วนรวมชีวิตเด็กท้องนา อยู่ป่ารกชัฏ เรียนก็น้อย แต่สามารถไปเยี่ยมโลกภายนอกได้ ทำให้ศรัทธาคนต่างชาติ ต่างภาษา ได้สุขกาย ภูมิใจ เราเกิดมารับขันธ์จากพระอินทร์ว่าจะสร้างโบสถ์ ศาลา สระน้ำ โรงเรียน สร้างถนน สร้างสะพาน สร้างสาธารณะ ที่รับคำพระอินทร์นั้นแล้วสำเร็จ
ปรารถนาจะพัฒนาบางระกำให้เจริญ
พอมาบั้นปลายเห็นว่าอำเภอบางระกำนี้ทุรกันดาร สมัยนั้นย้อนไปเกือบ ๓๐ ปีได้ มีคุณหญิงเขาจะปลุกเสกพระสมเด็จฯ เขาก็นิมนต์พระเกจิอาจารย์เพื่อไปปลุกเสกในวิหาร แต่ตอนแรกเขาไม่ได้นิมนต์อาตมา แต่สุดท้ายไม่รู้ยังไงเขาก็มาขอโทษแล้วก็มานิมนต์อาตมา เขาว่าเข้าใจผิดคิดว่าอำเภอบางระกำนี่ชื่อไม่ค่อยเป็นมงคลอะไรต่างๆ เขาก็ให้เหตุผลหลายอย่าง อาตมาก็รับนิมนต์เขาแล้วก็เก็บความรู้สึกไว้ในใจ คิดว่าบ้านเกิดเมืองพ่อเมืองแม่ แต่คนมาดูถูกเหยียบย่ำ เราจะทำยังไงดี มีบุญวาสนาเราจะพัฒนาอำเภอบางระกำให้เจริญขึ้นมาให้ได้
ต่อมาก็ได้มีนายอำเภอเพิ่งย้ายมาจากนครไทย ซื่อนายอำเภอสุนทร บำรุงพงศ์ ท่านก็มาคุยด้วยว่าจะทำยังไงดี อยากให้อำเภอบางระกำเรามีถนนเดินไปหมู่บ้านตำบลต่างๆ อำเภอเชื่อมตำบล ตำบลเชื่อมหมู่บ้านได้ เพราะเมื่อก่อนยังอาศัยเดินไปตามทางล้อเกวียนบุกน้ำลุยโคลน ลำบากมาก ทำไงดี เพราะอำเภอนี้ไม่มีหินลูกรังในอำเภอเลยเป็นป่าเป็นดง ดงสักเต็งรัง ประดู่แดง สารพัดไม้ คนเป็นไข้มาเลเลียไข้ป่าก็เยอะ พอนายอำเภอท่านมาปรึกษาก็ได้ความคิดกันว่า นายอำเภอเป็นผู้ดูแลบัญชีประชากรในเขตอำเภอนี้ทั้งหมด ว่ามีกี่พันหลังคาเรือนตรวจสอบให้แน่นอน ผลที่สุดก็ได้คำตอบ ได้การแล้ว เราออกไปประชุมชาวบ้าน แบ่งชาวบ้านออกมาเป็น ๓ ประเภท คนมั่งมี ปานกลาง ยากจน คนยากจนนี่ทิ้งไปเลย เอาแต่คนมั่งมีและปานกลางขอหลังคาเรือนละ ๓๐๐ บาท สมัยนั้นข้าวราคาเกวียนละ ๖๐๐ บาท ก่อนที่จะเอาเงินเขาเราก็ชี้แจงให้เขาเข้าใจ ให้เขาเกิดศรัทธา เกิดแนวร่วมก่อนก็ไปประชุมกันให้ความเห็นกัน สรุปแล้วก็ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านดี เขาก็ช่วยกันบริจาค ได้เงินมาล้านกว่าบาน ก็เอาไปซื้อรถแทรกเตอร์ รถสำหรับบรรทุกเสบียงส่งรถทำงาน รถสำหรับตรวจการ แล้วก็เริ่มทำงานกันจนได้ถนนหนทางเชื่อมหมู่บ้านกับตำบล ก็มีใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ อาศัยว่าสมัยนั้นเราได้ถนนเดินเฉยๆ เราไม่มีลูกรัง พอมาสมัย ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีเงินงบประมาณเข้ามาถึงก็ได้ถนนลูกรัง จนปัจจุบันนี้ก็สบายเพราะถนนโดยมากจะลาดยางหมด เป็นถนนวงแหวน รอบตัวอำเภอแล้วก็ตามซอยต่างๆ ก็ได้รับความร่วมมือจากญาติโยมเป็นอย่างดี
บิณฑบาตป่าช้าจากผี
เดิมด้านหลังวัดเป็นป่าช้ากลางวันยังไม่มีใครเดินเลยเขากลัวผีกัน วัดอยู่ริมน้ำ พอหลวงพ่ออุปัชฌาย์มรณะ อาหารก็เริ่มขาดแคลน เวลาบิณฑบาตรก็ได้แต่ข้าว กับข้าวไม่ค่อยมี เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชาวบ้านก็น้อยคิดว่าจะทำยังไงดี ก็เลยไปปรึกษาพระผู้ใหญ่ท่านก็ให้การสนับสนุนก็ได้ไปทะเลาะกับผี ไล่ผีออกจากป่าช้า คือพื้นที่ที่เป็นป่าช้าทั้งหมดเป็นที่ของวัด มีทั้งหมด ๓๔ ไร่ ก็ไปขอผีไปบิณฑบาตรจากผี แล้วอาตมาก็เข้าไปฉันในป่าช้า ตอนที่เข้าไปขอหลังจากตอนเช้าบิณฑบาตรเสร็จแล้ว อาตมาก็เข้าไปฉันในนั้นเสร็จก็ยะถา สัพพี เรียกวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้ ทั้งหมดมารับส่วนบุญส่วนกุศล รับอนุโมทนาส่วนกุศล ทำทุกๆวันประมาณเดือนกว่า แล้วก็อ้างจุดประสงค์ของเราว่า ดวงวิญญาณทั้งหลายมารับส่วนบุญส่วนกุศลกันแล้วนะ อาตมาต้องการจะเอาที่ตรงนี้เพื่อให้ประชาชนไว้เป็นแหล่งทำมาหากิน หวังว่าจะไม่ขัดข้องกัน ใครมาอยู่ก็ไม่ได้ขับไล่ แต่ดวงวิญญาณไหนดื้อเกเรก็อย่าอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ไล่ส่ง ถ้าอยู่แล้วเขาทำมาหากินก็ช่วยส่งเสริมให้เขาทำมาหากินรุ่งเรือง ให้เขาอยู่เย็นเป็นสุขนำความเจริญมาสู่บ้านเรือน ทำมาค้าขายก็เจริญรุ่งเรือง ให้อยู่ด้วยกัน เมื่อเขาร่ำรวยมีฐานะดีแล้วเขาก็ทำบุญให้ทุกวัน ทุกเช้าตักบาตรทำบุญให้เขาก็แผ่ส่วนบุญกุศลให้ไม่ได้ขับไล่ ก็บอกกับเขาดีๆ อาตมาก็ทำแบบนี้มานานร่วมเดือนเลยนะ ตอนนั้นก็เข้าไปป่าช้าบอกกล่าวบิณฑบาตรกับผีอย่างนี้ทุกวัน
จากนั้นก็เอารถแทรกเตอร์จากกรมทางหลวงมาช่วยปรับพื้นที่ ถ้าเจอผีก็เอาขึ้น เจอกระดูกก็เอาขึ้นเผา ถ้าผีสดหน่อยก็ให้เจ้าของเขามารับไป ทำจนเสร็จแล้วก็ให้ทางช่างเทศบาลเขามาวางผังให้ จากนั้นก็ให้ชาวบ้านเขามาจอง ขอหน้าดินเขาช่องละสองพันบาท ทำถนน ทำตลาด ส่วนกลางมีที่จอดรถ ทุกวันนี้ค้าขายกันเจริญรุ่งเรือง อยู่มาจะร่วม ๓๐ ปี เกิดไฟไหม้ตลาดหมดเลย เมื่อก่อนนั้นสร้างด้วยไม้หลังจากไฟไหม้ก็ต้องมาเริ่มสร้งใหม่ ทีนี้สร้างเป็นตึก โดยให้บริษัทรับก่อสร้างเขามาประมูลสร้าง เขามาทำให้หมดทุกอย่าง พอเสร็จแล้วก็ให้ประชาชนเขาเซ้ง ก็อยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้
ตอนนั้นอาตมาคิดแค่ว่าขอให้มีอาหารเลี้ยงพระเลี้ยงเณร ไม่ได้คิดถึงผลกำไรจากตลาด ตอนนั้นก็เก็บจากแม่ค้าแค่วันละบาทเดียว ก็ได้เงินบำรุงมาแต่ก็ได้น้อย ทีนี้พระผู้ใหญ่ท่านก็ว่าให้เรียกมาประชุมใหม่ เดี๋ยวนี้บาทหนึ่งให้เด็กมันก็ไม่เอาแล้วท่านว่า อาตมาก็บอกกับท่านว่า ไม่ได้คิดแบบพ่อค้า แต่ก็ไม่เถียงท่าน ที่ท่านพูดก็ถูกต้องแต่ชาวบ้านในถิ่นนี้เขาก็ให้มาทำบุญที่นี่ตลอด บางปีเรามีบุญนั่นบุญนี่ชาวบ้านเขาก็ร่วมบริจาคเป็นพันเป็นหมื่น แพงกว่าค่าเช่าอีก อาตมาก็อธิบายให้ท่านฟัง ท่านก็เข้าใจ งั้นไม่ต้องพูดไม่ต้องประชุมก็อยู่กันมาจนปัจจุบันสัญญา ๓๐ ปี
ทุกวันนี้ทั้งอำเภอบางระกำแล้วก็ที่ข้างเคียงก็เจริญหมด ก็พัฒนามาตลอด ต้องการอย่างเดียวคือ ขอให้มีอาหารเลี้ยงพระเณร แล้วก็ต้องการพัฒนาตัวอำเภอให้เจริญเท่าอำเภออื่น แต่ก็ยังด้วยเรื่องการพัฒนาวัด วัดต่างๆในเขตอำเภอนี้เป็นวัดล้มลุก ชาวบ้านยากจน วัดก็ยังไม่เจริญ ล้มลุกๆตลอด ไม่เหมือนอำเภออื่นเขาที่มีวัดใหญ่มั่นคง
อานุภาพแห่งการอธิษฐาน
สำหรับการสร้างโบสถ์สร้างโรงเรียน สร้างศาลามันอยู่ที่จิตอธิษฐาน บอกกับท่านว่า ทวยเทวดาอารักษ์ที่ข้าพเจ้ามีความบริสุทธิ์ตั้งแต่บวชมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจรักษาสมบัติของพระพุทธศาสนาอันเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า สิ่งใดที่ควรจะสร้างก็อยากจะสร้าง เมื่อสร้างแล้วก็อย่าให้เดือดร้อน เมื่อสร้างแล้วมีความดำริอย่างไรก็ให้มีเสียงสนับสนุน อย่าให้ขัดข้องเงินทองทั้งหลาย ประชาชนให้การสนับสนุน ก็อธิษฐานขอให้สร้างโดยสำเร็จ ปราศจากอุปสรรคทั้งหลายกีดขวาง ก็เริ่มก่อสร้างมุ่งมั่นตั้งใจทำมา เมื่อก่อนกุฏิอยู่ริมน้ำทั้งหมดแล้วมันก็พัง อาตมาก็รื้อมาสร้างใหม่สร้างเป็นไม้หมดเลย ต่อมาก็มาถมดินน้ำท่วมทุกปีไม่มีเว้น จะท่วมมากบ้างน้อยบ้างต้องพายเรือ ต่อมาอาตมาก็ไปหาเจ้าภาพที่เขามีรถมีอะไรมาช่วยถมดิน กุฏิเก่าที่รื้อมาสร้างสองหนเพราะครั้งแรกสร้างเป็นไม้อยู่มาได้เกือบ ๒๐ ปี พื้นมันก็เริ่มต่ำติดดินก็ต้องรื้อสร้างเป็นตึกใหม่ วัดก็ล้มลุกไปแบบนี้ถึงไม่เป็นหลักฐาน เพราะต้องสร้างใหม่ โบสถ์นั้นก็ชรามากแล้ว แล้วก็อยู่ใกล้ริมน้ำมาก คิดว่าอนาตคข้างหน้าถ้าเราไม่ทำก็ลำบาก เพราะมันแตกร้าวโดนน้ำท่วมทุกๆ ปี
ตอนแรกคิดว่าจะหยุดสร้างเพราะอาตมาก็อายุมากแล้ว ๘๒ ปีแล้ว หยุดสร้างเถอะ มาคิดอีกทีถ้าเราไม่สร้างแล้วใครจะมาสร้าง ทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังจะสร้างได้รึไงก็ยังไม่รู้ อนาคตไม่แน่ แต่เราพอมีกำลังสร้างได้ก็ควรจะสร้าง สร้างรักษาสมบัติของพระพุทธเจ้าเอาไว้ จะได้รุ่งเรืองก็เลยลงมือสร้าง
การอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล
สำหรับเรื่องการปลุกเสกเวลาไปปลุกเสกแต่ละที่ อาตมามีหลักวิชาการอยู่อย่างหนึ่ง อย่างที่เกจิอาจารย์บางองค์เคยพูดและสนทนาปรารภว่า การปลุกเสกนั่งแป๊บเดียวก็ได้แล้ว ท่านว่าอย่างนั้น แต่อาตมาก็ไม่ได้เชื่ออะไรมาก เพราะเราเป็นปุถุชนไม่ได้สำเร็จอรหันต์ ฉะนั้น เราไปสถานที่ใดๆ ก็ดี เราต้องทำความเคารพต่อสถานที่นั้น อย่างครูบาอาจารย์ เจ้าที่เจ้าทางที่ท่านครอบคลุมวัดวาต่างๆ เสร็จแล้วก็อาราธนาครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เราเคารพท่าน อย่างสมเด็จพระพุฒาจารย์โต หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อเงิน หลวงปู่บุญ ฯลฯ ที่เราเคารพก็เชิญท่านให้ถ่ายทอดพลังให้เรา เชิญครูบาอาจารย์เข้ามาสิงในร่างกายแล้ว เราก็ปลุกเสกตัวเราเอง ตั้งรูปตั้งนาม หมายความว่าเกิดศรีษะเกิดรูป เกิดนามวันนี้วัดนี้เขาต้องการปฏิสังขรณ์วัดวาอารามทำวัตถุมงคลสิ่งของต่างๆ ที่ปลุกอยู่หน้าปะรำพิธีข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานด้วยความเมตตา ขอตั้งพลังอำนาจจิตแล้วก็อธิษฐานจิตแผ่ลงไปในวัตถุมงคลสิ่งของเหล่านี้ ขอให้เกิดมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่สามารถจะไปคุ้มครองประชาชนอะไรต่างๆ ก็อธิษฐานไป เสร็จแล้วอาตมาจะขอนั่งในพิธีนี้เลย ๓ ชั่วโมง ถ้า ๔ ชั่วโมงก็ ๔ ชั่วโมง เต็มเลยไม่ถอย
ที่บอกมานี่ อาตมาไม่ได้เรียนมาจากไหน อาศัยความสำนึกที่ค้นคว้าในตำราต่างๆ ตำราบางอย่างท่านบอกว่าชั่วอึดใจ ๓ คาบ ๓ อึดใจ บางอาจารย์นั่งหน้าปุ๊บพอพระสวดได้ครึ่งท่านก็ถอนสมาธิ พอท่านเริ่มสวดก็นั่งใหม่อันนี้คนเราปุถุชนควรฝึกสมาธิหรือฝึกจิตจะคุมเข้าถึงขั้นนี้ได้นี่จะต้องชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมงไปแล้ว จะลึกลงไปได้กรรมตัดกิเลสทั้งหลาย กิเลสสารพัดจิปาถะ เราต้องล้างออกไปให้กายสะอาด วาจา จิตให้สะอาดผ่องหมดไม่มีเหล่านี้ทั้งหมด ล้างแล้วมารถึงจะไม่เกิด แล้วก็ขอพญามารทั้งหลายทั้งห้านี้หลีกทางให้ข้าพเจ้าได้เดินทางเข้าสู่สมาธิ ฌาณสมาบัติ ขอแหวกทางขอตั้งจิตอธิษฐานปลุกเสกสิ่งของนี้ ต้องทำเป็นขั้นตอนถึงจะเกิดพลัง คนเราเป็นปุถุชนไม่ได้เข้าปุ๊บจะได้ฌาณนะ ถ้ามีอิทธิฤทธิ์ทางฌาณก็ค่อยว่าไปอย่าง
สำหรับ เจ้าประคุณสมเด็จโต จิตท่านสั่งได้แล้วเพราะท่านถึงขั้นฌาณทั้งหลาย ไม่มีความทะเยอทะยานไม่มีชาติภพ อยากได้อย่างนั้นอย่างนี้ ท่านก็ไม่มี ท่านละได้อย่างนี้ก็เป็นโสดาบันแล้ว อย่างหลวงพ่อเงินนี่จิตท่านสั่งได้ นั่งคุยเฉยๆ แต่จิตท่านสั่งแล้วมีคนมาท่านอยากให้ท่านทำน้ำมนต์ให้ ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยจนคนที่มาบอกว่าหลวงพ่อทำน้ำมนต์ให้สักทีเถอะ ท่านก็บอก เออทำแล้ว เอาไปสิ เขาก็คิดว่า เอ..ก็นั่งคุยกันอยู่ไม่เห็นทำอะไรเลย พอท่านบอกให้เอาไปก็คว้าเอาแบบไม่พอใจ พอไปถึงข้างทางก็สาดพรึบ น้ำมนต์ก็ไม่หกเพราะมันแข็งแล้วนี่ หลวงปู่เงินนี่อาตมาไม่ได้เข้าหาท่าน เพราะตอนนั้น อาตมาเพิ่งบวชมาใหม่ยังไม่ได้สนใจเกจิอาจารย์อะไรมากมาย ก็เลยพลาดโอกาส แต่ก็เจอหลวงพ่อปุย วัดปากลัด อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ที่เป็นลูกศิษย์ท่าน ก็อาศัยได้หลักข้อปฏิบัติของท่านนำมาปฏิบัติโดยมากหลักวิชาจริงๆ เรื่องนั่งหรือกสิณก็อาศัยหลักในวิชาเรียนเป็นหลักปฏิบัติ บางทีก็นั่งฝึกเพ่งเมฆ อากาศดีๆ เช้าๆ หรือเย็นๆ นี่มันจะลอยขาวเป็นก้อนๆ เราก็หาก้อนพอเหมาะๆ แล้วก็นั่งเพ่งให้ละลาย ให้ร้อน บางก้อนก็ละลายแวบไป บางก้อนใหญ่หน่อยก็นานหน่อยก็ใช้วิธีฝึกแบบนี้เป็นวิธีฝึกจิต
สิ่งใดในโลกนี้ล้วนไม่มีของเรา
ส่วนเรื่องข้อคิดก็อยากจะฝากว่า ในยุคปัจจุบันนี้ถ้าหวนกลับไปถึงอดีตสักหน่อยนำมาทบทวนเราจะได้ข้อคิดที่สอนตัวเราเองได้ดีมาก เพราะอดีตนั้นมันไม่มีอะไรเหลือแล้ว เหมือนของเสียที่เราทิ้งไปแล้ว เก็บอะไรมาไม่ได้เลยมันเสียไปหมด เสียทั้งชีวิตกาลเวลา วัน เดือน ปี อะไรต่างๆ ที่เราได้มามันหมดไป ที่บิดามารดาเราให้มาหมดไปแล้ว ไม่มีแล้ว แต่ยังมีปัจจุบันกับอนาคต ปัจจุบันคือเป็นวันทำกำไรให้อนาคต อย่างวันนี้เราได้กำไรเท่าไหร่มันก็เป็นผลได้ในอนาคต ทีนี้อนาคตเราก็ไม่ต้องคำนึงถึงมัน เพราะมันได้กำไรจากปัจจุบัน แต่ปัจจุบันเราไม่ทำ อนาคตในวันข้างหน้าเราจะได้อะไรไป ก็ไม่มี มันก็ได้ในปัจจุบันที่ราอยู่ในวันนี้ หลักของอาตมาก็คิดอย่างนี้ ไม่มีอะไร สมบัติต่างๆ เป็นของเปลี่ยนกันชมแลกกันชม เราจากไปแล้วก็เป็นของคนอื่น ไม่มีอะไรทั้งสิ้นใหญ่ที่สุด เล็กที่สุดก็เป็นสมบัติของคนอื่น ไม่ได้เป็นของเราเลยอันนี้แหละที่หลวงพ่อบวชมาจนถึงปัจจุบัน เงินสักแสนที่ฝากธนาคารจึงไม่มี นึกถึงอดีตเรายากจนไง ในอดีตนั้นเราไม่เคยทำอะไรมาเลย ปัจจุบันชาตินี้ถ้าเราไม่ทำเราก็จะไม่มีอะไร จึงคิดพอมีโอกาสก็พยายามกอบโกยทำ ถ้าหลวงพ่อไม่ทำโบสถ์นี้ก็ไม่คิดจะทำอะไรแล้วเพราะ ๘๔ พรรษา แล้วจะอยู่อีกกี่ปีก็ไม่แน่นอนแล้ว พรรษา ๖๘ พรรษาแล้ว ฉะนั้นตอนนี้เรามีโอกาสก็ทำให้ดีที่สุด
งานปกครอง
หลวงปู่แขก ปภาโส เมื่อบวชแล้วได้มีความเจริญงอกงามในพุทธศาสนา เมื่อเข้าสู่เถรภูมิแล้ว ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ พระอุปัชฌาย์ พระครูพุทธิสุนทร เจ้าอาวาสวัดสุนทรประดิษฐ์ เจ้าคณะแขวงตำบลบางระกำได้มรณภาพลง ท่านก็ได้รับการแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ในระดับปกครองจังหวัดพิษณุโลก ให้ทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาสวัดสุนทรประดิษฐ์ ในปีรุ่งขึ้น พ.ศ. ๒๕๐๑ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ในปีเดียวกันนี้ พร้อมกับการแต่งตั้งให้ท่านทำหน้าที่เจ้าสำนักเรียนของวัด ในปี พ.ศ.๒๕๐๓ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
ในด้านสมณศักดิ์
หลวงปู่แขก ปภาโส ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นลำดับดังนี้
ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์แต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่พระครูประภาสธรรมาภรณ์
ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูสุนทรธรรมประภาส
ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะสามัญ ในราชทินนามที่ พระมงคลสุธี
นับว่าหลวงปู่แขก ปภาโส (พระมงคลสุธี) เจ้าอาวาสวัดสุนทรประดิษฐ์ มีความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระพุทธศาสนา เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนโดยทั่วไป หลวงปู่ได้เอาใจใส่ต่อการพัฒนาวัดให้มีความเจริญมาโดยตลอด ได้ก่อสร้างถาวรวัตถุเอาไว้หลายอย่าง เช่น อุโบสถ ศาลา กุฏิ เมรุ เป็นต้น

 

เหรียญเจริญพร เนื้ออัลปาก้า หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2554 ปีเถาะนี้ "หลวงปู่แขก" เทพเจ้าแห่งบางระกำ (ศิษย์สายหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก สุดยอดพระเกจิสายเหนือที่มาแรงที่สุด ได้เมตตาออกวัตถุมงคล "รุ่นเจริญพร" เพื่อมอบให้ลูกศิษย์ลูกหานำไปบูชา ซึ่งหลายๆ รุ่นมีประสบการณ์หลากหลายเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวอัศจรรย์จากปากของลูกศิษย์ถ่ายทอดไว้ให้เล่าขานกันเกี่ยวกับบุญฤทธิ์ของหลวงปู่แขก ที่มักปรากฏปาฏิหาริย์แปลกๆ ในงานปลุกเสกพระเครื่องให้เห็นอยู่เสมอๆ พิธีปลุกเสกตรงกับวันเสาร์ที่ 14 พ.ค. 2554 ซึ่งตรงกับวันไหว้ครูของหลวงปู่แขก
วัตถุมงคลของท่านมีประสพการณ์เด่นทางโชคลาภ เมตตามหานิยม หวยออกอายุหลวงปู่มาสองปีแล้ว
1.ฉลองอายุ 87 (ปี 53) หวยออก 387 (ออกหลังฉลองอายุเพียงสองวัน)
2.ฉลองอายุ 88 (ปี 54) หวยออก 088 (ออกก่อนฉลองอายุสิบกว่าวัน) ศิษย์มีโชคแก้จนกันได้หลายราย
"เหรียญเจริญพร เนื้ออัลปาก้า" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 2,999 เหรียญ​

บูชา 1,800.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก รุ่นเจริญพร เนื้อทองแดง หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

"รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก รุ่นเจริญพร" ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2554 ปีเถาะนี้ "หลวงปู่แขก" เทพเจ้าแห่งบางระกำ (ศิษย์สายหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก สุดยอดพระเกจิสายเหนือที่มาแรงที่สุด ได้เมตตาออกวัตถุมงคล "รุ่นเจริญพร" เพื่อมอบให้ลูกศิษย์ลูกหานำไปบูชา ซึ่งหลายๆ รุ่นมีประสบการณ์หลากหลายเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวอัศจรรย์จากปากของลูกศิษย์ถ่ายทอดไว้ให้เล่าขานกันเกี่ยวกับบุญฤทธิ์ของหลวงปู่แขก ที่มักปรากฏปาฏิหาริย์แปลกๆ ในงานปลุกเสกพระเครื่องให้เห็นอยู่เสมอๆ พิธีปลุกเสกตรงกับวันเสาร์ที่ 14 พ.ค. 2554 ซึ่งตรงกับวันไหว้ครูของหลวงปู่แขก
"รูปเหมือนปั๊มรุ่นแรก รุ่นเจริญพร เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จำนวนสร้าง 1,999 องค์ ใต้ฐานอุดเทียนชัยพิธีเสาร์ 5 มหามงคล และอุดผงพุทธคุณนะเงินไหลมา ตะกรุดจารมือและเกษาหลวงปู่ ประสพการณ์เด่นในทางโชคลาภ แคล้วคลาด เมตตามหานิยม​

บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 16 ชั้น รุ่นแรก รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์
หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 16 ชั้น รุ่นแรก รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 3,000 องค์

บูชา 1,200.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์เล็ก รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์เล็ก รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 3,000 องค์

บูชา 1,200.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 3,000 องค์

บูชา 1,500.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 16 ชั้น รุ่นแรก รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 ตะกรุดเงิน หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 16 ชั้น รุ่นแรก ตะกรุดเงิน รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 999 องค์

บูชา 1,800.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์เล็ก ตะกรุดเงิน รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์เล็ก ตะกรุดเงิน รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 999 องค์

บูชา 1,800.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดเงิน รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดเงิน รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 999 องค์

บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดทองคำ รุ่นเลื่อนมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ ตะกรุดทองคำ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 299 องค์

บูชา 2,500.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์เล็ก ตะกรุดทองคำ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ ์

หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 9 ชั้น รุ่นแรก พิมพ์เล็ก ตะกรุดทองคำ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 299 องค์

บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

พระสมเด็จ 16 ชั้น รุ่นแรก ตะกรุดทองคำ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขกได้จัดสร้าง "พระสมเด็จรุ่นแรก" ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 โดยท่านได้ลบผงพุทธคุณนะเงินไหลมา พร้อมเสกและจารตะกรุดทองคำ-เงิน บรรจุในพระสมเด็จรุ่นแรกรวม 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 9 ชั้นใหญ่, 9 ชั้นเล็ก และพิมพ์ 16 ชั้น ซึ่งมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายชนิด อาทิ แร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์เขาหลวง เขาวังทอง แร่ 7 ลูกจากพิจิตร, ผงฝักไม้ดำ-ฝักไม้ขาว ในกรุที่ท่านเก็บรักษาไว้ พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"พระสมเด็จ 16 ชั้น รุ่นแรก ตะกรุดทองคำ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 299 องค์

บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง EMS.50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID Line:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1 ​

 

สิงห์คู่เสือ เนื้อสัมฤทธิ์ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) หลวงปู่ได้จัดสร้าง "สิงห์คู่เสือ" เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"สิงห์คู่เสือ เนื้อสัมฤทธิ์ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 499 ชุด พุทธคุณเด่นเรื่องเมตตา แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอำนาจ มหาบารมี ครับ

บูชา 2,500.-บาท+ค่าจัดส่ง (EMS.) 50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID LINE:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1​

 

เหรียญรูปเหมือนโต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 เนื้อทองแดง รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) หลวงปู่ได้จัดสร้าง "เหรียญรูปเหมือนโต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53" จัดสร้างเพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม

"เหรียญรูปเหมือนโต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 เนื้อทองแดง" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 1,999 ชุด ตอกโค๊ด มีประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์โด่งดังในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมตตามหานิยม และความเจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่การงาน โดยเฉพาะในเรื่องการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งเลื่อนขั้นเลื่อนเงินเดือน เลื่อนฐานะการเงินให้ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนเป็นที่เลื่องลือทั่วไป​

บูชา 1,800.-บาท+ค่าจัดส่ง (EMS.) 50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID LINE:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1​

 

เหรียญรูปเหมือนโต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 เนื้ออัลปาก้า รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์
หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหา ราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) หลวงปู่ได้จัดสร้าง "เหรียญรูปเหมือนโต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53" เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 กทิงวัน) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) ภายในพระอุโบสถวัดบางระกำ โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง
พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม หลังเสร็จพิธีได้ทำลายบล็อกเหรียญรูปเหมือนหลังโต๊ะหมู่รุ่นแรก
"เหรียญรูปเหมือนโต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53 เนื้ออัลปาก้า" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 1,999 ชุด ตอกโค๊ด มีประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์โด่งดังในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมตตามหานิยม และความเจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่การงาน โดยเฉพาะในเรื่องการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งเลื่อนขั้นเลื่อนเงินเดือน เลื่อนฐานะการเงินให้ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนเป็นที่เลื่องลือทั่วไป

บูชา 2,200.-บาท+ค่าจัดส่ง (EMS.) 50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID LINE:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1​

 

เหรียญรูปเหมือนโต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 เนื้อนวะโลหะ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหา ราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) หลวงปู่ได้จัดสร้าง "เหรียญรูปเหมือน โต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53" เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 กทิงวัน) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) ภายในพระอุโบสถวัดบางระกำ โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง
พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม หลังเสร็จพิธีได้ทำลายบล็อกเหรียญรูปเหมือนหลังโต๊ะหมู่รุ่นแรก
"เหรียญรูปเหมือนโต๊ะหมู่บูชา รุ่น 1 รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53 เนื้อนวะโลหะ" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 999 ชุด ตอกโค๊ดและมีหมายเลขกำกับทุกองค์ มีประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์โด่งดังในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมตตามหานิยม และความเจริญรุ่งเรืองในตำแหน่งหน้าที่การงาน โดยเฉพาะในเรื่องการเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งเลื่อนขั้นเลื่อนเงินเดือน เลื่อนฐานะการเงินให้ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนเป็นที่เลื่องลือทั่วไป

บูชา 2,800.-บาท+ค่าจัดส่ง (EMS.) 50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID LINE:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1​

 

มีดหมอเหล็กน้ำพี้ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ไตรมาส 53 หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) หลวงปู่ได้จัดสร้าง "มีดหมอเหล็กน้ำพี้" เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม

"มีดหมอเหล็กน้ำพี้ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53" ด้ามไม้แกะเป็นรูปเสือ ด้ามและปลอกมีดทำจากไม้ชิงชัง ในด้ามมีดอุดผงมหาอำนาจราชสีห์พยัคฆ์ แร่ศักดิ์สิทธิ์ ๕ สถาน ๕ จังหวัด ยาว 2.5 นิ้ว ตอกโค๊ด สร้างเพียง ๑๐๘ ด้ามครับ ​

บูชา 3,500.-บาท+ค่าจัดส่ง (EMS.) 50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID LINE:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1​

 

เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง เนื้อนวะโลหะ หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) หลวงปู่ได้จัดสร้าง "เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง" เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง เนื้อนวะโลหะ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 299 ชุด ตอกโค๊ด จารหัวใจเสือ

บูชา 2,000.-บาท+ค่าจัดส่ง (EMS.) 50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID LINE:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1​

 

เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง เนื้อทองผสม หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) หลวงปู่ได้จัดสร้าง "เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง" เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง เนื้อทองผสม รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 999 ชุด ตอกโค๊ด จารหัวใจเสือ

บูชา 1,500.-บาท+ค่าจัดส่ง (EMS.) 50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID LINE:kobsub
กอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1​

 

เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง เนื้อสัมฤทธิ์ หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์

หลวงปู่แขก พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังและมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป หลวงปู่แขก เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญว่า มีพลังจิตสูง ปลุกเสกวัตถุมงคลครั้งใดเป็นต้องมีเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ และวัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์แบบครบเครื่อง เมื่อมีการสร้างวัตถุมงคลที่ไหนมักจะมีรายชื่อหลวงปู่แขกไปร่วมอธิษฐานจิตอยู่เสมอ นอกจากนี้ ท่านยังมีประสบการณ์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย อาทิ ปลุกเสกน้ำมนต์จนโอ่งแตกที่จังหวัดพิจิตร การลอยตัวลงจากอาสนะขณะปลุกเสกน้ำมนต์ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา และการปลุกเสกประจุพลังยกวัตถุมงคลที่หนักกว่า 50 ก.ก. ให้ลอยเหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว, พิธีเททองสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ค่ายนเรศวรมหาราช ขณะที่มีการเป่าแตรเททอง เกิดปรากฏการณ์คนนับพันเห็นว่า "หลวงปู่แขกลอยได้" ที่สำคัญ ท่านยังเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสกพระสมเด็จรุ่น 100 ปี วัดระฆังฯ ปี 2515
ในไตรมาสปี 2553 (วันเข้าพรรษา-วันออกพรรษา) หลวงปู่ได้จัดสร้าง "เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง" เพื่อเป็นที่ระลึกในงานฉลองสมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นสามัญในราชทินนาม "พระมงคลสุธี" ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2522 พิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 (วันที่ 19 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9) ซึ่งโบราณาจารย์ถือว่าเป็นวันดีและเข้มขลัง หลังจากนั้นได้อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดไตรมาส (3 เดือน) โดยในวันที่ 23 ต.ค.2553 ตรงกับวันออกพรรษา และวันปิยมหาราช ซึ่งถือว่าเป็นวันมหามงคลท่านจะปลุกเสกสมโภชอย่างเข้มขลัง พิธีเริ่มในเวลามงคลฤกษ์ ๐๙.๑๙ น. จัดพิธีบวงสรวงชุมนุมเทพ เทวา เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ จากนั้นเวลา ๑๓.๑๙ น. หลวงปู่แขกจุดเทียนชัยต่อหน้าพระพุทธมหาลาภศักดิ์สิทธิ์ พระประธานในโบสถ์ และอัญเชิญคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ คุณพระสงฆ์ และคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านมาร่วมประสิทธิเมในวัตถุมงคลรุ่นนี้ เพื่อให้บังเกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม
"เสือหล่อพิมพ์พยัคฆ์ยอดธง เนื้อสัมฤทธิ์ รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ไตรมาส 53" หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ จัดสร้างจำนวน 499 ชุด ตอกโค๊ด จารหัวใจเสือ

บูชา 1,800.-บาท+ค่าจัดส่ง (EMS.) 50.-บาท
สอบถามได้ที่เบอร์ 081-661-9989, 083-956-6942
Email : kobsub@hotmail.com
ID LINE:kobsub
นายกอบทรัพย์ สมบูรณ์พร
ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา นครปฐม
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 519-2-62901-1​