หลวงปู่เมฆ สฺจจาสโภ (สิทธิราชา) ขลังที่ยังไม่สิ้น

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 3 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    โดย...กฤปาจารย์
    “การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่สร้างในวันเดียว ต้อง
    ใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทนเสียสละ แต่ที่สำคัญคือความอดทน คือ
    ไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้น ทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนไม่ได้ผล ไม่
    ดังดูมันครึ ทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดี ไม่ครึ ต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะ
    เห็นผลแน่นอน ในความอดทนของตน ในความเพียรของตน ต้องถือว่าวันนี้เรายังทำไม่
    ได้ผล อย่าไปท้อ บอกว่าวันนี้เราทำแล้วก็ไม่ได้ผล พรุ่งนี้เราจะต้องทำอีก วันนี้เราทำ
    พรุ่งนี้เราก็ทำ อาทิตย์หน้าเราก็ทำ เดือนหน้าเราก็ทำ”
    พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่ นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ใน
    โอกาสเข้าเฝ้า วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๖
    มีหลายท่านอยากให้ผมอัญเชิญพระบรมราโชวาท มาเป็นมิ่งขวัญ มาเป็น
    กำลังใจ เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สำหรับท่านที่กำลังสงสัย กำลังท้อถอยในการ
    ทำความดี พระบรมราโชวาทนี้ คงเป็นน้ำทิพย์ปลอบประโลมใจให้สร้างความเพียร
    ความอดทน ความเสียสละ เป็นการเดินตาม “รอยเท้าพ่อ”
    ผมเป็นคนชอบสีดำ แม้บางคนจะมองว่าสีดำเป็นตัวแทนแห่งความชั่วร้าย ที่ผม
    ชอบ เพราะสีดำนั้นซื่อสัตย์ไม่หลอกใคร ดำก็เป็นดำไม่มีดำแก่ดำอ่อน ถ้าดำอ่อนเราเรียก
    “สีเทา”
    สีขาว เมื่ออยู่โดดๆไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบ ก็ยังดูเป็นสีขาวอยู่ ทั้งที่เป็น
    ขาวมอๆ ที่เห็นว่าขาวๆใช่หาบริสุทธิ์เสมอไปไม่
    เมื่อผมชอบสีดำ ผมจึงชอบคืนข้างแรม เมื่อฟ้ามืดดำ ก็จะเห็นแสงดาวเด่นชัด
    ระยิบระยับงามตา ผมเป็นคนชอบดูดาว แม้ไม่ใช่ขงเบ้งก็ตามที เมื่อผมชอบดูดาว ผม
    จึงชอบสะสมสะเก็ดดาวตก ผมไม่ชอบดูพระจันทร์ เพราะดูที่นามสกุลของผมก็ได้ ก็ดู
    มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ไม่ต้องแหงนหน้าให้เมื่อยคอ
    หลายท่านที่รู้จักมักจะกล่าวหาว่าผมเป็นคน”ปากจัด” บางคนก็ว่าอย่างไม่เกรง
    ใจว่า “ปากหมา” ปากปีจอ ชอบกัด ชอบเหน็บแนม “ แนะแหน” ไปทั่ว แม้เจ้านายก็
    ไม่เว้น บางท่านเคืองพาลจะไม่เผาผีกันก็มี เมื่อมาเขียนหนังสือนิสัยก็ไม่ได้เปลี่ยน ผมก็
    เป็นคนของผมอย่างนี้ เห็นอะไรไม่ถูกไม่ควรก็จะบอกกล่าว ก็พูดกันตรงๆไม่อ้อมค้อม
    แม้จะไม่ถูกใจใคร แต่ยึดถือความถูกต้อง อย่างนี้ควรจะเรียกปาก “สร้างสรรค์” เสีย
    มากกว่า
    คุยกับ น้องต่อ "รณธรรม ธาราพันธ์" ไม่รู้ว่าชมหรือด่ากันแน่ กล่าวหาว่าตัว
    อักษรของผมติดใบมีดโกนกรีดไปทั่ว แล้วน้องต่อก็หัวเราะ ถามว่าไม่กลัวหรือ? ผมมัน
    เลือดฟันเฟืองเก่า ก็นึกถึงคำกล่าวของท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ เมื่อถูกขู่ “กูไม่กลัวมึง”
    “นั่นอาจารย์คึกฤทธิ์นะพี่” “ เออ อย่างน้อยก็มี ฤ เหมือนกันละวะ”
    ใครที่คิดจะทำร้ายผมก็ใจเย็นๆได้ครับ ผมนะฆ่าก็ตาย ไม่ฆ่าก็ตาย อยู่ได้
    ไม่กี่ปีหรอกครับ หมอดูเขาฟันธงว่าผมจะอยู่ได้อีก ๒ ปี เดี๋ยวก็รู้ว่า ธงจะขาดหรือไม่
    เห็นไหมครับตั้งแต่ย่อหน้าแรกมาถึงตอนนี้ ผมกรีดไปหลายคนแล้ว
    มีผู้จดหมายร้องเรียนไปยังคุณอำพล เจน ว่าไปบูชาพระนางพญาทิพย์
    สุวรรณ ที่วัดเกาะสุวรรณาราม แล้วได้รับการต้อนรับที่ไม่ดี พระก็ไม่ได้แล้วยังเสีย
    อารมณ์ เสียศรัทธา พาลจะไม่อยากเข้าวัดต่อไปอีก ผมไม่ทราบท่านไปพบอะไรเข้า
    ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่รายแรกที่เจอ จนผมต้องเอาพระที่มีอยู่มอบให้ไปแทน จนพระที่ผมมีอยู่หมด
    เกลี้ยง หลังจากหลวงพ่อแม้น มรณภาพผมก็ไม่ได้เข้าวัดเลย และคนในวัดผมก็ไม่รู้จัก
    ใคร นอกจากหลวงพ่อองค์เดียว เมื่อรู้ว่ามีของดีจึงแนะนำไป ทราบว่า ทั้งพระนางพญาฯ
    พระสมเด็จฯ ตะกรุด และปลัดขิก ของหลวงพ่อแม้น หมดไม่มีเหลือแล้ว
    การจะไปวัดหรือไปหาครูบาอาจารย์ท่านใด บางครั้งก็ต้องดูจริตของผู้ที่เราไป
    พบด้วยว่าเป็นเช่นใด จะได้เตรียมตัวเตรียมใจ มิฉะนั้นเราก็จะเกิดทุกข์จากโมหะ เมื่อ
    ครั้งหลวงพ่อคูณ เป็นที่รู้จักกันใหม่ๆ ผู้ที่ไปพบก็รับกันไม่ได้ ครั้นวันเวลาผ่านไปก็เข้า
    ใจว่า “กู” ของท่านหมายถึง “ ผม” หรือ “อาตมา” “ มึง” ของท่าน หมายถึง “โยม” หรือ
    “ท่าน” ก็กลายเป็นว่าหลวงพ่อคูณพูด กู มึง เพราะที่สุดในโลกไป
    ผมเองก็เคยกระเจิงออกจากวัดดังชายทะเล ขับรถไปเกือบ ๒๐๐ กิโลฯ เพื่อ
    เอาชานหมาก ๙ คำมาผสมพระตามคำสั่ง กลับโดนผรุสวาท “กูไม่ให้มึง ชานหมากใคร
    เค้าให้กันง่ายๆ กูให้มึง กูกินลงท้องดีกว่า” ผมโกรธมาหลายปี ไม่เคยเหยียบวัดนั้นอีก
    เลย พร้อมกับเสียงบ่นตามหลังมา “ครูบาอาจารย์มันยังโกรธ” อัตตาในตัวผมสวนกลับ
    ไปว่า “ไม่ใช่อาจารย์กู” ขนาดหลวงตามหาบัว ชานหมากผมยังง้างออกจากปากท่านได้
    แล้วนี่เป็นใคร พระก็ทำให้ฟรีๆ
    ผมโกรธมาหลายปี จริตของคนไม่เหมือนกัน คิดได้อย่างนี้ ความโกรธก็คลาย
    หลวงพ่อบุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข อุบลราชธานี ก็เคยทำให้ผู้ที่เข้า
    นมัสการต้องผวา ด้วยคำตำหนิต่างๆนานา ถ้าเราเข้าใจว่าท่านสร้างเกราะป้องกันตัว
    ไม่ให้คนจำนวนมากมารบกวน เพื่อเอาเวลามาปฏิบัติธรรม เราก็จะสบายใจ
    รณธรรม ธาราพันธ์ เคยเล่าให้ฟังว่า มีหนุ่มโคราช ศิษย์หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    ผ่านไปเมืองอุบลฯ ก็แวะนมัสการหลวงพ่อบุญมี พ่อเงยหน้าหลังจากกราบท่านก็เจอ
    ของแข็ง ลอยมากระทบหัว ท่ามกลางความงุนงงของเจ้าตัว ผลก็แตกซิครับ เมื่อกลับ
    ไปโคราชก็ไปฟ้องหลวงพ่อพุธ เมื่อท่านตรวจแล้วก็ทราบว่าหนุ่มนั้นชะตาขาด หลวง
    พ่อบุญมีท่านทราบ ก็เลยแก้เคล็ดให้ อย่างนี้ก็คงโกรธกันไม่ลง ถ้าเป็นผมคงกลับไปให้
    ท่านปาหัวอีกสักที เผื่อจะได้หายโง่หายบ้าเสียบ้าง
    เรื่องของหลวงพ่อบุญมี โชติปาโล มี “ช็อตเด็ด” อีกมากฝากท่านอาจารย์ใหญ่
    อำพล เจน คนเมืองอุบลฯ ถ้านึกออกก็เขียนเล่าให้แฟนๆอ่านสักที
    เรื่องปากนี่ต้องยกให้หลวงปู่เมฆท่านละ กับวลีอมตะ “ของดีกูไม่มี กูมีแต่ค. .”
    ยังจำติดแน่นสองหู ไม่ได้ทะลุไปไหน คิดถึงทีไร ก็อมยิ้มทุกทีไป
    เรื่องเป่าหัวในงานพุทธาภิเษก ที่เคยเขียนถึง หลวงปู่เมฆท่านจะไม่เป่าให้ใคร
    เด็ดขาด จนกว่าจะเสร็จพิธี นั่นแหละค่อยมาเป่ากันท่านว่า “เจ้าภาพเขาจัดพิธีต้องลง
    ทุน ใช้เงินทองมากมาย เขาไว้ใจเรามาร่วมพิธี เราต้องทำให้เขาก่อน เอาพลังที่เตรียม
    มาใส่ในวัตถุมงคล ให้สมกับที่เขาไว้ใจเรา” จึงน่ายินดี ใครที่มีวัตถุมงคลที่หลวงปู่เมฆ
    เข้าร่วมพิธี ต้องมีพลังขลังของท่านอยู่เต็มเปี่ยมแน่นนอน
    พิธีพุทธาภิเษกครั้งสุดท้ายที่หลวงปู่เมฆ เข้าร่วมคือพิธีที่วัดดวงแข ซึ่งท่าน
    กับหลวงปู่วิเวียนรักใคร่นับถือกัน หลวงปู่ต้องนั่งรถเข็นเพราะกำลังอยู่ในช่วงอาพาธ
    เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นพิธีใหญ่ มีคณาจารย์ ๖๐ รูป ซึ่งระบือนามใน
    ยุคนั้น ร่วมนั่งปรก ในพิธีครั้งนั้นหลวงปู่ได้ออกจากพิธีเป็นรูปสุดท้าย เรียกว่าเสกทิ้ง
    ทวนกันละ ใครมีพระรุ่นนี้อยู่ในครอบครอง รับรองว่าดีแน่
    เมื่อปี ๒๕๓๐ หลังจากกลับจากร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบวรนิเวศน์ฯ หลวงปู่
    เมฆสั่งให้ตามลูกศิษย์ผู้หนึ่งมาพบทันที เมื่อลูกศิษย์ผู้นั้นมาพบ หลวงปู่เปิดฉากทันที
    “ต่อไปนี้มึงไม่ต้องทำพระมาให้กูอีกแล้ว” “ทำไมละหลวงปู่” ถามงงๆ
    “มึงไม่ไว้ใจกู เอาพระของกูไปเข้าพิธีที่วัดบวรฯทำไม?” “หลวงปู่รู้?”
    “เออซิวะ ของๆกูทำไมกูจะไม่รู้” ของที่อยู่ในพิธีคลุมผ้าขาวไว้ เป็นเหรียญรูป
    เหมือนหลวงปู่เมฆ ด้านหลังเป็นรูปฤาษี ผู้สร้างปรารถนาดีเพื่อเพิ่มความเข้มขลัง จึง
    นำไปฝากพิธี นี่แหละเสือที่ไม่ยอมขอเนื้อใครกิน แต่ยอมสละเนื้อของตัวให้
    หลวงพ่อสวัสดิ์ แห่งสำนักเม้าสุขา ชลบุรี ท่านจะปฏิเสธทุกครั้ง ที่มีผู้มาขอให้
    ท่าน “ประสิทธิ์” วัตถุมงคลของท่าน ที่บูชามา “ของทุกอย่างได้ทำมาอย่างดีแล้ว ถ้าไม่
    เชื่อใจกัน ไม่ต้องเอาไป” อหังการเสียไม่มี
    มีหลายท่านสงสัยเรื่องสรรพคุณของ “ไม้เขยตาย” ซึ่งมีอยู่หลายตำนาน ตาม
    แต่ละท้องถิ่นก็เล่าๆ ต่อกันมา แต่ก็คล้ายๆกัน ทางแม่กลองเรียก “ ไม้เขยตาย แม่ยาย
    เป็น”
    แต่หลวงปู่เมฆท่านเรียก “ ไม้เขยตาย แม่ยายตอแหล” ท่านเล่าว่า แม่ยายกับ
    ลูกเขย ออกไปทำนา ระหว่างทางลูกเขยถูกงูเห่ากัด พิษเข้าหัวใจเลยตาย แม่ยายจะ
    แบกศพลูกเขยกลับบ้านไม่ไหวเลยตัดกิ่งไม้ที่อยู่บริเวณนั้น มาคลุมศพลูกเขยไว้
    แล้วกลับบ้านไปตามคนมาช่วยเอาศพลูกเขยกลับบ้าน ยางกิ่งไม้ที่แม่ยายตัดคลุมศพ
    ลูกเขย ก็ไหลเข้าปากลูกเขย ผลลูกเขยก็กลับฟื้นขึ้นมา แม่ยายเมื่อตามคนมาช่วยก็นั่ง
    เกวียนมา แต่พอมาถึงเห็นลูกเขยฟื้น ชาวบ้านเลยหาว่าแม่ยายโกหก เลยเรียกไม้นั้นว่า
    “ ไม้เขยตาย แม่ยายตอแล” นี่ถ้าเป็นแม่ยายบางคน คงถูกบีบคอเป็นของแถม ให้แน่ใจ
    ว่าตายแน่ๆ ก่อนเอาไม้มาคลุม !
    งูกลัวไม้เขยตายจริงหรือไม่ ? ยางไม้เขยตายทำให้คนที่ถูกงูกัดตายฟื้นขึ้นมา
    ได้จริงไม่? คงไม่กล้าชี้ชัด แต่คนรุ่นเก่าแถวบ้านผมเมื่อออกนาต่างห้อยปลัดขิกของ
    หลวงปู่เมฆกันเป็นพวง ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง ก็ไม่เห็นงูมาตอแย ขนาดเป็นฤดูงูผสม
    พันธุ์วางไข่ ซึ่งเป็นช่วงที่งูดุที่สุด เมื่อเห็นรูปหลวงปู่เมฆ นั่งบนงู ไม่ใช่ท่านเกิดปี
    มะโรงนะครับ แต่เป็นความหมายว่า ท่านเป็น “ผู้สยบงู”
    งานประจำปีนมัสการหลวงปู่เมฆ เมื่อปีที่แล้วคุณเรณู ฮิรายาม่า สาวไทยชาว
    เมืองพิจิตร แต่งงานกับหนุ่มคริสเตียนชาวญี่ปุ่น พักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้มาบนขอลูก
    กับหลวงปู่เมฆ งานปีนี้คุณเรณู ได้กลับมาอีกครั้งกับทายาทที่อยู่ในครรภ์ พร้อมด้วย
    โชคดีสองชั้น เมื่อตอนตั้งท้องใหม่ๆปรากฏว่าเป็นท้องนอกมดลูก ซึ่งเด็กในท้องไม่มี
    โอกาสรอด คุณเรณูได้ฝนปลัดขิกไม้เขยตายที่ท่านอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์สร้าง มอบให้ไป
    กินกับน้ำ ผลคือเด็กได้เคลื่อนกลับเข้าไปอยู่ในมดลูก สร้างความแปลกใจให้กับคณะ
    แพทย์ชาวญี่ปุ่น ทุกวันนี้สามีชาวญี่ปุ่นของคุณเรณู ห้อยเหรียญหลวงปู่เมฆอย่างเต็ม
    ภาคภูมิลืมไม้กางเขนไปเลย
    ท่านอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์บอกว่าเป็นเพราะบารมี ของหลวงปู่เมฆ เพราะท่านจะ
    ทำอะไรก็ขอบารมีของหลวงปู่ทุกครั้ง หลวงปู่สั่งไว้ว่า “ถ้าจะนึกถึงกูให้จุดธูป ๕ ดอก
    ถ้าจะบนให้จุดธูป ๙ ดอก แค่มึงนึกถึงกู เรียก “ปู่” ก็จะสำเร็จ รูปของกู ของๆกูไม่ต้อง
    เสกไม่ต้องทำก็สำเร็จแล้ว”

    เรื่องนี้จะเป็นด้วยสรรพคุณของไม้เขยตาย หรือด้วยพลังบารมีของหลวงปู่
    เมฆ แม้วิทยาการจะก้าวหน้าแต่หลายๆสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ยากที่จะหาเหตุผลทางวิทยา
    ศาสตร์มาอธิบาย
    หลวงปู่เมฆเคยกล่าวว่า “กูยังไม่ตาย กูยังไม่ไปไหน พวกมึงเตรียมสถานที่ไว้ให้
    กูแล้วกูจะมา” ในงานประจำปีของหลวงปู่มีศิษย์มากราบนมัสการมากมาย ท่าน
    อาจารย์อ้วนทั้งเป่า ทั้งรักษาผู้คนไม่หวาดไหว ซึ่งก็จะราบรื่นกว่าปกติ แสดงว่าในช่วง
    งานหลวงปู่ท่านมาอยู่ด้วย
    เมื่อครั้งที่ชายแดนด้านตะวันออกกำลังร้อนระอุ วันหนึ่งก็มีบรรดาทหารพราน
    พากันมาที่วัด เพื่อขอนมัสการหลวงปู่เมฆ บรรดาทหารพรานต่างโชว์ปลัดขิกของ
    หลวงปู่ บอกว่าเพิ่งรอดตายมาจากระเบิดหลังจากที่รับปลัดขิกจากมือหลวงปู่ไม่กี่
    ชั่วโมง ต่างอ้างว่าหลวงปู่ไปแจก ถึงสนามรบที่ตาพระยาเมื่อตรวจวันเวลาที่เหล่า
    ทหารอ้างแล้ว เป็นที่ฮือฮา ปรากฏว่าหลวงปู่นอนอาพาธอยู่ที่กุฏิ !
    เรื่องนี้หลวงปู่ได้แต่หัวเราะฮึๆ ก็แปลกดีนะ
    หลวงปู่เมฆนับถือหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค มาตั้งแต่บวชครั้งแรก ท่านจึงแวะ
    เวียนไปมาหาสู่เสมอ แม้เมื่อสึกออกมาก็ยัง ไปมาหาสู่อยู่ ท่านจึงสนิทสนมกับทางวัด
    บางนมโค และแถบคลองบางบาล เมื่อกลับมาบวชอีกครั้ง ท่านจึงมีลูกศิษย์เป็นคน
    แถบคลองบางบาล อยู่หลายรูป เช่น ท่านพระอาจารย์สมศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดปากแพรก
    จังหวัดระยองก็เป็นศิษย์อีกรูปหนี่ง
    หลวงปู่เมฆได้พบอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อครั้งเป็นสามเณรอยู่กับท่านอาจารย์สม
    ศักดิ์ จึงชวนมาอยู่ด้วย แล้วถ่ายทอดสรรพวิชาให้ ท่านอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ มีศักดิ์เป็น
    หลานหลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ท่านอาจารย์อ้วนจึงเป็นสายใยที่ทอดระหว่างวัด
    ลำกระดาน กับย่านคลองบางบาล
    หลวงพ่อเมี้ยนท่านนับถือหลวงปู่เมฆ ท่านรู้จักกันตั้งแต่หลวงปู่ยังครองเพศ
    ฆารวาส ในฐานะผู้เรืองเวท เมื่ออาจารย์อ้วนกลับบางบาลครั้งใด ท่านมักจะฝากกราบ
    นมัสการหลวงปู่เมฆเสมอๆ
    ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเมี้ยนสั่งให้อาจารย์อ้วนเอาของที่ท่านขอหลวงปู่เมฆไว้มาให้
    ด้วย ถ้าจะกลับมาที่บางบาลครั้งต่อไป ท่านอาจารย์อ้วนก็นำของที่หลวงปู่เมฆให้เอา
    ไปถวาย หลวงพ่อเมี้ยนสั่นหัว “ไม่ใช่อันนี้ บอกหลวงตาเมฆด้วย” ท่านอาจารย์อ้วนก็
    นำความไปบอกหลวงปู่เมฆ “อ้ายนี่มันพิเรนท์ มันจะเอาปลัดขิกไปกัดกัน” หลวงปู่
    เมฆบ่น ผมเองก็ไม่รู้ว่าหลวงพ่อเมี้ยนท่านจะเอาปลัดขิกไปกัดกันอีท่าไหน แต่ก็พอรู้ว่า
    ผู้ทรงวิชาท่านมักมีของเล่นแปลกๆเสมอ ก็หลวงพ่อเมี้ยนนี่แหละที่หลวงปู่เมฆเคย
    ประกาศว่า “ในแถบคลองบางบาล กูยกให้อ้ายเมี้ยนมันคนเดียว”
    วัตถุมงคลของหลวงปู่เมฆเริ่มออกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นเหรียญเสมาใหญ่
    เสกเสาร์ ๕ รุ่นบูชาครู ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่นิด กุสุโล วัดสะพาน พระอาจารย์ของ
    ท่านสำหรับพระเครื่องที่ออกที่วัดลำกระดาน เป็นเหรียญ นับเนื่องได้ ๙ รุ่น รูปหล่อ
    ลอยองค์ ๒ รุ่น ล็อคเก็ต ๒ รุ่น นอกนั้นเป็นของที่ขอบารมีสร้าง มีทั้งสร้างล้อพิมพ์ของ
    วัด และสร้างขึ้นใหม่ ให้ดูที่โค๊ดเป็นสำคัญ ทางวัดจะใช้ “อุ” กับ “มะ” นอกนั้นไม่ใช่ครับ
    เมื่อเสี่ยแหยคนดังต้องจบชีวิตด้วยระเบิดรีโมท กำนันแดง เมืองจันทบุรีได้
    มากราบขอของดีจากหลวงปู่เมฆ หลวงปู่ดูแล้วบอก “เอ็งนี่มันไม่ธรรมดา” ท่านได้ให้
    เหรียญสี่เหลี่ยมรุ่นปีพิเศษปี ๒๕๒๙ ไป ก็เหรียญที่ผมเคยบอกว่าทดลองยิงแล้วลูกปืน
    ไหลออกทางปากกระบอกปืน ท่านบอกกับกำนันแดงว่า “กันรีโมทได้” หลังจากหลวงปู่
    ละสังขารได้ ๒ ปี กำนันแดงก็โดนระเบิดรีโมทเหมือนเสี่ยแหย แต่ที่ไม่เหมือนคือกำนัน
    แดงแค่กระดูกเข่าแตกเอง
    เหรียญรุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษ ทั้งการเสกการสร้าง หลวงปู่ตั้งใจเสกเป็นพิเศษ จึงมี
    ประสบการณ์ “ขลัง”มาก ท่านบอกเอาไว้ป้องกันตัวไม่ใช่ให้ไปเป็นนักเลง ท่านจึงสั่งให้
    เก็บเหรียญรุ่นนี้ไว้จำนวนหนึ่ง ให้นำออกมาเมื่อจำเป็น
    พระเครื่องของหลวงปู่เมฆ มีประสบการณ์ “ขลัง” ทุกรุ่นท่านจึงเป็นขวัญใจของ
    ทหารรั้วของชาติในยุคนั้น เมื่อวันงานประจำปีที่ผ่านมา มีทหารลูกศิษย์ของหลวงปู่ มา
    เล่าให้ฟัง บ้านโดนยิงด้วยปืนบาซูก้า บ้านนะพัง อะไรจะไปต้านไหว แต่คนนี่ซิยังเดิน
    ป๋อมาคุยให้ฟุ้งว่ารอดเพราะอะไรเป็นรูปเหมือนลอยองค์ รุ่นที่ ๒ พร้อมยกนิ้วหัวแม่
    โป้งให้ “ผมละเชื่อเลย”
    ปีพ.ศ.๒๕๒๓ มีหนังสือพระฉบับหนึ่งมาขออนุญาตหลวงปู่ สร้างเหรียญเสมารุ่น
    ไตรมาส วัตถุประสงค์ เพื่อให้ท่านแจก แต่เมื่อเสกเสร็จครบไตรมาส กลับจะออก
    จำหน่าย ท่านเห็นผิดคำพูดจึงสั่งให้ยึดเหรียญรุ่นนี้ แล้วนำไปฝังไว้ที่หลุมลูกนิมิตหลุม
    เอกกลางพระอุโบสถ ท่านบอก “ไม่รักษาสัจจะ กูไม่ใช่พ่อค้า” วัตถุมงคลของท่านจะ
    หนักไปในทางแจก จึงขลังนัก
    มีช่วงปีใหม่ผมได้ไปศูนย์บูชาวัตถุมงคล ที่วัดใหญ่แห่งหนึ่ง เห็นกองวัตถุมงคล
    บรรจุภัณฑ์สวยงาม ที่สะดุดตาคือแถบ “บาร์โค้ด” ที่ติดอยู่ ใจคิดทุกวันนี้วัตถุมงคล
    กลายเป็นสินค้า เหมือนที่ขายตามห้างไปแล้วหรือนี่ ไม่ได้คิดว่าเป็นความทันสมัยอะไร
    หรอกครับ อีกหน่อยมิต้องมี ISO. ควบคุมการผลิต รับรองมาตรฐาน กันเสียแล้วหรือนี่
    ต่อไปเราคงจะได้เห็นมีผู้ร้องเรียน ฟ้องศาลว่า “สินค้าไม่ได้คุณภาพ” เหมือนที่โฆษณาไว้
    “รุ่นนี้มีแล้วรวย” คนเอาไปใช้ไม่เห็นรวยแต่คนสร้างรวยเอารวยเอา
    อย่าทำเป็นเล่นไปนะครับ ก็ขนาดทุกวันนี้เรื่องรูปลักษณ์ ก็ยังฟ้องร้องเรื่อง
    ละเมิดลิขสิทธิ์กัน
    เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ที่ผ่านมา พระครูสุวรรณพัฒนกิจ (ขุนทอง สฺจจาโร) ท่าน
    ได้สั่งให้เปิดกรุที่หลุมลูกนิมิตนำเหรียญเสมาเล็กออกมา และยังสั่งให้เปิดกำปั่นเหล็กที่
    เก็บเหรียญสี่เหลี่ยมรุ่นพิเศษ และเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าพระพุทธชินราช ด้านหลังรูป
    หลวงปู่ ออกมาให้พระอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อมอบให้กับผู้ที่รับเป็นเจ้าภาพ ในงานพิธี
    บรรจุสังขารของหลวงปู่ ณ มณฑปที่สร้างเสร็จแล้ว
    งานเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๑-๑๔ พฤษภาคม ๒๕๔๙ มีพระแจงมาติกา ๕๐๐ รูป นับ
    ว่ายิ่งใหญ่สมกับที่หลวงปู่ได้สร้างคุณประโยชน์ไว้มากมาย ซึ่งงานนี้ต้องใช้ปัจจัย
    จำนวนมาก จึงต้องบอกบุญหาเจ้าภาพ
    สำหรับท่านที่รับเป็นเจ้าภาพบริจาค ๑,๐๐๐ บาท จะได้รับเหรียญ ๔ เหลี่ยม
    รุ่นพิเศษปี ๒๕๒๙ อันลือลั่น ๑ เหรียญ
    ท่านที่รับเป็นเจ้าภาพบริจาค ๕๐๐ บาท รับเหรียญเสมาปี ๒๕๒๗ หรือ
    เหรียญพระชินราช ปี ๒๕๓๑ เหรียญใดเหรียญหนึ่ง
    ติดต่อบริจาคได้ที่พระอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ ถาวรคุโณ หรือกรรมการทุนนิธิหลวงปู่
    เมฆ โทร. ๐-๒๙๙๓-๐๐๓๖ สำหรับท่านที่เคยสอบถาม วัตถุมงคล “ ธนบดีคุ้มทรัพย์
    สาลิกาป้อนเหยื่อ” ที่ผสมผงสาลิกาทิพย์สุวรรณ ก็ออกให้บูชาแล้วครับ นัยว่ามี
    ประสบการณ์ด้านค้าขายดี
    สมาชิกชาวสวนขลัง รีบไขว่คว้ามาเถอะครับของดีของแท้ ที่ไม่ต้องกังขาว่า “
    เงินของเราก็เป็นเงินแท้ๆ แต่ไหงได้ของปลอมมาหว่า” นอกจากนั้นเรายังได้ผลบุญ
    จากการบริจาคครั้งนี้ด้วย
    และผมก็มีข่าวดีอีกครั้งท่านพระอาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ ท่านได้เมตตามอบ “ข้าว
    ยอดฉัตรมหามงคล ” ทอง เพิ่ม พูน ประหยัด ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลรุ่นยอดขุนพล
    ผ่านการเสกจากหลวงพ่อทองฯ วัดลำกระดาน หลวงพ่อเพิ่มฯ วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อ
    พูนฯ วัดบ้านแพน หลวงพ่อ ประหยัดฯ วัดลำกระดาน ข้าวยอดฉัตรนี้เป็นโภคทรัพย์
    ครับ มีไว้ติดบ้านติดตัวดีแน่ อย่าช้าครับ
    กติกาเดิม ส่งจดหมายมาที่ผม กฤปาจารย์ ๖๕/๑ หมู่๑๑ ต.ลำลูกกา อ.ลำ
    ลูกกา จ.ปทุมธานี ๑๒๑๕๐ และอย่าลืมสอดซองเขียนที่อยู่ของตัวท่านเอง ติดแสตมป์ ๓
    บาท นะครับไม่ใช่ ๒ บาท มิฉะนั้นผมถูกปรับ และกรุณาอย่ายัดซองมาหลายๆซอง
    น้ำหนักเกินผมถูกปรับอีก และขอความกรุณาอย่าใช้ซองของทางราชการเลยครับ
    เบียดบังของหลวงบาปครับ...



    http://www.suankhung.com
     
  2. ศรศิลป์

    ศรศิลป์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,232
    ค่าพลัง:
    +3,200
    ปลัดขิกไม้เขยตาย ของหลวงปู่เมฆ สุดยอดๆมากๆ
     
  3. guawn

    guawn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    10,642
    ค่าพลัง:
    +42,113
    ปลัดขิกของท่านดีจริงๆครับ
     
  4. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    *-* หลวงปู่เมฆท่านเป็นพระดีและมีอาคมขลังมากครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ *-* thaiput007@hotmail.com
     
  5. ต้อมบ้านสวน

    ต้อมบ้านสวน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +264
    เป็นบุญครับได้บูชาปลัดขิกท่านมาตัวหนึ่งเห็นแล้วชอบครับไม่มีจารอัขระแต่สวยด้านคุณค่าของวัตถุร้านตลาดละแวกนั้นและละแวกใกล้เคียง จะชอบมาขอบูชาปลัดขิกของท่าน
    เค้าว่าค้าขายดี ราคาค่าปลัดขิกผมไม่ทราบว่าเท่าไหร่นะครับ แต่ที่อ่านมาเค้าบอกว่า
    ใส่ซองทำบุญเท่าไหร่ก็ได้ ท่านก็จะหยิบให้กำมือนึงเลย สภาพกุฏิท่านเก่าทรุดโทรมมาก
    ที่ใต้ถุนกุฏิมีชาวบ้านกลุ่มนึงช่วยกันเหลาไม้ไว้ทำปลัดขิก โดยปลัดฯของท่านใช้ "ไม้เขยตาย" ทำครับ
    ลักษณะของปลัดขิกของท่าน "ไม่สวย" แกะง่ายๆ งานหยาบๆ ไม่มีการลงอักขระแต่อย่างใด
    ท่านบอกว่า"การลงอักขระที่กระจู๋เป็นการไม่สมควร " ชอบมากครับคำๆนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2008
  6. pornchai17

    pornchai17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +410
    โชคดีพ่อผมเคยบวชวัดลำกระดาน ได้ปลัดขิกเป็นถุงเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...