หลวงปู่อุ่น ชาคโรเล่าเรื่อง เข้าสมาธิเวทยิตนิโรธสมาบัติ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 6 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]


    <CENTER>[​IMG]

    </CENTER>
    พระครูสังวรศีลวัตร (หลวงปู่อุ่น ชาคโร)
    วัดป่าหนองคำ (ดอยบันไดสวรรค์)
    อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี

    เรื่องเข้าสมาธิเวทยิตนิโรธสมาบัติ
    ท่านอาจารย์อ่อนศรี วัดพระงาม เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เรื่องเข้าเวทยิตนิโรธนี้ เคยมีครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่กราบเรียนท่านพระอาจารย์มั่น ท่านตอบว่า “พระอรหันต์จำพวกได้อภิญญา ๖ และปฏิสัมภิทา ๔ จิตถึงจตุตถฌานแล้วจึงเข้าได้ อย่างพระมหาสารีบุตร พระมหากัสสปะ ท่านเข้าได้ถึง ๗-๘ วัน จำพวกพระอรหันต์ สุกขวิปัสสโก เตวิชโช อันนี้เข้าไม่ได้” ท่านพระอาจารย์มั่นพูดว่า “เอาน่า เชื่ออ้ายเฒ่าเถอะน่า” และท่านเคยเตือนลูกศิษย์ว่า “อย่าไปคิดมันเลยเรื่องนี้ กว่าแต่สิ้นกิเลสตัณหาก็เป็นพอ พวกเรานี้มันหมดยุคผู้มีบุญวาสนามากแล้ว วาสนาของสัตว์โลกนับวันแต่จะด้อยลงไปทุกที ยิ่งเลย ๒๕๐๐ ปีไปแล้ว คนที่จะได้สำเร็จมรรคผลเพียงแค่แต่พระโสดาบันนี้ก็ยาก” ท่านว่าดังนั้น “อย่าอยากดีอยากดังเกินไป มันจะไม่พ้นทุกข์” นี้ท่านเตือนสานุศิษย์ อย่างท่านอาจารย์ลี วัดอโศการาม ก็เคยพูดบ่อย ๆ ว่า “เลย ๒๕๐๐ ไปแล้ว คนจะทำความดีได้ยาก มีแต่คนชั่วเอาความชั่วมาทับถมกัน” จริงอยู่ คำนี้สมัยทุกวันนี้พระท่านถือธุดงค์ไปเจริญสมณธรรมอยู่ป่าอยู่เขาไกลแสนไกล สูงแสนสูงเท่าใด คนยังไปรบกวนถามบัตรถามเบอร์ท่าน ไม่ถามเรื่องบุญเหมือนสมัยท่านพระอาจารย์มั่นยังมีชีวิตอยู่ ถามกันแต่เรื่องเบอร์ทั้งนั้น พระสมัยทุกวันนี้ก็แสวงหาแต่อย่างนั้นเหมือนกัน แล้วมันจะดีขึ้นได้อย่างไร ใครก็หาแต่มนุษยสมบัติ ไม่หานิพพานสมบัติ พระท่านผู้หวังจะข้ามจากโลก ก็พลอยลำบากไปด้วย เพราะโลกเขาไม่อยากให้ข้ามไปเลย
    ข้าพเจ้าได้ค้นดูหนังสือโบราณคือหนังสืออุรังคธาตุ ตอนหนึ่งว่าพระมหากัสสปเถระเจ้า ได้สร้างพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม ทางฝ่ายฆราวาสมีพระยาคำแดง พระยาเมืองอินทปัตถานคร พระยานันทเสน พระยาปิงคราช พระยาสมิตถานคร โปรดให้เขียนรูปม้าอัสดรใส่พระธาตุ โดยผินหน้าไปทางทิศเหนือแม่น้ำโขง ผินหางไปทางทิศใต้แม่น้ำโขง แล้วพระมหากัสสปเถระเจ้าจึงทำนายพยากรณ์ไว้ว่า ต่อไปครั้งหน้า ศาสนาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อภายสร้อย ศาสนาแถบสายแม่น้ำโขงนี้จะเจริญรุ่งเรือง จะมีพระอรหันต์เกิดขึ้นแถบสายแม่น้ำโขงนี้ อันนี้ ข้าพเจ้าบอกตรง ๆ เลยว่า มันต้องเป็นสมัยท่านพระอาจารย์มั่น ท่านพระอาจารย์เสาร์ นี้ไม่มีผิดจริง ๆ เพราะทั้งสองพระองค์ท่านนี้ก็เป็นคนชาวเมืองอุบลซึ่งมีเขตจรดกับแม่น้ำโขง และเวลาท่าน ๒ องค์นี้เที่ยวเทศนาโปรดประชาชน ก็เที่ยวโปรดตามสายแม่น้ำโขง นี้เป็นคำสันนิษฐานของข้าพเจ้า จะผิดหรือถูกประการใดขอพิจารณาดูเถิด และให้อภัยแก่ข้าพเจ้าผู้เขียนด้วยเถิด
    อีกตอนหนึ่ง ในหนังสือพุทธทำนายว่า ใกล้ศาสนา ๒๕๐๐ ปี จะมีผู้มีบุญวาสนามาเกิด มีพระยาธรรมิกราชมาปกครองบ้านเมือง ฝ่ายพระศาสนาจะมีพระอรหันต์มาเทศน์โปรด บ้านเมือง จะเจริญรุ่งเรืองวัฒนาถาวร พระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเจริญ เรื่องทางด้านปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรม ปฏิเวธธรรม เรื่องนี้ได้มีครูบาอาจารย์บางรูปได้ยินท่านพระอาจารย์มั่นเคยพูดว่า “มันเจริญมาแล้วแต่พระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ ๔ ท่านก็เป็นจอมปราชญ์ปกครองบ้านเมือง ได้ปรับปรุงทางคณะสงฆ์และได้ปรับปรุงบ้านเมืองให้เจริญจนมาถึงรัชกาลที่ ๕ บ้านเมืองได้ เจริญถึงขีด” ท่านว่าดังนั้น “ส่วนฝ่ายพระศาสนาก็มีสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระองค์ท่านก็ได้ปรับปรุงด้านการศึกษาปริยัติธรรมนี้ขึ้นมาจนถึงสมัยทุกวันนี้ ด้านปฏิบัติปฏิเวธธรรมอันนี้มันเจริญอยู่กับผู้ปฏิบัติ ผู้ไม่ปฏิบัติก็ไม่เห็นความเจริญ มันไม่ใช่ทั่วไป ผู้ใดปฏิบัติเห็นมรรคผลนิพพาน ก็ว่ามรรคผลนิพพานยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ไปไหน พระพุทธเจ้าปรินิพพานไป ท่านไม่ได้เอามรรคผลนิพพานไปด้วย คงอยู่ตามเดิม (เอส ธมฺโม สนนฺตโน) พระธรรมเป็นของมีมาแต่ดั้งเดิม ไม่ไปไหน พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้แล้วว่า ดูกรอานนท์ เมื่อใดภิกษุในพระศาสนานี้ยังปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ พระอรหันต์ จะไม่ว่างจากโลก” อันนี้คำพูดของท่านผู้เห็นธรรมแล้วหลุดพ้นแล้วพูด
    ทีนี้เราผู้มืดมนและข้องคาอยู่ มาพูดกันตามความเห็นแล้วว่า พระผู้วิเศษคือพระอรหันต์ จะมาเที่ยวเทศนาโปรดประชาชนนั้น ข้าพเจ้าว่าไม่ใช่อื่นไกล คือ ท่านเจ้าคุณอุบาลี ซึ่งเป็นนักเทศน์เอกในประเทศไทย และท่านพระอาจารย์เสาร์ ท่านพระอาจารย์มั่น นี้แหละ ไม่ใช่ว่าท่านจะเหาะมาทางอากาศมาประกาศว่า ข้าพเจ้านี้คือพระอรหันต์จะมาโปรดท่านเน้อ อย่างพวก เรานึกคิดกัน ท่านได้สำเร็จแล้วก็แล้วไป หลุดพ้นแล้วก็แล้วไป ไม่ใช่ว่าจะหามแข่งหามเสง เหมือนกลองยาว เคยมีพระบางพวกหามไปเข้าสมาธิให้คนดู อันอย่างนั้นมันไม่มีในพระสาวก เสียแล้ว และพระพุทธเจ้าก็ไม่ปรากฏว่าพระองค์เข้านิโรธสมาบัติแล้วให้สาวกหามไปให้คนดูว่า มาเนื่องมาดูเราเข้านิโรธ อย่างนี้ไม่มี พระวินัยก็ปรับอาบัติไว้แล้วว่า ภิกษุใดบอกอุตตริมนุสสธรรมแก่ชาวโลก เขาปรับอาบัติปาจิตตีย์ ดังนี้ ท่านผู้มีจิตหลุดพ้นไปแล้วท่านไม่โอ้อวด ไม่อยาก ดังเหมือนพวกเราที่มีกิเลสอยู่ดอก ถึงบอกไปคนอื่นเขาจะเชื่ออย่างไร เขาไม่เห็นด้วย มีแต่เขา จะว่าท่านนี้บ้าแล้วกระมัง ฉะนั้น การบอกเปิดเผยธรรมวิเศษที่มีในตนนี้ นอกจากเป็นอาบัติแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ ผลได้น้อยกว่าผลเสีย จะประสาอะไรแต่สาวกของพระพุทธเจ้า แม้แต่พระองค์ เองได้ประกาศว่า เราเป็นสยุมภูผู้ตรัสรู้เอง คนอื่นก็ยังเชื่อยาก ทั้งตำราพวกพราหมณ์ก็ทำนายกัน ทั้งประเทศอินเดียว่าพระพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้ในโลก เมื่อพระองค์เที่ยวประกาศพระศาสนา คน บางจำพวกก็ยังไม่เชื่อพระองค์ จนได้แข่งฤทธิ์แข่งเดชกับพระองค์ จะเอาอย่างไรกับพวกมนุษย์ ผู้มืดหนา ฉะนั้น เรื่องท่านพระอาจารย์มั่นนี้ก็เหมือนกัน ต้องถูกปิดบังไว้ตั้ง ๒๐ กว่าปีจึงมี วี่แววขึ้นเดี๋ยวนี้เอง
    ·จากหนังสือ ชาคโรบูชา โดย พระครูใบฎีกาวงศ์สิน ลาภิโก, คุณอุไรวรรณ วินะพันธุ์, คุณอลงกรณ์ อนันตภากรณ์
     
  2. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,977
    กราบหลวงปู่อุ่น ชาคโร
    พระอรหันตืเจ้าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ด้วยเศียรเกล้าครับ


    เจดีย์พระธาตุ วัดดอยบันไดสวรรค์ (วัดป่าหนองคำ) จ.อุดรธานี

    เจดีย์โบสถ์ สร้างโดยพระครูสังวรศีลวัตร (หลวงปู่อุ่น ชาคโร) สร้างเพื่อบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และองค์ท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุองค์สมเด็จพระบรมศาสดา และ พระอัฐิธาตุองค์พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต

    ตั้งอยู่ ณ วัดดอยบันไดสวรรค์ (วัดป่าหนองคำ) บ้านหนองคำ ต.อูบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี

    แหล่งข้อมูล : หนังสือ "ชาคโรบูชา"



    [​IMG]
     
  3. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,977
    <TABLE class=maintable cellSpacing=1 cellPadding=0 width=600 align=center><TBODY><TR><TD class=tableb style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px; WHITE-SPACE: nowrap" align=middle height=100><TABLE class=imageborder cellSpacing=2 cellPadding=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- BEGIN img_desc --><TABLE class=img_caption_table cellSpacing=0 cellPadding=0><!-- BEGIN title --><TBODY><TR><TH>พระครูสังวรศีลวัตร (หลวงปู่อุ่น ชาคโร) </TH></TR><!-- END title --><!-- BEGIN caption --><TR><TD>วัดป่าหนองคำ (วัดดอยบันไดสวรรค์)
    บ้านหนองคำ ต.อุบมุง อ.หนองวัวฃอ จ.อุดรธานี
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...