หลวงปู่บุดดา ถาวโร บรรลุพระสัจธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ยศวดี, 12 พฤศจิกายน 2014.

  1. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    หลวงปู่บุดดา ถาวโร บรรลุพระสัจธรรม




    หลวงปู่บุดดา ถาวโร บรรลุพระสัจธรรม

    (วัดกลางชูศรีเจริญสุข  อ.บางระจัน  จ.สิงห์บุรี)

    หลวงปู่บุดดาได้เมตตาเล่าถึงเหตุการณ์ที่ท่านบรรลุธรรมว่า “คืนวันหนึ่ง  ขณะที่ท่านนั่งสนทนาธรรมกับหลวงปู่สงฆ์ พรหมสโร สองต่อสองตามปกติ อย่างออกรสออกชาติ  จู่ๆ ท่านก็เงียบเสียงไปเฉยๆ และนั่งลืมตาค้างอยู่ หลวงปู่สงฆ์ก็แปลกใจที่ทำไม ?  ท่านจึงเงียบไปเฉย ๆ เช่นนั้น ก็ถามหลวงปู่ว่า


    “เอ๊ะ !  เป็นอะไรไป ?”  หลวงปู่บุดดาท่านก็นิ่งเฉยไม่ตอบ นัยน์ตาเบิกโพลงอยู่อย่างนั้น


    หลวงปู่บุดดาเล่าให้ฟังในภายหลังว่าท่านรู้สึกสว่างแจ้งขึ้นมาเอง รู้สึกว่าไม่มีตัวตน เห็นชัดทุกอย่างรอบตัวว่า เป็นสิ่งสมมุติขึ้นมา เห็นปรมัตถธรรม ทุกอย่างมันเป็นธรรมหมด ไม่ใช่ของใครพระพุทธเจ้าก็ไม่ถือเอาเป็นเจ้าของ พระอรหันต์ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของ


    สัพพัญญพุทธะ ปัจเจกพุทธะ สาวกพุทธะ ไม่มีตัวมีตน ธรรมต่างหากที่ทรงไว้ คงอยู่ในจิตของตนเอง ที่พูดกันแต่เรื่องปริยัติ ปฏิบัติ ไม่มีใครชนะใครหรอก มันติดในสมมุติบัญญัติกันต่างหากล่ะ


    โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งการตรัสรู้ คือ เกื้อกูลแก่การตรัสรู้ธรรม ที่เกื้อหนุน  อริยมรรค ได้แก่สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔  อิทธิบาท ๔อินทรีย์ ๕  พละ ๕  โพชฌงค์ ๗ และมรรคมีองค์ ๘


    ทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้หลุดรอดได้ พ้นจากสมมุติบัญญัติ “ท่านมีความรู้ความเข้าใจในธรรมทั้งหมดนี้ขึ้นมาเอง”  ในขณะนั้น

    หลวงปู่บุดดาได้อธิบายให้หลวงปู่สงฆ์ฟังต่ออย่างคล่องแคล่วว่า “อายตนะภายนอกกับภายในมันรวมกันได้  มันมีจิต เจตสิก รูป นิพพาน เท่านั้นเอง  มีเพียงสมมุติบัญญัติเท่านั้นเอง  ไม่มีเจ้าของ ผมขน เล็บ ฟัน หนัง  ก็สมมุติบัญญัติขึ้นมา พูดกันไม่รู้เรื่อง แต่พิจารณาดูได้ อ่านได้  เข้าใจได้  จนรู้ความเป็นจริง ความเป็นไปของสังขาร รู้ความเป็นจริงของโลก ก็หมดกัน  ไม่มีปัจจัยอะไรส่งให้สัตว์ต้องมาเกิดอีก”

    หลวงปู่สงฆ์ฟังตามไม่ค่อยทัน เพราะต้องทำความเข้าใจตามไปด้วย และท่านก็ไม่เข้าใจว่าหลวงปู่บุดดาบรรลุธรรมอะไร?  เพราะเป็นโลกุตตรธรรมที่หลั่งไหลออกมาจากใจของหลวงปู่บุดดาในขณะนั้น  หลวงปู่สงฆ์ก็ได้แต่เก็บเอาไปคิดพิจารณาตามเท่านั้น


    หลังจากนั้น ๓ วัน  หลวงปู่สงฆ์ได้มาบอกหลวงปู่บุดดาว่า “ไม่มีคนไปนรก  ไม่มีคนไปสวรรค์เน้อ ! “   


    หลวงปู่บุดดาจึงเสริมว่า “โอ้ย ! มันจะมีนรก มีสวรรค์อย่างไร นั่นมันกิเลสต่างหากเล่า กิเลสหมด มันก็หมดนรก หมดสวรรค์ซิ”


    หลวงปู่สงฆ์บอกความรู้สึกของท่านกับหลวงปู่บุดดาในขณะนั้นว่า  “เอ๊ะ !  ทำไม?  ไม่มีคนไปนรก   ไม่มีคนไปสวรรค์ล่ะ ทำไม  ? ไม่มีคนล่ะ  !”


    หลวงปู่บุดดาก็อุทานตอบไปว่า “โอ๊ย !มันไม่มีมาตั้งแต่ไหน แต่ไรแล้ว ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว ตั้งแต่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนามาแล้ว  นรก...สัตว์สร้างเอาเอง  สวรรค์...สัตว์ก็สร้างเอาเอง  ถ้าไม่มีสัตว์สร้าง  สวรรค์นรกจะเกิดได้อย่างไร”


    หลวงปู่สงฆ์ท่านบอกว่า “ท่านไม่ถือรูปถือนาม  ไม่ถือธาตุถือขันธ์อะไรแล้ว ถ้าหลงรูป หลงนามอยู่  มันก็หลงเกิด หลงตายอีกซิ”  

            

    หลวงปู่สงฆ์จึงบรรลุพระสัจธรรม ณ ถ้ำภูคา อ.ตาคลี  จ.นครสวรรค์  ในพรรษาที่ ๕ อายุ ๔๒ ปี ณ สถานที่แห่งเดียวกับหลวงปู่บุดดา ถาวโร บรรลุพระสัจธรม ในพรรษาที่ ๔ อายุ ๓๒ ปี
     
  2. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796

แชร์หน้านี้

Loading...