หลวงปู่บุดดา ตอบเรื่อง นิพพาน และจิต

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย lionking2512, 21 มกราคม 2013.

  1. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    ศิษย์
    หลวงปู่ครับ นิพพานโลกุตระ เป็นอย่างไร

    หลวงปู่
    มันก็หมดอาสวะซิ อวิชชาไม่เหลือ

    ศิษย์
    จิตยังอยู่ไหมครับ

    หลวงปู่
    จิตปรมัตถ์ไป เจตสิกปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์จิตยังอยู่ มันเกิด-ดับ มันเป็นสังคตะไป ไม่ใช่สัตว์ คน เป็นสังคตธรรมสังคตธรรมมีอยู่ อสังคตะธรรมมีอยู่ วิราคะธรรมมีอยู่ แต่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่คน เท่านั้น

    ศิษย์
    หมดสมมุติ หมดความยึดถือใช่ไหมครับ

    หลวงปู่
    .ฮื้อ! มันไม่มีอาสวะ ไม่มีอวิชชาสวะ ไม่มีอวิชชาสังโยชน์ ไม่มีอวิชชานุสัย ล่ะก็ กิเลส กรรม วิบาก มันก็ไม่มี จิตไม่มีนาม-รูปของขันธ์แล้ว มันเหนือนาม-รูปของขันธ์แล้ว สังคตะมันเหนือขันธ์ ๕ วิราคะธรรมมันเหนือขันธ์ ๕ (เหนือ คือ ไม่ถูกครอบงำ ไม่มีอุปาทานขันธ์ ย่อมไม่กลับกำเริบอีก)ขันธ์ ๕ ยังมีนามรูปติดต่อกันทางอายตนะธาตุนี่ ส่วนนิพพาน ปรมัตถ์นี้ไม่เกิดไม่ดับเป็นอสังคตะธรรม แต่ จิต เจตสิก รูป ปรมัตถ์นี้ยังเกิดดับเป็นสังคตะธรรม วิราคะธรรม ไม่มีราคะ หมดราคะถึงโลกุตระแล้วนั่น ไม่มีราคะโทสะ โมหะ เผาลนแล้ว

    ศิษย์
    เมื่อดับจิต แล้ว นิพพาน สูญ ไม่เหลืออะไรเลยหรือปล่าวครับ..

    หลวงปู่
    นิพพาน ไม่สูญ เป็นแต่อาสวะกิเลสสูญ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม วิบาก มันสูญ แต่ สังคตะธรรม อสังคะธรรม วิราคะธรรม มันไม่ได้หมดไปด้วย บารมี ๓๐ ทัศน์ที่พระพุทธเจ้าสร้างเป็นของไม่ตาย แต่ว่าตัวบุญต้องเปลี่ยนแปลงไปจนกว่าพระโพธิสัตว์ตรัสรู้ เพราะถ้าเป็นตัวบุญอยู่กับพระเวสสันดรก็ไม่ตรัสรู้ซิ ก็ได้เป็นกษัตริย์ ไม่ตรัสรู้ซิ แต่เพราะสละหมดอย่างพระเวสสันดร เที่ยวออกค้นคว้าถึง ๖ ปี(ซึ่งก็ต้องอาศัยบารมี อันเป็นนิสัยที่สั่งสมมา) จึงตรัสรู้ พระพุทธเจ้าบางองค์ก็อายุไม่เท่ากันมาองค์ปัจจุบันอายุ ๘๐ ปี (แล้วแต่บารมี)

    ศิษย์
    .ที่เขาว่าไปเที่ยวเมืองนิพพาน น่ะเขาไปกันได้จริงหรือป่าวครับ

    หลวงปู่
    .เที่ยวได้แต่ปริยัติน่ะซิ พูดเอาภาคปริยัติก็เที่ยวได้ ภาคปฏิเวธเที่ยวได้ที่ไหนล่ะ มันมีบอกเมื่อไหร่ล่ะ

    ศิษย์
    .แล้วอย่างมโนมยิทธิล่ะครับ

    หลวงปู่
    .นั่นมันเรื่อง พุทธนิมิต ธรรมนิมิต สังฆนิมิต ก็ตามใจซิ ก็นิมิตมันมีอยู่ หลับตาลืมตาก็มี มีของพระอริยะเจ้า พระพุทธเจ้าก็แสดงพุทธนิมิต ธรรมนิมิต สังฆนิมิต ได้ ให้เห็นกันทั่ว กามโลก รูปโลก อรูปโลก ให้เขาได้เห็นกันเมื่อครั้งเสด็จลงจากดาวดึงส์นี่ ก็จิตนี่ล่ะมันรับธรรมะ นอกจากกายกับจิตแล้วจะเอาอะไรไปรับล่ะ กายกับจิตนี่ล่ะมันรองรับพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้ารู้นรก ๒ ชั้น นรกชั้นนอก นรกชั้นใน สวรรค์ชั้นนอก สวรรค์ชั้นใน นิพพานชั้นนอก นิพพานชั้นใน มันต้องมีภายนอกภายในพิสูจน์กันดู ดูนิพพานกันอย่างนี้ อ่านพระไตรปิฎกกันอย่างนี้ซินิพพานไม่ใช่รูปขันธ์ ไม่ใช่นามขันธ์ มันเหนือรูปขันธ์ นามขันธ์ สร้างบารมีมาก็เอาเป็นเครื่องมือ สร้างบารมีต่างหากล่ะ นามรูปนี่ตรัสรู้แล้วเอาไปเมื่อไหร่ล่ะ บารมี ๓๐ ทัศน์ ไม่ใช่ตัวขันธ์ ๕ มันเหนือขันธ์ ๕พระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วก็เหลือขันธ์ ๕ พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกทั้งหลายตรัสรู้ ละสังโยชน์ แล้วก็เหลือยังขันธ์ ๕ เขายังเขียนรูปโลกไว้ให้ดู แต่อยู่เหนือขันธ์ ๕

    ที่มา : บางส่วนจาก ประวัติชีวิต การงาน หลักธรรม หลวงปู่บุนดา ถาวโร
     
  2. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    ลึกซึ้งถึงแก่นธรรมแท้จริงแล้ว น่าเหลื่อมใสต่อพระธรรมเทศนา บทนี้ยิ่งนัก
    โมทนาธรรมครับ ​
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,722
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,136
    ค่าพลัง:
    +70,529

    ตามทัศนะของข้าพเจ้า



    ................เมื่อสัตว์โลก หรือ ผู้ถึงกระแสธรรม
    ที่ยังไม่แยกจิตออกจากขันธ์ห้า รูปนาม แต่จิตใจสะอาดในระดับที่พอจะรับ
    ถึงกระแสธรรมได้แล้ว


    ....แต่เนื่องจากสภาวะนั้นเป็นปรมัติ หรือ วิมุตติ ที่ไม่ใช่ขันธ์ห้า
    จึงต้องจำลองสภาวะนั้นในรูปแบบที่สมมุติ(สัตว์โลกที่ยังมีขันธ์ห้า)จะเข้าใจ สื่อสารกันได้


    ....ในภาษาปฏิบัติ เรียกว่า ประกอบเหตุ ( จำลองสภาวะมาให้ขันธ์ห้าที่สะอาด
    บริสุทธิ์ในระดับหนึ่งได้รับทราบสื่อสาร)



    สัตว์โลกที่สะสางกิเลสอาสวะจนสะอาดเกือบถึงที่สุด ก็เป็นพระอริยะ
    สัตว์โลกที่สะสางกิเลสอาสวะได้ในระดับฌาณ กดข่มกิเลสด้วยกำลังแห่งฌาณ ก็สะอาดได้ในช่วงที่ฌาณทรงกำลัง

    นิมิตที่ปรากฏแก่สัตว์โลกแต่ละท่าน จะบ่งบอกความจริงได้ไม่เท่ากัน ขึ้นกับความสะอาดของขันธ์ห้า
    และจิตใจที่เข้าถึงวิมุตติได้ต่างกัน นั่นเอง



     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...