หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

ภาพการก่อสร้างอุโบสถวัดสันติวนาราม เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว
.
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน อุโบสถกำลังเริ่มมุงหลังคาอยู่ และยังต้องใช้ปัจจัยในการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

ภาพอัพเดทล่าสุด...การก่อสร้างอุโบสถวัดสันติวนาราม

 

อาจารย์ก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรม สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ผู้ออกแบบ พระเมรุมาศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช(รัชกาลที่ ๙)และท่านเป็นผู้ออกแบบ และ ควบคุมงานด้านศิลปกรรม ของ มหาอุโบสถ วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

(งบประมาณ การก่อสร้าง กว่า 500 ล้านบาท)

อาจารย์ก่อเกียรติ ทองผุด ได้ปรารภว่า หลังจากเสร็จสิ้นงาน พระเมรุมาศ นี้แล้ว จะเข้าไปดูแลงานก่อสร้าง มหาอุโบสถ วัดสันติวนาราม(งานด้านศิลปกรรม)ให้สวยงาม และ ทรงคุณค่ามากที่สุด เท่าที่จะมากได้
.........................................................................
หลวงปู่ฯ "โล่งใจ ที่ได้ อ.ก่อเกียรติ ทองผุด มาออกแบบงานศิลป์ให้...อุโบสถหลังนี้ เรายกให้เลยนะ มีทั้งศาสตร์และศิลป์ มีอะไรใส่ให้เต็มที่...ส่วนเรา...จะเป็นผู้หาปัจจัยให้...คงไม่เกินกำลัง"
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

ลูกศิษย์ ลูกหา #หลวงปู่บุญส่ง นั้นมีอยู่ทุกสาขาอาชีพ
ทั้งข้าราชการ ทหารตำรวจ ศิลปิน ดารา
หรือว่าชาวบ้านทั่วไป
.
สูง ต่ำ ดำ ขาว ไม่ว่ายังไง
หลวงปู่จะมักให้ความเท่าเทียมเสมอเหมือนกันหมด
ท่านเคยปรารภว่า
.
" ศิษย์เรานั้น ... จะยากจนหรือร่ำรวย
เราก็เมตตาเสมอกันหมด ดูอย่างพระพุทธเจ้านั่นสิ
มือซ้ายอุ้มพระราชา มือขวาอุ้มยาจก วณิพกเข็ญใจ
เราจะเลือกศิษย์ไม่ได้ ทุกคนเท่าเทียมกัน... "
"
.
.
ชายที่เห็นในภาพคือ "พี่มนตรี ศรียงค์"
นักเขียนเจ้าของรางวัลระดับประเทศท่านหนึ่ง
ที่เคารพหลวงปู่บุญส่งมาก ๆ
.
ด้านหนึ่งของพี่เขา
คือพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวบะหมี่เป็ด
.
ด้านหนึ่งคือกวี นักเขียน
มือรางวัลระดับประเทศ
.
ด้านหนึ่งคือบุตรที่ดีของมารดา
และมีความยึดมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนา
.
พี่มนตรีได้เจอกับหลวงปู่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
ครั้งแรกคือปีที่แล้วที่หลวงปู่ลงไปโปรดศิษย์ที่หาดใหญ่
องค์ท่านก็เมตตาไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของพี่มนตรี
เพื่อไปโปรด "คุณแม่ของพี่มนตรี"
ให้ได้รับความอิ่บเอิบในธรรม
.
.
พี่มนตรีไม่ค่อยได้เจอกับหลวงปู่
เพราะว่าอยู่ไกลกัน จะติดตามข่าวคราวก็ทางเฟสบุ๊ค
หรือว่าอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่
.
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความศรัทธา
เสื่อมถอยอะไรลงไป
ด้วยว่า "ลงใจ" ไปกับหลวงปู่บุญส่งแล้ว
.
ทุก ๆ เดือนหรือทุก ๆ ครั้งที่มีโอกาส
พี่มนตรีก็ไม่พลาดที่จะร่วมบุญกับหลวงปู่บุญส่ง
และทุก ๆ ครั้ง พี่เขาก็จะทำบุญอุทิศกุศล
ให้กับครอบครัวทุก ๆ คน ทำเผื่อญาติพี่น้องทุก ๆ คน...
จากผลบุญที่ได้กระทำกับพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เผื่อแผ่บุญกุศลเหล่านี้ไปให้กับทุกคนที่รัก
.
.
พี่มนตรีปฏิบัติเช่นนี้ตลอดมา
ด้วยความศรัทธาและความตั้งมั่น
มาวันนี้เป็นโอกาสดีอีกครั้ง
ที่หลวงปู่เดินทางไปโปรดศิษย์ที่หาดใหญ่
และก็เป็นอีกครั้งที่หลวงปู่ได้ไปโปรดที่ร้านของพี่มนตรี
.
การอุปถัมภ์อุปัฏฐากด้วความตั้งใจ
จึงเป็นภาพแห่งความปิติดังที่ปรากฎขึ้น
.
.
หลวงปู่ท่านไม่เคยเลือกศิษย์
ไม่ว่าจะเป็นใคร มาดีร้ายดียังไง ท่านทราบหมด
แต่ท่านก็จะสงเคราะห์ทุก ๆ คนอย่างเท่าเทียมกัน
แม้คนผู้นั้นจะรวยล้นฟ้าหรือว่าคนธรรมดาเดินดิน
.
.
" ลูกหลานเรามีมาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
แต่หลังจากนี้ ทุกคนจะต้องกลับมาเจอ
มาช่วยกัน ... เพราะเราอธิษฐานไว้แล้ว
ตั้งแต่เริ่มทำโบสถ์หลังนี้
ว่าให้กลับมาช่วยกัน
ทุกคนที่เคยเกี่ยวพันกันมา
.
เขาทำบุญกับเรา เราก็ตอบแทนเขา
เพราะเขาให้ข้าวให้น้ำเรา
เป็นการสร้างความดีไปด้วยกัน
.
สร้างคนให้รวยเงินนั้นมันไม่ยาก
แต่จะสร้างคนให้รวยความดีนี่สิ
เป็นสิ่งที่ควรกระทำมากกว่า ..
.
การปลูกฝังเมล็ดพันธุ์ของความดี
ปลูกฝังให้ทุกคนมีคุณธรรม
เป็นสิ่งที่จะต้องทำ ...
.
เมื่อคนดีมีคุณธรรมแล้ว
ยังไงสังคมก็จะดีขึ้นไปด้วย "
.
.
.
#น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์
#สาธุอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

ในอดีตนั้นก่อนที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางธรรม
#หลวงปู่บุญส่ง เคยเดินทางลงมาอยู่ที่ภาคใต้
ใช้ชีวิตอยู่ที่ภาคใต้ช่วงทำทางเส้นปัตตานี - นราธิวาส
.
โดยองค์ท่านได้มาใช้ชีวิตอยู่กว่า 2 ปี
ร่วมกับเพื่อนทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม
ซึ่งหลวงปู่บุญส่งปรารภว่าชาวบ้านเหล่านี้นั้น
ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มีไมตรีจิตที่ดี
ท่านได้เข้าใจและได้เรียนรู้วัฒนธรรม
ของคนภาคใต้หลายอย่าง
จนเข้าใจในสิ่งที่เป็นสำหรับชาวบ้านในพื้นที่
.
ความหวาดกลัวหรือความประหวั่นพรั่นพรึงนั้น
เป็นสิ่งที่เกิดขี้นมาจากบุคคลภายนอก
ที่ฉายภาพเหล่านั้นขึ้นมา
.
แต่แท้จริงแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่เหล่านี้
ก็เป็นเพื่อนมนุษย์ที่ดี
เป็นผู้ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี
ไม่ได้มีความน่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด
.
ความกลัวต่าง ๆ นั้น
ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากจิตใจเราเอง
จินตนาการและการวิตกกันไปต่าง ๆ นานา
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นมา
ก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่า "จิตใจ" แทบทั้งสิ้น
.
การเดินทางมาโปรดศิษย์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ครั้งนี้
เหมือนเป็นการกลับมาย้อนรำลึกวันวานด้วยเช่นกัน
.
.
#น้อทกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

พอดีเล่นเฟสแล้วไปเจอพี่ท่านนี้กำลังเผยแผ่หลวงปู่บุญส่ง จึงขอนำมาอนุญาตนำมาลงในกระทู้เวปพลังจิตนะครับ... ด้วยความชื่นชมครับผม

 

#พบศิษย์ระหว่างทาง
.
ระทางเดินทางไปจ.ภูเก็ต และแวะเข้าปั๊มที่จ.พังงา ขณะ #หลวงปู่บุญส่งกำลังขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อ ปรากฎว่ามีชายท่านหนึ่ง เดินเข้ามาคุกเข่ากราบหลวงปู่ และถามว่า
.
"ใช่หลวงปู่บุญส่ง ใช่มั้ยครับ " หลวงปู่จึงเมตตาตอบกลับไปว่าใช่ จากนนั้นพี่ชายท่านนี้จึงยิ้มด้วยความดีใจ
.
จึงถามพี่เขาว่ารู่จักหลวงปู่ได้อย่างไร พี่เขาจึงแจ้งว่า "เคยเห็นหลวงปู่แต่ในอินเตอร์เน็ต เห็นในเฟสบุ๊ค วันนี้ได้เจอตัวจริงแล้ว"
.
จากนั้นพี่เขาก็ขอโอกาสถวายน้ำปานะ เนื่องจากว่าที่ร้านเปิดขายกล้วยปิ้งและน้ำต่าง ๆ ด้วยความปิติ
.
กลับขึ้นรภมาหลวงปู่ก็เมตตาฉันน้ำของร้านพี่เขาจนหมด ก่อนออกจากปั๊ม จึงหันกลับไปมองที่ร้านอีกครั้ง ปรากฎว่าหลังจากที่ถวายน้ำให้กับหลวงปู่ ก็มีคนเดินทางเข้าไปซื้อของที่ร้านพี่เขามากเป็นพิเศษ ...
.
.
#ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

— ที่ พังงาเมืองสวยในหุบเขา
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

" เมื่อ #หลวงปู่บุญส่ง เรียน #ปอเนาะ "
.
พระอริยสงฆ์ผู้เป็นนาบุญ
" #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร"
วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
.
หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
พระสุปฏิปันโน แห่ง จ.จันทบุรี
.
สถานะเดิมท่านนั้น
ถือกำเนิดมาจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน
ที่มีฐานะปานกลาง ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ
และเป็นครอบครัวที่มีลูกมาก
.
.
องค์ท่านมีนามเดิมว่า
"บุญส่ง " เกิดในสกุล " จำลองรักษ์ "
เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
(ซึ่งถือว่าสูงสุดในสมัยนั้น)
.
.
หลวงปู่บุญส่งเป็นบุตรคนที่ ๒
จากพี่น้องทั้งหมด ๑๒ คน
โดยองค์ท่านเป็นลูกชายคนแรก
ของครอบครัว
.
.
โดยพื้นเพเดิมของครอบครัว
เป็นคน จ.ฉะเชิงเทรา
.
.
อาศัยอยู่บริเวณคลองเชื่อมแม่น้ำสองสาย
คือ แม่น้ำเจ้าพระยาตรงพระโขนง
กับแม่น้ำบางปะกงตรงท่าถั่ว
ในปัจจุบัน คือ "ประตูน้ำท่าถั่ว"
.
.
โดยโยมบิดา - มารดาท่าน
ประกอบอาชีพเดินเรือ
ระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยา
และแม่น้ำบางปะกง
.
.
จึงทำให้ชีวิตส่วนใหญ่
ของครอบครัวองค์ท่านนั้น
มักอยู่บนผืนน้ำและลำเรือ
.
.
ชีวิตในวัยรุ่นของท่านนั้น
องค์ท่านปรารภว่า
.
.
เคยปั่นสามล้อรับจ้าง
หน้าวัดหลวงพ่อโสธร
เคยขายปลา เป็นกระเป๋ารถเมล์
เคยชกมวย เป็นหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัย
คุมไร่แห่งหนึ่งทางภาคเหนือ-ตะวันตกของประเทศ
.
.
รวมถึง
** ขับรถขนดินทำทางสายปัตตานี-นราธิวาส
เดินสายชกมวย
.
.
.
จะเห้นได้ว่าก่อนเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์
องค์ท่านผ่านช่วงวัยหลายอย่าง
และที่น่าสนใจ คือ
.
.
เป็นหนึ่งในผู้ #บุกเบิกเส้นทางสายปัตตานี - นราธิวาส
.
.
หลวงปู่บุญส่ง "**เคยเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก
ทำทางสายปัตตานี-นราธิวาส"
ที่ปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของ "ถนนเพชรเกษม"
เรียกว่าทางหลวงแผ่นดินสายปัตตานี–นราธิวาส
(ต่อมาได้รับการขนานนามว่า ถนนรามโกมุท)
.
ซึ่งในอดีตนั้น
ไม่มีใครกล้าที่จะลงไปทำทางถนนเส้นนี้
เพราะทราบกันดีว่าสุ่มเสียงที่จะเกิดอันอันตราย
ด้วยว่าเกรงกลัวต่อความปลอดภัยในชีวิต
.
.
โดยตอนนั้นเป็นช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบ
"โจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา" หรือชื่อย่อว่า “จคม.”
กองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.)
ที่มาตั้งฐานอยู่ในเขตพื้นที่แชยแดนใต้
.
รวมไปถึงการขัดแย้งทางความคิดของกลุ่ม
ไทยพุทธและไทยมุสลิมบางส่วน
บริเวณแถบนั้น จึงเปรียบเป็น "พื้นที่ต้องห้าม"
ของผู้คนนอกพื้นที่ไปโดยปริยาย
.
.
แต่หลวงปู่บุญส่ง กลับลงไปใช้ชีวิต
ในช่วงฆราวาสด้วยการทำทาง
ที่ถนนสายนี้ อยู่ที่จังหวัดชายแดนใต้
บริเวณปลายด้ามขวานของประเทศ
เป็นเวลากว่า 2 ปี
ในช่วงปีพ.ศ. 2508 - 2510
.
.
.
#โจรจีนคอมมิวนิสต์คืออะไร
.
.
ช่วงปลายทศวรรษ 2483 ถึงต้นทศวรรษ 2493...
ใน "ดินแดนมลายา" หรือ "คาบสมุทรมลายู"
ภายใต้การปกครองของอังกฤษ
.
คนเชื้อสายจีนเป็นพวกที่ด้อยสิทธิ์ด้อยเสียง
ทำให้คนหนุ่มสาวชาวจีนจำนวนไม่น้อย
หันหน้าเข้าหาลัทธิคอมมิวนิสต์นิยม
เพื่อเป็นตัวแทนความยุติธรรมทางสังคม
มีชื่อว่า "พรรคคอมมิวนิสต์มลายา" (พคม.)
.
"โจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา" หรือชื่อย่อว่า “จคม.”
ถือเป็นชื่อเรียกกองกำลังติดอาวุธ
พรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.)
ที่หลบหนีการปราบปรามของรัฐบาลมาเลเซีย
เข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการเคลื่อนไหว
ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย
.
และเป็นที่รู้กันอีกว่า สมาชิก จคม.
ส่วนใหญ่ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์จีน
ทำให้มีชื่อเรียก รู้จักกันในนาม ...
“จีนคอมมิวนิสต์-มลายา”
.
.
ระหว่างปี 2491-2503
รัฐบาลมาเลเซียปราบปรามอย่างหนัก
เป็นช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์มลายา
ตกอยู่ในฐานะเสียเปรียบ
จนต้องถอยร่นหลบหนีเข้าไทย
.
ตามหลักฐานที่ปรากฏ
โจรจีนคอมมิวนิสต์มลายาบางส่วน
ปรากฏตัวครั้งแรกในประเทศไทย
เขตพื้นที่อำเภอเบตง จ.ยะลา
และอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
.
และในเวลต่อมา
ก็ได้ขยายฐานปฏิบัติการเพิ่มขึ้น
ในพื้นที่ อำเภอแว้ง, สุคีริน,
รือเสาะ, ระแงะ จ.นราธิวาส ...
.
อำเภอบันนังสตา จ.ยะลา ...
อำเภอยะรัง จ.ปัตตานี
และในพื้นที่ อ.เบตง อำเภอยะหา จ.ยะลา
รวมถึงมีอีกหลายพื้นของภาคใต้ตอนล่าง
.
.
โดยกองกำลังทหาร
ของโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา
มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้าง
ความมั่นคงและขยายอิทธิพล
ในการควบคุมสร้างฐานสัมพันธ์กับมวลชน
ที่ยังคงเหลือจากการปราบปราม
และการข่มขู่คุกคามฝ่ายตรงข้าม
.
ตามแนวทางที่ว่า
“กองกำลังคือปลา ประชาเปรียบเสมือนน้ำ”
.
.
ด้วยเหตุนี้ กองกำลังโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา
จึงได้พยายามทุกวิถีทาง
เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิบัติการ
และพื้นที่อิทธิพลให้การสนับสนุน
.
โดยใช้กลวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ
กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ
ทั้งกลุ่มชาวไทยเชื้อสายจีน
กลุ่มชาวไทยมุสลิม
และกลุ่มชาวไทยพุทธ
.
พร้อมกับจัดตั้งองค์กรแนวร่วม
เพื่อทำหน้าที่ในการปฏิบัติงาน
.
มีการโฆษณาชวนเชื่อ
ตลอดจนฝึกอบรมและปลูกฝัง
อุดมการณ์ปฏิวัติของคอมมิวนิสต์
ให้แก่เยาวชนมุสลิมและเยาวชนเชื้อสายจีน
ในเขตพื้นที่นั้น ๆ
.
.
ซึ่งการเข้ามาตั้งฐานปฏิบัติการ
ของโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา
ในประเทศไทยเวลานั้น
.
ตามข้อมูลกล่าวว่า
ส่วนหนึ่งหารายได้ด้วยการเรียกเก็บภาษี (เถื่อน)
และเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากราษฎรไทย
ในพื้นที่ลักษณะต่างๆ เป็นต้นว่า
เก็บภาษีสวนยาง เก็บส่วย
เก็บค่าคุ้มครองต่าง ๆ เป็นต้น
.
จึงเป็นเหตุให้ฝ่ายรัฐ
จึงต้องมีการส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่
เข้าไปเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลาในช่วงนั้น
โดยในส่วนของตอนกลางคืน
ก็มีประกาศห้ามออกจากบ้าน (เคอร์ฟิวส์)
.
จึงทำให้ พื้นที่ชายแดนใต้ในช่วงนั้น
ชาวบ้านนอกพื้นไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปใช้ชีวิต
หรือท่องเที่ยวกันเลยทีเดียว
เพราะสุ่มเสียงกับความปลอดภัย
ในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง
.
.
#การใช้ชีวิตของหลวงปู่บุญส่ง
.
.
ในห้วงเวลานั้นที่หลวงปู่บุญส่ง
ท่านได้ลงไปใช้ชีวิตที่พื้นที่บริเวณนี้
ท่านได้ปรารภให้ฟังว่า
.
.
" ตอนนั้นลงไปทำทาง
เส้นปัตตานี - นราธิวาส
เรียกว่าลงไปบุกเบิกน่ะแหละ
ทำกันหลายคนในทีม
เป็นบริษัทต่างชาติที่ได้สัมปทาน
.
เขาก็มาจ้างเราลงไปทำ เราก็ไป
ไม่ได้กลัวหรือว่าอะไร
เพราะเราแค่จะไปทำงานเพียงเท่านั้น
แต่ก็พอรู้ข่าวมาบ้างว่า
มันมีเหตุการณ์หรือสถานการณ์อะไรอยู่
.
แต่เราเป็นคนหู ตา ไว อยู่ที่ไหนก็ไม่ลำบาก
เราไม่เคยประมาท สังเกตุความเป็นอยู่
ความเป็นไปของชาวบ้านพื้นที่เขา
ซึ่งตอนนั้น มันก็มีทั้งไทย พุทธ ไทยมุสลิม
รวมถึงเจ้าหน้าที่จากทางการ
ที่จะเข้ามาตรวจตราแต่ละพื้นที่
.
.
เราไปอยู่ที่นั่น 2 ปี แต่ไม่ได้อยู่ติดที่
เพราะเราทำถนน ทำทาง
ช่วงไหนเสร็จ เส้นไหนเสร็จ
เราก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น
.
เราเช่าห้องพักอยู่
รวม ๆ กันนั่นแหละ ทั้งไทยพุทธ มุสลิม
อะไรก็อยู่รวมกันทั้งหมดไม่ได้แบ่งแยกอะไร
.
และที่น่าแปลกใจ
เรากลับไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใคร
ไม่เคยได้รับอันตราย
และที่สำคัญเราก็ดันได้หมู่ได้พวก
อิสลามชาวพื้นที่ส่วนใหญ่เสียด้วย "
.
.
หลวงปู่บุญส่งเมตตาเล่าให้ฟังถึงการใช้ชีวิต
ในช่วงทำทางช่วงแรกเส้นปัตตานี - นราธิวาส
.
.
รู้จักกับ #มะอีซอ ขาใหญ่ในพื้นที่
.
.
" โดยเพื่อนที่รู้จักก็มีมากมาย
ทั้งรุ่นเดียวกัน หรือจะเป็นวัยชรา
รวมไปถึงระดับหัวหน้าชุมชน
ผู้มีอิธิพลในตอนนั้น
ที่มีชื่อว่า "มะอีซอ"
.
.
ซึ่งมะอีซอคนนี้ถือเป็น
ผู้มีอิทธิพลพอสมควรในตอนนั้น
ที่ทุกคนต้องยำเกรง ทั้งชาวบ้านในพื้นที่
รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ
.
.
"มะอีซอ" นี้ถือเป็นขาใหญ่ของพื้นที่นั้น
เป็นคนที่ทุกคนต้องเกรงใจ
ลักษณะนิสัยยนักเลงพอตัว ใจถึงพึ่งได้
เราเองก็ได้ไปรู้จักกับ "มะอีซอ" คนนี้ด้วย
.
.
รู้จักกันจนถึงขั้นได้เดินทาง
ไปที่บ้านมะอีซอคนนี้
ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเขาเหล่านี้
.
.
ก็ได้ทราบว่า แท้จริงแล้ว
ทั้งเขาและชาวบ้านในพื้นที่
ไม่ได้มีความอันตรายแต่อย่างใด
และไม่ได้มีความน่ากลัวอย่างที่คิด
.
.
หากแต่เป็นสถานการณ์
และความจำเป็นบางอย่างที่ถูกบีบคั้น
จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจทำอะไรบางอย่างลงไป
ที่ขัดกับทางการ ... เขาเพียงแสวงหาความยุติธรรม
ให้กับตัวเองและพวกพ้องของเขาเท่านั้น "
.
.
#เรียนปอเนาะ
.
.
" เราไปอยู่ที่นั่น ได้เรียนรู้วัฒนธรรมหลายอย่าง
โดยเฉพาะ "การเข้าสังคม"
ด้วยว่าพื้นที่บริเวณนั้น
ส่วนใหญ่เป็นคนไทยมุสลิม
ที่จะนับถือศาสนาอิสลาม
.
เราเป็นคนนอกที่เข้าไปอยู่
ถ้าไม่เรียนรู้วัฒนธรรมอะไรของเขาเลย
ก็จะอยู่ยาก เราเลยได้ลองทำอะไรหลายอย่าง
เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่นั่น
.
ทั้งใส่ "หมวกกะปิเยาะห์" ออกงานต่าง ๆ
(หมวกที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามจะใส่)
.
ไป"กินเหนียว"กับเพื่อนอิสลาม
ในงานแต่งงานของเพื่อนชาวอิสลามด้วยกัน
.
เรียนรู้การกินการอยู่รวมกับเพื่อนอิสลาม
แบบที่เรียกว่า "ใจแลกใจ" กัน
.
.
นั่นคือ เวลาไปไหน
เราจะเลี้ยงข้าวเพื่อน
อีกวันเพื่อนก็จะเลี้ยงข้าวเรา
นั่นคือการซื้อใจ ซื้อเพื่อนกัน
และเราไม่เคยคิดเอาเปรียบใคร
มันเลยทำให้เราอยู่ที่นั่นได้
โดยไม่มีปัญหากับใคร
.
.
เราอยู่ที่นั่น
บางทีก็ทำตัวเหมือนคนนับถืออิสลาม
เพราะต้องปรับตัวให้เข้าสภาพแวดล้อม
.
.
หรือแม้แต่ตอนที่ว่างงานไม่มีอะไรทำ
วันหยุด คนอื่นพักผ่อน
เราก็เดินทางเข้าป่า เข้าสวนยาง
พกปืนประจำตัวไปหาอะไรในป่า ในเขากิน
.
ผ่านบ้านมะแก่ ๆ ปะแก่ ๆ
คือคนอิสลามสูงวัย
เขาก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรกับเรา
ยิ้มให้อย่างเมตตา เราอยู่ของเราได้หมด
.
ไม่ได้กลัวจะได้รับอันตราย
จากกองกำลังอะไร
แต่ก็มีการระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
.
.
เหล่านี้คือการเรียนรู็ในการเข้าสังคม
ตอนที่ไปทำทางที่นั่น
.
.
โดยสำคัญคือ
การเข้าเรียน " #โรงเรียนปอเนาะ "
ซึ่งก็คือสำนักสอนศาสนาอิสลาม
.
.
เราเข้าไปเรียนเพื่อที่อยากจะรู้ว่าเป็นอย่างไร
ศึกษาอยู่ในในระยะพอสมควรเช่นกัน
ก็ได้เข้าใจหลักคำสอนของเขา
.
ได้เรียนรู้หลายอย่าง ที่ไม่เคยรู้
จนได้เข้าใจ และสิ่งนี้ในภายหลัง
มันทำให้เราไม่คิดดูถูกศาสนาอื่น
.
เพราะคิดว่าอย่างไรเสีย
ศาสนาอื่นก็มีหลักคำสอนที่ดีของเขา
แต่สำหรับเราหัวใจมอบให้พระพุทธเจ้าทันที
ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจบวช "
.
.
" กลับไปตอนนั้น
มันก็น่าแปลกอย่างตอนที่เราอยู่
ไม่เคยเจอเหตุการณ์ความรุนแรงอะไร
ทั้งจากฝั่งชาวบ้านในพื้นที่
หรือจะเป็นกองกำลังโจรจีนคอมมิวนิสต์
.
รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐเอง
เพราะเรียนรู้หลักการเข้าสังคม
ที่เรียกว่าหลัก "สังคมศาสตร์" "
.
.
การใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ปลายด้ามขวาน
ระหว่างการทำทางเส้นปัตตานี - นราธิวาส นี้
หลวงปู่ปรารภว่าถือเป็นช่วงวัย
ที่ทำให้ท่านได้เรียนรู้อะไรอยู่พอสมควร
สำหรับคนที่มีวัฒนธรรมต่างกัน
.
.
องค์หลวงปู่บุญส่ง
ใช้ชีวิตในดินแดนปลายด้ามขวาน
ดินแดนที่แสนอันตราย
(ในสายตาของคนภายนอก)
.
.
แต่สำหรับท่านมันคือสถานที่หนึ่ง
ที่ซึ่งเต็มไปด้วยความเรียบง่าย
.
โดยถนนเส้นนั้นยังไม่ทันเสร็จ
เหลืออีกไม่เท่าไหร่
ก็ได้เดินทางกลับขึ้นมาจากภาคใต้
เพื่อที่จะเข้าสู่ทางธรรม
.
.
" เราอยู่ที่นั่น 2 ปี จากนั้นก็กลับขึ้นมาก่อน
ตอนทำเส้นทางถึง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
เพื่อที่จะบวชแล้วลงไปใหม่
.
เราบวชเพื่อที่จะแต่งงาน
แต่ไป ๆ มา ๆ ก็อย่างที่เห็น
เราก็เสร็จพระพุทธเจ้าจนถึงปัจจุบัน
.
.
ส่วนพื้นที่เหล่านั้น
พอเรากลับขึ้นมาไม่กี่เดือน
ความวุ่นวายเหตุร้ายต่าง ๆ ก็เกิดขึ้น
.
.
เพื่อนที่ทำงานที่นั่น
รวมถึงเพื่อนอิสลามที่รู้จักกัน
หลังจากที่เราขึ้นมาแล้วมาบวช
.
ก็ส่งข่าวมาบอก
ถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น
ทั้งการปะทะกันของเจ้าหน้าที่กับชาวบ้าน
.
รวมไปถึงความรุนแรงของกลุ่มโจรจีนคอมมิวนิสต์
เรียกได้ว่าต่างจากที่เราอยู่เป็นอย่างมาก
เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ลากยาวจนมาถึงปัจจุบัน
อย่างที่ได้เห็นกัน
.
.
ที่นั่นเพื่อนเรามีอยู่มาก
แต่ปัจจุบันนี้คงจะไม่เหลือกันแล้ว
เพราะผ่านพ้นมาหลายสิบปีแล้ว
.
.
พื้นที่บริเวณนั้น
ก็ไม่ค่อยมีใครกล้าที่จะลงไป
แต่สมัยที่เราอยู่
ถือว่าเป็นสถานที่เรียบง่ายที่หนึ่ง "
.
.
เบื้องต้นคือส่วนหนึ่ง
ของช่วงวัยในองค์หลวงปู่บุญส่ง
ในยุคสมัยที่องค์ท่านได้ลงไปใช้ชีวิตช่วงฆราวาส
.
ทำถนนเส้น ปัตตานี - นราธิวาส
ที่ปลายด้ามขวานของไทย
ก่อนเข้าสู่ร่มบวรพุทธศาสนาในภายหลัง
ที่หลายคนยังไม่ค่อยทราบ
.
.
.
หลวงปู่บุญส่ง ... องค์ท่านถือกำเนิด
เกิดมาจากบ้านที่มีลูกมากและยากจน
ผ่านการต่อสู้ชีวิต
ที่มีทั้งทางผิดและถูกก่อนการบวช
.
.
แม้บวชแล้วก็ยังต้องต่อสู้กับความอดอยาก
ไม่มีแม้แต่คนจะใส่บาตรให้ฉัน
.
.
หลวงปู่ท่านทำทุกอย่าง
ผ่านอะไรมาหลายอย่างเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
ท่านเห็นถึงความทุกข์ในชีวิต
ของฆราวาสมากมาย
.
.
ท่านได้ตัดสินใจออกอุปสมบท
เมื่ออายุ ๒๙ ปี ๙ เดือน
และได้อยู่ในร่มผ้ากาสาวพัตร์
ครองธรรม เอาตายแลกธรรม
เผยแพร่ธรรมด้วยความมุ่งมั่น
ด้วยจิตใจเด็ดเดี่ยว ห้าวหาญ
องอาจดุจราชสีห์
.
.
ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันนี้
ที่หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
ได้ปฏิบัติตนด้วยความตั้งมั่น
อยู่ในร่มบวรพระพุทธศานา
รวมเวลาแล้วกว่า ๕๑ ปี
.
.
.
#น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
.
.
__________________
.
.
.
ปล.ทางการไทย และ โจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา
ภายหลังได้มีการลงนามในความตกลงเพื่อยุติสถานการณ์
การต่อสู้ด้วยกำลังอาวุธของโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
.
.
บันทึก : จ๊อด
.
.
อ่าน "โจรจีนคอมมิวนิสต์"
เพิ่มเติม : https://goo.gl/4nz1Mw
.
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

อานิสงส์ ของการอุปัฏฐาก ท่านผู้ประเสริฐกว่าเราก็ดี การบูชาบุคคล ผู้ควรแก่การบูชาก็ดี ด้วยความเพียรพยายาม อย่างต่อเนื่อง เป็นทางมาแห่งบุญ อันจะนับประมาณมิได้

ถ้าบุญมากพอ ก็ย่อมจะส่งผลเร็ว ให้เราได้รับความสุข ความเจริญ และได้รับความสำเร็จ ในชาติปัจจุบันนี้ เลยทีเดียว

เหมือนดังพราหมณ์ ที่ได้รับโลกียทรัพย์ คือขุมทรัพย์มหาศาล ให้ใช้ได้อย่างสุขสบาย ตลอดชีวิต

(ขอน้อมจิต...อนุโมทนา)
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

เรื่องราวแห่งความประทับใจระหว่างหลวงปู่บุญส่งโปรดศิษย์ภาคใต้
.
ภาพ...26/4/61
.

หลังจากหลวงปู่บุญส่ง ได้เดินทางถึงที่พักที่ภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว
พี่สมคิดได้ขออนุญาตมาที่ตลาด เพื่อจะมาซื้อดอกไม้
.
#คนไม่ว่าทำอาชีพอะไรก็ทำบุญได้...ถ้ามีปัญญาพร้อมศรัทธา
ออกไปตลาดหาซื้อดอกไม้
มาทำพานบูชาขอขมาสรงน้ำองค์หลวงปู่.....
แม่ค้า : ถามว่าซื้อดอกไม้ไปทำอะไรเยอะจัง
พี่สมคิด : ผมจะเอาไปทำพานดอกไม้สรงน้ำหลวงปู่
แม่ค้า : ท่านชื่ออะไร
พี่สมคิด : หลวงปู่บุญส่งครับ
.
พอได้ยินชื่อหลวงปู่เท่านั้นละ ป้าแกก็ขอถวายดอกไม้ไปบูชาหลวงปู่ด้วย
แค่ได้ยินชื่อท่าน...คนทั้งหลายก็อยากร่วมบุญกับท่านแล้ว
หลวงปู่บุญส่ง...พระผู้มีเมตตาหาประมาณมิได้ พระผู้มากด้วยบารมี
............................
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และ #หลวงปู่ไม อินทสิริ
เมตตาบันทึกภาพร่วมกับศิษยานุศิษย์
หน้าวัดเจริญสมณกิจ (วัดหลังศาล) อ.เมือง จ.ภูเก็ต
หลังจากที่พ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งสองรูป
เมตตาบิณฑบาตพร้อมกัน
ในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 28 เมษยายน 2561 ที่ผ่านมา
.
.
#น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
.
.
ภาพ : โกหยิน ภูเก็ต
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

#พักไม่นานก็หาย
.
ท่วงท่าและอิริยาบถอันสงบนิ่งของพระมหาเถระ
ที่อายุล่วงก้าวเข้าวัย 82 ปีที่เดินทางทั่วทุกสถานที่ ...
.
เวลาเกือบจะครึ่งเดือนแล้ว
ตั้งแต่ที่องค์ #หลวงปู่บุญส่ง
ท่านเมตตาเดินทางลงมาโปรดศิษยานุศิษย์ที่ภาคใต้
.
ท่านเดินทางด้วยรถยนต์ ไปโปรดศิษย์ในแต่ละที่
แต่ละจังหวัดอย่างไม่เคยย่นย่อ
ไม่ต้องบอกว่าเหนื่อยเพียงใด อ่อนล้าเพียงใด
.
คนหนุ่ม คนสาว
คนวัยฉกรรจ์ก็ยังรู้ดีว่าอ่อนเพลียแค่ไหน
.
แต่กับพระผู้ใหญ่ที่ชราภาพแล้วอย่างองค์ท่าน
กลับไม่เคยมีคำว่าอ่อนแออยู่ในหัวใจ
เหนื่อยล้าอยู่ในหัวใจ ...
.
ท่านว่าพักไม่นานก็หาย
ท่านบอกแบบนี้เสมอ
.
.
" เหนื่อยน่ะมันเหนื่อยอยู่ ทุกคนเกิดมาก็ต้องเหนื่อย
แต่พักไม่นานมันก็หาย ร่างกายอ่อนแอแล้ว
ก็อย่าให้จิตใจอ่อนแอไปกับมัน ... "
.
.
นี่คือคำปรารภที่องค์ท่านมักจะกล่าวให้ฟังอยู่เสมอ
.
.
การเดินทางโปรดศิษย์ที่ภาคใต้ครั้งนี้นั้น
ยาวนานกว่าครั้งไหน ๆ ที่เคยมีมา
ด้วยว่าหลวงปู่ต้องการที่จะโปรดศิษย์ในทุกพื้นที่
เกือบจะทุกจังหวัด หากไปได้
.
.
ท่านว่า
.
" อยากให้ทุกคน ทุกระดับมาร่วมบุญนี้กัน
บุญนี้มันบุญใหญ่ เดี๋ยวจะรู้เอง เห็นเองเมื่อมันถึงเวลา
อยากให้มาสร้างกุศลด้วยกัน "
.
.
......
.
อีกไม่กี่วันการเดินทางโปรดศิษย์ภาคใต้
ที่ยาวนานในครั้งนี้จะถึงคราวสิ้นสุดลง
และหลวงปู่ท่านจะกลับไปพัก เดินทางกลับวัด
.
.
แต่หน้าที่รวมถึงศาสนกิจก็ยังมีอยู่
หลวงปู่ท่านบอกว่างานที่ทำไว้ ตั้งใจไว้มันก็ต้องสำเร็จ
แต่ยังไงเสียเราทำคนเดียวมันก็ไม่ได้
ทุก ๆ คนจะต้องช่วยกัน คนละไม้คนละมือ คนละนิด คนละหน่อย
ตามแต่ที่ตนเองถนัด และมันจะทำให้งานสำเร็จเร็วขึ้น
.
.
.
และท่านปรารภปิดท้ายว่า
ใครก็ตามที่ได้มาช่วย ได้มาทำ ได้มาสร้าง
เมื่อถึงเวลาจะเห็นความพิเศษของบุญกุศลที่เราทำกันไป
เพราะอะไร เพราะว่าบุญมันไม่เคยทรยศและเนรคุณใคร
เมื่อถึงเวลานั้นแล้วทุกคนจะได้เห็นกัน ว่ามันเป็นยังไง
.
.
.
#น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

" เหนื่อยน่ะมันเหนื่อยอยู่ ทุกคนเกิดมาก็ต้องเหนื่อย
แต่พักไม่นานมันก็หาย ร่างกายอ่อนแอแล้ว
ก็อย่าให้จิตใจอ่อนแอไปกับมัน ...
.
... อยากให้ทุกคน ทุกระดับมาร่วมบุญนี้กัน
บุญนี้มันบุญใหญ่ เดี๋ยวจะรู้เอง เห็นเองเมื่อมันถึงเวลา
อยากให้มาสร้างกุศลด้วยกัน ""
.
.
#หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี

 

***น้อมจิต...อนุโมทนาบุญ(ได้ปัจจัย...ร่วมบุญ 3 ล้านบาทเศษ)***

กับการเดินทาง ไปโปรดศิษย์ ทางภาคใต้...ขององค์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร...ในครั้งนี้

และ อนุโมทนา กับคณะศิษย์ฯ...ที่ติดตามอุปัฏฐาก...ทุกท่าน
.
ขออนุญาตสาธุบุญกับคณะอุปัฎฐากทุกท่านด้วยครับผม

 

#หลวงปู่บุญส่ง เดินทางลงไปปฏิบัติศาสนกิจที่ภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา
ปรากฎว่าแว่นตาขององค์ท่านชำรุด ศิษยานุศิษย์
จึงขอโอกาสอาราธนานิมนต์องค์ท่านไปทำแว่นใหม่ ซึ่งท่านก็เมตตา
.
โดยเจ้าของร้าน "เพชรบุรี การแว่น
(Petchaburi Optical)
เป็นผู้จัดปวารณาจัดทำแว่นตาอันเก่าให้
และนอกจากนั้นก็ได้จัดทำแว่นตาอันใหม่ถวาย
เพื่อสำหรับสำรองไว้ใช้คราวฉุกเฉินอีกด้วย
.
.
ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของร้านผู้มีจิตเป็นกุศล
ที่ถวายแว่นองค์หลวงปู่ในครั้งนี้ครับ
.
.
#สาธุอนุโมทนาบุญ
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

***ขอน้อม...อนุโมทนา...กับ...พี่สุทิน ม่วงยาน***

(ไม่ว่า จะขึ้นเหนือ-ล่องใต้ หรือ ไปที่ไหนๆ)

- ท่านนี้...จะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ ขับรถ(สารถี)ถวาย...องค์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร...เพื่อเดินทาง ไปโปรดศิษย์ฯ ในสถานที่ต่างๆ

 

#คุณพืชเดอะว้อยซ์
#กราบหลวงปู่บุญส่ง
.
ศิษย์ของ #หลวงปู่บุญส่ง นั้นมีอยู่ทุกวงการ ทั้งศิลปินดาราหรือว่าบุคลธรรมดา
วานนี้หลังจากองค์ท่านเดินทางกลับมาจากการโปรดศิษย์ที่ภาคใต้ และได้เข้าพักที่กทม.
.
"คุณพืช ภาคิน " หรือ "คุณพืช เดอะว้อยซ์" ศิลปินศิลปินหนุ่มเสียงดีจากเวที The Voice ได้เข้ากราบทำบุญกับหลวงปู่บุญส่ง และขอโอกาสให้องค์ท่านเมตตากีต้าร์คู่ใจของคุณพืช ซึ่งองค์หลวงปู่ก็พิจารณาสงเคราะห์ให้
.
.
โดยองค์ท่านท่านเมตตาอธิษฐานจิต แล้วท่านก็ใช้นิ้วกรีดสายกีตาร์พร้อมกับพูดว่า "เล่นให้ดังไปเลย"
.
.
ไม่ว่าจะอยู่วงการไหน
หลวงปู่ก็เมตตาสงเคราะห์ให้เสมอเหมือนกันหมด
.
.
#สาธุอนุโมทนาบุญ
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

หลวงปู่บอกให้ไปถ่ายรูปอุโบสถ...ลงภาพปัจจุบันให้ญาติโยมที่ร่วมทำบุญมา ได้ดูกันบ้างนะว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
.
...ภาพ...พี่พุด
(ภาพถ่ายช่วงเย็น...10/5/2561)
.
.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

 

ภาพ #หลวงปู่บุญส่ง ในอดีต
เมื่อครั้งเมตตาให้ศิษยานุศิษย์บันทึกภาพไว้
.
พระอริยสงฆ์ผู้เป็นนาบุญ
" #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร"
วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
.
หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
พระสุปฏิปันโน แห่ง จ.จันทบุรี
.

.
สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
.
.
หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี