หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส สืบสายธรรม"หลวงปู่เสาร์"

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 27 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระสายปฏิบัติ หรือสายพระป่าส่วนใหญ่เป็นศิษย์ "หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล" และ " หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" แทบทั้งสิ้น ล่าสุดศิษย์ของท่านก็ละสังขารไปอีกรูป นั่นก็คือ "พระธรรมวิสุทธิมงคล" หรือ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

    หากย้อนหลังกลับไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2536 ครั้งนั้นก็ถือเป็นวาระแห่งความสูญเสียของชาวพุทธศาสนิกหนองคายและชาวไทยทั่วประเทศ "พระ ครูปัญญาวิสุทธิ์" หรือ "หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส" วัดป่าพระสถิตย์ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พระเถระที่เป็นเสมือนหลักชัยแห่งศรัทธาของชาวหนอง คาย ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ สิริอายุ 81 พรรษา 61 ยังความอาลัยให้กับบรรดาลูกศิษย์ลูกหาเป็นอย่างยิ่ง

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า บัวพา แสงศรี เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2454 ณ ที่บ้านบึงแก อ.มหาชนะชัย จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดยโสธร) โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายหยาด และนางทองสา แสงศรี ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

    ในเวลาต่อมา โยมบิดามารดาของท่านได้อพยพไปตั้งหลักแหล่งใหม่ที่บ้านกุดกุง ต.สงเปลือย อ.คำเขื่อน แก้ว จ.ยโสธร

    อุปนิสัยของ ด.ช.บัวพา เป็นคนพูดน้อย มีความเคารพนอบน้อมเชื่อฟังผู้ใหญ่ เป็นคนว่าง่ายสอนง่าย ไม่ชอบทำบาป มีจิตใจใฝ่บุญกุศลตั้งแต่เป็นเด็กตลอดมา

    ครั้นพออายุครบบวช บิดามารดามีความปรารถนาอยากจะให้ท่านบวชก่อนจะมีครอบครัว บังเอิญในปีนั้นนายเทพ ลูกชายของน้องสาวโยมพ่อ (โยมแตงอ่อน) ได้ถึงแก่กรรม ลุงได้ขอร้องให้ท่านช่วยบวชอุทิศส่วนกุศลให้แก่นายเทพ ซึ่งเป็นลูกชายของโยมแตงอ่อน

    พ่อคำมี แสงศรี จึงเป็นเจ้าภาพจัดกองบวชให้ และท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ.2475 ณ สีมาน้ำวัดบ้านกุดกุง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี โดยมีพระอาจารย์มอน เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชฝ่ายมหานิกาย

    ในพรรษาแรกอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านกุดกุง วัดบ้านกุดกุงนั้นเป็นวัดอยู่นอกบ้าน ห่างบ้านพอประมาณ ท่านฉันมื้อเดียว และฝึกหัดภาวนาอยู่ตามลำพังแต่องค์เดียวมิได้ขาดเพราะเป็นวัดบ้าน การทำสมาธิภาวนาไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน ท่านก็คิดทำของท่านเอง

    มีอยู่วันหนึ่ง ท่านระลึกถึงเมื่อสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้อยู่ที่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ พอดีภายในวัดบ้านกุดกุง มีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง ท่านจึงไปนั่งสมาธิที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ

    ในคืนวันนั้น ท่านรอให้เสียงผู้คนเงียบสงัดเสียก่อน จึงค่อยไปนั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นโพธิ์โดยไม่มีใครรู้ พอไปถึงท่านกราบลง 3 ครั้ง แล้วนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก บริกรรม "พุทโธ" อยู่องค์เดียว ใช้เวลาภาวนาอยู่ไม่นานนัก จิตก็รวมสงบลงอย่างแน่วแน่ ท่านได้พบความสุขอยู่อย่างสุดซึ้งที่ใต้ต้นโพธิ์นั้นเอง นั่งสมาธิอยู่เกือบสว่าง พอได้ยินเสียงผู้คนออกไปตักน้ำที่กุดกุงตอนใกล้รุ่ง ท่านจึงเข้ามาทำข้อวัตรต่อที่กุฏิของท่าน

    ครั้งหนึ่ง ท่านไปเมืองสกลนคร ได้เข้ากราบนมัส การองค์หลวงปู่เสาร์ ที่วัดป่าสุทธาวาส มอบกายถวายชีวิตต่อองค์หลวงปู่เสาร์ ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขององค์ท่าน องค์ท่านก็เมตตารับไว้

    แต่ตอนนั้นองค์หลวงปู่บัวพา ยังเป็นพระมหานิกายอยู่ จึงไปญัตติใหม่ เป็นพระสายธรรมยุต เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2478 ณ พัทธสีมาวัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม โดยมีพระครูสารภาณมุนี (หลวงปู่จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาพรมมา โชติโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    หลังจากได้ญัตติกรรมเป็นพระธรรมยุตแล้ว ได้เดินทางกลับมาวัดป่าสุทธาวาส อยู่กับหลวงปู่เสาร์ ได้รับใช้ครูบาอาจารย์ และได้ช่วยหมู่คณะอย่างเต็มที่

    หลวงปู่บัวพา เป็นพระเถรผู้มีอุปนิสัยพูดน้อย มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ได้บำเพ็ญสมณธรรม ปฏิบัติศาสนกิจ อบรมสั่งสอนสานุศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ให้ยึดมั่นในพระรัตนตรัย และสำเหนียกในไตรสิกขา อันเป็นแนวทางแห่งอริยมรรค

    "คนเราควรใช้สติปัญญา ใช้ปัญญาเป็นกล้องส่องใจ จะได้รู้ว่าสภาพที่แท้จริงของจิตเป็นอย่างไร" คำกล่าวบรรยายธรรมของ "หลวงปู่บัวพา" พระวิปัสสนาจารย์สายอีสาน

    ประสบการณ์ทางธรรมที่หลวงปู่สั่งสมมา ล้วน ถูกถ่ายทอดสู่บรรดาศิษย์ให้ประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อหนทางแห่งมรรคผลนิพพาน ด้วยความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง

    [FONT=Tahoma,]หน้า 31[/FONT]


    http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1TMHdNaTB5Tnc9PQ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2011

แชร์หน้านี้

Loading...