หลวงปู่ดุล, พระอาจารย์มั่น, หลวงปู่แหวน, หลวงพ่อขาว วัดอนาลโย กล่าวถึงนิพพานว่ายังไง?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย neomagic, 1 มกราคม 2005.

  1. neomagic

    neomagic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +217
    และหลวงพ่อ อะไรน๊า ท่าประจำของท่านคือนั่งยองสูบบุหรี่น่ะครับ.

    ใครพอจะมีข้อมูลมาแถลงไหมครับ.
    อย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำ, หลวงพ่อปาน, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ, หลวงตามหาบัว กล่าวว่านิพพานเป็นแดน

    และหลวงพ่อกระผมอ้างถึงข้างบนไม่ทราบว่ากล่าวว่าอย่างไรครับ
     
  2. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +52
    พระไตรปิฏก คือธรรมะที่พึ่ง ครับ หาความรู้เรื่องพระนิพพานจากพระไตรปิฏก ได้เลยครับ
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ อริยสัจจ ประกาศธรรมคำสอน 5000 ปี
     
  3. พฤติจิต

    พฤติจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +230
    เริ่มต้นที่ พระอภิธรรมเลยครับผม เป็นธรรมที่ประเสริฐ ขอให้เริ่มเลยครับที่ ปรมัตถธรรมก่อน อ่าน ตริตรองให้ดีนะครับ อ่านให้เข้าใจจริงๆ และอย่าเพิ่งไปพะวักพะวงเรื่องของพระนิพานธาตุ ครับ .....ลงมือปฏิบัติ ยึดเอา มหาสติปฐานสูตรเป็นหลักเลยครับ กายในกาย เวทนา ในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม กายในกายจะง่ายสุดเริ่มที่อานาปาณสติเป็นบาทฐาน ......ถ้ายังไม่ปฏิบัติ อย่าเพิ่งคิดเอาหรือนึกเอาครับ
     
  4. neomagic

    neomagic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +217
    ขอความกรุณา ช่วยตอบให้ตรงคำถามได้ไหมครับ

    แต่กระผมไม่ได้มีเจตนาที่จะพูดให้คุณ Narit กะคุณพฤติจิต ขุ่นข้องหมองใจนะครับ
    และตัวผมเองก็ปฏิบัติกรรมฐานอยู่ทุกวันขอรับ เีพียงแต่ผมเชื่อหลวงพ่อ แต่โดยความคิดก็อยากที่จะลองฟังคำสอนเรื่องนิพพานจาก1 ในพระรัตนตรัย นั่นคือพระอริยสงฆ์หลายๆด้วยขอรับ.
     
  5. มารสะท้าน

    มารสะท้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +97
    ครับ สำหรับพระอาจารย์มั่น ท่านก็กล่าวไว้ว่า การปฎิบัติ ถ้ายังเสวยอยู่ก็เป็นอันผิดหมด การถึงพระนิพพาน คือต้องไม่เสวยอารมณ์ใดๆ

    ดังนั้น ตามความหมายที่ท่านกล่าวนั้น พระนิพพานไม่น่าที่จะมีแดนนะครับ
     
  6. narit

    narit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +52
    คุณมารสะท้าน กล่าวถูก
     
  7. bandit

    bandit บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    น่าจะได้ข้อสรุปนะครับว่า ผู้หวังดี ในบอร์ดคนเมืองบัว narit ในบอร์พลังจิต รักษ์สัทธรรม และอื่นๆ ในบอร์ดต่างๆ เป็นคนเดียวกันกับ เว็ปมาสเตอร์ของ http://apinyatatip.cyber2host.com/ ที่มีบอร์ด คือ http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vboard.php?user=apinyatatip

    หลังจากมีผู้รู้ที่มาของคนผู้นี้ กระทู้ป่วนต่างๆ หายไปเลยครับ ในบอร์ดคนเมืองบัว อาจมีการลบกระทู้ แต่ในพลังจิต ไม่มีการลบ ก็ไม่เข้าไปป่วนอีก

    น่าขำดีนะครับ ของตัวเองเพี้ยนหนักกว่าชาวบ้านอีก เที่ยวไปว่าชาวบ้านเขา มีการบอกว่า ดูสวรรค์หรือนรกครบกี่ครั้งก็ไม่รู้ล้างบาปได้ ลองอ่านดูนะครับจากhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5&highlight=%BE%D4%C1%BE%D2
     
  8. Tom

    Tom บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    คำสอนที่ถูกต้องเชิญศึกษาได้จากครูบาอาจารย์ของ คุณnarit จากhttp://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=5

    คำสอนที่ถูกคือ เผาบัญชีบาปได้ เลยว่าพระได้ ไม่ตกนรก นี่เป็นคำสอนของครูของnaritทั้งหลาย เก่งกว่าพระพุทธเจ้าอีก
     
  9. neomagic

    neomagic เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    255
    ค่าพลัง:
    +217
    avartar ของคุณมารสะท้านตลกดีครับ อยากถามว่าเพราะไปทำกรรมอะไรมาครับถึงถูกฝาส้วมหนีบจู๋ได้ ฮ่าๆๆ
    (b-deejai)
     
  10. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,667
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,216
    หลวงพ่อฤาษีกล่าวเอาไว้ดูในกระทู้นี้ www.palungjit.org/board/showthread.php?t=2481
    <hr>
    หลวงพ่อสดกล่าวไว้ว่า
    'นิพพานอยู่ข้างบน สูงจากภพ 3 โตเท่าภพ 3 นี่ สว่างเป็นแก้วไปหมดทั้งนั้น งดงามมาก โตเท่าภพ 3 นี่"
    <hr>
    หลวงตามหาบัวกล่าวไว้ว่า

    ...จากนั้นบุญกุศลทั้งหลายที่เราสร้างอยู่ไม่หยุดไม่ถอย เพิ่มพูนขึ้นเป็นลำดับลำดาเลยสวรรค์ไป เลยพรหมโลกไป จนกระทั่งถึงนิพพาน ดับทุกข์โดยประการทั้งปวงโดยสิ้นเชิงตลอดไป ไม่มีคำว่า อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา จะเข้าไปเกี่ยวข้องในเมืองนิพพานนั้นได้เลย เรียกว่าเมืองนิพพานก็ได้ มหาวิมุตติ มหานิพพาน หรือธรรมธาตุก็ได้ นี่เรียกว่าสถานที่ดับทุกข์โดยประการทั้งปวง จากความดีของเราที่ได้สร้างมามากน้อย ท่านจึงได้สอนไว้ พระพุทธเจ้าท่านทรงนิพพาน ทุกสิ่งทุกอย่างทรงผ่านไปหมดแล้ว การขึ้นลงสวรรค์ชั้นพรหมไม่มีใครเกินโพธิสัตว์ ที่ได้สร้างคุณงามความดีแล้วก็ไปเกิดในสวรรค์ชั้นนั้นๆ ควรแก่กาลเวลาแล้วก็ลงมาสร้างบารมี

    กฎอนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปอย่างโลกทั่วๆ ไปอย่างนี้ ไม่มีในนิพพาน นิพพานสิ้นสุดยุติตั้งแต่ขณะท่านตรัสรู้ปึ๋งขึ้นมา พระอรหันต์ก็บรรลุธรรมปึ๋งขึ้นมา ทราบทันทีเลยว่าพ้นแล้วจากแดนแปรปรวน แดน ทุกฺขํ อนิจฺจํ อนตฺตา ถึงแล้วซึ่งพระนิพพาน เรียกว่าเมืองเที่ยงตรง เที่ยงไปตลอดอนันตกาล ไม่มีคำที่ว่าจะโยกย้ายผันแปรไปไหนอีกเลย แม้ขณะหนึ่งก็ไม่มีในแดนนิพพาน จึงเรียกว่าเป็นแดนแห่งความเลิศเลอของท่านผู้บรรลุธรรมอันเลิศเลอแล้วสถิตอยู่ในสถานที่นั้น ผู้อื่นผู้ใดไม่สามารถจะไปอยู่ในสถานที่นั้นได้ นอกจากผู้สิ้นกิเลสโดยสิ้นเชิงแล้วเท่านั้น นี่ก็คือการสร้างบุญสร้างกุศล

    สำหรับเราพอทุกอย่าง เอาอะไรมาให้ก็ไม่เอา ปล่อยวางหมด เช่นทองคำทั้งแท่งกับอิฐก้อนหนึ่ง ราคาทองคำทั้งแท่งสูง อิฐก้อนหนึ่งราคาต่ำแต่มันมีน้ำหนักเท่ากัน เมื่อมีน้ำหนักเท่ากัน น้ำหนักนั้นแหละจะเป็นกองทุกข์แก่ผู้แบกหาม ปล่อยเสียทั้งหมด ทองคำก็ไม่เอา อิฐ-ปูนก็ไม่เอา ปล่อยแล้วไม่หนัก นี้ละธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ได้เข้าในหัวใจดวงใดแล้วปล่อยหมดโดยสิ้นเชิง มีแต่ความพอแล้วด้วยความเลิศเลอ ไม่ใช่พอธรรมดาอย่างโลกทั้งหลายพอกัน พอในธรรมทั้งหลายนี้พอด้วยความเลิศความเลอ ถ้าว่าสุขก็ไม่มีสุขใดเสมอเหมือน ว่าเลิศเลอก็หาอะไรไปเทียบไม่ได้ เพราะนั้นเป็นแดนวิมุตติ ไม่ใช่สมมุติพอจะมาเทียบมาเคียงตามสัดตามส่วนได้ นี่ละท่านว่าแดนแห่งความเลิศเลอ...

    *เทศน์อบรมพระสงฆ์และฆราวาส ณ ศาลาใหญ่วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๖

    ...ใจนี้ไม่เคยตาย ตั้งกัปตั้งกัลป์ก็เป็นมาอย่างนี้ แม้จะไปตกนรกตั้งกี่กัปกี่กัลป์ก็ตาม การที่ว่าได้รับความทุกข์ในแดนนรกแต่ละหลุม ๆ นั้นยอมรับ ส่วนที่จะให้ใจนี้ฉิบหายไม่มี ทุกข์ขนาดไหนก็ยอมรับว่าทุกข์ แต่ไม่เคยฉิบหายคือใจดวงนี้ เวลาชำระสะสางแล้วด้วยอำนาจแห่งคุณงามความดีของเรา ก็ค่อยสงบผ่องใสได้บริสุทธิ์ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงขั้นความบริสุทธิ์เต็มที่แล้ว ดังพระพุทธเจ้าและพระสาวกอรหันต์ทั้งหลาย ท่านถึงนิพพานเลย นั่น ถึงนิพพานก็ไม่สิ้นสูญ ใจดวงนี้ไม่มีคำว่าสูญ ตกนรกก็ไม่สูญใจดวงนี้ จนกระทั่งบริสุทธิ์เต็มที่แล้วไปถึงนิพพานก็ไม่สูญ นี่แหละท่านว่านิพพานเที่ยง ก็คือจิตดวงที่ไม่สูญนี้แหละเป็นผู้บริสุทธิ์เต็มที่แล้ว เรียกว่าธรรมธาตุ อยู่ในแดนแห่งนิพพาน นี่แหละเป็นผู้เสวยความบรมสุขตลอดไป ท่านจึงเรียกว่านิพพานเที่ยง ๆ ก็เพราะจิตดวงนี้ไม่ตาย มีความเที่ยงตรงอยู่ด้วยบรมสุขตลอดไป นี่คือการสร้างความดีให้ผลแก่เราอย่างนี้ ให้พากันอุตส่าห์พยายามสร้างคุณงามความดี...

    *เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดเขาน้อยสามผาน จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

    ...นี่ละตัวพาให้เกิด ก็รู้ได้ชัดละซิ ทีนี้จะเอาอะไรไปเกิด เอ้า เห็นกันอยู่รู้กันอยู่ ตัวนี้จะไปเกิดที่ไหนที่นี่ เอ้า เกิดที่ไหนล่ะ อะไรพาให้เกิด ก็สิ่งที่ดับไปตะกี้นี้พาให้เกิด นั่นมันรู้ชัดขนาดนั้นนะ ทีนี้ไม่เกิดแล้วจะดับไหมจิตดวงนี้ จะเอาอะไรมาดับ นั่น ไม่เกิดด้วยไม่ดับด้วย ไม่มีคำว่าว่ามีอยู่แบบโลกด้วย ไม่สูญแบบโลกด้วย มีอยู่แบบความบริสุทธิ์ ถ้าว่าสูญก็สูญแบบความบริสุทธิ์ เหมือนอย่างที่ว่านิพพาน มีอยู่แบบนิพพาน สูญแบบนิพพาน ไม่ได้สูญแบบโลกสงสาร...

    *เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๒๘

    ...ก็กิเลสมันไม่เคยเห็นมรรคผลนิพพาน เกิดมาเต็มอยู่ในหัวใจของสัตว์นับแต่โคตรแต่แซ่ของมันลงมา มันจะเอามรรคผลนิพพานมาอวดสัตว์โลกอย่างไร เพราะคำว่ามรรคผลนิพพานก็คือแดนสุดวิสัยของมันแล้ว มันเอื้อมไม่ถึง จิตดวงใดถ้าได้เข้าสู่แดนนิพพานแล้ว กิเลสประเภทต่าง ๆ เรียกว่ากิเลสมารสุดเอื้อมหมดหวัง หมดอาลัยตายอยากแล้ว มันจะอุตริไปสอนจิตดวงใดโลกใดสัตว์ตัวใดให้ไปสู่สวรรค์นิพพานเล่า นอกจากมันจะกว้านเข้ามาเพื่อผลรายได้ของมันโดยอุบายต่าง ๆ เท่านั้น เช่น บาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี นิพพานไม่มี นี่เป็นอุบายที่จะให้เกิดผลรายได้แก่มันโดยถ่ายเดียวเท่านั้น

    เพราะฉะนั้นหลักความจริงแล้วจึงไม่มีคำว่า พระพุทธเจ้านิพพานไปนานแสนนาน เป็นการตัดขาดจากมรรคผลนิพพาน ที่ทรงแสดงไว้แล้วโดยถูกต้องตามหลักสวากขาตธรรม การนิพพานเป็นเรื่องของพระองค์เท่านั้น และการนิพพานไปก็ไม่ใช่เป็นการขาดทุนสูญดอก สำหรับพระพุทธเจ้าเป็นการเปลี่ยนสภาพในทางธาตุทางขันธ์อันเป็นสมมุติเข้าสู่ตามสมมุติเดิมของตน โดยหมดความเยื่อใยตายอยาก ไม่ยึดมั่นถือมั่น โดยจิตที่บริสุทธิ์ล้วน ๆ แล้วเท่านั้น จิตที่บริสุทธิ์ล้วน ๆ แล้วอะไรไปเป็นข้าศึกไปทำลายให้พินาศฉิบหายได้ แม้แต่กิเลสก็ไม่สามารถ ไม่มีอำนาจวาสนาที่จะไปทำลายจิตที่บริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าให้สูญให้อันตรธานไปได้ แล้วนิพพานจะสูญไปไหน จิตผู้บริสุทธิ์จะสูญไปได้อย่างไร เพราะธรรมชาตินี้นอกเหนือไปจากสมมุติทั้งมวลแล้ว จึงไม่มีอะไรที่จะเข้าไปทำลายจิตที่บริสุทธิ์แล้วให้สูญไปได้ ให้ฉิบหายไปได้...

    *เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๗
    <hr>
    ที่คุณถามมา หามาได้เท่านี้ล่ะครับ ส่วนองค์อื่นกล่าวว่าอย่างไรก็ไปค้นหาเอาเองนะครับ
    แต่คุณปฏิบัติแล้วพิสูจน์ด้วยตัวเองดีที่สุด เพราะการไปค้นหามาว่าพระนิพพานเป็นอย่างไรไม่อาจจะทำให้คุณบรรลุธรรมได้ ธรรมะนั้นเป็นเรื่อง ปัจจัตตัง ปฏิบัติเองก็รู้เองครับ
     
  11. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    อนุโมทนาสาธุ กับการให้ธรรมทาน ของคุณ thanan

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  12. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,020
  13. ว่าง สงบ

    ว่าง สงบ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนากับทุกท่านที่กำลังเดินทางไปเมืองที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดอนันตกาล
     
  14. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    หลวงปู่มั่น ผมเคยอ่าน ว่าท่าน บอกว่า นิพพาน เป็นแดน ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...