หลวงปู่จาม มหาปุญโญ พระโพธิสัตว์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย chingchamp, 3 พฤศจิกายน 2008.

  1. chingchamp

    chingchamp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    788
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +504
    [​IMG]
    หลวงปู่จาม มหาปุณโญ วัดป่าวิเวกพัฒนาราม จ.มุกดาหาร

    หลวงปู่จามกับการปราถนาพุทธภูมิ
    <HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เป็นบทสทนากับลูกศิษย์ท่านครับ ท่านเป็นพระภิกษุสายหลวงปู่มั่นรูป
    อายุ จะร้อยปีแล้วครับ (99)
    ถาม : หลวงปู่ไม่เอาพระอรหันต์ในชาตินี้หรือ ?
    ตอบ : เอาอยู่ แต่เอาไม่ได้
    ถาม : หลวงปู่สร้างสมบุญญาบารมีไว้มากมายพอหรือยังและได้ญาณทัศนะถึงขั้นไหน ?
    ตอบ : ธรรมดาผู้ที่เกิดตายหลายชาติ นับไม่ไหว ย่อมมีอยู่
    ถาม : พลังอำนาจทางกสิณ หลวงปู่ได้เมื่อใด ?
    ตอบ : มีของเดิมอยู่
    ถาม : หลวงปู่ปรารถนาพุทธภูมิจะต้องเกิดอีกกี่ชาติ ?
    ตอบ : เกิดตายอีกหลายชาตินับไม่ไหว
    ถาม : เกิดตายอีกหลายชาติ หลวงปู่ไม่เบื่อหรือ ?
    ตอบ : เบื่อไม่ได้ เป็นหน้าที่
    ถาม : เคยเกิดมาเป็นใหญ่เป็นโต เคยเป็นตำแหน่งใดบ้างในอดีตชาติ ?
    ตอบ : พระเจ้าแผ่นดิน ฮ่องเต้ เจ้าชาย พราหมณ์ อาจารย์ทิสาปาโมกข์ ฤาษี แม่ทัพ
    ถาม : หลวงปู่เคยตกนรกไหม ?
    ตอบ : เคย หลายชาติ
    ถาม : หลวงปู่เคยเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานไหม ?
    ตอบ : เคย หลายชาติ
    ถาม : หลวงปู่ กลัวอะไรมากที่สุด ?
    ตอบ : ช้าง เจอต้องหนี
    ถาม : หลวงปู่ชอบ อะไรมากที่สุด ?
    ตอบ :
     
  2. chingchamp

    chingchamp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    788
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +504
    [​IMG]

    ตอนที่ ๓
    กำเนิดเด็กชายจามในตระกูลสัมมาทิฎฐิ


    บ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เป็นที่กำเนิดของเด็กชายจาม ผิวขำ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๖ ปีจอ

    นายกา และ นางมะแง้ ผิวขำ (ขณะเด็กชายจาม ก่อกำเนิดนั้นยังไม่มีนามสกุล เพิ่งได้รับการตั้งนามสกุลในรัชกาลที่ ๖) เป็นผู้ให้กำเนิดที่มีศรัทธาแรงกล้าต่อหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่น เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๙ หลวงปู่มั่น ได้มาจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่เสาร์ที่ภูผากูด อำเภอคำชะอี พ่อแม่ได้พาเด็กชายจาม อายุประมาณ ๖ ปี ไปกราบหลวงปู่ทั้งสอง พ่อแม่ให้กราบเด็กชายจามก็กราบทุกแห่งและพระกรรมฐานทุกองค์ตามที่แม่บอกด้วยความตั้งใจนับว่าแม่ได้สั่งสอนปลูกฝังนิสัยให้เป็นคนดีตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ จึงกล่าวได้ว่าเป็นตระกูลสัมมาทิฎฐิยึดมั่นในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นสรณะที่พึ่งที่ระลึก

    ต่อมาช่วงปี พ.ศ. ๒๔๖๔ บรรดาศิษย์ของหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่นจำนวนประมาณ ๗๐ รูป ได้มารวมกันเป็นกองทัพธรรมสายพระกรรมฐานมากเป็นประวัติการณ์ ขณะเด็กชายจาม อายุได้ประมาณ ๑๑ ปี ได้ติดตามพ่อแม่ไปอุปัฏฐากดูแลพระกรรมฐานอย่างใกล้ชิด แม่มะแง้ได้แกงขนุนอ่อนถวายพระสงฆ์ สามเณร แห่งกองทัพธรรมทั้งหมด

    เท่าที่ตรวจดูสอบถามได้มี หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม หลวงปู่ดุลย์ อตุโล หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ หลวงปู่กงแก้ว ขนฺติโก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร หลวงปู่แว่น ธนปาโล หลวงปู่กว่า สุมโน หลวงปู่ มหาปิ่น ปญฺญาพโล หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่กู่ ธมฺมทินโน หลวงปู่ดี ฉนฺโน หลวงปู่ซามา อจุตโต หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่เทสก์ เทสฺรังสี หลวงปู่สาม อกิญจโน หลวงปู่เกิ่ง อธิมุตโต หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่คำ คมฺภีรญาโณ เป็นต้น

    การบำเพ็ญสมณธรรมของกองทัพธรรมดังกล่าวได้ใช้ภูผากูดเป็นศูนย์กลาง เนื่องจากหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น พักประจำอยู่ที่ถ้ำจำปา ต่อมาจึงตั้งสำนักสงฆ์หนองน่องทางทิศใต้ของบ้านห้วยทรายให้เป็นที่รวมประชุมพระกรรมฐานแห่งกองทัพธรรมและบรรดาศิษย์ได้กระจายกันอยู่หาสถานที่วิเวกบำเพ็ญจิตภาวนา ซึ่งมีภูต่างๆ บริเวณนั้นมากมาย เช่น ภูผาแดง ภูเก้า ภูจ้อก้อ ภูค้อ ภูถ้ำพระ ภูกระโล้น ภูผากวาง ภูสร้างแก้ว ภูบันได ภูผาบิ้ง ภูกอง ภูผากูด ภูผาชาน ภูเขียว เป็นต้น

    นายกา และแม่มะแง้ ผิวขำ ได้ให้กำเนิดบุตรร่วมอุทรเดียวกันจำนวน ๙ คน ได้แก่ นายแดง นายเจ๊ก นายจาม นายเจียง นายจูม นางจ๋า นายถนอม นายคำตา และนางเตื่อย

    นายแดง ผิวขำ คือโยมบิดาของพระอาจารย์อินทร์ถวาย สนฺตุสฺสโก นางเจียงได้บวชเป็นแม่ชีตลอดชีวิต นอกจากนั้นก็ได้ให้กำเนิดลูกหลานปลูกฝังอุปนิสัยจนได้บวชใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกหลายคน


    ตอนที่ ๔
    เรียนรู้ชีวิตปฐมวัย พ่อมอบสมบัติทิพย์ให้


    เด็กชายจามมีอุปนิสัยใจร้อน ใจเร็ว ตัดสินใจเด็ดขาดอดทนมุ่งมั่น มุ่งสู่อนาคต ทำอะไรทำจริง ได้เข้าศึกษาเล่าเรียนเมื่ออายุ ๙ ปี ที่โรงเรียนบ้านคำชะอี ห่างจากบ้านห้วยทรายประมาณ ๓ กิโลเมตร ได้ขี่ม้าไปโรงเรียนกับเด็กชายเจ๊กผู้พี่ชาย บางวันได้แกล้งพี่ชายให้เดินไปเองเสี่ยงภัยจากเสือ ตนเองได้ควบม้าหนีกลับบ้าน แต่พี่น้องก็รักกัน โดยเฉพาะนายเจ๊กรักเด็กชายจามมากทั้งสองพี่น้องมีสติปัญญาดี แต่เรียนได้แค่ ป. ๒ เนื่องจากทางราชการแจ้งระงับการเรียนของเด็กที่บ้านอยู่ห่างโรงเรียนเกิน ๒ กิโลเมตร เพราะเสือชุกชุมได้กัดคนตายอยู่บ่อย ทั้งๆ ที่เด็กทั้งสองรักการเรียน ก็ได้แต่ร้องไห้

    เมื่อเด็กชายจามอายุย่างเข้า ๑๔ ปี ได้มีโอกาสขับเกวียนร่วมขบวน ๕ เล่ม บรรทุกอัฐบริขารและอาหารซึ่งมีนายกา ผิวขำ ผู้บิดาไปกับขบวน หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พาโยมแม่ของท่านและคณะพระสงฆ์สามเณรเดินทางไปโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ขบวนทั้งหมดต้องบุกป่า ฝ่าดงไปด้วยความยากลำบาก แม้กระทั่งหมาที่เดินตามไปถึงกับหมดแรงต้องอุ้มหมาคู่ใจขึ้นเกวียนไปด้วย

    ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของเด็กชายจาม ทำให้พ่อกาเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงให้ขับเกวียนบรรทุกสินค้าต่างๆ เช่น ไหม ฝ้าย และของป่าไปขายที่จังหวัดยโสธร เพื่อแลกเกลือ ปลาร้าและของกินนำไปขายที่คำชะอีเพื่อเลี้ยงชีพ

    ต่อมานายจามอายุย่างเข้า ๑๖ ปี นายกาจึงนำไปฝากกับ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ก่อนที่หลวงปู่มั่นจะรับฝากได้ถามนายกาว่า
     
  3. chingchamp

    chingchamp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    788
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +504
    ตอนที่ ๑๓
    ทดสอบจิตใจตนเอง
    [​IMG]

    คณะสหธรรมิกได้จาริกไปถึงเทือกเขาในอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่บริเวณเทือกเขาแห่งนี้เป็นบริเวณที่สัปปายะพื้นที่ลาดลงไปทุ่งนา มีหมู่บ้านไม่ไกลนัก ขณะที่บำเพ็ญจิตภาวนาอยู่ที่นี่

    สหธรรมิก ๑ องค์เป็นไข้มาลาเรียอาการหนักไม่สามารถรักษาได้เพราะอยู่ห่างไกล แม้จะใช้ยาพื้นบ้านก็ไม่สามารถรักษาให้อาการทุเลาได้เป็นเหตุให้เสียชีวิต

    ส่วนอีก ๑ องค์เกิดได้มีศรรักปักอกเพราะได้พบรัก จึงลาสิกขาบทไปแต่งงาน

    จึงเหลือเพียง ๒ องค์ มุ่งทำความเพียรที่นั่นต่อไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะหาทางพ้นทุกข์ การบำเพ็ญพากเพียรไม่เกิดผล เพราะเหตุสหธรรมิก ๒ องค์ต้องลาจากไปด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้จิตใจสับสนกระวนกระวายภาวนาหลายคืนจิตไม่สงบ มีแต่ร้อนรนรุ่มร้อน

    พระจามได้นึกถึงวิธีการสั่งสอนฝึกจิตที่ พระพุทธเจ้า ตอบสารถีผู้ฝึกม้า ควรจะทำอย่างไรกับม้าที่ฝึกยาก ม้าที่ฝึกยากเปรียบเสมือนจิตของคนเราที่จะต้องฝึกฝนทรมานอย่างเหมาะสมกับจริตนิสัยของตน ท่านจึงหาวิธีทดสอบจิตที่ดื้อมากขณะนั้นทั้ง ๆ ที่เคยทำได้และสูญหายไป ฝึกใหม่ก็ไม่ยอมลง แสดงถึงจิตตนเองมีความดื้อมากขณะนั้น

    ช่วงนั้นระหว่างเดือน ๙ เดือน ๑๐ ฝนกำลังตกหนักน้ำไหลจากภูเขา ไหลตามลำห้วยลงมาในทุ่งนาท่วมเอ่อเป็นบริเวณกว้างต้นข้าวกำลังงอกงามดี เกิดความคิดขึ้นมาว่า เอาละคราวนี้จะลองภาวนาในน้ำ เพื่อแก้ความร้อนรนในจิตใจ เอาความเย็นเข้าแก้ไข และแก้สติที่ชอบเผลอหลับขณะภาวนาเสมอ

    เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงตั้งจิตอธิษฐานไม่นอน จะภาวนาในอิริยาบถนั่ง จึงลงไปภาวนาในทุ่งนา โดยแช่ตัวในน้ำ บางคืนตั้งแต่ ๓ ทุ่มบ้าง ๔ ทุ่มบ้าง จนถึงตี ๔ หรือตี ๕ แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละคืน พระจาม กับสหธรรมิกอีก ๑ องค์ จำพรรษาอยู่ที่นั้นตลอดไตรมาสโดยชาวบ้านได้สร้างเสนาสนะให้ชั่วคราว

    ท่านได้บำเพ็ญความเพียรอย่างเอาจริงเอาจัง บางครั้งก็หลับขณะนั่ง หลับขณะยืน หลับขณะเดินจึงแก้ไขการหลับในน้ำกลางทุ่งนา นั่งในน้ำอยู่ระดับคอหอยพอดี ถ้าหลับสัปหงกหัวทิ่มลงมาน้ำจะเข้าจมูก หน้าแช่น้ำพอรู้สึกว่าจะสำลักน้ำตาย ก็โผล่ขึ้นมาหายใจ ปฏิบัติอยู่อย่างนี้อยู่หลายคืนเว้นบ้าง ถ้าขณะภาวนาตัวลอยขึ้นก็จะใช้มือจับต้นข้าวไว้ เพื่อให้ตัวจมไว้ในระดับที่ต้องการ ทำให้การบำเพ็ญจิตภาวนาได้ผลดีขึ้นพอสมควร

    เมื่อจิตสงบก็พิจารณาไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาธาตุสี่ ดินน้ำลมไฟ พิจารณากายานุสติ พิจารณาอสุภะอสุภังว่าร่างกายนี้ไม่สวยไม่งาม ปัญญาทางธรรมยังไม่เฉียบคมพอที่จะตัดกิเลสออกได้แม้แต่กิเลสหยาบหรือกลาง แล้วกิเลสขั้นละเอียดจะหลุดออกจากจิตใจได้อย่างไรเกิดความสงสัยตัวเองอย่างบอกไม่ถูก เมื่อจิตออกจากสมาธิก็เร่าร้อน จึงต้องหาสาเหตุว่าทำไมจิตจึงร้อน ถามใจตนเอง ต้องค้นหาความจริงให้ได้

    ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ที่ตั้งไว้แน่วแน่ที่จะต้องให้หลุดพ้นในชาตินี้ให้ได้ จึงทรมานจิตอย่างหนักหน่วงอย่างต่อเนื่อง ผลการปฏิบัติแม้ว่าจะไม่ได้ผลเท่าที่ตั้งใจไว้ก็ตาม แต่ก็ยังเกิดความรู้ขึ้นเกือบทุกครั้งที่เกือบตาย เกือบขาดใจ ทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งถึงหน้าที่ของกายกับจิตนั้นแยกกัน จิตไม่อาจบังคับกายได้ทุกอย่าง จิตจะบงการการให้ทำงานตามที่ธรรมชาติสร้างไว้ให้ กิเลสจะคอยปิดบังให้จิตหลงว่าเป็นเจ้าของกาย จึงหวงกายเป็นที่สุด แท้จริง กายไม่ใช่ของใจ ใจเพียงอาศัยกายอยู่ กายตายได้แต่ใจไม่ตายแต่กิเลสบังไว้ พระพุทธเจ้าจึงให้พิจารณาไตรลักษณ์คือ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา

    บางคืนจิตสงบเป็นสมาธิก็เกิดนิมิตภาพเดิม ๆ อีก เห็นพระพุทธรูปมากมาย วัดร้างต่าง ๆ ที่ชำรุดผุพัง ต้นโพธิ์ เกิดความรู้สึกขึ้นว่าได้เกิดหลายชาติ มีส่วนในการสร้างสิ่งที่ปรากฏในนิมิตนั้น บางคืนเกิดญาณทัศนะรู้อดีตชาติแบบลาง ๆ แต่ย้อนไปหลายชาติ แม้กระทั่งบางชาติเคยตกนรก บางชาติเคยเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน

    เมื่อออกพรรษาได้ระยะหนึ่งท่านจึงจาริกต่อไป ด้วยการเดินทางตามป่าเขาลัดเลาะไป ณ สถานที่ต่าง ๆ ค่ำที่ไหนก็หาที่พักปักกลดภาวนา ๒ วันบ้าง ๓ วันบ้าง เรื่อย ๆ ไปมุ่งไปเหนือ
    ตอนที่ ๑๔
    แสวงหามัชฌิมาเพื่ออริยมรรค

    [​IMG]

    พระจามเดินธุดงค์ไปยังเชียงใหม่ ได้ปักกลดบำเพ็ญภาวนาทำความเพียรบริเวณที่เนินเขาแห่งหนึ่งใกล้แม่งัด การภาวนายังไม่ก้าวหน้าจิตจะดิ้นรนแส่ส่ายออกไปภายนอกอยู่ตลอดเวลา จิตจะปรุงแต่งไม่ยอมสงบ แม้ว่าจะผ่านการทดสอบจิตใจอย่างเข้มข้นมาแล้ว เป็นปัญหาหนักที่ท่านต้องเอาไปขบคิดอย่างหนัก ต้องหาทางออกที่เหมาะสมเป็นอย่างไรแน่ ท่านหวนคิดถึง แนวคำสอนของหลวงปู่มั่น ที่ตนต้องค้นหาแนวทางที่เหมาะสม หาความพอดีของตนเอง แต่ละคนไม่เหมือนกัน ท่านได้ทบทวนแนวคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ได้ไปพบปัญจวัคคีย์ พระพุทธเจ้าแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จึงเกิดความคิดขึ้นว่าเราเองทดลองมาสมควร ยังหาจุดสมดุลของจิตยังไม่ได้ กระนั้นเลยเราต้องหาจุดที่เป็นมัชฌิมาเฉพาะตนให้รู้แจ้งให้ได้ มิฉะนั้นจะดำเนินไปสู่อริยมรรคไม่เกิดผล เกิดความเชื่อว่าจะหามัชฌิมาที่นี่แหละคราวนี้

    วันหนึ่งได้ไปสรงน้ำที่ริมน้ำแม่งัด เหลือบเห็นขอนไม้จมอยู่ใต้น้ำ เกิดสะดุดใจขึ้นว่า เราต้องใช้ขอนไม้นี้เป็นครูสอนจิตของเราที่ดื้อด้านนัก จึงพิจารณาท่อนซุงจมน้ำ ซุงเขาคงไม่รู้จักร้อนไม่รู้จักหนาวอยู่ของเขาเฉย ๆ แม้น้ำจะไหลแรงก็เฉยความรู้เกิดขึ้นว่านั้นคือธรรมชาติของเขา เมื่อน้อมนำมาสู่จิตของตนเองก็เกิดปัญญาฉุกขึ้นว่าเราคงต้องวางเฉยไม่รู้ไม่ชี้ไม่ต้องอยากได้ใคร่ดี จะภาวนา​
     
  4. ไม้บรรทัด

    ไม้บรรทัด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2008
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +293
    [​IMG]


    เมื่อครั้งไปกราบท่าน เพื่อทำบุญใหญ่
    สมทบทุนสร้าง ศูนย์การแพทย์แผนไทย รพ.อ.คำชะอี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC01665.JPG
      DSC01665.JPG
      ขนาดไฟล์:
      144.1 KB
      เปิดดู:
      1,146
    • DSC01664.JPG
      DSC01664.JPG
      ขนาดไฟล์:
      155.5 KB
      เปิดดู:
      120
  5. Unlimited Indy

    Unlimited Indy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,228
    ค่าพลัง:
    +803
    น้อมกราบนมัสการหลวงปู่จาม มหาปุญโญด้วยความเคารพนอบน้อมยิ่ง สาธุ สาธุ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กันยายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...