หลวงปู่คำ สุวณณโชโต อริยะสงฆ์ ๕ แผ่นดินผู้หยั่งรู้กาลอนาคต

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย อดุลย์ เมธีกุล, 26 สิงหาคม 2010.

  1. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,793
    [​IMG]


    โลกใบนี้มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นมากมายในแต่ละวันครับ บางคนเรียกปรากฏการณ์เหลือเชื่อที่เกิดขึ้นกับพวกเขาว่าเป็นเรื่องของปาฏิหาริย์
    ว่ากันว่าปาฏิหาริย์มิใช่เรื่องไร้สาระ เพราะปาฏิหาริย์เป็นเรื่องของปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่อยู่เหนือธรรมชาติ คนที่จะเข้าใจในเรื่องปาฏิหาริย์จึงค่อนข้างจำกัดอยู่แต่เฉพาะกับคนที่เคยประสบพบเห็นเท่านั้น
    นางเวียน ปลาบปลื้ม ชาวบ้านห้วยทรายใต้ ได้นำไม้ทองหลางไปค้ำหลังคาบ้านไว้สองอัน นับตั้งแต่วันที่ได้นำไม้ทองหลางไปค้ำทำให้ครอบครัวของนางเวียน ปลาบปลื้ม ต้องอาถรรพ์ มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจตลอดเวลา เป็นต้นว่าคนในครอบครัวมีการเจ็บไข้ได้ป่วยหมุนเวียนกันอยู่โดยตลอด
    นางเวียนจึงได้เข้ามากราบนมัสการหลวงปู่เพื่อขอความช่วยเหลือ หลวงปู่ท่านนั่งสมาธิอยู่สักครู่หนึ่งจึงกล่าวขึ้นว่า
    บ้านเอ็งมีไม้ทองหลางค้ำอยู่สองอัน ให้เอาออกเสียแล้วจะหาย
    นางเวียนตกตะลึงกับคำทำนายของหลวงปู่ที่ทราบว่าบ้านของตนเองมีไม้ทองหลางค้ำอยู่สองอันจริง ซึ่งสาเหตุที่ต้องนำไม้ไปค้ำเนื่องจากครอบครัวของตนเองมีฐานะยากจนและบ้านที่พักอาศัยก็อยู่ในสภาพทรุดโทรม หลวงปู่ท่านจึงแนะนำว่า
    อย่าอยู่ตรงนั้นเลย ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วเอ็งจะดีขึ้น
    นางเวียนเชื่อถือในคำพูดของหลวงปู่จึงได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ริมทะเลแถบบางสะพานใหญ่ ซึ่งต่อมาปรากฏว่าครอบครัวของนางเวียนมีฐานะดีขึ้นจริงๆ เพราะที่ดินที่ตนเองได้จับจองไว้มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากเป็นที่ดินที่อยู่ติดริมทะเล

    [​IMG]
    คุณธงชัย ปฐมวัฒนานุรักษ์ นักธุรกิจเจ้าของกิจการแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ได้ชื่อว่าเป็นคนใจบุญสุนทานและเคร่งครัดยึดมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด
    วันหนึ่งคุณธงชัยได้ซื้อรถยนต์คันใหม่ ขณะที่ขับรถกลับบ้านได้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำบริเวณทางโค้งวัดธรรมศาลา ตัวคุณธงชัยได้กระเด็นทะลุกระจกหน้ารถออกไปนอนหมดสติอยู่กลางถนน
    พลเมืองดีได้นำคุณธงชัยส่งโรงพยาบาล คุณธงชัยนอนหมดสติอยู่ ๒๗ วัน เนื่องจากมีอาการสาหัส นายแพทย์จึงต้องทำการผ่าตัดเปิดกระโหลกศรีษะ โอกาสรอดชีวิตค่อนข้างมีน้อยมาก แต่ต่อมาได้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเนื่องจากคุณธงชัยได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้
    คุณธงชัยได้เล่าให้ฟังว่าในขณะที่ตนเองหมดสติสลบไป ๒๗ วันนั้น ย่างเข้าวันที่ ๒๗ มีความรู้สึกตัวว่ากำลังเดินวนเวียนอยู่ในป่าทึบหาทางออกไม่ได้ ทันใดนั้นก็มีพระภิกษุชรารูปร่างใหญ่โตผิวพรรณวรรณะผ่องใสสง่างามปรากฏร่างขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า
    โยมกำลังหาทางกลับหรือ อาตมาจะไปส่งตามมาสิ
    คุณธงชัยได้เดินตามพระภิกษุชรารูปนั้นมาจนพ้นแนวป่าก็พบกับแสงสว่างจ้าแล้วก็รู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา หลังจากที่ได้พักรักษาตัวจนหายเป็นปกติ คุณธงชัยได้กลายมาเป็นคนใจบุญมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีการบริจาคทรัพย์ทำบุญตามวัดต่างๆ อยู่เสมอ
    วันหนึ่งคุณธงชัยได้เดินทางไปทำบุญที่ วัดหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อก้าวขึ้นไปบนกุฏิเจ้าอาวาส ภาพแรกที่คุณธงชัยเห็นคือพระภิกษุชรารูปร่างสูงใหญ่นั่งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางกุฏิ คุณธงชัยจำได้ทันทีว่าเป็นพระรูปเดียวกับที่พบในนิมิตและนำทางคุณธงชัยออกมาจากป่าทึบ ท่านชื่อ..
    หลวงปู่คำ สุวณณโชโต

    [​IMG]


    อย่างที่บอกแหละครับว่าคนที่จะเข้าใจในเรื่องปาฏิหาริย์ค่อนข้างจำกัดอยู่แต่เฉพาะกับคนที่เคยประสบพบเห็น ดังนั้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางเวียนและคุณธงชัยจึงเป็นเหมือนการบอกเล่าให้อีกหลายคนทราบว่า ปาฏิหาริย์ นั้นมีอยู่จริง
    หญิงชาวบ้านคนหนึ่งรู้จักหลวงปู่คำเป็นอย่างดีและให้ความเคารพเชื่อมั่นอย่างสูงสุด..
    นักธุรกิจชายอีกคนไม่เคยรู้จักหลวงปู่คำมาก่อน ในชีวิตรู้แต่เพียงว่าเชื่อมั่นในการทำความดีและคำสอนของพระพุทธเจ้า..
    ซึ่งเมื่อมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้นอำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น ก็ได้เปล่งประกายออกมาช่วยเหลือให้รอดปลอดภัยอย่างน่าอัศจรรย์ใจ แน่นอนครับ ปาฏิหาริย์ ไม่ใช่เรื่องของชนชั้นหรือฐานะ แต่ “ปาฏิหาริย์ เป็นเรื่องของ ศรัทธาและความดี ที่ทั้งสองท่านนี้มีอยู่เต็มหัวใจต่างหาก
    จะว่าไปแล้วบางทีทั้งสองเรื่องที่เกิดขึ้นข้างต้นมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ เพราะเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นเหตุเป็นผลกันตรงไหน แต่มันก็น่าคิดนะครับว่า
    ทำไมเหตุร้ายที่นางเวียนประสบ จึงเกิดขึ้นหลังจากที่ได้นำไม้ทองหลางมาค้ำหลังคาบ้าน หรือในระหว่างที่คุณธงชัยกำลังนอนรอความตาย แต่ก็รอดมาได้จากการนำทางของหลวงปู่คำ

    [​IMG]


    ผมรู้จักหลวงปู่คำครั้งแรกก็จากการอ่านหนังสือพระเครื่อง ตอนนั้นก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากหรอกครับ ทราบเพียงว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่มีอายุถึงร้อยกว่าปีและในวันพุทธาภิเษกพระเครื่องของท่าน มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นหลายอย่างครับ เช่นเสกกันจนโบสถ์สะเทือน หรือพระเกจิอาจารย์บางองค์ที่เข้าร่วมพุทธาภิเษกมีนิมิตเห็นแสงสว่างออกจากตัวของหลวงปู่คำพุ่งเข้าสู่กองวัตถุมงคล ฯลฯ
    ต่อมาพอทราบว่าเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียนเป็นเด็กหัวหิน แสงสว่างที่เกิดจากดาวไถในตัวผมจึงพุ่งตรงสู่เพื่อนรุ่นพี่คนนั้นทันที และในที่สุดฟ้าดินก็เป็นใจเพราะต่อมาผมก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวบ้านรุ่นพี่ท่านนั้นและได้เข้ากราบนมัสการท่านที่วัด แต่ผมก็ไม่กล้าพูดคุยอะไรกับหลวงปู่หรอกครับ ได้แต่เข้าไปขอเมตตาจากหลวงปู่เพียงแค่พรมน้ำมนต์ให้เท่านั้น
    คุณพ่อของเพื่อนก็แนะนำว่าให้ขอพรจากหลวงปู่ ผมก็ได้แต่ยิ้มไม่กล้าขอ เพราะถ้าขอในตอนนั้นคงเป็นเรื่องขอให้รูปหล่อและเรียนจบ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมสักเท่าไร หลังจากวันนั้นแล้วผมก็ไม่ได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่อีกเลยครับ เพราะทุกคนเมื่อเรียนจบก็แยกย้ายกันไปหมด เด็กหัวหินกับเด็กเมืองชลเลยต้องห่างกันไป

    [​IMG]
    หลวงปู่คำ สุวณณโชโต หรือ พระครูประสิทธิวรการ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ท่านได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์ ๕ แผ่นดินครับ เชื่อกันว่านอกจากหลวงปู่คำท่านจะเป็นพระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านยังเป็นพระที่มีหูทิพย์ ตาทิพย์และสามารถรับรู้เรื่องราวความเป็นไปต่างๆ ด้วยเจโตปริยญาณ
    เจโตปริยญาณ เป็นเรื่องของความสามารถพิเศษที่มีเหนือเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ จะทำได้ครับ ซึ่งการจะได้มาของความสามารถพิเศษนี้ ผู้ที่ได้จะต้องผ่านการฝึกอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญสมาธิวิปัสสนากรรมฐานอย่างเอกอุจนถึงขั้นได้อภิญญา
    ต้องบอกว่าอภิญญาไม่ใช่เรื่องง่ายครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ป่านนี้บ้านเราคงมีคนหูทิพย์ ตาทิพย์กันเต็มไปหมด ซึ่งถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าแล้วต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลจริงๆ
    สำหรับผมแล้วต้องบอกว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าหลวงปู่คำท่านเป็นพระอภิญญาหรือเป็นพระเกจิที่เสกของแล้วขลัง(เพราะเรื่องนี้ผมเป็นพวกเชื่อฝังใจอยู่แล้ว) หากแต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า กว่าหลวงปู่คำท่านจะได้ความสามารถพิเศษแบบนี้มานั้น ท่านต้องผ่านอะไรมามากกว่า ซึ่งประเด็นนี้เราต้องย้อนอดีตกันไปไกลถึงบ้านหนองแกในสมัยรัชการที่ ๕ ครับ
    หลวงปู่คำ สุวณณโชโต ท่านเกิดปีมะเส็ง พ.ศ.๒๔๓๖ (รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ณ บ้านหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บิดามารดาชื่อ นายอิ่มและนางแจ้ง สุขศรี
    ด้วยความที่หลวงปู่เป็นเด็กชายที่มีผิวพรรณวรรณะและมีลักษณะของผู้มีบุญญาธิการ บิดามารดาของท่านจึงได้นำท่านไปยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของ หลวงปู่นาค ปุญญนาโค หรือ ท่านพระครูวิริยะธิการี แห่งวัดหัวหิน ซึ่งหลวงปู่นาคได้ตั้งชื่อเด็กชายคนนั้นว่าทองคำ เพื่อให้สอดคล้องกับนามของท่านคือนาค แต่ผู้คนทั่วไปกลับพอใจที่จะเรียกเด็กชายทองคำว่า “คำ
    [​IMG]
    ในสมัยนั้นหลวงปู่นาค ปุญญนาโคท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องของวิปัสสนากรรมฐานและเรื่องของไสยศาสตร์ เล่ากันว่าด้วยความที่หลวงปู่นาคท่านเป็นพระที่เต็มเปี่ยมไปด้วยบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ ตลอดจนมีปฏิปทาในทางสมณธรรมเป็นเลิศ ทำให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชศรัทธาหลวงปู่นาคเป็นอย่างมาก
    พระองค์ทรงนับถือหลวงปู่นาคเสมอด้วยศิษย์กับครู และทุกครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระองค์ก็จะทรงพระราชดำเนินมานมัสการหลวงปู่นาคทุกครั้งไป นอกจากนี้ยังทรงมีพระบรมราชานุญาตให้หลวงปู่นาคเข้าเฝ้าพระองค์ได้ตลอดเวลาแม้ในยามราตรีครับ
    เด็กชายคำได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเหมือนเด็กๆ ทั่วไปในสมัยนั้นคือเรียนหนังสือไทยและหนังสือขอมควบคู่กันไป ด้วยความที่ท่านเป็นผู้ที่มีสติปัญญาและไหวพริบปฏิภาณเป็นเลิศ ทำให้ท่านสามารถเรียนรู้วิชาการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ
    หลวงปู่คำท่านได้เข้าอุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๓ ปี ณ วัดหัวหิน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ โดยมี พระครูวิริยาธิการี (หลวงปู่นาค) วัดหัวหิน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมโสภิต(หลวงปู่เปี่ยม) วัดเกาะหลัก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์ละมัย อมรธมโม วัดหัวหิน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สุวรณณโชโต
    [​IMG]

    หลังจากที่ได้อุปสมบทแล้ว หลวงปู่คำท่านได้จำพรรษา ณ วัดหัวหิน จากการที่ท่านได้ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่นาคอย่างใกล้ชิด ทำให้ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ ควบคู่ไปกับการฝึกสมาธิเจริญวิปัสสนากรรมฐานเบื้องต้น
    ชีวิตของท่านในช่วงนี้นอกจากการปฏิบัติศาสนากิจอย่างเคร่งครัดแล้วท่านยังได้ศึกษาพระธรรมวินัยต่างๆ ด้วยตัวของท่านเอง การศึกษาอย่างตั้งใจทำให้ท่านแตกฉานในพระปริยติธรรมต่างๆ เป็นอย่างดี

    ว่ากันว่าวันเวลานอกจากจะไม่คอยใครแล้ว วันเวลายังย่อมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเสมอๆ
    หัวหิน ที่เดิมมีชื่อว่า สมอเรียง เริ่มมีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและเผยแพร่ศาสนาคริสต์มากขึ้น ประมาณว่าจะมีการสร้างโบสถ์ไว้สำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ ครับ หลวงปู่นาคในฐานะศูนย์รวมจิตใจของชาวหัวหินและคณะสงฆ์ในเขตนั้น ท่านได้ตระหนักถึงผลกระทบอันนี้
    ท่านจึงได้เร่งสร้างวัดขึ้นที่บริเวณเขาตะเกียบโดยเฉพาะที่บ้านหนองแก เนื่องจากบริเวณสถานที่ดังกล่าวยังไม่มีวัดวาอาราม ชาวบ้านจะทำบุญกันสักครั้งต้องเดินทางไปทำกันที่วัดหัวหิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบ ๕ กิโลเมตร
    วัดหนองแกในระยะแรกมีสถานะเป็นเพียงสำนักสงฆ์หนองแก เล่ากันว่าพระสงฆ์จากวัดหัวหินเวลาไปบิณฑบาตที่เขาตะเกียบ จะต้องแวะฉันเช้าที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เนื่องจากเดินกลับวัดหัวหินไม่ทัน
    ชะรอยหลวงปู่นาคท่านจะทราบเหตุการณ์ในเบื้องหน้าว่าพระภิกษุคำในวันนั้นจะกลายมาเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านในย่านนี้ เพราะในพรรษาที่ ๓ ตรงกับ พ.ศ.๒๔๖๑ (รัชสมัยของ ร.๖) หลวงปู่นาคท่านได้ส่งพระสงฆ์จากวัดหัวหินจำนวน ๑๑ รูปมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองแกแห่งนี้ หนึ่งใน ๑๑ รูปนั้นมีหลวงปู่คำรวมอยู่ด้วยครับ
    ถึงตอนนี้...ทายาทธรรมที่หลวงปู่นาคได้สร้างไว้ เริ่มค้นหาตัวตนโดยการสร้างตนเอง ด้วยการบำเพ็ญเพียรด้านวิปัสสนากรรมฐานอย่างจริงจัง และเมื่อมีเวลาโอกาสเหมาะ ท่านก็จะออกเดินธุดงค์แสวงหาความวิเวกพร้อมกับเสาะหาครูบาอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคม ต้องยอมรับครับว่าในยุคสมัยนั้นพระเกจิอาจารย์ส่วนมากจะเป็นพระที่ เก่งจริง เพราะแต่ละองค์ล้วนแล้วแต่เป็นเลิศในด้านสมาธิและเชี่ยวชาญในเรื่องของคาถาอาคม ฯลฯ
    ในยุคนั้นไม่มีโรงเรียนหรือสถาบันสอนวิชาอาคม ไม่มีการเรียนทางไปรษณีย์และก็ไม่มีการเรียนผ่านโทรศัพท์มือถือ ทางเดียวที่จะได้เรียนคือต้องเดินทางไปขอเรียนโดยตรงกับครูบาอาจารย์ที่วัดของแต่ละท่าน ครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาอาคมให้หลวงปู่คำมีหลายองค์ครับ เช่น หลวงปู่เปี่ยม วัดเกาะหลัก หลวงพ่อโสก วัดปากครอง หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง หลวงพ่อกุน วัดพระนอน หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม ฯลฯ
    นอกจากนี้หลวงปู่คำท่านยังได้ศึกษาไสยเวทย์ โหราศาสตร์และวิชาแพทย์แผนโบราณจากตำราของโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นตำราโบราณที่ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ประมาณว่าท่านได้เรียนจนเชี่ยวชาญและสามารถนำมาขยายผลได้จริงครับ

    หากเราศึกษาประวัติของพระเกจิอาจารย์ในอดีตก็จะพบว่าบรรดาพระเกจิอาจารย์หลายต่อหลายท่านที่ได้ชื่อว่ามีสมาธิจิตสูงและเพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรม มักจะเป็นผู้ที่ผ่านการออกเดินธุดงค์แทบทั้งสิ้น
    ในทางพระพุทธศาสนาการออกเดินธุดงค์นอกจากจะเป็นการฝึกให้ตนเองเป็นผู้ที่ลดละกิเลส ยังเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเจริญภาวนาเพื่อให้เกิดสมาธิและปัญญา ทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าท่านทรงกำหนดไว้
    โดยปกติแล้วหลวงปู่คำท่านชอบออกเดินธุดงค์ครับ เรื่องราวการออกเดินธุดงค์ของท่านเริ่มต้นประมาณพรรษาที่ ๕ ความชอบของหลวงปู่ต้องเรียกว่าออกพรรษาเมื่อใดท่านก็จะสมาทานออกเดินธุดงค์ทันที สถานที่ที่ท่านเคยไปธุดงค์ถ้าในประเทศหลวงปู่ท่านไปมาหมดแล้วทั่วทุกภาค หากเป็นนอกประเทศท่านก็เดินไปถึง ลาว เขมร พม่าและมาเลเซีย
    ท่านเคยเล่าไว้ว่าการเดินธุดงค์ไม่ใช่ของง่าย เพราะมักจะมีอุปสรรค์มาคอยขัดขวางตลอด ทั้งจากมนุษย์และภูติผีปีศาจ หากเป็นมนุษย์หลวงปู่ท่านจะใช้วิธีการให้อภัย หากเป็นพวกที่มาจากต่างมิติ ท่านก็จะแผ่เมตตาไปให้ และหากพรรษาใดที่ท่านไม่ได้ไปธุดงค์ ท่านก็จะเข้าป่าขึ้นไปบนภูเขาในเขตภาคใต้เพื่อตัดไม้มาสร้างวัด
    ท่านเล่าว่าสมัยก่อนต้นไม้มีเยอะแยะและไม่มีการหวงห้าม การขึ้นเขาเพื่อตัดไม้ก็อาศัยบรรดาพระภิกษุของวัดหนองแก เมื่อตัดแล้วก็ต้องใช้เกวียนลากลงมา หากเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มากก็ต้องใช้ไม้หมอนมารองหนุนกลิ้งลงมาจากภูเขาจากต้นไม้กลายมาเป็นกุฏิหลังแรกเสร็จสมบูรณ์ในปี ๒๔๖๖ และมีการสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ตามมาอีกหลายอย่างเช่นหอฉัน หอระฆัง ฯลฯ
    ในปี ๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีได้เสด็จพระราชดำเนินมาทำพิธีตัดลูกนิมิตอุโบสถ ณ วัดหนองแก ซึ่งในโอกาสนี้ หลวงปู่คำท่านได้สร้างตะกรุดโทนมหาอำนาจด้วยทองคำหนัก ๔ บาท ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยครับ


    สำหรับในเรื่องที่หลวงปู่คำท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์เบื้องหน้า ซึ่งในเรื่องนี้ทางพระพุทธศาสนาเราเรียกว่า[COLOR=red]“[B]อนาคตังสญาน[/B]”[/COLOR] นั้น ก็มีหลายต่อหลายเหตุการณ์ครับที่เกิดขึ้นเพื่อตอกย้ำความมหัศจรรย์ของหลวงปู่ในประเด็นนี้ครับ เช่นกรณีของยุทธการที่ป่ากลอย บริเวณหลังเขื่อนแก่งกระจาน เพชรบุรี

    เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ของตำรวจตะเวณชายแดน ค่ายมฤคทายวัน ซึ่งออกไปปฏิบัติหน้าที่และเกิดการประทะกับกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ในเหตุการณ์นั้นตำรวจถูกยิงเสียชีวิตไปหลายนาย กำลังที่เหลือมีน้อยกว่าต้องถอยร่นหนีเข้าไปในป่า
    ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ประมาณสองสัปดาห์ หลวงปู่ท่านได้พูดกับตำรวจพลร่มค่ายมฤคทายวันที่ไปกราบนมัสการท่าน ให้ระวังเหตุการณ์ร้ายแรงดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้บรรดาตำรวจตะเวณชายแดนที่รอดชีวิตกลับมาได้ ต่างก็เชื่อกันว่าเป็นเพราะบารมีจากวัตถุมงคลของหลวงปู่คำที่พวกเขาพกติดตัวอยู่ช่วยคุ้มครองครับ
    คุณพ่อของพี่เด็กหัวหินเล่าให้ฟังว่า
    หลวงปู่คำเป็นพระอารมณ์ดีและชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ใครมีปัญหาเดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็มักจะพากันไปหาหลวงปู่เพื่อให้ท่านช่วยปัดเป่าให้ ไม่ว่าจะเป็นของหาย ลูกชายจะบวช ฯลฯ ขนาดที่ว่าบางครั้งท่านจะจำวัดแต่ถ้ามีคนมากราบนมัสการท่าน หลวงปู่ท่านก็จะไม่ยอมจำวัดและอยู่สงเคราะห์เขาจนเสร็จสิ้นท่านจึงจะเข้าจำวัด
    อย่างเช่นตัวของคุณพ่อเองที่สมัยก่อนเวลาเป็นตาแดง แม่ของท่านจะพาไปหาหลวงปู่ที่กุฏิ คุณพ่อบอกว่าไปถึงก็ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ไม่ต้องทำบัตรและก็ไม่ต้องจัดยา ขอเพียงแต่ลืมดวงตาให้โตๆ หลวงปู่ท่านเป่าพ้วงเดียว กลับมาวิ่งเล่นต่อได้และพอนอนหลับตื่นขึ้นมาก็หายบางครั้งท่านเห็นคนแถวบ้านบางคนเท้าบวมเดินแบบขาลากมาหาหลวงปู่ ทราบว่าคนนี้เข้าป่าเผลอไปเตะจอมปลวก หลวงปู่ท่านก็จะเป่าและพรมน้ำมนต์ไปที่บริเวณเท้า ซึ่งเท้าจะบวมอยู่ไม่เกินสองวันก็หายบวม หรือบางคนที่ไม่สบายเป็นไข้หวัด เช่นเพื่อนรุ่นพี่ของผม หลวงปู่ท่านก็จะต้มยาให้กลับมากินที่บ้าน แกถูกคุณพ่อของแกจับบีบปากกรอกยาอยู่สองสามวันก็หายป่วยและกลับไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ

    [COLOR=black][FONT=Tahoma]นอกจากการรักษาโรคแล้ว อำนาจมนต์ขลังของหลวงปู่คำก็ใช่ย่อยครับ โดยเฉพาะวิชาสักยันต์ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันในวงกว้างเลยครับว่าผู้ใดที่ได้รับการสักกระหม่อมด้วยยันต์นะปัดตลอดจากหลวงปู่ ตัวยันต์ก็จะติดไปถึงกระดูกและเมื่อผู้ที่ได้รับการสักเวลาเสียชีวิตลงศพของเขามักจะเผาไม่ไหม้ ดังเช่นกรณีของนายมอญ เลี่ยมสัก ชาวบ้านหนองพรานพุก ตำบลหินเหล็กไฟ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เผาไปนานกว่าสามชั่วโมง แต่ศพของนายมอญ ก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]สุดท้ายบรรดาญาติๆ ของนายมอญต้องขึ้นไปเล่าเรื่องนี้ให้หลวงปู่คำฟังบนกุฏิและขอความเมตตาจากหลวงปู่ให้ถอนอาถรรพ์ออกจากตัวของนายมอญ ซึ่งเมื่อหลวงปู่ได้ฟังจบ ท่านก็นั่งสมาธิภาวนาอยู่ครู่หนึ่ง จึงสามารถเผาศพนายมอญได้จนเสร็จสิ้น[/FONT][/COLOR]

    [COLOR=red][B]คำสอนอันประเสริฐที่ว่า ทุกสรรพสิ่ง ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลง แล้วดับไปทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกๆชีวิต จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังคง[/B][B]เป็นกฎธรรมชาติที่บอกถึงสัจจธรรมอันแท้จริงและทันสมัยอยู่เสมอ[/B][B]..[/B][/COLOR]

    [CENTER][URL="http://img97.imageshack.us/i/83176663.jpg/"][IMG]http://img97.imageshack.us/img97/7940/83176663.jpg[/IMG][/URL][/CENTER]
    [B][COLOR=black][FONT=Tahoma][B]หลวงปู่คำ สุวณณโชโต[/B] ท่านได้มรณภาพอย่างสงบเมื่อวันที่ [COLOR=red]๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๐[/COLOR] สิริอายุ [COLOR=red]๑๐๔[/COLOR] ปี [COLOR=red]๘๑ [/COLOR]พรรษา นับได้ว่าท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่มีอายุยืนยาวนานรูปหนึ่งของเมืองไทย[/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=black][FONT=Tahoma]เรื่องราวความมหัศจรรย์ในด้านต่างๆ ของท่านเช่นการหยั่งรู้เรื่องราวต่างๆ หรือความเป็นพระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ล้วนเกิดจากบารมีที่สั่งสมมาจากการฝึกฝนและปฏิบัติมาตลอดชีวิตของท่าน [/FONT][/COLOR][/B]
    [B][COLOR=black][FONT=Tahoma]ทุกวันนี้เรื่องราวของท่านอาจจะลืมเลือนไปบ้างจากส่วนกลาง แต่กับชาวบ้านหัวหินไม่มีใครลืมท่านหรอกครับ เพราะท่านได้รับการยกย่องว่าเป็น [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]“[B]เทพเจ้าแห่งหัวหิน[/B]” [/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]เชื่อกันว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ใดขอเพียงได้น้อมจิตไปที่ท่านก็ถือเป็นมงคลสำหรับชีวิตแล้ว...สวัสดีครับ[/FONT][/COLOR][/B]

    [B][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=black][FONT=Tahoma][COLOR=red]ขอขอบคุณ เอกสารอ้างอิง[/COLOR] หนังสือหลวงปู่คำ สุวณณโชโต พระอริยสงฆ์ ๕ แผ่นดิน โดย อาจารย์ยุทธ โตอดิเทพย์ ภาพวัตถุมงคล[/FONT][/COLOR][COLOR=black][FONT=Tahoma]-คุณพรชนก สุขพงษ์ไทย เพื่อนต่อกับคำแนะนำ และคุณสมบูรณ์ ร้านนายฮ้อ สระบุรี สำหรับกำลังใจที่มีให้เสมอมาครับ[/FONT][/COLOR][/FONT][/COLOR][/B]

    [B]ที่มา - [URL]http://www.oknation.net/blog/sitthi/2010/08/11/entry-1[/URL][/B]

    [B]และขอขอบคุณ คุณศิษย์กวง นักเขียนปากกาทองด้วยครับ[/B]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2010
  2. Tackled

    Tackled เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,523
    ค่าพลัง:
    +6,729
    ยอดเยี่ยมครับป๋า ขอบคุณสำหรับบทความครับ
     
  3. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    อนุโมทนาด้วยครับ

    เคยอ่านประวัติว่าท่านเคยปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านรุ่นหนึ่งจนปล่องเมรุในวัดระเบิดเลยละครับ
     
  4. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ขอขอบคุณบทความดีๆที่นำมาให้เพิ่มเติมความรู้คับ
     
  5. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,793
    ขอบคุณมากครับที่เยี่ยมชม
     
  6. praram7

    praram7 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +770
    กราบๆๆ...หลวงปู่คำ
    อนุโมทนากับท่านเจ้าของกระทู้
    ที่นำสิ่งดีมาเล่าสู่กัน
    นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ
     
  7. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    ผมเคยไปกราบท่านหลายครั้ง แต่ละครั้งที่ไปก็เพราะหลงไหลกับวัตถุมงคล และความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ถ้าไม่มีสิ่งนี้ ผมคงไม่ได้ไปกราบพระดี ๆ

    ความหลงไหลในสิ่งมองไม่เห็นทำให้เราได้ทำกุศลกับพระดี ๆ อย่างนี้ต้องยกย่องให้กับมันนะ ไอ้กิเลสนี่ก็มีดีเหมือนกัน ความอยากได้ อยากดี โลภมาก มันก็ทำให้หลาย ๆ คนมีอาหารกิน อยู่เย็นเป็นสุขได้ ......

    ก่อนหลวงปู่ละสังขาร ท่านก้มหน้าลงไปแล้วกลับคืนไม่ได้ กระดูกเอวขัดหรือไรไม่ทราบ ท่านทรมานอยู่ในท่าก้มหน้าอยู่อย่างนั้น เป็นเวลานานมาก เป็นเวลาหลายเดือน ท่านทนอยู่ได้ ผมเห็นแล้วสงสารท่านมาก ท่านต้องอยู่โดดเดี่ยว ไม่มีใครไปดูแลท่านเหมือนตอนท่านไม่ป่วย นอกจากญาติสนิท ...........

    เล่าไม่ออกแล้วจบนะ น้ำตาจะไหล.
     
  8. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,793
    ขอบคุณครับผู้พันที่เขียนเล่าให้ฟังครั บ
     
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    14,677
    ค่าพลัง:
    +14,072
    กราบนมัสการหลวงปู่ครับ

    สาธุๆๆ ครับพี่หน่อง ข้อมูลดีๆๆ
     
  10. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,201
    อนุโมทนาครับ ท่านเจ้าของกระทู้ครับ กราบหลวงปู่ครับ
     
  11. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,373
    ค่าพลัง:
    +3,130
    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับผม
     
  12. ดอลล่าร์

    ดอลล่าร์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +7
    ขออนุโมทนาสาธุ ครับ

    ขอกราบนมัสการหลวงปู่คำ และอนุโมทนาแด่เจ้าของกระทู้ที่นำประวัติคำสอนต่างมาเล่าสู่กันฟังครับ
     
  13. พร พระร่วง

    พร พระร่วง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +64
    บุญญาบารมีหลวงปู่คำ วัดหนองแก

    คุณธงชัย ปฐมวัฒนานุรักษ์ ชาวนครปฐม ที่ได้รับประสบการณ์จากบุญญาบารมีหลวงปู่คำ ได้ไปร่วมสร้างถาวรวัตถุต่างๆไว้ที่วัดหนองแก เพื่อบูชาคุณหลวงปู่ เช่น เทพื้นถนนบริเวณวัด จัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญหล่อเจ้าทรัพย์ถวายหลวงปู่คำ และล่าสุดแม้ว่าหลวงปู่ท่านจะละสังขารไปแล้วคุณธงชัยยังเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีที่วัดหนองแก วันที่ 31 ตุลาคม 2553 แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อหลวงปู่คำ สุวรรณโชโต อดีตพระอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน เทพเจ้าแห่งหัวหิน ขออนุโมทนาด้วยครับ
     
  14. DDS3334

    DDS3334 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +398
    หลวงพ่อท่านเป็นพระที่ใจดีและมีเมตตาต่อลูกศิษย์มากๆ โชคยังดีที่ท่านได้เมตตาอนุญาติให้ทำวัตถุมงคลเอาใว้ให้ลูกหลานทั้งที่ออกที่วัดท่านเองและที่วัดใกล้เคียงตามที่ลูกศิษย์ขอท่าน
     
  15. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,201
    วันนี้ ได้คุยกับ อ.ยุทธ โตอดิเทพย์ นักเขียนเรื่องพระเครื่องชื่อดัง ก้องฟ้าเมืองไทย ท่านบอกว่าได้เข้ามาอ่านในกระทู้นี้แล้ว ขอยืนยันว่าทุกเรื่องในกระทู้นี้เป็นเรื่องจริงครับ และท่านยังบอกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ล้นเกล้าฯ ของชาวไทย ได้เสด็จไปพิธีปิดทองฝังลูกนิมิต ที่วัดหนองแก และได้ทรงสนทนากับหลวงปู่คำ ด้วยครับ ใครที่เคยได้ไปกราบหลวงปู่คำ วัดหนองแก ในสมัยก่อน ถือได้ว่าโชคดีมาก ๆ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2010
  16. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,201
    ดู ๆ แล้ว ป๋าอดุลย์ จะได้หลวงปู่คำมาโปรดนะครับ
     
  17. pharm.taung

    pharm.taung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +432
    กราบหลวงปู่คำครับ...

    และขอบคุณคุณอดุลย์สำหรับบทความดีๆ ^^
     
  18. ชลาธาร

    ชลาธาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +30
    มีรูปที่พระเจ้าอยู่หัวของเราท่านเสด็จไปปิดทองงานฝังลูกนิมิตรที่วัดหนองแก ถ่ายไว้เป็นหลักฐานอยู่ที่วัดหนองแกด้วย
     
  19. บอมม์

    บอมม์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2008
    โพสต์:
    394
    ค่าพลัง:
    +474
    กราบหลวงปู่

    ขอบคุณคุณอดุลย์ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...