หลวงปู่คำคะนิงพบพระพุทธรูปทองคำใต้น้ำ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย นวกะ36, 26 มีนาคม 2010.

  1. นวกะ36

    นวกะ36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2008
    โพสต์:
    222
    ค่าพลัง:
    +2,997
    พระพุทธรูปทองคำใต้น้ำ


    หลวงปู่คำคะนิงยังคงธุดงค์อยู่ในเขตราชอาณาจักรลาว ด้วยพอใจในความสงบวิเวกเหมาะที่จะบำเพ็ญเพียรอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะในลาวอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าเข้าลำเนาไพร หมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านอยู่ห่างกันไม่พลุกพล่านเป็นชุมชนใหม่ๆ เช่น ฝั่งไทย หลวงปู่ธุดงค์มาถึงเมืองบูรพาก็ได้ยินชาวบ้านโจษขานกันว่า ที่แม่น้ำสายหนึ่งที่เป็นแม่น้ำกว้างและลึกมากตรงบริเวณน้ำลึกที่สุดนั้น มีพระพุทธรูปองค์มหึมาจมอยู่ก้นแม่น้ำวันดีคืนดีจะมี แสงสว่างพวยพุ่งขึ้นจากแม่น้ำ แสงนั้นเจิดจรัสเป็นฉับพรรณรังสีสว่างไสวไปทั่วอาณาบริเวณโดยรอบ หลวงปู่คำคะนิงรับฟังเช่นนั้นก็เกิดความสงสัยเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จึงตกลงจะไปพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองหลวงปู่คำคะนิงได้เดินทางมาถึงใกล้บริเวณแม่น้ำ ซึ้งเชื่อว่าตรงกลางแม่น้ำแห่งนี้มีพระพุทธรูปทองคำจมอยู่ หลวงปู่จึงตกลงใจจำพรรษาที่นี่เพื่อต้องการดำน้ำลงไป ดูพระพุทธรูปทองคำให้ได้

    [​IMG]



    ในพรรษาแรก...หลวงปู่ได้เตรียมตัวรักษาสุขภาพจนแข็งแรงพอสมควร เมื่อเห็นว่าพร้อมแล้วท่านก็ทำพิธีตั้งจิตอธิฐานอาราธนาบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เทพยดา พญานาค พญาครุฑ พระแม่ธรณี พระแม่คงคาขอได้โปรดรักษาให้พ้นภัยทั้งหลาย เพราะเจตนาที่จะดำลงไปดูพระพุทธรูปทองคำครั้งนี้ไม่ไ ด้เจตนาโลภ หลง หรืออยากได้มาเป็นสมบัติของตนเองแม้แต่น้อย หากแต่ต้องการลงไปดูพระพุทธรูปทองคำด้วยตาตัวเองเท่า นั้นครั้นอธิฐานจิตจบสิ้นแล้ว หลวงปู่คำคะนิงได้นำเหล็กแหลมสั้นๆ ติดตัวไปด้วย คิดว่าถ้าจำเป็นต้องขุดต้องแงะจะได้ใช้เหล็กแหลมนี้ทำประโยชน์ เมื่อหลวงปู่คำคะนิงดำลงไปปรากฏว่าน้ำลึกมากรู้สึกปวดแก้วหูจนทนไม่ไหวจึงต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ และยังต้องรักษาตัวนานนับเดือนอาการเจ็บปวดหูถึงได้หายไป กระนั้นหลวงปู่ก็ไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจ

    เข้าพรรษาที่สอง...หลวงปู่คำคะนองเห็นว่าร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีแล้ว ท่านจงดำลงไปอีกแต่ยังไม่ทันถึงก้นแม่น้ำ ก็ต้องกลับขึ้นมาอีกเพราะเจ็บปวดแก้วหูจนทนไม่ไหวและ ต้องรักษาตัวเป็นเดือนเหมือนครั้งแรก แต่หลวงปู่ไม่ท้อแท้คิดมามะพยายามจะดำลงไปอีก

    เข้าพรรษาที่สาม...หลวงปู่คำคะนิงก็ดำลงไปอีกแต่ก็ไม่สำเร็จเช่นเดิม เนื่องจากแรงกดดันของน้ำทำให้ท่านเจ็บปวดแก้วหูสุดทน หากเป็นคนอื่นคงเลิกรายอมแพ้ไปแล้วแต่สำหรับหลวงปู่ไม่ยอมสิ้นมานะ

    เข้าพรรษาที่สี่...หลวงปู่คำคะนิงทำพิธีตั้งจิตอธิฐานขอบารมีคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ให้คุ้มครองเช่นทุกครั้งแล้วท่านก็ดำดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำด้วยพลังจิตที่หาญกล้า คราวนี้อาการปวดแก้วหูไม่ปรากฏท่านจึงดำลงไปเรื่อยๆ ยังไม่ถึงก้นแม่น้ำเท้าก็เหยียบกับสิ่งหนึ่ง เมื่อพิจารณาดูแล้วปรากฏว่าท่านกำลังยืนอยู่บนพระอัง สะของพระพุทธรูปองค์ใหญ่โดยไม่รู้ตัว หลวงปู่คำคะนิงประมาณว่าพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ ต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 20-30 เมตรแน่ส่วนความใหญ่โตของพระพุทธรูปนี้มหึมายากจะประ มาณ หลวงปู่อยู่ใต้น้ำก็จริงแต่มองรอบด้านได้ชัดเจนพอสมค วร ทั้งนี้เพราะบริเวณรายรอบพระพุทธรูปทองคำมีแสงทองคำส่องสว่างเป็นปริมณฑล เวลาพื้นน้ำกระเพื่อมไหวและรัศมีทองคำส่องกระทบมองคล้ายฟ้าแลบแปลบปลาบตลอดเวลา

    [​IMG]

    ด้านหลังพระพุทธรูปทองคำต่ำลงไปที่ก้นแม่น้ำมีปากอุโมงค์ใหญ่ปรากฏอยู่ ตรงปากอุโมงค์นั้นมีปลาขนาดใหญ่มหึมาหลายตัวว่ายวนเวียนอยู่ ประหนึ่งคอยพิทักษ์รักษาปากอุโมงค์ไว้ปลาที่หลวงปู่คำคะนิงเห็นอยู่นั้น ใหญ่โตมโหฬารยิ่งกว่าปลายักษ์ปากที่อ้ากว้างสามารถฮุบคนได้ทั้งคนในลักษณะขวางได้สบายๆ จากรัศมีแสงทองคำที่ส่องไปถึงในอุโมงค์กว้างใหญ่ ทำให้มองเห็นสิ่งอัศจรรย์ซึ่งหลวงปู่คำคะนิงไม่คาดคิดว่าจะเจอนั้นคือมีคนอยู่ในอุโมงค์ ลำตัวท่อนบนเหมือนคนทั่วไปแต่ท่อนล่างตั้งแต่เอวลงมา เป็นปลา หลวงปู่แปลกใจและสงสัยว่าใต้น้ำเช่นนี้มีคนอาศัยอยู่ ได้เช่นไร ท่านจึงตันสินใจว่ายไปยังปากอุโมงค์เพื่อขอดูให้ถนัด ตาว่าคนครึ่งปลาที่เรียกกันว่าเงือกนั้นเป็นอย่างไร เพราะที่เห็นแรกๆนั้นนางเงือกหันด้านข้างให้


    เมื่อเข้าใกล้ปากอุโมงค์พวกปลายักษ์ได้แสดงอาการไม่ยินยอมให้หลวงปู่คำคะนิงเข้าไปในถ้ำ โดยพวกมันว่ายรี่เข้ามาปิดกั้นปากอุโมงค์ไว้ ในฉับพลันทันทีก็เกิดปรากฏการณ์อันไม่คาดคิด นั้นคือแสงสว่างจากทองคำด้านบนหายไปดื้อๆ หลวงปู่แหงนหน้าขึ้นไปดูก็เห็นสัตว์ชนิดหนึ่งตัวใหญ่ มหึมาคล้ายกับปลากระเบนหรือนกยักษ์กำลังรอยอยู่เหนือ ศีรษะท่าน ความมืดใต้น้ำที่ท่านเผชิญอยู่นี้เป็นเพราะลำตัวสัตว์ประหลาดกางกั้นแสงเอาไว้ และสัตว์ตัวนั้นได้ทิ้งดิ่งลงมาทับร่างหลวงปู่คำคะนิงอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นหลวงปู่คำคะนิงอยู่ก้นแม่น้ำท่านพยายามจะคลาน หนี แต่สัตว์ประหลาดกลับกดน้ำหนักตัวทับลงมาประหนึ่งจะให้ร่างท่านบี้แบนอยู่ตรงนั้น

    หลวงปู่คำคะนิงไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่เอามือยันเอาไว้ กระทั้งควานมือไปถูกส่วนหนึ่งของลำตัวมันมีลักษณะเต้นตุบๆ คล้ายกับหัวใจเต้น พร้อมกันนั้นท่านก็รู้ว่าสัตว์ประหลาดเป็นนกยักษ์แน่ ๆ เนื่องจากตัวของมันห่อหุ้มด้วนขนลักษณะขนนก ขณะที่ท่านกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความตายทำให้ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด หลวงปู่จึงใช้เหล็กแหลมสั้นที่ถือติดมือมาแทงสวนขึ้น ไปโดยไม่มีเจตนาฆ่ามัน กะว่าให้เจ็บจะได้ถอยห่างออกไปทันใดนกยักษ์ก็ทะยานพรวดขึ้นไปคล้ายกระพือปีก ทำให้เกิดแรงดึงดูดร่างของหลวงปู่ตามขึ้นไปด้วยก่อนที่หลวงปู่จะขึ้นสู่ผิวน้ำ มีชาวบ้านกำลังพายเรือหาปลาอยู่ใกล้ชายฝั่งชาวบ้านพวกนั้นต่างตกใจสุดขีด เมื่ออยู่ๆ เกิดเสียงตูมสนั่นหวั่นไหวขึ้นกลางแม่น้ำประหนึ่งมีร ะเบิดตกลงมา แล้วปรากฏคลื่นใหญ่กระจายม้วนเข้ากระแทกฝั่งทั้ง 2 ด้าน และที่กลางแม่น้ำชาวบ้านเห็นหลวงปู่คำคะนิงลอยคออยู่ ท่ามกลางเกลียวคลื่น พวกนั้นจึงรีบพายเรือไปช่วยหลวงปู่คำคะนิงขึ้นมาบนเรือแล้วกลับเข้าฝั่ง ชาวบ้านถามว่าเหตุใดท่านถึงมาโผล่ที่กลางแม่น้ำ หลวงปู่คำคะนิงได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไปไม่ตอบตามความจริง และท่านก็ถามชาวบ้านว่าเห็นอะไรผุดขึ้นจากแม่น้ำบ้างไหม ชาวบ้านก็บอกไม่เห็นอะไรนอกจากเสียงดังคล้ายระเบิดตก แล้วก็เกิดคลื่นใหญ่ซัดกระแทกเข้าหาฝั่ง


    [​IMG]
    พระพุทธรูปภายในถ้ำคูหาสวรรค์
    วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี


    เมื่อหลวงปู่คำคะนิงกลับมาถึงกลด เปลี่ยนผ้า อาบน้ำแล้วมาห่มครองจีวรจนเรียบร้อย ท่านก็เข้าเจริญสมาธิเพื่อดูว่านกยักษ์นั้นเป็นอะไรเ หตุใดจึงลงไปน้ำลึกเช่นนั้น ต่อมาท่านได้ทราบว่าเป็นพญาครุฑหรือพระอุปคุตจำแลงแปลงร่างลงไปช่วยท่าน น่าเชื่อว่าอันตรายกำลังจะบังเกิดแก่หลวงปู่หากหลวงป ู่จะดึงดันเข้าไปในอุโมงค์ นางเงือกและปลายักษ์เหล่านั้นคงไม่ไว้ชีวิตท่านแน่เหตุนี้หลวงปู่คำคะนิงจึงนับถือพระอุปคุตอย่างที่สุด เมื่อถึงคราวขับขันหรือเจอเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ จะต้องอาราธนาอธิฐานขอให้ท่านช่วยทุกครั้ง สำหรับการลงไปดูพระพุทธรูปทองคำก้นแม่น้ำ ไปพบปลายักษ์และนางเงือกอยู่ในอุโมงค์ใหญ่ กระทั่งพระอุปคุตหรือพญาครุฑช่วยชีวิตเอาไว้ หลวงปู่คำคะนิงสรุปถึงความอัศจรรย์อีกข้อหนึ่งในตอนท้ายว่า “อยู่ใต้น้ำถึง 2 ชั่วโมง ไม่รู้ว่าหายใจใต้น้ำเป็นเวลานานๆ อย่างนั้นได้อย่างไร....”

    [​IMG]
    พระอุโบสถพร้อมศาลาเอนกประสงค์ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ (อีกมุมหนึ่ง)




    ที่มา ��оط��ٻ�ͧ�������� ��ǧ����Ӥйԧ ������ - junjaowka : knowledge & Entertainment (������Ф����ѹ��ԧ)


    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2010
  2. jee4

    jee4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +848
    อนุโมทนา สาธุครับ...(good)
    หลวงปู่ท่าน มีความเพียรพยายามอย่างยิ่ง....
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    [​IMG]
    กราบอนุโมทนาค่ะ พระอาจารย์ของติงท่านเคยเมตตาเล่าให้ฟัง
     
  4. ผู้ตามหา

    ผู้ตามหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +818
    สาธุ....อนุโมทามิ

    ข้าพเจ้าของกราบอาราธนาบารมีของวิสุทธิเทพหลวงปู่คำคะนิงจงช่วยดลให้ข้าพเจ้าได้เห็นธรรมอันเป็นหนทางแห่งการพ้นทุกในชาตินี้ด้วยเถิด
     
  5. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,083
    [​IMG]
     
  6. Guide_Raito

    Guide_Raito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +2,990
    สาธุครับ
    _____________________________________________________________________________________________________________________________
    มีบุญมาฝากคับทางกลุ่มพระพุทธศาสนา ม. สงขลานครินทร์ ภูเก็ต ได้ จัดทำโครงการแจกสือ่ ธรรมะของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำคับ เพราะ ที่นี่มีเด็กหลายคนสนใจมาฝึกมโนมยิทธิและหันมาทำความดีกัน เนื่องด้วย สื่อ ธรรมะ ของหลวงพ่อ ครับทางชมรมเลยจัดโครงการแจกสือ่ธรรมะเป็นสาธารณะประโยชน์ แก่ โรงเรียน ห้องสมุดต่างๆเพื่อ ชักจูง คนให้เป็นสัมมาทิฐิและเป็นกำลังพระศาสนา สืบต่อไปครับ
    ขอให้ชาวเวปพลังจิตทุกท่าน เจริญขึ้นทั้งทางโลก และทางธรรม เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จฯ ได้โดยง่ายครับ
    [​IMG] [​IMG]
    เข้าชมรายละเอียดได้ที่http://palungjit.org/forums/ขอเชิญร่วมบุญ-โครงการธรรมทานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-ภูเก็ต-[.109/FONT]218421.html<O:p></O:p>
     
  7. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    ขออนุโมนาสาธุ ๆ
    ที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมสร้างบุญกุศลต่าง ๆ ด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
     
  8. foundman

    foundman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +734
    สุดยอดครับหลวงปู่>.<
     
  9. somkiatdhana

    somkiatdhana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +619
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
    ------------------------------------

    พุทธวจน ( คำสอนจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า ) โดย พระอาจารย์ คึกฤทธิ์ โสตถิผโล วัดนาป่าพง ถ.ลำลูกกา คลอง 10 จ.ปทุมธานี

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. tui sluangkhot

    tui sluangkhot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +159
    ขออนุโมนาสาธุ ๆ
    ที่แม่น้ำสายหนึ่งที่เป็นแม่น้ำกว้างและลึกมากตรงบริเวณน้ำลึกที่สุดนั้น มีพระพุทธรูปองค์มหึมาจมอยู่ก้นแม่น้ำวันดีคืนดีจะมี แสงสว่างพวยพุ่งขึ้นจากแม่น้ำ (แม่น้ำ ชือะระไร ครับ ยุ่อุ่ตอน เนือ ใต้ ของลาว )
     
  11. chevasit

    chevasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +424
    อนุโมทนา สาธุ
    ดีใจ ที่ลาวไม่ได้เป็นอาณาจักร เดียวกันกับไทย ในปัจจุบัน หาไม่แล้ว ป่าเขาลำเนาไพร คงพินาศวอดวาย ไปไม่ต่ำกว่าครึ่ง เป็นแน่ และคงลำบากต่อผู้แสวงหาปัญญา และความสงบ จากป่าเขา และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อเหล่า โอปาติกะทั้งหลายต้องหาที่อยู่ใหม่ อีกมาก.... สาธุ ....อีกครั้ง
     
  12. sirmai

    sirmai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +98
    รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  13. tyoukerd@hotmail.com

    tyoukerd@hotmail.com เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +293
    หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี เป็นพระผู้มีพระคุณต่อผมมาก ๆ ในชีวิต ทำให้ผมหวนกลับมานับถือพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคงไม่เสื่อมคลาย ถ้าไม่มีพระผู้เป็นกัลยาณมิตร กัลยาณธรรมอย่างองค์หลวงปู่แล้ว ผมคงหลุดออกไปจากกรอบวงล้อมของพระพุทธศาสนาแน่นอน (รายละเอียด ผมรู้อยู่แก่ใจตัวเองครับ) เสียดาย จนถึงวันนี้ ยังไม่มีโอกาสไปกราบสรีระท่านเลย แต่ยังไงก็ต้องหาโอกาสไปกราบบูชาธรรมขององค์ท่านให้ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...